นาฬิกา Audemars Piguet (AP) Royal Oak ราคาเท่าไหร่? อัปเดตล่าสุด


สวัสดีผู้อ่านทุกท่านที่หลงใหลในเรือนเวลา วันนี้เราจะพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของนาฬิกาหรูระดับตำนานอย่าง Audemars Piguet (AP) Royal Oak ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลา แต่คือผลงานศิลปะชั้นสูงที่สะท้อนรสนิยมและความสำเร็จ ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจเรื่องราคาและทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับนาฬิกาไอคอนิกเรือนนี้ในตลาดประเทศไทย!
1. ทำความรู้จัก Audemars Piguet Royal Oak: ตำนานที่ยังมีลมหายใจ
Audemars Piguet (AP) คือผู้ผลิตนาฬิกาสุดหรูสัญชาติสวิส ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1875 โดยสองช่างนาฬิกาหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์อย่าง จูลส์ หลุยส์ โอเดอมาร์ส (Jules Louis Audemars) และ เอ็ดเวิร์ด ออกุสต์ ปิเกต์ (Edward Auguste Piguet) ณ หุบเขาวัลเล่ย์ เดอ ฌูซ์ (Vallée de Joux) ซึ่งเป็นแหล่งรวมสุดยอดช่างฝีมือนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์ AP ได้สร้างชื่อเสียงจากการรังสรรค์นาฬิกากลไกซับซ้อน (Complicated Watches) ที่มีความประณีตและแม่นยำสูง
จุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกโฉมวงการนาฬิกาหรูตลอดกาลคือการเปิดตัว Audemars Piguet Royal Oak ในปี ค.ศ. 1972 ผลงานชิ้นเอกนี้ถูกออกแบบโดยนักออกแบบนาฬิการะดับตำนาน เฌอรัลด์ เจนต้า (Gérald Genta) ที่ใช้เวลาเพียงคืนเดียวในการสร้างสรรค์ Royal Oak ถือเป็นนาฬิกาสปอร์ตหรูเรือนแรกที่ทำจากสเตนเลสสตีล แต่กลับมีราคาสูงกว่านาฬิกาทองคำในยุคนั้นเสียอีก ซึ่งถือเป็นการท้าทายขนบธรรมเนียมการผลิตนาฬิกาหรูในสมัยนั้นอย่างสิ้นเชิง
เอกลักษณ์ที่ทำให้ Royal Oak กลายเป็นที่จดจำและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลกคือ ตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมอันโดดเด่น พร้อมขอบหน้าปัดยึดด้วยสกรูรูปหกเหลี่ยมแปดตัวที่มองเห็นได้ชัดเจน หน้าปัดที่มีลวดลาย "Tapisserie" อันเป็นเอกลักษณ์ (คล้ายตารางสี่เหลี่ยมเล็กๆ) และสายนาฬิกาแบบผสานกับตัวเรือน (Integrated Bracelet) ที่ดูไหลลื่นกลมกลืน นาฬิกา Royal Oak ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์บอกเวลา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญทางด้านดีไซน์ นวัตกรรม และงานฝีมือชั้นเลิศที่สวมใส่ได้ทุกโอกาส เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาหรู นักสะสม และผู้ที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่า
2. Royal Oak ราคาเท่าไหร่ในตลาดไทย? อัปเดตล่าสุด
เรื่องราคาของนาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจมากที่สุด และต้องบอกว่าราคาของนาฬิกาเรือนนี้ในตลาดประเทศไทยมีความผันผวนและแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับรุ่น วัสดุที่ใช้ ฟังก์ชันพิเศษ (กลไกซับซ้อน) และที่สำคัญคือสภาพของนาฬิกาว่าเป็นของใหม่หรือมือสอง
ราคาสำหรับนาฬิกาใหม่ (อ้างอิงจากราคาตลาดโลกและร้านนำเข้า)
นาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak รุ่นใหม่ ส่วนใหญ่จะจำหน่ายผ่านบูติกอย่างเป็นทางการของแบรนด์ หรือผ่านดีลเลอร์นำเข้าเฉพาะทาง ซึ่งราคาสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามค่าเงินและการกำหนดราคาของแต่ละประเทศ โดยรุ่นยอดนิยมบางรุ่นมีราคาเริ่มต้นโดยประมาณดังนี้:
- Royal Oak Selfwinding (ขนาด 41 มม. เช่น รุ่น 15500ST / 15510ST): ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,090,000 - 1,450,000 บาท
- Royal Oak Selfwinding (ขนาด 37 มม.): ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,150,000 บาท
- Royal Oak Chronograph: ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,220,000 - 2,820,000 บาท ขึ้นอยู่กับวัสดุและปีที่ผลิต
- Royal Oak "Jumbo" Extra-Thin (เช่น รุ่น 15202ST / 16202ST): เป็นรุ่นที่หายากและเป็นที่ต้องการอย่างสูง ในปี 2022 ราคามือหนึ่งเคยระบุไว้ที่ประมาณ 1,270,000 บาท แต่ในตลาดรองมักจะพุ่งสูงกว่าราคาตั้งหลายเท่าตัวเนื่องจากความต้องการที่สูงและการผลิตที่จำกัด
- Royal Oak Perpetual Calendar (ปฏิทินถาวร): รุ่นที่มีกลไกซับซ้อนนี้มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3,600,000 - 6,000,000 บาท หรือสูงกว่า
- Royal Oak Tourbillon หรือรุ่น Concept: เป็นรุ่นที่มีความซับซ้อนและผลิตจำนวนจำกัด ราคาสามารถสูงถึง 4,000,000 - 5,600,000 บาท หรือมากกว่านั้น
ราคาสำหรับนาฬิกามือสองในตลาดไทย
สำหรับนาฬิกา Royal Oak มือสองในประเทศไทย ราคาจะแตกต่างกันอย่างมาก โดยขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต สภาพนาฬิกา การมีกล่องและใบรับประกันครบถ้วน และความหายากของรุ่นนั้นๆ
- Royal Oak Steel (รุ่นทั่วไป): สามารถพบเห็นได้ในราคาตั้งแต่ประมาณ 310,000 บาท ไปจนถึงหลายล้านบาท สำหรับรุ่นยอดนิยม
- Royal Oak 15400ST (Steel, 41mm): เคยมีราคาในตลาดมือสองประมาณ 635,000 บาท สำหรับสภาพ NIB (New In Box) ในปี 2018
- Royal Oak 15202ST (Jumbo, Blue Dial): ในตลาดมือสองเคยมีราคาสูงถึง 2,663,107 บาท ในปี 2022 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากราคาตั้ง
- Royal Oak Chronograph (รุ่นต่างๆ): ราคามือสองอยู่ในช่วงประมาณ 880,000 - 2,300,000 บาท
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ นาฬิกา AP Royal Oak หลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่น Steel ที่ได้รับความนิยมสูง มักจะถูกซื้อขายในตลาดรองด้วยราคาที่สูงกว่าราคาตั้งอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความต้องการที่สูงและจำนวนสินค้าที่จำกัด และเนื่องจากเป็นสินค้าลักชัวรี การซื้อขายมักจะทำผ่านบูติกหรือผู้ค้าที่เชี่ยวชาญ ไม่ได้หาซื้อได้ทั่วไปตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักอย่าง Lazada หรือ Shopee หรือร้านค้าไอทีต่างๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy
3. เปรียบเทียบราคากับนาฬิกาหรูประเภทเดียวกัน
เพื่อเห็นภาพชัดเจนขึ้น เรามาเปรียบเทียบ Audemars Piguet Royal Oak กับนาฬิกาสปอร์ตหรูไอคอนิกจากแบรนด์คู่แข่งในตลาด:
- Patek Philippe Nautilus: เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Royal Oak ทั้งในด้านประวัติศาสตร์และดีไซน์ที่ออกแบบโดย Gerald Genta เช่นกัน รุ่นยอดนิยมอย่าง Nautilus 5711/1A (Steel) ที่เลิกผลิตไปแล้วนั้นมีราคามือสองในตลาดรองสูงมาก เคยพบราคาตั้งแต่ 3,823,228 บาท ไปจนถึงกว่า 52,000,000 บาท สำหรับรุ่นพิเศษ ส่วนรุ่นใหม่ๆ ก็มีราคาตั้งแต่ประมาณ 2,640,000 บาทขึ้นไป ซึ่งสะท้อนถึงสถานะความต้องการที่สูงพอๆ กันหรืออาจจะสูงกว่าในบางกรณี
- Rolex Daytona: นาฬิกาโครโนกราฟยอดนิยมจาก Rolex รุ่น Steel อย่าง 116500LN มีราคามือสองในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณ 860,000 - 1,130,000 บาท และรุ่นที่ซับซ้อนหรือใช้วัสดุมีค่าอาจราคาสูงถึง 13,500,000 บาท Daytona เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ราคาในตลาดรองสูงกว่าราคาตั้งอย่างต่อเนื่อง แต่โดยทั่วไปแล้ว Royal Oak และ Nautilus มักจะมีราคาสูงกว่า Daytona ในรุ่น Steel ที่เทียบเคียงกันได้
- Vacheron Constantin Overseas: นาฬิกาสปอร์ตหรูอีกหนึ่งรุ่นจากหนึ่งในสามแบรนด์นาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (Holy Trinity of Watchmaking) เช่นเดียวกับ AP และ Patek Philippe รุ่น Overseas มีราคาเริ่มต้นสำหรับนาฬิกาใหม่ในตลาดโลกประมาณ 1,900,000 - 3,000,000 บาท (สำหรับรุ่นพิ้งค์โกลด์) หรือเริ่มต้นที่ 490,000 บาทสำหรับรุ่นอื่นๆ และราคามือสองในไทยประมาณ 500,000 - 2,360,000 บาท Overseas มีความคุ้มค่าและเข้าถึงง่ายกว่า Royal Oak และ Nautilus เล็กน้อยในแง่ของราคาตั้งและราคาในตลาดรอง แต่ยังคงเป็นนาฬิกาหรูระดับสูงที่ได้รับความนิยม
สรุปคือ Audemars Piguet Royal Oak จัดอยู่ในกลุ่มนาฬิกาสปอร์ตหรูระดับท็อปที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล มีมูลค่าการซื้อขายในตลาดรองที่สูงกว่าราคาตั้ง โดยเฉพาะรุ่น Steel ที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก ทำให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นทั้งในแง่ของความหรูหรา งานฝีมือ และศักยภาพในการรักษามูลค่า
4. สิ่งที่รวมมาพร้อมการซื้อและการบริการหลังการขาย
เมื่อคุณซื้อนาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งจากบูติกหรือมือสองจากดีลเลอร์ที่น่าเชื่อถือ คุณจะได้รับแพ็กเกจมาตรฐานที่สะท้อนความเป็นนาฬิกาหรูระดับโลก:
- กล่องนาฬิกาและเอกสารครบชุด: นาฬิกาใหม่ทุกเรือนจะมาพร้อมกล่องนาฬิกาที่ประณีต เอกสารรับรอง (เช่น ใบรับประกันและใบรับรองความเป็นของแท้) และคู่มือการใช้งาน สำหรับนาฬิกามือสอง การมีกล่องและเอกสารครบถ้วนถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อมูลค่า
- การรับประกัน: นาฬิกา AP ใหม่มักจะมาพร้อมการรับประกันจากผู้ผลิต ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2 ปี และสามารถขยายระยะเวลาการรับประกันได้สูงสุดถึง 5 ปี หากลงทะเบียนนาฬิกาตามเงื่อนไขที่กำหนด
- บริการบำรุงรักษา: นาฬิกา Audemars Piguet เป็นนาฬิกากลไกที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แบรนด์มีบริการบำรุงรักษาครบวงจร ซึ่งรวมถึงการเปิดนาฬิกา การล้างทำความสะอาดกลไก การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ การหล่อลื่น และการปรับตั้งเวลา ค่าบริการบำรุงรักษาโดยรวม (Complete Maintenance Service) สำหรับ Royal Oak อาจอยู่ในช่วงตั้งแต่ประมาณ 35,000 บาท (สำหรับรุ่น Quartz) ไปจนถึงกว่า 80,000 บาท (สำหรับรุ่น Selfwinding) และสูงถึงหลักแสนบาทสำหรับรุ่นที่มีกลไกซับซ้อน เช่น Chronograph หรือ Perpetual Calendar การขัดตัวเรือนและสาย (Refinishing) ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว การซื้อนาฬิกา AP จะไม่มีของแถมหรือคูปองส่วนลดแบบสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และค่าจัดส่งมักจะรวมอยู่ในราคาหรือมีการจัดส่งแบบพิเศษที่ปลอดภัยโดยผู้จำหน่าย ไม่ใช่การจัดส่งฟรีแบบปกติ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงมาก
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
สำหรับนาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak คุณจะไม่พบโปรโมชั่นลดราคาแบบ "12.12" หรือเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ เช่น วันสงกรานต์ หรือโปรโมชั่น Flash Sale บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไป นี่คือเหตุผล:
- ความพิเศษและจำนวนจำกัด: นาฬิกา AP Royal Oak โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยม ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดและมีความต้องการสูงทั่วโลก ทำให้แบรนด์ไม่จำเป็นต้องจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย
- ช่องทางการจัดจำหน่าย: การจำหน่ายนาฬิกา AP ส่วนใหญ่จะทำผ่านบูติกของแบรนด์โดยตรง ซึ่งมักจะมีการจัดการจัดสรรสินค้าอย่างเข้มงวด และหลายครั้งต้องมีการขึ้นทะเบียนแสดงความสนใจหรือมีประวัติการซื้อกับแบรนด์
- ราคาในตลาดรอง: ด้วยความต้องการที่สูง ทำให้หลายรุ่นมีราคาในตลาดรอง (Secondary Market) สูงกว่าราคาตั้งของผู้ผลิตเสียอีก ดังนั้นการ "รอโปรโมชั่น" สำหรับนาฬิกาแบรนด์นี้จึงแทบไม่มีอยู่จริง
คำแนะนำในการซื้อ:
- หากต้องการนาฬิกาใหม่แกะกล่อง ควรติดต่อ บูติก Audemars Piguet โดยตรง เพื่อสอบถามข้อมูลรุ่นที่สนใจและทำความเข้าใจกระบวนการจัดสรร ซึ่งอาจมีระยะเวลารอคอย
- หากพิจารณาตลาดมือสอง ควรเลือกซื้อจากผู้ค้าที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนาฬิกาหรูโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้และอยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับราคา
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
แม้จะไม่มีการรีวิวนาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไปเหมือนสินค้าอื่นๆ แต่จากเสียงตอบรับของนักสะสมและผู้ครอบครองในไทยที่พบเห็นได้ตามคอมมูนิตี้หรือกลุ่มนาฬิกาต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกชื่นชมและพึงพอใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญดังนี้:
- ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และอมตะ: ผู้ใช้จำนวนมากยกย่อง Royal Oak ว่ามีดีไซน์ที่ "เหนือกาลเวลา" และ "โดดเด่นไม่เหมือนใคร" ด้วยตัวเรือนแปดเหลี่ยมและสายแบบผสานที่ทำให้ดูมีพลังและสง่างามในเวลาเดียวกัน เป็นนาฬิกาที่ "ใส่แล้วรู้ทันทีว่าเป็น AP"
- งานฝีมือระดับสูง: ความประณีตของงานขัดแต่งตัวเรือนและกลไกภายในที่มองเห็นได้ผ่านฝาหลังแบบโปร่งใส ได้รับการยกย่องว่าเป็น "สุดยอดงานศิลปะ" การเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บนหน้าปัด "Grande Tapisserie" ก็เป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก
- สถานะและความภาคภูมิใจในการครอบครอง: การได้เป็นเจ้าของ Audemars Piguet Royal Oak ไม่ใช่แค่การมีนาฬิกาหรู แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและรสนิยม ทำให้ผู้ครอบครองรู้สึก "ภูมิใจ" และ "เป็นส่วนหนึ่งของตำนาน"
- มูลค่าการลงทุน: หลายคนมองว่า Royal Oak เป็น "การลงทุน" ที่คุ้มค่า เนื่องจากราคาในตลาดรองมีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าหรือเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะรุ่นหายากหรือรุ่นยอดนิยม ทำให้เป็นที่ต้องการของนักลงทุนนาฬิกา
- ความรู้สึกในการสวมใส่: แม้จะมีขนาดที่ชัดเจน แต่ Royal Oak ก็ได้รับการยกย่องว่า "สวมใส่สบาย" และ "เข้ากับข้อมือได้ดี" ด้วยการออกแบบสายที่ลงตัว
โดยรวมแล้ว Royal Oak เป็นนาฬิกาที่มอบทั้งความพึงพอใจทางด้านสุนทรียภาพ คุณค่าทางศิลปะ และศักยภาพในการลงทุน ทำให้เป็น "Holy Grail" หรือสุดยอดปรารถนาของนักสะสมและผู้ชื่นชอบนาฬิกาหรูในประเทศไทย
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
เนื่องจาก Audemars Piguet เป็นนาฬิการะดับ Haute Horlogerie จึงมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แตกต่างจากสินค้าทั่วไป การซื้อนาฬิกา Royal Oak ที่แนะนำในประเทศไทยมีดังนี้:
-
บูติก Audemars Piguet อย่างเป็นทางการ: นี่คือช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดสำหรับการซื้อนาฬิกา AP ใหม่ คุณจะได้รับการบริการที่เหนือระดับและมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ 100% พร้อมการรับประกันจากผู้ผลิตโดยตรง อย่างไรก็ตาม รุ่นยอดนิยมอาจมีรายชื่อรอคอยยาวนานและต้องใช้ความอดทนในการรอคอย
-
ร้านค้าหรือผู้ค้านาฬิกามือสองที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้: สำหรับผู้ที่สนใจนาฬิกามือสองในประเทศไทย มีร้านค้าและดีลเลอร์หลายแห่งที่เชี่ยวชาญในการซื้อขายนาฬิกาหรูมือสองโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึง Audemars Piguet Royal Oak
-
ข้อดี: มีตัวเลือกหลากหลายรุ่น ทั้งรุ่นที่เลิกผลิตไปแล้ว รุ่นหายาก หรือรุ่นที่หาซื้อใหม่จากบูติกได้ยาก สามารถตรวจสอบสภาพนาฬิกาได้ด้วยตนเอง (สำหรับร้านค้าที่มีหน้าร้าน) และบางครั้งอาจได้ราคาที่ "คุ้มค่า" กว่าราคาตลาดสำหรับรุ่นที่ไม่ได้เป็นที่ต้องการสูงสุด
-
ข้อควรพิจารณา: ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีประวัติยาวนาน มีชื่อเสียงที่ดี และมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถตรวจสอบและออกใบรับรองความเป็นของแท้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการได้นาฬิกาปลอม หรือนาฬิกาที่ผ่านการซ่อมแซมที่ไม่ถูกต้อง
-
แพลตฟอร์มออนไลน์เฉพาะทางสำหรับนาฬิกาหรู (ที่ระบุแหล่งที่มาชัดเจน): บางแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลกที่รวบรวมนาฬิกาหรูจากดีลเลอร์ทั่วโลกก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของดีลเลอร์แต่ละรายอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
สิ่งสำคัญคือ การซื้อนาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak ไม่ว่าจะช่องทางใด ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน สอบถามรายละเอียดให้ครบถ้วน และหากเป็นไปได้ ควรตรวจสอบนาฬิกาด้วยตนเองหรือให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบเพื่อความมั่นใจสูงสุด
8. สรุปความคุ้มค่าและคำแนะนำในการเลือกซื้อ
Audemars Piguet Royal Oak ไม่ได้เป็นเพียงนาฬิกา แต่เป็นการลงทุนในงานศิลปะและวิศวกรรมชั้นสูง ความคุ้มค่าของนาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้อยู่ที่ราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่เป็นการลงทุนในสิ่งที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ตามกาลเวลาและเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จที่ชัดเจน
Royal Oak เหมาะกับใคร?
- นักสะสมนาฬิกาตัวยง: ผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ กลไกซับซ้อน และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกา
- ผู้ที่มองหานาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของสถานะ: Royal Oak เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งบ่งบอกถึงรสนิยมและความสำเร็จของผู้สวมใส่
- ผู้ที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ลักชัวรี: หลายรุ่นของ Royal Oak มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าหรือมีราคาสูงขึ้นในตลาดรอง ทำให้เป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดี
- ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสปอร์ตหรู: ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่งแต่ยังคงความสง่างาม ทำให้เหมาะกับการสวมใส่ในหลากหลายโอกาส
ควรเลือกรุ่นสูงหรือต่ำ?
- สำหรับผู้เริ่มต้นและงบประมาณที่จำกัด (ในกลุ่ม AP): หากคุณเพิ่งเริ่มต้นและต้องการสัมผัสประสบการณ์ Royal Oak โดยใช้งบประมาณที่ "เข้าถึงได้มากที่สุด" การมองหารุ่นมือสองที่เป็นรุ่น Steel แบบ Selfwinding หรือ Chronograph ที่มีปีผลิตเก่าหน่อย อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
- สำหรับนักสะสมและผู้ที่ต้องการ "ไอคอน" ที่แท้จริง: รุ่น Royal Oak "Jumbo" Extra-Thin (Ref. 15202ST หรือ 16202ST ในปัจจุบัน) คือ "Holy Grail" ที่สุดของ Royal Oak เป็นรุ่นที่ใกล้เคียงกับออริจินัลปี 1972 มากที่สุด และเป็นที่ต้องการสูงสุดในตลาด มีมูลค่าการสะสมและการลงทุนที่โดดเด่นที่สุด
- สำหรับผู้ที่มองหากลไกที่ซับซ้อนหรือวัสดุพิเศษ: หากงบประมาณไม่ใช่ข้อจำกัด และคุณต้องการความซับซ้อนของกลไก เช่น Perpetual Calendar, Tourbillon หรือวัสดุมีค่าอย่างทองคำและแพลทินัม รุ่นเหล่านี้จะมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของนาฬิกาชั้นสูงอย่างแท้จริง
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเลือกรุ่นใด การเป็นเจ้าของ Audemars Piguet Royal Oak คือการได้ครอบครองชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์แห่งวงการนาฬิกา ที่ยังคงความงดงามและคุณค่าเหนือกาลเวลาอย่างแท้จริง ขอให้ทุกท่านได้พบกับ Royal Oak เรือนที่ใช่ ที่จะเติมเต็มความหลงใหลในเรือนเวลาของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- ประสบการณ์ตรงวิธีซื้อ AP Royal Oak 15450ST จากช็อปไทย + รีวิว ...
- นาฬิกา AP ราคาขึ้นที 2000000 บาท ตัวไหน? น่าเกร็งกำไร! EP.35 ...
- นาฬิกา AP Royal Oak 50 ปี 1,900,000 บาท รีวิวและความสุขของ ...
- นาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak ปี 2025
- ผมเคยคิดว่าเรือนนี้ใส่ได้แต่ผู้หญิง! Audemars Piguet Royal Oak ...
แนะนำสำหรับคุณ
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A9s ราคามือสองล่าสุดตอนนี้เท่าไหร่
แหวนทอง 2 กรัม ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคาล่าสุดและลายยอดนิยม
อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอย ราคาเท่าไหร่? ขวดเล็ก ขวดใหญ่ อัปเดตล่าสุด
ปรีแอมป์คาราโอเกะ Proeuro Tech PRE-777USB ราคาล่าสุด เสียงดีไหม
หุ่นยนต์สุนัข Sony Aibo ราคาเท่าไหร่? มีขายในไทยหรือไม่