โปรแกรม Archicad Thai BIM ราคาเท่าไหร่? สำหรับสถาปนิกและนักออกแบบ


สวัสดีครับสถาปนิกและนักออกแบบทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงหัวใจของงานออกแบบอาคารในยุคดิจิทัลกับ โปรแกรม Archicad Thai BIM ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในหมู่มืออาชีพในประเทศไทย ว่าแต่เจ้าโปรแกรมนี้คืออะไร มีฟังก์ชันอะไรเด็ดๆ เหมาะกับใคร และที่สำคัญที่สุดคือ ราคาเท่าไหร่ ในตลาดบ้านเรา วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่าง เพื่อให้ทุกท่านตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือที่ใช่สำหรับงานออกแบบของท่าน!
1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?
Archicad คือซอฟต์แวร์ Building Information Modeling (BIM) ชั้นนำระดับโลกที่พัฒนาโดย Graphisoft บริษัทผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยี BIM จากประเทศฮังการี ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 โดย Gábor Bojár และได้เปิดตัว Archicad เป็นครั้งแรกในปี 1987 ด้วยแนวคิด "Virtual Building" ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการออกแบบสถาปัตยกรรม เพราะเป็นหนึ่งในโปรแกรม CAD แรกๆ ที่สามารถสร้างโมเดลทั้ง 2D และ 3D ได้พร้อมกันบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และยังเป็นผลิตภัณฑ์ BIM เชิงพาณิชย์ตัวแรกๆ อีกด้วย
Archicad ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือเขียนแบบ 2D หรือ 3D ทั่วไป แต่เป็นโซลูชันที่ครอบคลุมการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบของกระบวนการออกแบบและก่อสร้างอาคาร ช่วยให้สถาปนิกและนักออกแบบสามารถสร้าง แบบจำลองอาคารเสมือนจริง (Virtual Building) ที่มีข้อมูลครบถ้วนขององค์ประกอบต่างๆ เช่น ผนัง เสา คาน ประตู หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ ด้วย วัตถุพารามิเตอร์อัจฉริยะ (Parametric Objects) ที่ปรับแต่งได้ ฟังก์ชันเด่นๆ ของ Archicad ได้แก่ การสร้างแบบจำลอง 3D, การเขียนแบบ 2D อัตโนมัติ (แปลน รูปด้าน รูปตัด), การถอดปริมาณ (BOQ) ที่แม่นยำ, การนำเสนอผลงาน (Visualization), การวิเคราะห์พลังงานอาคาร, การทำงานร่วมกันเป็นทีม (Teamwork), และการทำงานกับงานระบบ (MEP Modeler) รวมถึงการรองรับการทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ผ่านไฟล์ IFC ทำให้การประสานงานระหว่างทีมออกแบบและก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น
โปรแกรมนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ สถาปนิก, นักออกแบบสถาปัตยกรรม, วิศวกร, นักออกแบบภายใน, บริษัทรับเหมาก่อสร้าง, ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม AEC (Architecture, Engineering, and Construction) ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม BIM โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย Archicad Thai BIM ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมให้มี Library และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การทำงานของสถาปนิกไทยโดยเฉพาะ เช่น การป้อนข้อมูลโครงสร้างเป็นภาษาไทย, รูปแบบฐานรากที่หลากหลาย, การถอดปริมาณอ้างอิงราคากลางกรมบัญชีกลาง, และ Object สุขภัณฑ์แบรนด์ยอดนิยมในตลาดไทย
2. ช่วงราคาสินค้า (ในตลาดไทย)
สำหรับราคาของโปรแกรม Archicad ในตลาดประเทศไทยนั้น มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทของลิขสิทธิ์และแพ็กเกจที่เลือก โดย Graphisoft มีนโยบายกำหนดราคาตามภูมิภาค ทำให้ราคาอาจแตกต่างจากราคาในต่างประเทศได้เล็กน้อย ช่องทางการจัดจำหน่ายหลักจะเป็นผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้วางขายทั่วไปตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้บริโภคหรือร้านค้าไอทีทั่วไปอย่าง Lazada, Shopee, Central, Big C, The Mall, JIB, Banana IT หรือ Power Buy ครับ
โดยทั่วไป ลิขสิทธิ์ Archicad ในประเทศไทยที่พบได้มีดังนี้:
- ลิขสิทธิ์แบบซื้อขาด (Perpetual License): เป็นการซื้อขาดสิทธิ์การใช้งานโปรแกรมถาวร ซึ่งในตลาดไทยจะพบเห็นแพ็กเกจที่เรียกว่า Archicad Thai BIM Standard ซึ่งมีราคาประมาณ ฿125,000 บาท (ไม่รวม VAT) บางโปรโมชั่นอาจเป็นแพ็กเกจ Archicad Thai BIM Best Deal 8 in 1 ที่รวมซอฟต์แวร์และ Add-on ที่จำเป็นอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกันในราคาที่คุ้มค่ากว่า เช่นเคยมีการจัดโปรโมชั่นที่ราคา ฿97,900 บาท (จากมูลค่ารวม ฿159,900 บาท) ซึ่งจะรวม Archicad BIM Standard, MEP Modeler, EPTAR R/C และ Add-on THAI BIM for ARCHICAD
- ลิขสิทธิ์แบบ Subscription (รายปี): เป็นการเช่าใช้งานโปรแกรมรายปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและต้องการเข้าถึงฟังก์ชันใหม่ๆ รวมถึงบริการเสริมต่างๆ อยู่เสมอ ราคาสำหรับแพ็กเกจ Archicad BIM Standard Subscription เคยพบโปรโมชั่นที่ราคาประมาณ ฿29,900 บาทต่อปี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจ Archicad Collaborate ซึ่งรวม Archicad และ BIMcloud SaaS (บริการคลาวด์สำหรับการทำงานร่วมกัน) พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆ ในราคาแบบ Subscription ที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
- ลิขสิทธิ์สำหรับนักเรียน/นักศึกษา (Educational License): Archicad มีลิขสิทธิ์ฟรีสำหรับนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งสามารถเข้าถึงเวอร์ชันที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ (แต่มีลายน้ำบนเอกสารที่พิมพ์ออกมา และไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับไฟล์เชิงพาณิชย์ได้โดยตรง)
3. แล้วเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
เมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ BIM ระดับมืออาชีพอื่นๆ ในตลาดโลกอย่าง Autodesk Revit, Vectorworks หรือ Allplan ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของ Archicad ราคาของ Archicad ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับซอฟต์แวร์ BIM ระดับสูงที่เน้นฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนและครอบคลุมสำหรับงานสถาปัตยกรรมและงานก่อสร้างอย่างแท้จริง Archicad มุ่งเน้นการเป็นโซลูชัน BIM ที่สมบูรณ์แบบ ให้ความสามารถในการสร้างแบบจำลอง 3D ที่แข็งแกร่ง การจัดการข้อมูล และการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแตกต่างจากซอฟต์แวร์ 3D Modeling ทั่วไปอย่าง SketchUp ที่เน้นความง่ายในการใช้งานและเหมาะสำหรับงานออกแบบแนวคิดหรือผู้เริ่มต้นมากกว่า ดังนั้น การลงทุนกับ Archicad จึงเป็นการลงทุนในเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของสถาปนิกและวิศวกรมืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และการทำงานแบบ BIM อย่างครบวงจร ซึ่งสะท้อนผ่านราคาของซอฟต์แวร์
4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา
การซื้อลิขสิทธิ์ Archicad โดยเฉพาะจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยมักจะมาพร้อมกับบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย:
- การจัดส่ง: โดยทั่วไปแล้ว การจัดส่ง License จะเป็นการส่งผ่านอีเมลภายใน 3-7 วันทำการ สำหรับซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้ มักจะไม่มีค่าจัดส่งเพิ่มเติม
- ระยะเวลารับประกันและการสนับสนุน: ลิขสิทธิ์แบบซื้อขาดอาจรวม Subscription Service สำหรับปีแรก และตัวแทนจำหน่ายหลายรายมักจะเสนอ บริการอบรมและให้คำปรึกษาตลอด 1 ปี หรือตามเงื่อนไขของแพ็กเกจที่ซื้อ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ใหม่สามารถเรียนรู้และใช้งานโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีช่องทางการสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับผู้ใช้งาน
- ของแถม อุปกรณ์เสริม และโปรโมชั่น: ในบางแพ็กเกจแบบซื้อขาด เช่น Archicad Thai BIM Best Deal 8 in 1 จะรวม Add-on สำคัญๆ อย่าง MEP Modeler (สำหรับงานระบบ), EPTAR R/C (สำหรับงานโครงสร้าง) และ Add-on THAI BIM (ฟังก์ชันเฉพาะสำหรับงานในไทย) มาให้ด้วย ส่วนแพ็กเกจ Subscription อย่าง Archicad Collaborate จะรวม BIMcloud SaaS สำหรับการทำงานร่วมกันบนคลาวด์, การเข้าถึง Graphisoft Learn (แหล่งเรียนรู้และคอร์สอบรม), Emergency Licenses, การสนับสนุนด้านเทคนิค, Redshift by Maxon (สำหรับ Render คุณภาพ
สูง), PARAM-O และ Library Part Maker (สำหรับสร้างวัตถุพารามิเตอร์) และ Python API* การอัปเกรด: ในบางโปรโมชั่นอาจมีข้อเสนอการอัปเกรดเวอร์ชันฟรี (เช่น อัปเกรดฟรี 2 เวอร์ชัน จากปกติ 1 เวอร์ชัน) หรือมี Gift Voucher สำหรับแลกซื้อ Mobile Workstation
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
สำหรับการซื้อโปรแกรม Archicad เพื่อให้ได้ราคาและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด ควรติดตามโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นหลัก เช่น AppliCAD เนื่องจากเป็นซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่ไม่ได้วางขายทั่วไปตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee มากนัก การจัดโปรโมชั่นมักจะเกิดขึ้นในโอกาสพิเศษ หรือตามแคมเปญของตัวแทนจำหน่ายโดยตรง
- ช่วงเวลาโปรโมชั่น: โปรโมชั่นอาจมีในช่วงเวลาที่ตัวแทนจำหน่ายจัดแคมเปญพิเศษ เช่นเดียวกับที่เคยมีการจัดโปรโมชั่นจำกัดเวลา ไม่ได้เจาะจงช่วง 12.12 หรือเทศกาลไทยอย่างสงกรานต์เสมอไป แต่ควรหมั่นตรวจสอบจากเว็บไซต์หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรง
- ร้านค้าแฟลกชิพ/ตัวแทนจำหน่าย: ตัวแทนจำหน่ายอย่าง AppliCAD มักจะมีโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจพิเศษที่รวมซอฟต์แวร์เสริมหรือบริการฝึกอบรม แนะนำให้ติดต่อสอบถามโดยตรงกับผู้จัดจำหน่ายเพื่อรับทราบโปรโมชั่นล่าสุดและส่วนลดพิเศษที่อาจมีให้สำหรับลูกค้าใหม่หรือการซื้อหลาย License
- คำแนะนำการซื้อ: หากไม่รีบใช้งานมากนัก การรอช่วงโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายจะช่วยให้ได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่ามากขึ้น อาจได้ซอฟต์แวร์เสริมฟรี หรือส่วนลดพิเศษสำหรับฮาร์ดแวร์ที่ใช้ร่วมกับ Archicad ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากข้อมูลที่มี ผู้ใช้งาน Archicad ในประเทศไทยให้ฟีดแบ็กเชิงบวกอย่างมาก โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำงานแบบ BIM และ Add-on Thai BIM ที่ปรับให้เข้ากับบริบทการทำงานของคนไทย:
- ประสิทธิภาพในการทำงาน: ผู้ใช้ชื่นชอบความสามารถของ Archicad ในการ สร้างแบบจำลอง 3D เพื่อนำเสนอเจ้าของงานและเคลียร์แบบที่ได้รับเพื่อลดปัญหาหน้างานได้อย่างรวดเร็ว
- การทำงานอัตโนมัติ: การที่โปรแกรมสามารถ เขียนแบบ 2D (แปลน รูปด้าน รูปตัด ภาพเปอร์สเปคทีฟ) ให้โดยอัตโนมัติ และลดเวลาในการแก้ไขแบบได้กว่า 70% เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในโมเดล 3D ได้รับการยกย่องอย่างสูง ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน
- การถอดปริมาณ (BOQ): ความสามารถในการ ถอดแบบประเมินราคาได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเมื่ออ้างอิงกับราคากลางจากสำนักบัญชีกลางของประเทศไทย ทำให้ผู้รับเหมาและนักออกแบบสามารถควบคุมต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการประมาณราคาได้เป็นอย่างดี
- ฟังก์ชัน Thai BIM: Add-on ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ เช่น Dialog การป้อนข้อมูลส่วนโครงสร้างที่เป็นภาษาไทย, รูปแบบฐานรากที่เพิ่มขึ้น, ฟังก์ชันการปูบล็อกตัวหนอนต่างๆ พร้อมนับจำนวน, และ Object สุขภัณฑ์แบรนด์ยอดนิยมในตลาดไทย ช่วยให้การทำงานตรงตามมาตรฐานและวัสดุที่ใช้ในไทยมากขึ้น
- การทำงานร่วมกัน (Teamwork): ระบบ Teamwork ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างสถาปนิกและวิศวกรเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และพบข้อผิดพลาดก่อนการก่อสร้างจริง ซึ่งช่วยลดต้นทุนบานปลาย
- ความครบครัน: ผู้ใช้มองว่า Archicad เป็นเครื่องมือที่ "ทำงานจบในตัวเดียว" ครบครันทั้งงานสถาปัตยกรรม งานระบบ (MEP) และงานโครงสร้าง
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับการซื้อโปรแกรม Archicad Thai BIM ในประเทศไทย ช่องทางที่แนะนำและน่าเชื่อถือที่สุดคือ:
- ช่องทางทางการ (ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ): บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) (AppliCAD Co., Ltd.) เป็นตัวแทนจำหน่ายหลักและผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Graphisoft ในประเทศไทย การซื้อผ่านช่องทางนี้จะมั่นใจได้ว่าเป็นลิขสิทธิ์แท้ 100% พร้อมการสนับสนุนหลังการขาย การอบรม และบริการต่างๆ ครบวงจร สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่สำนักงานใหญ่ของ AppliCAD ในกรุงเทพฯ หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ ที่ระบุในเว็บไซต์ของบริษัท
- เว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์: บางเว็บไซต์ที่เป็นพาร์ทเนอร์หรือตัวแทนจำหน่ายของ AppliCAD อาจมีรายการราคาและแพ็กเกจให้เลือกซื้อออนไลน์ได้ เช่น 8baht.com ซึ่งมีการเสนอราคา Archicad Standard License ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นช่องทางที่เชื่อมโยงกับตัวแทนจำหน่ายทางการ
- Graphisoft Store (Global Online): ผู้ใช้งานในประเทศไทยสามารถเข้าถึง Graphisoft Store ได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของ Graphisoft เพื่อพิจารณาตัวเลือก Subscription โดยเฉพาะแพ็กเกจ Archicad Collaborate ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกและใช้งานง่าย อย่างไรก็ตาม ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขและบริการหลังการขายกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศด้วย
- สถาบันฝึกอบรม: สถาบันที่จัดการฝึกอบรม Archicad บางแห่งอาจมีข้อเสนอในการซื้อซอฟต์แวร์พร้อมกับหลักสูตรฝึกอบรม ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้และได้ซอฟต์แวร์ไปใช้งานพร้อมกัน
8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา
โดยสรุปแล้ว โปรแกรม Archicad Thai BIM ถือเป็นการลงทุนที่ คุ้มค่าอย่างยิ่ง สำหรับสถาปนิกและนักออกแบบที่ต้องการยกระดับการทำงานเข้าสู่ระบบ BIM อย่างเต็มรูปแบบ แม้ราคาอาจจะสูงกว่าโปรแกรม CAD ทั่วไป แต่ความสามารถในการสร้างแบบจำลอง 3D ที่ครบวงจร การถอดปริมาณที่แม่นยำ และการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ จะช่วย ประหยัดเวลา ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มผลกำไร ในระยะยาวได้อย่างมหาศาล
Archicad Thai BIM เหมาะสำหรับใคร:
- สถาปนิกและนักออกแบบมืออาชีพ: ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ บริษัทขนาดเล็ก หรือสำนักงานออกแบบขนาดใหญ่ ที่ต้องการเครื่องมือ BIM ที่ทรงพลังและใช้งานง่าย เพื่อสร้างสรรค์งานออกแบบที่มีคุณภาพสูงและแม่นยำ
- บริษัทรับเหมาก่อสร้าง: ที่ต้องการใช้ BIM ในการเคลียร์แบบ, ประเมินราคา, และบริหารจัดการโครงการให้มีประสิทธิภาพ ลดปัญหาหน้างาน
- ผู้ที่ต้องการความแม่นยำในการถอดปริมาณ: โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการอ้างอิงราคากลางวัสดุของกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Thai BIM
- ผู้ที่ต้องการการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์: แพ็กเกจ Subscription อย่าง Archicad Collaborate พร้อม BIMcloud SaaS จะตอบโจทย์การทำงานเป็นทีมได้อย่างดีเยี่ยม
ควรเลือกซื้อรุ่นไหนดี?
- หากคุณต้องการสิทธิ์การใช้งานแบบถาวรและเน้นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์งานในไทยเป็นพิเศษ การเลือก ลิขสิทธิ์แบบซื้อขาด Archicad Thai BIM Standard หรือแพ็กเกจรวม Add-on จะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาวและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายรายปี
- หากคุณต้องการความยืดหยุ่นในการชำระเงิน ต้องการเข้าถึงฟังก์ชันใหม่ๆ อยู่เสมอ และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันบนคลาวด์ การเลือก ลิขสิทธิ์แบบ Subscription อย่าง Archicad Collaborate จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
- สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องการทดลองใช้งาน ควรใช้ประโยชน์จาก ลิขสิทธิ์การศึกษาฟรี เพื่อเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับโปรแกรมก่อนตัดสินใจลงทุน
ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อขอข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับราคา แพ็กเกจ และโปรโมชั่นต่างๆ รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับบริการหลังการขายและการอบรม เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับโปรแกรมที่เหมาะสมกับการใช้งานและคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุดครับ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา iPhone 15 Pro ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
ราคา Johnnie Walker Platinum Label ล่าสุด (อัปเดตปี 2025)
แปรงล้างหน้า Foreo ราคาล่าสุด รุ่นไหนดีที่สุด?
Big Bike BMW R1200GS มือสอง ราคาล่าสุด ปีไหนน่าซื้อมือสอง?
ราคา iPhone XS Max ล่าสุดจาก Dtac: พร้อมโปรโมชั่นผ่อนสบาย
คอร์สเรียน IELTS ราคาเท่าไหร่? สถาบันไหนดีน่าสนใจ?