แท็บเล็ต Dell ราคาเท่าไหร่? อัปเดตล่าสุดทุกรุ่นสำหรับทำงานและเพื่อความบันเทิง


สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราจะมาพูดถึงแท็บเล็ตจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Dell ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง แต่รู้ไหมว่า Dell ก็มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแท็บเล็ตและอุปกรณ์ 2-in-1 ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองหาอุปกรณ์ที่สามารถตอบโจทย์การทำงานและความบันเทิงได้อย่างลงตัวในเครื่องเดียว
1. ทำความรู้จักแท็บเล็ต Dell: อุปกรณ์คู่ใจสำหรับมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไป
Dell (เดลล์) เป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกันที่มีประวัติยาวนานและเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีชั้นนำระดับโลก ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทาน ประสิทธิภาพ และนวัตกรรม Dell จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานมาโดยตลอด สำหรับกลุ่มแท็บเล็ต Dell ไม่ได้เน้นแท็บเล็ตสำหรับผู้บริโภคทั่วไปเหมือนแบรนด์อื่นๆ มากนัก แต่จะโดดเด่นในกลุ่มอุปกรณ์ 2-in-1 (ทูอินวัน) ที่ผสมผสานฟังก์ชันการทำงานของโน้ตบุ๊กเข้ากับความคล่องตัวของแท็บเล็ตได้อย่างลงตัว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การทำงานเอกสาร การประชุมออนไลน์ การนำเสนอผลงาน ไปจนถึงการรับชมความบันเทิงและสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ เหมาะสำหรับ นักธุรกิจ ผู้บริหาร นักเรียน นักศึกษา หรือใครก็ตามที่ต้องการอุปกรณ์คู่ใจที่พร้อมลุยได้ทุกสถานการณ์
ยกตัวอย่างเช่น Dell Latitude 7350 Detachable ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาให้เป็น Windows 11 Tablet สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ มาพร้อมกับแนวคิด AI PC ที่ให้ความยืดหยุ่นและคุณภาพระดับพรีเมียม สามารถใช้งานได้ทั้งในโหมดแท็บเล็ตและโหมดโน้ตบุ๊กได้อย่างราบรื่น หรือรุ่น Dell Latitude 9450 2-in-1 ที่เป็นโน้ตบุ๊กแบบพกพาสำหรับธุรกิจระดับพรีเมียมที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ตได้เช่นกัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในดีไซน์ที่ยืดหยุ่น
2. ราคาแท็บเล็ต Dell ในตลาดไทย อัปเดตล่าสุด
สำหรับราคาแท็บเล็ต Dell ในตลาดประเทศไทย ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มของอุปกรณ์ 2-in-1 ระดับพรีเมียม ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามรุ่น สเปก และปีที่วางจำหน่าย โดยสามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มหลักๆ ดังนี้
- Dell Latitude 7350 Detachable: เป็นรุ่นที่ค่อนข้างใหม่และเน้นการใช้งานแบบแท็บเล็ตเต็มรูปแบบสำหรับธุรกิจ ราคาเริ่มต้นของบางสเปกอยู่ที่ประมาณ 53,990 บาท (฿) สำหรับรุ่น Intel Core Ultra 5, RAM 16GB, SSD 512GB (บนเว็บไซต์ผู้จำหน่ายบางราย) ในต่างประเทศมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $1,689.00 ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นเงินไทยจะอยู่ประมาณ 62,000-65,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน
- Dell Latitude 9450 2-in-1: เป็นรุ่นเรือธงสำหรับธุรกิจที่มาพร้อมประสิทธิภาพและฟีเจอร์ระดับสูง ราคาเริ่มต้นในต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ $2,059 (รุ่นเริ่มต้น Core Ultra 5, 16GB RAM, 256GB SSD) ซึ่งแปลงเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ประมาณ 75,000-80,000 บาท และอาจสูงขึ้นถึง $2,754.79 (ประมาณ 100,000+ บาท) สำหรับสเปกที่สูงขึ้น เช่น Core Ultra 7, 32GB RAM, 512GB SSD
- Dell Latitude 7320 Detachable: เป็นรุ่นก่อนหน้าของ 7350 Detachable ซึ่งยังมีจำหน่ายในตลาดบางช่องทาง โดยราคาของเครื่องใหม่ (อาจเป็นสต็อกเก่า) เคยอยู่ที่ประมาณ 71,280 บาท (฿) สำหรับสเปก Intel Core i7-1180G7, RAM 16GB, SSD 512GB อย่างไรก็ตาม หากเป็นเครื่องมือสองหรือ Preloved สามารถหาได้ในราคาที่น่าสนใจกว่ามาก โดยบางร้านบน Lazada มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 10,500 บาท (฿)
- Dell XPS 13 2-in-1: เป็นอีกซีรีส์พรีเมียมที่เน้นความบางเบาและดีไซน์หรูหรา ราคาเริ่มต้นสำหรับ XPS 13 2-in-1 (Core i5 12th Gen) เคยอยู่ที่ประมาณ 35,608 บาท (฿)
โดยรวมแล้ว แท็บเล็ตและ 2-in-1 ของ Dell มีราคาอยู่ในระดับ พรีเมียม ที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพ การออกแบบ และความสามารถในการใช้งานระดับมืออาชีพ
คุณสามารถค้นหาราคาและรุ่นต่างๆ ได้ที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ ในไทย เช่น Lazada และ Shopee รวมถึงร้านค้าปลีกไอทีชั้นนำอย่าง JIB, Banana IT และ Power Buy ซึ่งอาจจะมีรุ่น 2-in-1 ของ Dell วางจำหน่ายอยู่บ้าง
3. เปรียบเทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกันในตลาด
เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตและอุปกรณ์ 2-in-1 ที่มีฟังก์ชันใกล้เคียงกันในตลาด Dell Latitude และ XPS 2-in-1 จัดอยู่ในกลุ่มราคาระดับสูงที่เน้นกลุ่มผู้ใช้งานธุรกิจและมืออาชีพเป็นหลัก คู่แข่งสำคัญในกลุ่มนี้คือ:
- Microsoft Surface Pro Series: ซึ่งเป็นอุปกรณ์ 2-in-1 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะรุ่นใหม่อย่าง Surface Pro 11 ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite ราคาเริ่มต้นประมาณ 59,890 บาท (฿) พร้อมคีย์บอร์ดและปากกา และรุ่นท็อปอาจสูงถึง 84,777 บาท (฿) จะเห็นได้ว่าราคาของ Dell Latitude 2-in-1 นั้นมีความใกล้เคียงหรือสูงกว่า Surface Pro ในบางสเปก เนื่องจาก Dell เน้นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการจัดการสำหรับองค์กรที่เข้มข้นกว่า
- Apple iPad Pro: สำหรับ iPad Pro M4 รุ่น 11 นิ้ว (Wi-Fi, 256GB) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 37,900 บาท (฿) และรุ่น 13 นิ้ว (Wi-Fi + Cellular, 2TB) อาจสูงถึง 74,900 บาท (฿) หากมองในแง่ของระบบปฏิบัติการและกลุ่มแอปพลิเคชันที่รองรับ Dell ที่รัน Windows เต็มรูปแบบจะให้ประสบการณ์การทำงานแบบ PC ที่คุ้นเคยมากกว่า ในขณะที่ iPad Pro จะโดดเด่นในด้านระบบนิเวศแอปพลิเคชันที่ปรับแต่งมาเพื่อแท็บเล็ตโดยเฉพาะและประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิก
- Samsung Galaxy Tab S Series: แท็บเล็ต Android ที่มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่รุ่นกลางอย่าง Galaxy Tab S6 Lite (ประมาณ 8,950 - 11,299 บาท (฿)) ไปจนถึงรุ่นพรีเมียมอย่าง Galaxy Tab S10 Ultra 5G ที่มีราคาสูงถึง 47,900 บาท (฿) Dell จะมีความคุ้มค่ามากกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการระบบปฏิบัติการ Windows เต็มรูปแบบและประสิทธิภาพระดับเดียวกับโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ Galaxy Tab S จะเน้นความยืดหยุ่นของ Android และ S Pen เป็นหลัก
ดังนั้น Dell Latitude 2-in-1 จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ประสิทธิภาพระดับองค์กร ความปลอดภัย และความสามารถในการรันซอฟต์แวร์ Windows ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากแท็บเล็ตทั่วไปในท้องตลาด
4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา
เมื่อคุณตัดสินใจซื้อแท็บเล็ต Dell โดยเฉพาะรุ่น 2-in-1 คุณมักจะได้รับอุปกรณ์เสริมและบริการที่สำคัญมาพร้อมกัน ดังนี้:
- คีย์บอร์ดและปากกา: สำหรับรุ่น Detachable อย่าง Dell Latitude 7350 Detachable หรือ 7320 Detachable มักจะ มาพร้อมกับคีย์บอร์ดแบบถอดได้ (Travel Keyboard) และปากกา Stylus Active Pen ในชุด ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ทันทีทั้งในโหมดแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊ก
- การรับประกัน: Dell เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องการรับประกันที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับ การรับประกันฮาร์ดแวร์ 3 ปี พร้อมบริการซ่อมถึงที่ (Onsite/In-Home Service After Remote Diagnosis) ซึ่งคนไทยให้ความสำคัญอย่างมากกับการบริการหลังการขายแบบ Onsite Support นี้ การรับประกันครอบคลุมปัญหาที่เกิดจากการใช้งานปกติ แต่ ความเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น ทำตกหล่น หรือน้ำหกใส่ มักจะอยู่นอกเงื่อนไขการรับประกันมาตรฐาน และอาจต้องซื้อบริการ ProSupport Plus เพิ่มเติมเพื่อครอบคลุมส่วนนี้
- ค่าจัดส่ง: การซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ Dell โดยตรง หรือตัวแทนจำหน่ายในไทย มักจะมีบริการ จัดส่งฟรี สำหรับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่
- ของแถมและโปรโมชั่น: อาจมีของแถม เช่น กระเป๋าสำหรับใส่โน้ตบุ๊ก/แท็บเล็ต หรือคูปองส่วนลดสำหรับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายในขณะนั้น
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
แม้ว่าแท็บเล็ต Dell (โดยเฉพาะรุ่น 2-in-1 สำหรับธุรกิจ) จะไม่ได้มีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยครั้งเท่าสินค้าคอนซูเมอร์ทั่วไป แต่ก็ยังมีโอกาสได้ราคาที่ดีขึ้นในช่วงเวลาพิเศษ:
- ช่วงเทศกาล Double Digit Sale: เช่น 11.11, 12.12 บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee ร้านค้าอย่างเป็นทางการของ Dell หรือตัวแทนจำหน่ายอาจมีส่วนลดพิเศษ หรือโค้ดส่วนลดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตาสำหรับผู้ที่กำลังมองหา
- เทศกาลสำคัญของไทย: เช่น สงกรานต์ หรือช่วงปลายปี อาจมีโปรโมชั่นพิเศษจากตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าไอทีใหญ่ๆ เช่น JIB, Banana IT, Power Buy แต่ต้องคอยติดตามข่าวสาร
- โปรโมชั่นสำหรับธุรกิจ/องค์กร: Dell มักมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าองค์กร ซึ่งอาจรวมถึงส่วนลดสำหรับการสั่งซื้อจำนวนมาก หรือการอัปเกรดบริการรับประกัน
คำแนะนำการซื้อ: หากคุณไม่ได้รีบใช้งานมากนัก การรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ อาจช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Dell Latitude และ XPS 2-in-1 เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่เน้นการทำงานเป็นหลัก หากต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องและได้รับบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม การซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมการรับประกัน Onsite Support ที่ครอบคลุมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้รับส่วนลดมากมายเท่ากับการซื้อในวันโปรโมชั่นใหญ่ๆ ก็ตาม
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากฟีดแบ็กของผู้ใช้งานในประเทศไทยเกี่ยวกับแท็บเล็ต Dell (ซึ่งส่วนใหญ่คืออุปกรณ์ 2-in-1 ของ Latitude และ XPS) มักจะได้รับคำชื่นชมในหลายด้าน:
- ความทนทานและงานประกอบ: ผู้ใช้งานหลายคนประทับใจใน ความแข็งแรงของวัสดุ (เช่น แมกนีเซียมอัลลอยด์) และคุณภาพการประกอบ ที่รู้สึกได้ถึงความพรีเมียมและสามารถทนทานต่อการใช้งานหนักได้ดี
- ประสิทธิภาพการทำงาน: ด้วยสเปกที่มาพร้อม CPU Intel Core Ultra หรือ Core i7, RAM ที่เพียงพอ และ SSD ที่รวดเร็ว ทำให้ Dell 2-in-1 สามารถ ทำงานได้อย่างลื่นไหล รันโปรแกรมหนักๆ ได้ดี และเหมาะสำหรับการทำงานหลากหลายรูปแบบ รวมถึงงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง
- ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: จุดเด่นของการเป็น 2-in-1 คือการที่สามารถ ถอดคีย์บอร์ดออกเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ต หรือพับจอใช้งานในโหมดเต็นท์ได้สะดวก ผู้ใช้ชื่นชอบฟังก์ชันขาตั้งในตัว (สำหรับรุ่น Detachable) ที่ช่วยให้วางบนโต๊ะเพื่อนำเสนอหรือรับชมสื่อได้ง่าย
- ระบบปฏิบัติการ Windows เต็มรูปแบบ: การได้ใช้งาน Windows 11 Pro เหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ทำให้สามารถเข้าถึงโปรแกรมและแอปพลิเคชันที่จำเป็นต่อการทำงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเหนือแท็บเล็ต Android หรือ iPad สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานโปรแกรมเฉพาะทาง
- บริการหลังการขาย (Onsite Service): การรับประกันแบบ Onsite Support ที่ช่างจะเข้ามาซ่อมถึงที่ ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจรู้สึกว่าตัวเครื่องมี น้ำหนักค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตที่เน้นความเบาเป็นพิเศษ และราคาค่อนข้างสูง แต่โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กเป็นไปในทิศทางที่ดีสำหรับความคุ้มค่าด้านการทำงานและความน่าเชื่อถือ
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับการซื้อแท็บเล็ต Dell (2-in-1) ในประเทศไทย มีช่องทางหลักๆ ที่คุณสามารถพิจารณาได้ ดังนี้:
- ช่องทางทางการ (เว็บไซต์ Dell Thailand และตัวแทนจำหน่าย):
- เว็บไซต์ Dell Thailand: แม้บางครั้งราคาอาจจะไม่ได้ระบุตรงๆ แต่เป็นแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการที่น่าเชื่อถือที่สุด คุณสามารถติดต่อฝ่ายขายเพื่อสอบถามข้อมูลและสั่งซื้อได้โดยตรง
- ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: เช่น Quidlab, Reunion Solution, Computer Store Thailand, ServerProThai บริษัทเหล่านี้ได้รับการแต่งตั้งจาก Dell และมักจะมีบริการแบบครบวงจร รวมถึงการต่อประกันและบริการหลังการขายที่ดี ราคาที่ได้มักจะเป็นราคามาตรฐานพร้อมการรับประกันเต็มรูปแบบ
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ในไทย:
- Lazada และ Shopee: เป็นแหล่งรวมร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก รวมถึงร้านค้าอย่างเป็นทางการของ Dell หรือร้านค้าที่นำเข้าผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย ข้อดีคือมีตัวเลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย และมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วง Double Digit Sale ข้อควรระวังคือควรเลือกร้านค้าที่มีรีวิวดี มีเรตติ้งสูง และตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันให้ชัดเจน
- ร้านค้าปลีกไอทีขนาดใหญ่:
- JIB, Banana IT, Power Buy: ร้านค้าเหล่านี้มักจะมี Dell 2-in-1 บางรุ่นวางจำหน่าย คุณสามารถเข้าไปดูสินค้าจริง สัมผัสตัวเครื่อง และปรึกษาพนักงานได้โดยตรง บางครั้งอาจมีโปรโมชั่นพิเศษหรือของแถมเมื่อซื้อที่ร้านค้าเหล่านี้ โดยเฉพาะในช่วงงาน Commart หรือเทศกาลลดราคาต่างๆ
การเลือกช่องทางการซื้อขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ หากเน้นความสะดวกสบายและโปรโมชั่น การซื้อออนไลน์อาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่หากต้องการสัมผัสสินค้าก่อนตัดสินใจ หรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การไปที่ร้านค้าปลีกก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
8. สรุปความคุ้มค่าและคำแนะนำในการซื้อ
โดยสรุปแล้ว แท็บเล็ต Dell (ซึ่งในปัจจุบันคืออุปกรณ์ 2-in-1 ระดับพรีเมียม) ถือเป็นอุปกรณ์ที่ คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานระดับโน้ตบุ๊กในรูปแบบที่ยืดหยุ่นและพกพาสะดวก
- เหมาะกับใคร:
- ผู้บริหารและพนักงานองค์กร: ที่ต้องการอุปกรณ์ที่เสถียร ปลอดภัย และสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยระบบ Windows เต็มรูปแบบและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูง
- นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ทำงานด้านเอกสาร/พรีเซนเทชั่น: ที่ต้องการความคล่องตัวในการจดบันทึก นำเสนอผลงาน และสร้างสรรค์งานต่างๆ
- ผู้ที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับความบันเทิงและสร้างสรรค์: แม้จะเน้นงานเป็นหลัก แต่ด้วยหน้าจอคุณภาพสูงและประสิทธิภาพที่ดี ก็สามารถใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำงานกราฟิกเบาๆ ได้อย่างสบาย
- คุ้มค่าที่จะซื้อไหม:
- ถ้าคุณมีงบประมาณที่พร้อมลงทุนกับอุปกรณ์ระดับพรีเมียมที่ให้ ประสิทธิภาพสูง ความทนทาน และการสนับสนุนหลังการขายที่ดีเยี่ยม แท็บเล็ต Dell ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
- หากเปรียบเทียบกับแท็บเล็ต Android ทั่วไป Dell อาจมีราคาสูงกว่ามาก แต่คุณจะได้ระบบปฏิบัติการ Windows เต็มรูปแบบที่รองรับการใช้งานโปรแกรมได้หลากหลายกว่า
- เมื่อเทียบกับ Microsoft Surface Pro ซีรีส์ Dell Latitude 2-in-1 มีความน่าสนใจในด้านฟีเจอร์สำหรับองค์กรและการรับประกัน Onsite Support ที่เป็นจุดเด่น
- ควรซื้อรุ่นสูงหรือต่ำ:
- หากคุณเน้นการทำงานทั่วไป เอกสาร การประชุมออนไลน์ และต้องการประหยัดงบประมาณ อาจพิจารณารุ่น Dell Latitude 7320 Detachable (มือสอง) หรือรุ่นเริ่มต้นของ 7350 Detachable ซึ่งยังคงให้ประสิทธิภาพที่น่าพอใจ
- สำหรับผู้ที่ต้องการ ประสิทธิภาพสูงสุด ฟีเจอร์ AI ล่าสุด และความพรีเมียม รวมถึงงบประมาณที่สูงขึ้น รุ่น Dell Latitude 7350 Detachable รุ่นใหม่ล่าสุด หรือ Latitude 9450 2-in-1 จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
การเลือกซื้อแท็บเล็ต Dell จึงเป็นการเลือกลงทุนในอุปกรณ์ที่เน้น ประสิทธิภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคาเหล้าบางยี่ขัน: อัปเดตล่าสุด หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา iPhone 8 Plus ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
ราคา Canon EOS RP ล่าสุด: กล้อง Mirrorless Full Frame ที่น่าจับตามอง
ราคาทองคำย้อนหลัง วันที่ 12 กรกฎาคม 2562
แปรงล้างหน้า Foreo ราคาล่าสุด รุ่นไหนดีที่สุด?
อัปเดตราคา Mazda2 ใหม่ล่าสุด 2025: ผ่อนเริ่มต้นเท่าไหร่?