รวมแอร์ขนาด 20000 BTU ราคาล่าสุดทุกยี่ห้อ พร้อมเปรียบเทียบและคำแนะนำ

สวัสดีพ่อบ้านแม่บ้านสายประหยัดทุกท่าน! ยุคนี้อากาศร้อนตับจะแตก แอร์นี่แหละเพื่อนแท้ แต่แอร์ใหม่ๆ แต่ละเครื่องก็เล่นเอาลมแทบจับ (เพราะราคา)! วันนี้เราจะมาล้วงลึก แอร์ขนาด 20,000 BTU กันแบบถึงพริกถึงขิง ว่ายี่ห้อไหนรุ่นไหนคุ้มค่า ราคาโดนใจ เหมาะกับบ้านเราที่สุด! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่าแอร์ 20,000 BTU มีอะไรน่าสนใจบ้าง!

1. ทำความรู้จักแอร์ 20,000 BTU กันหน่อย

แอร์ขนาด 20,000 BTU หรือที่เรียกกันว่า "สองหมื่นบีทียู" เนี่ย เป็นขนาดที่เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางไปจนถึงห้องค่อนข้างใหญ่ เช่น ห้องนั่งเล่น โถงรับแขก หรือห้องนอนขนาดใหญ่พิเศษหน่อยจ้า มันมีกำลังเย็นที่เหลือเฟือพอจะทำให้ห้องเย็นฉ่ำสบายตัวได้แบบทั่วถึง ถ้าห้องเราใหญ่กว่านี้ หรือมีแดดส่องแรงมากๆ อาจจะต้องพิจารณาขนาดที่ใหญ่ขึ้นนะจ๊ะ แต่ถ้าห้องไม่ใหญ่เกินไป สองหมื่นบีทียูคือ "พอดีเป๊ะ" เลยล่ะ

แบรนด์แอร์ดังๆ ที่คนไทยนิยมกันก็มีหลายยี่ห้อเลยนะ อย่าง Daikin, Mitsubishi Electric, Carrier, Panasonic, LG, Samsung และแบรนด์อื่นๆ อีกเพียบ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเทคโนโลยีและความโดดเด่นต่างกันไป เช่น บางแบรนด์เน้นประหยัดไฟ บางแบรนด์เน้นฟังก์ชันพิเศษที่ช่วยเรื่องสุขภาพ หรือบางแบรนด์ก็ดีไซน์สวยงามเหมือนเฟอร์นิเจอร์เลยทีเดียว! ส่วนใหญ่แล้วแบรนด์เหล่านี้เป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่เข้ามาทำตลาดในไทยมานาน มีศูนย์บริการและอะไหล่รองรับค่อนข้างดี ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ในระดับหนึ่งเลยจ้า

2. ราคาเจ้าแอร์ 20,000 BTU ในตลาดไทย

เอาล่ะ! มาถึงช่วงที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับแอร์ขนาด 20,000 BTU ราคาจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์ รุ่น และฟังก์ชันเสริมต่างๆ นะจ๊ะ โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะอยู่ประมาณนี้เลย:

• รุ่นมาตรฐาน (ธรรมดา): ราคาจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ 15,000 - 25,000 บาท (฿)
• รุ่นประหยัดไฟ (เบอร์ 5 สูงๆ หรือ Inverter): ราคาก็จะขยับขึ้นมาอีกหน่อย อยู่ที่ประมาณ 20,000 - 35,000 บาท (฿) หรือบางรุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษมากๆ อาจจะเกินกว่านี้ไปอีก

เราสามารถเช็คราคาล่าสุดได้ตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada (ร้านค้าอย่างเป็นทางการของแบรนด์,ร้านตัวแทนจำหน่าย), Shopee (ร้านค้า Official Store, ร้านค้าทั่วไป), หรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, The Mall, หรือแม้กระทั่งร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy ก็จะมีข้อมูลราคาให้เปรียบเทียบเยอะเลยจ้า

สำหรับร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเฉพาะทางด้านไอทีอย่าง JIB หรือ Banana IT ส่วนใหญ่จะเน้นขายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงมากกว่าแอร์นะจ๊ะ แต่บางทีก็อาจจะมีโปรโมชั่นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ บ้าง ก็ลองเข้าไปเช็คดูได้ แต่แหล่งหลักๆ ที่แนะนำจริงๆ ก็จะเป็นห้างสรรพสินค้า หรือแพลตฟอร์มออนไลน์นั่นแหละจ้า

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาขายในไทย อันนี้บอกตรงๆ ว่าอาจจะคำนวณยากหน่อย เพราะราคาในไทยมักจะรวมค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง ค่าภาษี และค่าการตลาดต่างๆ ไปแล้ว ซึ่งทำให้ราคาสูงกว่าราคาจากต่างประเทศที่เราเห็นในอินเทอร์เน็ตพอสมควรเลยจ้า

3. เทียบราคาแอร์ 20,000 BTU รุ่นอื่นดีกว่า?

แน่นอนว่าถ้าเราจะซื้อแอร์ทั้งที ก็ต้องเปรียบเทียบกันหน่อยเนอะ! สมมติว่าเรากำลังดูแอร์ Daikin Inverter รุ่น XYZ ที่ราคาประมาณ 25,000 บาท ในขณะที่แอร์ Mitsubishi Electric Inverter รุ่น ABC ที่มีสเปกใกล้เคียงกัน อาจจะมีราคาอยู่ที่ 27,000 บาท ซึ่งอาจจะดูแพงกว่า แต่ Mitsubishi Electric อาจจะเด่นเรื่องความทนทานและการใช้งานยาวนานกว่า หรือบางทีแบรนด์ Carrier ก็อาจจะมีรุ่นที่ราคาเข้าถึงง่ายกว่า แต่ฟังก์ชันอาจจะน้อยกว่าหน่อย

ดังนั้น การเลือกก็ขึ้นอยู่กับว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากันจ้ะ ถ้าเน้น ความประหยัดไฟสูงสุด และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยเรื่องสุขภาพ อาจจะยอมจ่ายแพงขึ้นหน่อยสำหรับแบรนด์อย่าง Daikin หรือ Panasonic แต่ถ้ามองหา ความคุ้มค่า ทนทาน ใช้ได้นานๆ แบบไม่ต้องจุกจิก Mitsubishi Electric ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หรือถ้าอยากได้แอร์ที่ ราคาเป็นมิตร กับกระเป๋าในช่วงแรก Carrier หรือ LG ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าพิจารณาจ้า

4. ได้อะไรมาบ้างตอนซื้อแอร์?

เวลาซื้อแอร์เนี่ย สิ่งที่ควรเช็คให้ดีก็คือ:

• ค่าขนส่งและติดตั้ง: อันนี้สำคัญมาก! บางร้านอาจจะรวมค่าขนส่งมาให้แล้ว หรือบางทีก็มีโปรโมชั่น "ฟรีค่าติดตั้ง" ด้วยนะ ซึ่งถ้าไม่มี เราอาจจะต้องจ่ายค่าติดตั้งเพิ่มอีกหลายพันบาทเลยทีเดียว! ต้องสอบถามรายละเอียดให้ดีว่ารวมอะไรบ้าง ติดตั้งฟรีถึงกี่เมตร? เกินต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่?
• ระยะเวลารับประกัน: คนไทยให้ความสำคัญกับการรับประกันมากๆ จ้า! แอร์ส่วนใหญ่จะมี ประกันตัวเครื่อง 1 ปี และ ประกันคอมเพรสเซอร์ (หัวใจหลักของแอร์) 5-10 ปี หรือบางแบรนด์อาจจะให้ประกันยาวกว่านั้นอีก อันนี้ต้องเช็คให้ชัวร์ๆ นะจ๊ะ
• ของแถมและโปรโมชั่น: บางช่วงเทศกาล หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่าย อาจจะมีของแถมเป็น บัตรของขวัญ, ส่วนลดค่าติดตั้งเพิ่มเติม, อุปกรณ์เสริม หรือ น้ำยาแอร์ ให้ด้วย ต้องคอยติดตามข่าวสาร หรือสอบถามกับทางร้านดีๆ

5. โปรโมชั่นเด็ดๆ ซื้อช่วงไหนดี?

ถ้าอยากได้แอร์ในราคาดีที่สุด การรอช่วง "โปรโมชั่น" คือคำตอบสุดท้ายจ้า! ช่วงที่น่าจับตามองเป็นพิเศษก็คือ:

• Double Digit Sales เช่น 11.11 และ 12.12 ที่ Lazada กับ Shopee จัดหนักจัดเต็ม ลดราคาแบบไม่เกรงใจใคร มีโค้ดส่วนลดเยอะมากๆ
• เทศกาลลดราคาช่วงปลายปี หรือช่วง Mid-Year Sale
• เทศกาลสงกรานต์ หรือช่วงวันหยุดยาวๆ บางทีร้านค้าก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษ

ร้านค้าที่เป็น Flagship Store หรือร้านค้าทางการของแบรนด์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ มักจะมีส่วนลดและโปรโมชั่นออกมาบ่อยๆ อยู่แล้ว ถ้าเรากดติดตามร้านค้า หรือกด "รับคูปอง" ไว้ ก็จะได้ไม่พลาดส่วนลดดีๆ จ้า แนะนำเลยว่า "รอซื้อช่วงโปรโมชั่น" จะได้ราคาที่ดีที่สุด คุ้มค่าสุดๆ ไปเลย!

6. เสียงจากผู้ใช้งานจริงในไทยเป็นไงบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ รีวิวใน Shopee และ Lazada มาเนี่ย ผู้ใช้งานชาวไทยส่วนใหญ่จะชอบแอร์ที่มีฟังก์ชัน "ประหยัดไฟ" เป็นพิเศษ เพราะค่าไฟบ้านเราก็เอาเรื่องอยู่! หลายคนบอกว่าแอร์ Inverter รุ่นใหม่ๆ กินไฟน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับแอร์รุ่นเก่า

นอกจากนี้ ก็จะเน้นที่ "ความเย็นเร็ว เย็นสม่ำเสมอ" เพราะอากาศบ้านเรามันร้อนอบอ้าว! แบรนด์ที่คนมักจะชมว่าเย็นฉ่ำ เย็นเร็ว ก็เช่น Daikin, Mitsubishi Electric ส่วนเรื่อง "ความทนทาน" ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ หลายคนเลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้ เพราะไม่อยากซ่อมบ่อยๆ และแน่นอนว่า "ราคาคุ้มค่า" กับสิ่งที่ได้มา ก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญเสมอจ้า

7. แหล่งซื้อแอร์ 20,000 BTU ที่แนะนำ

ถ้าจะให้แนะนำช่องทางการซื้อแอร์ 20,000 BTU ก็มีหลายที่เลยนะ แล้วแต่ความสะดวกและความชอบของแต่ละคนเลยจ้า:

• ช่องทางทางการของแบรนด์ (Website หลัก): อันนี้คือชัวร์สุดเรื่องสินค้าและบริการ แต่ราคาอาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นหวือหวาเท่าช่องทางอื่น
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ (Lazada, Shopee): แนะนำร้านที่เป็น Official Store หรือร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เพราะมีโปรโมชั่น โค้ดส่วนลด และบางทีก็มี "ฟรีค่าติดตั้ง" ให้ด้วย สะดวกสบาย เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ต้องเช็คเครดิตร้านดีๆ
• ห้างสรรพสินค้า/ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ (Central, Power Buy, HomePro): ข้อดีคือเราได้ไป "เห็นสินค้าจริง" ลองจับ ลองสัมผัส และสอบถามพนักงานได้โดยตรง มีบริการหลังการขายที่ค่อนข้างดี และมักจะมีโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% หรือของแถมต่างๆ ด้วย
• ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่น/ร้านที่รับติดตั้งโดยตรง: บางทีร้านเหล่านี้อาจจะมีราคาที่ยืดหยุ่นกว่า และสามารถต่อรองได้ หรือมีแพ็กเกจพร้อมติดตั้งที่คุ้มค่า แต่ต้องเลือกร้านที่ไว้ใจได้ มีชื่อเสียง และรับประกันงานติดตั้งด้วยนะ

โดยรวมแล้ว ถ้าเน้นความสะดวกและราคาที่แข่งขันได้ Lazada/Shopee คือตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากเห็นของจริงและบริการที่ครบวงจร Power Buy/HomePro ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามจ้า

8. สรุปเรื่องราคาและความคุ้มค่า

โดยสรุปแล้ว แอร์ขนาด 20,000 BTU ในตลาดไทยมีราคาที่หลากหลายมาก ตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงสามหมื่นกว่าบาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์ เทคโนโลยี และฟังก์ชันเสริมต่างๆ หากคุณเป็นคนที่ต้องการ "ความคุ้มค่า" และมองหาแอร์ที่ "ประหยัดไฟ" รุ่น Inverter ของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Daikin, Mitsubishi Electric, Panasonic ถือเป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนในระยะยาว แม้ราคาเริ่มต้นจะสูงกว่า แต่ในระยะยาวจะช่วยประหยัดค่าไฟได้อย่างมาก

แต่ถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด หรือไม่ได้เปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน แอร์รุ่นธรรมดา (Non-Inverter) ของแบรนด์เหล่านี้ หรือแอร์ Inverter ของแบรนด์อื่นๆ ที่ราคาเข้าถึงง่ายกว่าอย่าง Carrier, LG, Samsung ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและให้ความเย็นที่เพียงพอต่อการใช้งานได้เช่นกัน

คำแนะนำ: หากไม่รีบร้อน รอซื้อช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เช่น 11.11, 12.12 หรือช่วงปลายปี จะได้ราคาที่ดีที่สุดเสมอ อย่าลืมเปรียบเทียบราคา โปรโมชั่น และเงื่อนไขการรับประกัน รวมถึงบริการติดตั้งให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนได้แอร์ที่เย็นฉ่ำ ถูกใจ และสบายกระเป๋าจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• จะซื้อแอร์ปี2025 ดูคลิปนี้ก่อน! วิธีเลือกซื้อแอร์บ้าน อัพเดทปี 2025 ...
• 3 ยี่ห้อ 3 รุ่น แอร์บ้านยอดนิยม 2024 รุ่นไหนดี? ต่างกันตรงไหน? งบ ...
• 10 แอร์ inverter ยี่ห้อไหนดี ล่าสุด 2025 | @thailand_smile
• 10 แอร์เคลื่อนที่ยี่ห้อไหนดี ? 2024 เย็นสบาย ทุกขนาด BTU
• จะซื้อแอร์ ดูคลิปนี้ก่อน! วิธีเลือกซื้อแอร์ติดบ้าน จะได้ไม่รู้สึก "พลาด ...