แมวพันธุ์อะบิสซิเนียน ราคาเท่าไหร่? พร้อมข้อมูลการเลี้ยงดูเบื้องต้น

สวัสดีทาสแมวและว่าที่ทาสแมวทุกท่าน! วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าเหมียวทรงสง่า นามว่า "แมวพันธุ์อะบิสซิเนียน" (Abyssinian) หนึ่งในสายพันธุ์แมวที่เก่าแก่และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นราวกับถอดแบบมาจากแมวโบราณในอียิปต์ และนิสัยที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล ถ้าคุณกำลังมองหาเพื่อนซี้สี่ขาที่ทั้งสวย ฉลาด และขี้เล่น บอกเลยว่าอะบิสซิเนียนคือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้ามค่ะ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้ ทั้งราคา ข้อมูลการเลี้ยงดูเบื้องต้น และข้อควรรู้ต่างๆ เพื่อให้คุณพร้อมรับเจ้าเหมียวตัวนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

1. แมวพันธุ์อะบิสซิเนียนคืออะไร และมีที่มาอย่างไร?

แมวพันธุ์อะบิสซิเนียน เป็นแมวสายพันธุ์ขนสั้นขนาดกลางที่มีรูปร่างเพรียวสง่างาม จุดเด่นคือสีขนที่มีลักษณะพิเศษคล้ายกับ "แท็บบี้" หรือลายสลิด แต่เป็นแบบ Tick Ticking คือขนแต่ละเส้นมีสีไล่เฉดกัน ทำให้เกิดมิติและประกายแวววาวเมื่อแสงตกกระทบ สีที่พบได้บ่อย ได้แก่ สี Ruddy (น้ำตาลแดง), Blue (เทาอมน้ำเงิน), Fawn (น้ำตาลแกมเหลือง) และ Cinnamon (น้ำตาลแดงเข้ม)

สำหรับประวัติความเป็นมาของแมวอะบิสซิเนียนนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ บ้างก็เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเอธิโอเปีย (ชื่อเดิมคือ Abyssinia) และถูกนำเข้ามายังประเทศอังกฤษโดยทหารในช่วงศตวรรษที่ 19 บางส่วนก็สันนิษฐานว่าสืบเชื้อสายมาจากแมวศักดิ์สิทธิ์ของชาวอียิปต์โบราณ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายคลึงกับรูปภาพและรูปปั้นแมวที่พบในอียิปต์ แมวสายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในยุโรปและอเมริกา ด้วยนิสัยที่ฉลาด กระตือรือร้น ชอบเล่น และมีความผูกพันกับเจ้าของสูงมาก บางครั้งถึงขั้นถูกเรียกว่า "แมวคล้ายสุนัข" เพราะความภักดีและชอบติดตามเจ้าของ พวกเขาชอบมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของครอบครัว และไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวนานๆ จึงเหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีเวลาเล่นและปฏิสัมพันธ์กับแมว หรือมีสมาชิกในบ้านหลายคน

2. ราคาแมวอะบิสซิเนียนในตลาดไทยเป็นอย่างไร?

ราคาของแมวพันธุ์อะบิสซิเนียนในประเทศไทยนั้นมีความหลากหลายพอสมควร ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มา สายเลือด (มีใบเพดดีกรีหรือไม่) สี อายุ เพศ และความสมบูรณ์ของตัวแมว โดยทั่วไปแล้ว ราคาของลูกแมวอะบิสซิเนียนเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 16,000 บาท ไปจนถึง 35,000 บาท (฿) หรือบางตัวที่มีสายเลือดแชมป์เปี้ยน หรือนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น รัสเซีย อาจมีราคาสูงถึง 50,000 บาท (฿) เลยทีเดียว

การซื้อขายมักจะพบได้ตามฟาร์มเพาะพันธุ์โดยตรง หรือผ่านทางแพลตฟอร์มซื้อขายสัตว์เลี้ยงออนไลน์ เช่น ENNXO หรือกลุ่มซื้อขายแมวในโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งราคาที่แตกต่างกันนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์แท้ โดยแมวที่มีใบเพดดีกรีรับรองสายพันธุ์และผ่านการตรวจสุขภาพจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน มักจะมีราคาสูงกว่าแมวที่ไม่มีใบเพดดีกรีหรือมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือค่ะ

3. เปรียบเทียบราคากับแมวสายพันธุ์ใกล้เคียง

เมื่อเทียบกับแมวสายพันธุ์แท้อื่นๆ ที่ได้รับความนิยมในไทย แมวอะบิสซิเนียนจัดอยู่ในกลุ่มที่มีราคาปานกลางค่อนไปทางสูง ตัวอย่างเช่น แมวบริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 12,000 - 43,000 บาท หรือแมวสก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold) ที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6,000 - 15,000 บาท จะเห็นได้ว่าราคาของอะบิสซิเนียนอยู่ในช่วงที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ที่ต้องการแมวสายพันธุ์แท้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งความคุ้มค่าของการเลือกแมวอะบิสซิเนียนนั้นไม่ได้อยู่ที่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงลักษณะนิสัยที่น่ารัก ความฉลาด และความขี้เล่น ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจ ทำให้หลายคนยอมจ่ายเพื่อแลกกับความสุขที่ได้รับจากเจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้ค่ะ

4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา

โดยปกติแล้ว เมื่อซื้อลูกแมวจากฟาร์มเพาะพันธุ์ที่ได้มาตรฐาน สิ่งที่คุณมักจะได้รับพร้อมกับน้องแมวได้แก่:

• วัคซีนเบื้องต้น: ลูกแมวมักจะได้รับการฉีดวัคซีนที่จำเป็นตามวัยแล้ว 1-2 เข็ม พร้อมสมุดวัคซีน
• การถ่ายพยาธิและหยดยาป้องกันเห็บหมัด: ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกแมว
• ใบรับรองสายพันธุ์ (Pedigree): สำหรับแมวที่มีสายเลือดแท้และมีใบรับรองจากสมาคมแมวต่างๆ (เช่น CFA, TICA) ซึ่งจะส่งให้ภายหลังหากน้องแมวได้รับการทำหมันแล้ว
• ใบรับรองสุขภาพ: บางฟาร์มอาจมีใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์ว่าน้องแมวมีสุขภาพแข็งแรง
• อาหารและทรายแมวเบื้องต้น: อาจมีอาหารที่น้องแมวกินอยู่เป็นประจำ และทรายแมวจำนวนเล็กน้อยให้ไปลองใช้ที่บ้าน
• การให้คำแนะนำการเลี้ยงดู: ฟาร์มมักจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลเบื้องต้น การปรับตัว และคำแนะนำด้านสุขภาพ

ในส่วนของการรับประกันสุขภาพ โดยทั่วไปฟาร์มมักจะมีการรับประกันสุขภาพเบื้องต้น เช่น รับประกันโรคที่เกิดจากพันธุกรรม หรือโรคติดเชื้อบางชนิดภายในระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 7-15 วัน) ซึ่งควรสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ ส่วนเรื่องค่าจัดส่งนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละฟาร์ม บางแห่งอาจมีบริการจัดส่งฟรีในพื้นที่ใกล้เคียง หรือมีค่าจัดส่งตามระยะทาง หรือผู้ซื้อต้องมารับเองค่ะ

5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ

การซื้อสัตว์เลี้ยงมีข้อแตกต่างจากการซื้อสินค้าทั่วไปที่มักมีโปรโมชั่นตามเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง 12.12 หรือสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ฟาร์มเพาะพันธุ์บางแห่งอาจมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเวลาต่างๆ เช่น การจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกแมวครอกใหม่ หรือการให้ส่วนลดเมื่อซื้อลูกแมวมากกว่าหนึ่งตัว หรืออาจมีราคาพิเศษสำหรับลูกแมวที่โตขึ้นมาหน่อยแล้ว

คำแนะนำในการซื้อแมวอะบิสซิเนียน:

• ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด: ทำความเข้าใจลักษณะนิสัย การเลี้ยงดู และโรคประจำสายพันธุ์
• เลือกฟาร์มที่น่าเชื่อถือ: ควรเลือกฟาร์มที่มีชื่อเสียง มีมาตรฐานในการเพาะพันธุ์ มีการดูแลสุขอนามัยที่ดี และมีการตรวจสุขภาพพ่อแม่พันธุ์
• สอบถามใบรับรองและประวัติ: สอบถามเรื่องใบเพดดีกรี ประวัติสุขภาพของพ่อแม่พันธุ์ และลูกแมว
• ไปดูตัวจริง: หากเป็นไปได้ ควรเดินทางไปดูลูกแมวด้วยตัวเองที่ฟาร์ม เพื่อดูสภาพแวดล้อม ความสะอาด และพฤติกรรมของลูกแมว
• ทำสัญญาซื้อขาย: เพื่อให้มั่นใจในเรื่องของการรับประกันสุขภาพและสายพันธุ์

การลงทุนกับแมวที่มีคุณภาพจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ แม้ราคาอาจสูงกว่า แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องปัญหาสุขภาพและพันธุกรรมในระยะยาวได้ค่ะ

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย

ผู้เลี้ยงแมวอะบิสซิเนียนในไทยส่วนใหญ่ให้ฟีดแบ็กที่เป็นบวกอย่างมาก จุดเด่นที่มักถูกกล่าวถึงคือ:

• ความฉลาดและขี้เล่น: "น้องแมวฉลาดมากค่ะ สอนอะไรก็จำได้เร็ว แถมขี้เล่นสุดๆ เล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อเลย"
• ความผูกพันกับเจ้าของ: "อะบิสซิเนียนติดคนมากค่ะ ชอบตามไปทุกที่ นั่งทำงานก็มาคลอเคลีย เวลากลับบ้านจะมารอรับหน้าประตูทุกครั้ง"
• รูปร่างหน้าตาสง่างาม: "ชอบที่เขามีขนสั้นแต่ดูมีมิติ สีสวยมาก ดูสง่าไม่เหมือนใครเลย"
• การดูแลขนไม่ยุ่งยาก: "ขนสั้นดูแลง่ายมากค่ะ แค่แปรงสัปดาห์ละครั้งก็พอ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขนร่วงเท่าไหร่"
• ปรับตัวเก่ง: "น้องเข้ากับเด็กๆ ในบ้านได้ดีมากเลยค่ะ เล่นด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา" (แต่ต้องมีการแนะนำและสอนที่เหมาะสม)

อย่างไรก็ตาม บางคนก็กล่าวถึงว่าแมวสายพันธุ์นี้อาจมีอารมณ์เสียง่ายบ้างในบางครั้ง หรืออาจขี้อายเมื่อเจอคนแปลกหน้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการเรียนรู้และประสบการณ์ที่ดี

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

สำหรับผู้ที่สนใจเลี้ยงแมวอะบิสซิเนียนในประเทศไทย ช่องทางการซื้อหลักๆ ที่แนะนำได้แก่:

• ฟาร์มเพาะพันธุ์แมวโดยตรง: เป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการได้แมวสายพันธุ์แท้ที่มีคุณภาพ มีใบเพดดีกรี และมีการดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยม ฟาร์มเหล่านี้มักจะมีความเชี่ยวชาญในการเพาะพันธุ์อะบิสซิเนียนโดยเฉพาะ และสามารถให้คำแนะนำการเลี้ยงดูได้อย่างครบถ้วน ควรค้นหาฟาร์มที่ได้รับการยอมรับและมีรีวิวที่ดี
• แพลตฟอร์มซื้อขายสัตว์เลี้ยงออนไลน์: เช่น ENNXO หรือเว็บไซต์ที่รวบรวมประกาศขายสัตว์เลี้ยงต่างๆ คุณสามารถค้นหาแมวอะบิสซิเนียนจากผู้ขายหลากหลายราย ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะและเปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ควรระมัดระวังและตรวจสอบผู้ขายอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง ควรนัดรับแมวและชำระเงินด้วยตัวเองหากเป็นไปได้
• กลุ่มซื้อขายแมวใน Facebook หรือโซเชียลมีเดีย: เป็นอีกแหล่งที่ได้รับความนิยมในการหาซื้อแมวจากผู้เลี้ยงที่ต้องการส่งต่อ หรือจากฟาร์มขนาดเล็ก ข้อดีคืออาจได้ราคาที่เป็นกันเองและได้พูดคุยกับเจ้าของเดิมโดยตรง แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ตรวจสอบเครดิตของผู้ขาย และควรนัดเจอเพื่อดูตัวแมวด้วยตัวเองเสมอ

สำหรับร้านค้าปลีกสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ทั่วไป เช่น Pet Paradise หรือร้านเพ็ทช็อปทั่วไป อาจจะไม่ได้มีแมวอะบิสซิเนียนให้เลือกมากนัก หรืออาจต้องสั่งจองล่วงหน้าค่ะ

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

สรุปแล้ว แมวพันธุ์อะบิสซิเนียนเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสัตว์เลี้ยงที่ฉลาด ขี้เล่น มีพลังงานสูง และมีความผูกพันกับเจ้าของมาก ด้วยราคาในตลาดไทยที่เริ่มต้นประมาณ 16,000 - 35,000 บาท (สำหรับแมวในประเทศ) ไปจนถึง 50,000 บาท (สำหรับแมวนำเข้าหรือสายเลือดแชมป์) ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับความพิเศษของสายพันธุ์และเสน่ห์เฉพาะตัวที่อะบิสซิเนียนมอบให้

เหมาะสำหรับใคร:

• ผู้ที่มีเวลาในการเล่นและปฏิสัมพันธ์กับแมว
• ครอบครัวที่มีเด็ก หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ (หากมีการแนะนำอย่างเหมาะสม)
• ผู้ที่ชื่นชอบแมวที่มีนิสัยกระตือรือร้น ชอบสำรวจ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
• ผู้ที่ต้องการแมวที่ไม่ต้องดูแลขนมากนัก

หากคุณมีงบประมาณที่จำกัด แต่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเลี้ยงแมวอะบิสซิเนียน การเลือกซื้อลูกแมวจากฟาร์มในประเทศที่ได้มาตรฐานก็เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยม แต่ถ้าคุณต้องการแมวที่มีสายเลือดแชมป์เปี้ยน หรือต้องการนำไปพัฒนาสายพันธุ์ต่อ การพิจารณาลูกแมวนำเข้าที่มีราคาสูงขึ้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมทั้งด้านเวลา งบประมาณ และความรู้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถดูแลเจ้าเหมียวตัวน้อยให้เติบโตอย่างมีความสุขและสุขภาพดีไปกับคุณได้ตลอดอายุขัย 12-15 ปี (หรืออาจถึง 18 ปี) ขอให้ทุกท่านได้พบกับเพื่อนซี้สี่ขาที่ใช่ แล้วมาเป็นทาสแมวอะบิสซิเนียนอย่างเต็มตัวกันนะคะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 5 อันดับสายพันธุ์แมวที่ฉลาดที่สุดในโลก
• 5 สายพันธุ์แมวที่ฉลาดที่สุดในโลก
• เลือกแมวพันธุ์ไหนดีที่สุดสำหรับคุณ?
• แมวสลิด: ขายกิโลกรัมละ 250 บาท เทรนด์ใหม่แมวไทย
• 5 อันดับแมวที่ฉลาดที่สุดในโลก