logo

รีวิวบริการขนส่ง Speed-D ของ 7-Eleven ส่งของสะดวก รวดเร็วทันใจจริงไหม

user avatar
พิมพ์ชนก บุญยืน·07/21/2025T05:43Z
点赞
รีวิวบริการขนส่ง Speed-D ของ 7-Eleven ส่งของสะดวก รวดเร็วทันใจจริงไหม

บริการขนส่งพัสดุกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะส่งเอกสาร ส่งของให้ลูกค้า หรือแม้แต่ส่งของให้คนรู้จัก การเลือกขนส่งที่ “ใช่” จึงสำคัญมาก และเมื่อพูดถึงความสะดวกสบาย หลายคนคงนึกถึง 7-Eleven ที่มีแทบทุกหัวมุมถนน แต่บริการขนส่ง Speed-D ของ 7-Eleven ที่อวดอ้างว่า "ส่งของสะดวก รวดเร็วทันใจ" นั้น แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร? คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่? วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกแง่มุม เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า Speed-D คือคำตอบสำหรับคุณจริง ๆ หรือเปล่า!


1. ภาพรวมบริการ: ทำความรู้จัก Speed-D

แบรนด์: Speed-D (ในเครือ CP ALL ให้บริการผ่าน 7-Eleven)
เริ่มให้บริการ: ตั้งแต่ช่วงปี 2561-2562
ช่องทาง: ร้าน 7-Eleven กว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ
การวางตำแหน่งบริการ: เน้นความสะดวกสบายเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปและร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก ที่ต้องการจุดส่ง-รับพัสดุใกล้บ้าน และให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

จุดเด่นหลักของ Speed-D:

  • เปิดตลอด 24 ชั่วโมง: ส่ง-รับได้ทุกเวลาที่ร้าน 7-Eleven
  • สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ: มีจุดให้บริการเยอะมาก หาง่าย ใกล้บ้าน
  • มีระบบติดตามพัสดุ: สามารถเช็กสถานะได้ตลอดเวลา
  • เลือกปลายทางได้: ส่งถึงบ้านผู้รับ หรือรับที่ 7-Eleven สาขาปลายทางได้
  • ราคาเริ่มต้นเข้าถึงง่าย: โดยเฉพาะการรับที่ร้าน 7-Eleven

2. ดีไซน์ & รูปแบบบริการ (ในมุมของร้าน 7-Eleven)

ในฐานะที่เป็นบริการขนส่ง สิ่งที่ผู้ใช้งานจะสัมผัสได้คือความพร้อมของร้าน 7-Eleven ในการให้บริการ Speed-D ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเห็นป้ายบริการ Speed-D ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ หรือบริเวณจุดบริการต่าง ๆ

วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้: พนักงานจะใช้เครื่องอ่านบัตรประชาชน, เครื่อง POS สำหรับรับข้อมูลและชำระเงิน, และหน้าจอสำหรับให้ผู้ส่งกรอกข้อมูลด้วยตนเอง
ความสะดวกในการเข้าถึง: ร้าน 7-Eleven มีอยู่ทุกที่ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงบริการได้ง่าย ไม่ต้องเดินทางไกล
อุปกรณ์เสริมในร้าน: 7-Eleven มีกล่องและซองพัสดุ Speed-D จำหน่ายหลายขนาด เพื่อความสะดวกในการแพ็คของ หากคุณยังไม่ได้เตรียมมา กล่องมีตั้งแต่ไซส์ S, M, L และซองกันกระแทก A4, A3


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก (การส่งและรับพัสดุ)

การส่งและรับพัสดุกับ Speed-D นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่มีขั้นตอนที่ต้องใส่ใจ:

การส่งพัสดุ:

  1. เตรียมพัสดุ: แพ็คสินค้าให้เรียบร้อย และเขียนชื่อ-เบอร์โทรศัพท์-ที่อยู่ปลายทางให้ชัดเจน หากสินค้าแตกหักง่ายควรห่อกันกระแทกมาให้ดี (แม้บางรีวิวเก่าจะระบุว่าต้องใช้กล่องของร้านเท่านั้น แต่ปัจจุบันสามารถใช้กล่องที่แพ็คมาเองได้ เพียงแต่ต้องเทียบขนาดตามเรทราคาของร้าน)
  2. แจ้งพนักงาน: แจ้งพนักงานที่เคาน์เตอร์ว่าต้องการส่งพัสดุ Speed-D
  3. ยืนยันตัวตน: เสียบบัตรประชาชนที่เครื่องอ่านและยืนยันข้อมูล
  4. กรอกข้อมูล: พนักงานจะให้คุณกรอกข้อมูลผู้ส่ง (เบอร์โทร) และผู้รับ (รหัสไปรษณีย์, เบอร์โทร) รวมถึงเลือกปลายทางว่าเป็นที่บ้านหรือ 7-Eleven สาขาปลายทาง (ต้องมีรหัสสาขาปลายทาง หากเลือกรับที่ 7-Eleven) บนเครื่อง
  5. ชำระเงิน: ระบบจะคำนวณราคาตามขนาดและน้ำหนักของพัสดุ รวมถึงปลายทาง (ส่งในภาค/ข้ามภาค) แล้วทำการชำระเงิน
  6. รับสลิป: คุณจะได้รับสลิปที่มี QR Code สำหรับติดตามสถานะพัสดุ และอาจมี SMS แจ้งลิงก์สำหรับเช็กสถานะด้วย

การรับพัสดุ:

  1. รอ SMS: เมื่อพัสดุถึงสาขาปลายทาง (หรือพร้อมจัดส่งถึงบ้าน) จะมี SMS แจ้งพร้อมรหัส OTP และ/หรือลิงก์ติดตาม
  2. แสดงหลักฐาน: สำหรับการรับที่ 7-Eleven ให้แสดง SMS ที่ได้รับรหัส OTP และเลขพัสดุ พร้อมบัตรประชาชนตัวจริงแก่พนักงาน
  3. ยืนยันรหัส: กดรหัส OTP ที่เครื่องเพื่อยืนยัน
  4. รับพัสดุ: รับพัสดุพร้อมใบเสร็จจากพนักงาน

ความเร็วในการจัดส่ง: ในจุดนี้ถือเป็นประเด็นที่มีเสียงสะท้อนจากผู้ใช้หลากหลาย มีการเคลมว่าหากส่งก่อน 21:00 น. ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะได้รับของในวันถัดไป อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายพบว่าการส่งจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดอาจใช้เวลา 2-3 วัน หรือบางกรณีอาจใช้เวลา 5-7 วันเลยทีเดียว โดยเฉพาะหากพัสดุต้องมีการเปลี่ยนถ่ายขนส่งย่อย หรือมีการอ้อมเส้นทาง สถานะการอัปเดตในระบบติดตามก็อาจไม่เร็วเท่าที่ควร


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้

บริการ Speed-D ถือว่าใช้งานง่ายในแง่ของการเข้าถึงและขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนมากนัก เพียงเตรียมของและบัตรประชาชนไปที่ 7-Eleven ก็สามารถทำรายการได้เลย

  • ขั้นตอนที่เคาน์เตอร์: พนักงานส่วนใหญ่จะให้คำแนะนำที่ดี และขั้นตอนการเสียบบัตรประชาชนและกรอกข้อมูลเองก็ใช้เวลาไม่นาน
  • การติดตามสถานะ: มีระบบ Tracking ที่สามารถเช็กได้ผ่าน SMS Link หรือ QR Code บนใบเสร็จ ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ส่ง
  • ข้อจำกัด: อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการส่งพัสดุที่มีเงื่อนไขพิเศษ เช่น ของสด, ของแตกง่ายที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ, หรือของมีมูลค่าสูง เนื่องจากมีรายการสิ่งของต้องห้ามและวงเงินคุ้มครองจำกัด

5. ค่าใช้จ่าย & ความคุ้มค่าในระยะยาว

อัตราค่าบริการของ Speed-D มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะการเลือกรับที่ 7-Eleven สาขาปลายทาง

  • ราคาเริ่มต้น: ค่าส่งเริ่มต้นที่ 15-20 บาท สำหรับการรับพัสดุที่ร้าน 7-Eleven สาขาปลายทาง ส่วนการส่งถึงบ้านผู้รับเริ่มต้นที่ประมาณ 30-35 บาท
  • ราคาตามขนาดและน้ำหนัก: อัตราค่าบริการจะแตกต่างกันไปตามขนาดกล่อง/ซอง และระยะทาง (ในภาค/ข้ามภาค) ตัวอย่างเช่น:
    • ซอง A4 (ไม่เกิน 1 กก.) เริ่มต้น 35 บาท (ในภาค) / 55 บาท (ข้ามภาค)
    • กล่อง S (ไม่เกิน 5 กก.) เริ่มต้น 35 บาท (ในภาค) / 55 บาท (ข้ามภาค)
    • กล่อง M (ไม่เกิน 8 กก.) เริ่มต้น 65 บาท (ในภาค) / 80 บาท (ข้ามภาค)
  • ความคุ้มค่า: หากเทียบกับความสะดวกในการเข้าถึงบริการ 24 ชั่วโมง และราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างถูก (โดยเฉพาะการรับที่ร้านปลายทาง) ถือว่าคุ้มค่าสำหรับพัสดุที่ไม่เร่งด่วนและไม่ต้องการประกันคุ้มครองวงเงินสูง อย่างไรก็ตาม บางความคิดเห็นระบุว่าราคาอาจดูสูงขึ้นเมื่อรวมค่ากล่องที่ซื้อจากร้าน
  • วงเงินคุ้มครอง: มีวงเงินคุ้มครองความเสียหายสูงสุด 2,000 - 5,000 บาท

6. ข้อดี-ข้อเสีย

เพื่อให้เห็นภาพรวมชัดเจนยิ่งขึ้น ลองพิจารณาข้อดีและข้อเสียของ Speed-D:

ข้อดี:

  • สะดวกสุด ๆ: ส่ง-รับพัสดุได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ร้าน 7-Eleven ใกล้บ้าน
  • เข้าถึงง่าย: สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ต้องเดินทางไกลไปศูนย์ขนส่ง
  • หมดปัญหาไม่มีคนรับ: เลือกรับที่ 7-Eleven สาขาปลายทางได้ หมดห่วงเรื่องพัสดุตีกลับ
  • ราคาเริ่มต้นไม่แพง: โดยเฉพาะการส่งแบบรับที่ร้าน
  • มีระบบติดตาม: สามารถเช็กสถานะพัสดุได้

ข้อเสีย:

  • ความเร็วไม่สม่ำเสมอ: แม้ชื่อจะ "Speed-D" แต่หลายรีวิวพบว่าการจัดส่งล่าช้า โดยเฉพาะข้ามภาค อาจใช้เวลาหลายวัน
  • ขั้นตอนการกรอกข้อมูล: การต้องเสียบบัตรประชาชนและกรอกข้อมูลเองบนเครื่อง อาจรู้สึกยุ่งยากเล็กน้อยสำหรับบางคน
  • สิ่งของต้องห้ามเยอะ: มีข้อจำกัดเรื่องประเภทพัสดุมาก เช่น ห้ามส่งอาหารสด, ขนม, พืช, วัตถุไวไฟ
  • วงเงินคุ้มครองจำกัด: อาจไม่เหมาะกับพัสดุมีมูลค่าสูง
  • การอัปเดตสถานะ: บางครั้งการอัปเดตสถานะไม่ละเอียดหรือไม่เคลื่อนไหวเร็วเท่าที่ควร

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการเลือกใช้

บริการ Speed-D เหมาะกับผู้ใช้งานในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้:

  • เหมาะกับ:
    • คนทำงาน/เรียนหนังสือ: ที่ไม่สะดวกรับพัสดุที่บ้านในเวลากลางวัน หรือต้องการส่งของนอกเวลางาน/ราชการ
    • ผู้ที่อยู่ใกล้ 7-Eleven: ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงจุดบริการส่ง-รับ
    • ร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก: ที่ต้องการลดต้นทุนค่าส่ง และไม่ต้องกังวลเรื่องพัสดุตีกลับ (หากให้ลูกค้ารับที่ 7-Eleven)
    • การส่งของที่ไม่เร่งด่วน: เหมาะกับพัสดุที่ผู้รับไม่ต้องรีบใช้
    • ผู้ที่ต้องการประหยัดค่าส่ง: โดยเฉพาะเมื่อเลือกรับที่ร้านปลายทาง
  • ควรซื้อเลยไหม / ควรใช้บริการไหม?
    ถ้าพัสดุของคุณไม่ใช่วัตถุต้องห้าม ไม่เร่งด่วน และผู้รับสามารถไปรับที่ 7-Eleven สาขาปลายทางได้ บริการ Speed-D ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและสะดวกมาก อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการความรวดเร็วในการจัดส่ง หรือพัสดุของคุณมีมูลค่าสูง/แตกหักง่าย อาจต้องพิจารณาบริการขนส่งอื่น ๆ ที่เชี่ยวชาญกว่าและมีค่าประกันสูงกว่า

8. เปรียบเทียบกับบริการขนส่งอื่น ๆ

เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการขนส่งเจ้าใหญ่อื่น ๆ ในตลาด เช่น ไปรษณีย์ไทย หรือ Kerry Express, Flash Express, J&T Express:

  • ความสะดวกและเวลาทำการ: Speed-D ชนะขาดในเรื่องของการให้บริการ 24 ชั่วโมง และจำนวนสาขาที่เข้าถึงง่ายที่สุด
  • ความรวดเร็ว: โดยรวมแล้ว Speed-D อาจยังไม่สามารถเทียบเท่าความรวดเร็วของขนส่งเอกชนรายใหญ่ที่เน้นความเร็วเป็นหลัก โดยเฉพาะการส่งข้ามจังหวัด
  • ประเภทพัสดุ: ขนส่งอื่น ๆ มักจะรับพัสดุได้หลากหลายประเภทมากกว่า และมีบริการเสริมสำหรับการขนส่งสินค้าเฉพาะทาง เช่น ของสด หรือของชิ้นใหญ่
  • ราคา: ราคาเริ่มต้นของ Speed-D ถือว่าแข่งขันได้ โดยเฉพาะเมื่อเลือกรับที่ร้าน 7-Eleven แต่หากเป็นค่าส่งถึงบ้าน และน้ำหนักมากขึ้น อาจไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งมากนัก
  • การติดตามสถานะ: ขนส่งอื่น ๆ มักมีระบบติดตามสถานะที่ละเอียดและอัปเดตแบบเรียลไทม์มากกว่า

9. บริการหลังการขายและช่องทางการติดต่อ

หากเกิดปัญหาหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ Speed-D คุณสามารถติดต่อได้ตามช่องทางดังนี้:

  • Call Center Speed-D: โทร 02-036-5788 (ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)
  • Facebook Page: 7-Eleven Thailand
  • เว็บไซต์: สามารถเช็กข้อมูลและติดตามสถานะได้ที่เว็บไซต์ 7eleven.co.th

การบริการลูกค้าผ่านช่องทางเหล่านี้ค่อนข้างรวดเร็วและให้ข้อมูลได้ดี แต่สำหรับการแก้ไขปัญหาการจัดส่งที่ล่าช้า อาจต้องใช้เวลาในการติดตาม


10. บทสรุปและคำแนะนำในการใช้บริการ

จากการรีวิวทั้งหมด Speed-D ของ 7-Eleven เป็นบริการขนส่งที่โดดเด่นเรื่อง "ความสะดวกสบายและเข้าถึงง่าย" เป็นอย่างมาก ด้วยการเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกส่งของในเวลาทำการปกติ หรือผู้ที่ต้องการให้ผู้รับสามารถไปรับพัสดุได้ตามสะดวกที่ 7-Eleven สาขาใกล้บ้าน ราคาเริ่มต้นก็ถือว่าดึงดูดใจมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นด้าน "ความรวดเร็วทันใจ" นั้น Speed-D ยังคงมีข้อจำกัดและได้รับคำวิจารณ์จากผู้ใช้งานในเรื่องของความไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะการจัดส่งข้ามจังหวัดที่อาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงข้อจำกัดเรื่องประเภทสินค้าที่รับส่ง

คำแนะนำขั้นสุดท้าย:

  • ควรใช้บริการ: หากคุณต้องการส่งพัสดุที่ไม่เร่งด่วน ไม่ใช่อาหารหรือของแตกง่ายมากนัก และเน้นความสะดวกในการเข้าถึงบริการตลอด 24 ชั่วโมงใกล้บ้าน รวมถึงต้องการประหยัดค่าส่ง (โดยเฉพาะการส่งแบบรับที่ร้าน) Speed-D คือคำตอบที่ดีเยี่ยมสำหรับคุณ
  • ไม่แนะนำ: หากพัสดุของคุณเป็นของเร่งด่วน มีมูลค่าสูง มีโอกาสเสียหายง่าย หรือเป็นสินค้าที่อยู่ในหมวดต้องห้าม คุณควรพิจารณาใช้บริการขนส่งอื่น ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีระบบจัดการที่รวดเร็วกว่า

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กำลังมองหาที่พักในเชียงใหม่ที่เดินทางสะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมืองเก่า และราคาดีอยู่ใช่ไหม? โรงแรมรอยัล พรรณราย เชียงใหม่ อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา! ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถ
รีวิวโรงแรม รอยัล พรรณราย เชียงใหม่ ที่พักใจกลางเมืองเก่า เดินทางสะดวก
กำลังมองหาทีวีใหม่ที่ให้ภาพสวยคมชัด เสียงกระหึ่มเหมือนโรงหนัง แต่ราคาไม่แรงเกินไปอยู่ใช่ไหม? วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึก LG 55SK8000PTA ทีวี 4K Super UHD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Cell Display อันเป็นเอกลักษณ์ของ LG ที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อ
รีวิวทีวี LG 55SK8000PTA Nano Cell Display 4K ภาพสวยเสียงดี คุ้มค่ามั้ย
เบื่อไหมกับใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า? นอนดึกตาบวมจนเพื่อนทัก? ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยกอบกู้ใต้ตาให้กลับมาสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง บทความนี้มีคำตอบ! วันนี้เราจะพามารีวิวเจาะลึก Origins Ginzing Eye Cream อายครีมตัวดังที่ใครๆ ก็พูดถึง ว่าจะช่วยลด
รีวิว Origins Ginzing Eye Cream อายครีมลดบวมและความหมองคล้ำรอบดวงตา

บทความที่แนะนำ

รีวิวบริการขนส่ง Speed-D ของ 7-Eleven ส่งของสะดวก รวดเร็วทันใจจริงไหม - Thaihomeshopping