10 ชาไทย ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 สีสวย กลิ่นหอม เข้มข้นถึงใจ


สวัสดีครับเพื่อนๆ สายชง สายดื่ม และคอชาไทยทุกคน! ☕️ ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ แถมยังต้องการความสดชื่นและสีสันในแต่ละวัน ชาไทย หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ “ชาเย็น” กลายเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้วนะครับ!
ชาไทยนี่แหละคือคำตอบ! ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ ชาร์จพลังบ่ายคล้อย หรือจะดื่มคู่กับมื้ออาหารอร่อยๆ ชาไทยก็พร้อมตอบโจทย์ด้วยรสชาติหวานมัน กลมกล่อม และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะชงดื่มเองที่บ้านก็ดี หรือซื้อตามร้านดังก็สะดวกสบาย พกแก้วเดียวจบ สดชื่นได้ตลอดวันจริงๆ ครับ
แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีชาไทยออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายรูปแบบจนตาลายไปหมด! จะเลือกยังไงให้ได้ชาไทยที่ใช่ สีสวย กลิ่นหอม เข้มข้นถึงใจ ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลัง? 🤔
ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับการชิมและรีวิวชาไทยมานาน วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของชาไทยในไทย พร้อมแนะนำ 10 แบรนด์เด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ ไม่ผิดหวังแน่นอน!
ตลาดชาไทยในไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?
บอกเลยว่าตลาดชาไทยในไทยช่วงนี้กำลัง มาแรงแซงทางโค้ง! จากข้อมูลของ LINE MAN Wongnai พบว่าตลาดชาไทยเติบโตต่อเนื่อง และมีร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้นถึง 205% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คนไทยยุคใหม่หันมาใส่ใจเรื่องคุณภาพและความหลากหลายของเครื่องดื่มมากขึ้น ไม่ว่าจะดื่มเพื่อความสดชื่น หรือดื่มเพื่อสุขภาพ ทำให้ชาไทยยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่เป็นศูนย์กลางของเทรนด์ชาไทย Specialty
แบรนด์ที่เห็นส่วนใหญ่ในตลาดก็จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่นของไทยที่ครองตลาดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ชาตรามือ, Karun, All Cafe, Cafe Amazon, True Coffee, พันธุ์ไทย, หรือ Inthanin ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและฐานลูกค้าที่แตกต่างกันไป ส่วนแบรนด์นำเข้าอาจจะยังไม่โดดเด่นในตลาดชาไทยสำเร็จรูปเท่าแบรนด์ไทย แต่ก็มีชาบางประเภท เช่น ชาพม่า ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคบางส่วน
คนไทยส่วนใหญ่เวลามองหาชาไทยก็จะเน้นไปที่ รสชาติที่เข้มข้น กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ สีสันสวยงาม และความคุ้มค่า นอกจากนี้ เทรนด์ "ชาไทยไม่ใส่สี" ก็กำลังมาแรง โดยผู้บริโภคให้ความสนใจชาไทยที่คงรสชาติแบบธรรมชาติ ไม่มีการเติมสีผสมอาหาร ซึ่งหลายแบรนด์ก็เริ่มนำเสนอเมนู "คลีน" กว่าออกมาตอบโจทย์ แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมาตลอด หรือถ้าใครอยากไปลองชิมก่อนตัดสินใจซื้อ ก็ต้องไปที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven (All Cafe), ร้านกาแฟสาขาต่างๆ อย่าง Cafe Amazon หรือซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอย่าง Big C, Tops ครับ
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อชาไทย (Practical Tips)
ก่อนจะวิ่งไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้ชาไทยที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา (สำหรับชาไทย) |
---|---|
รสชาติและกลิ่น | ชอบความเข้มข้นระดับไหน? หวานนำ มันนำ หรือเน้นกลิ่นหอมเฉพาะตัว? (เช่น หอมกลิ่นชาโบราณ หรือมีกลิ่นนมเด่น) |
สีของชา | ชอบสีส้มจัดจ้านแบบดั้งเดิม หรือชอบสีธรรมชาติแบบชาไม่ใส่สี? |
ประเภทของชา | ใบชาแบบหยาบ ผงชาสำเร็จรูป หรือแบบ 3-in-1 สำหรับชงง่าย? |
ส่วนผสมเพิ่มเติม | มีส่วนผสมของนม น้ำตาล หรือครีมเทียมในตัวเลยหรือไม่? เหมาะกับสายสุขภาพที่ต้องการน้ำตาลน้อย? |
คุณภาพและความปลอดภัย | มีมาตรฐาน อย. หรือการรับรองอื่นๆ หรือไม่? ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ? |
ชื่อเสียงของแบรนด์ | แบรนด์เป็นที่รู้จัก มีรีวิวดีๆ จากผู้ใช้งานจริงในไทยหรือไม่? |
ราคาและความคุ้มค่า | เทียบราคากับปริมาณและคุณภาพ เหมาะสมกับงบประมาณที่เราตั้งไว้หรือไม่? |
ช่องทางการหาซื้อ | หาซื้อได้ง่ายทั้งออนไลน์ (Lazada, Shopee) และออฟไลน์ (ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ) หรือไม่? |
จัดไป! 10 ชาไทยน่าสอย ปี 2025!
ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 แบรนด์เด็ดจากหลากหลายยี่ห้อ ที่เป็นที่นิยมในตลาดไทย และได้รับการรีวิวดีๆ ครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!
1. ชาตรามือ (ChaTraMue)
แบรนด์ไทย ตำนานชาไทยที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทย สูตรต้นตำรับ (ถุงสีแดง), ชาไทย 3 in 1 (แบบซอง), ชาผงปรุงสำเร็จ
- จุดเด่น: มีความเข้มข้นฉบับต้นตำรับ กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติที่คุ้นเคย หาซื้อง่าย มีทั้งแบบชงเองและร้านสาขา สามารถปรับรสชาติได้หลากหลายเมนู
- ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่าแบบ 3 in 1 ความเข้มข้นน้อยกว่าชงสด
- เหมาะกับ: ทุกคนที่รักชาไทย เน้นรสชาติแบบดั้งเดิมที่คุ้นเคย และต้องการความสะดวกในการชง
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online
- ออฟไลน์: Big C, Tops, 7-Eleven (All Cafe บางสาขา), ร้านชาตรามือสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ
- ช่วงราคา: ใบชาผงปรุงสำเร็จ 500g ประมาณ 70-100 บาท, ชาไทย 3 in 1 (5 ซอง) ประมาณ 50 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "รสชาติดีมาก มีความหอมชา เข้มข้น อร่อยเหมือนกินที่ร้านเลย" "เป็นชาไทยต้นตำรับที่คนไทยและต่างชาติรู้จักดี"
2. NESTEA (เนสที)
แบรนด์นำเข้า/ผลิตในไทย แบรนด์เครื่องดื่มสำเร็จรูปชื่อดังที่มีผลิตภัณฑ์ชาไทยให้เลือก
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: เนสที รอยัล มิลค์ ที (ชาไทยสำเร็จรูป 3 in 1), ชาไทยผงปรุงสำเร็จ
- จุดเด่น: ชงง่าย ละลายได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น บรรจุแยกซอง พกพาสะดวก รสชาตินุ่ม หวานมัน กลมกล่อม
- ข้อเสีย: ความหอมชาอาจจะไม่เท่าชาผงแบบชงเอง
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการชง ดื่มได้ทุกที่ทุกเวลา หรือใช้เป็นส่วนผสมในขนม
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: Big C, Tops, 7-Eleven, Supermarket ทั่วไป
- ช่วงราคา: เนสที รอยัล มิลค์ ที (13 ซอง) ประมาณ 90-120 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "หอมกลิ่นชาไทย ละลายได้ในน้ำเย็น พกง่าย" "รสชาติพอได้ แต่ความหอมไม่มีเลย"
3. LongBeach (ลองบีช)
แบรนด์ไทย เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ประกอบการร้านเครื่องดื่ม
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ลองบีช ชาไทย ผงชาปรุงสำเร็จ (ถุงซิปล็อก)
- จุดเด่น: เข้มข้นด้วยชาอัสสัม สีสวย กลิ่นหอม ชงได้ทั้งร้อน เย็น หรือปั่น บรรจุถุงซิปล็อกปิดสนิท เก็บรักษาได้นาน
- ข้อเสีย: อาจจะต้องหาสูตรชงที่ลงตัวเพื่อให้ได้รสชาติที่ต้องการ
- เหมาะกับ: ร้านค้า ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ชงชาไทยในปริมาณมาก เน้นความเข้มข้นและกลิ่นหอมของชาแท้
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านค้าอุปกรณ์เบเกอรี่, ร้านวัตถุดิบชงเครื่องดื่ม, บางซูเปอร์มาร์เก็ต
- ช่วงราคา: ลองบีช ชาไทย 400g ประมาณ 90-120 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เข้มข้น สีสวย กลิ่นหอม ชงง่าย"
4. Worldwide Coffee (ใบชาไทย สูตรปักษ์ใต้)
แบรนด์ไทย โดดเด่นเรื่องชาไทยสไตล์ปักษ์ใต้
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ใบชาไทย สูตรปักษ์ใต้
- จุดเด่น: ชาไทยสูตรทางใต้ สีและรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมชาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้รสชาติที่จัดจ้านถึงใจ
- ข้อเสีย: รสชาติอาจจะเข้มข้นเกินไปสำหรับบางคนที่ไม่คุ้นเคยกับชาใต้
- เหมาะกับ: ผู้ที่ชื่นชอบชาไทยรสเข้มข้น จัดจ้าน สไตล์ปักษ์ใต้ หรือผู้ประกอบการร้านชาที่ต้องการความแตกต่าง
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านค้าวัตถุดิบเครื่องดื่ม, ร้านค้าท้องถิ่น
- ช่วงราคา: ใบชาไทย สูตรปักษ์ใต้ (ขนาด 1kg) ประมาณ 150-200 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาใต้แท้ๆ เข้มข้น หอมกลิ่นชามาก" "สีสวย รสชาติจัดจ้าน"
5. Karun Thai Tea (การัน ชาไทย)
แบรนด์ไทย ร้านชาไทยสเปเชียลตี้ที่กำลังมาแรง
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทยต้นตำรับ (ในรูปแบบชงสดและแบบขวด)
- จุดเด่น: คัดสรรใบชาคุณภาพดี มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ปราศจากรสขมหรือหวานเกินไป เน้นความละเมียดละไมในการชง ทำให้ได้ชาไทยคุณภาพสูง
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าชาไทยทั่วไปค่อนข้างมาก สาขาอาจยังไม่ครอบคลุมเท่าแบรนด์ใหญ่
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการประสบการณ์ชาไทยพรีเมียม สายคาเฟ่ Hopping หรือผู้ที่มองหาชาไทยคุณภาพสูง
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: ช่องทางของ Karun โดยตรง, Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้าน Karun Thai Tea สาขาต่างๆ (ส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่)
- ช่วงราคา: เครื่องดื่มชงสดเริ่มต้น 85-110 บาท/แก้ว, แบบขวดหรือผงสำหรับชงเองราคาสูงกว่าปกติ
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาเข้มมากกกๆ ดูดน้ำแล้วเจ้มจ้นสุดๆ มีกลิ่นหอมของชาชัดเจน" "รสชาติดี มีความหอมชา ไม่หวานมากเกินไป"
6. 666 ชาผงปรุงสำเร็จ
แบรนด์ไทย เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ชาผงที่ได้รับความนิยมในตลาด
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: 666 ชาผงปรุงสำเร็จ (สูตรชาไทย)
- จุดเด่น: ราคาเข้าถึงง่าย ให้รสชาติเข้มข้น กลิ่นหอม เหมาะสำหรับชงเป็นชาเย็น หรือชาไทยเมนูต่างๆ
- ข้อเสีย: อาจจะต้องปรับสูตรการชงให้เข้ากับความชอบส่วนตัว
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการชาผงคุณภาพดีในราคาย่อมเยา ผู้ประกอบการรายย่อย
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านวัตถุดิบเบเกอรี่, ร้านค้าส่ง, ตลาดสด
- ช่วงราคา: ชาผง 666 (ขนาด 400g/500g) ประมาณ 60-90 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชงออกมาสีสวย กลิ่นหอม" (อ้างอิงจากรีวิวทั่วไปของชาผง)
7. ชามังกรบิน (Dragonfly Brand Tea)
แบรนด์ไทย แบรนด์ชาเก่าแก่อีกแบรนด์ที่คนไทยรู้จัก
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาแดงใหญ่ ตรามังกรบิน (ถุงสีทอง)
- จุดเด่น: เป็นชาแดงโบราณที่ให้รสชาติหอมกลิ่นชาแท้ๆ สีแดง-ส้มสวยงาม ผลิตจากชาคุณภาพดีจากยอดดอย
- ข้อเสีย: บางรีวิวระบุว่าเน้นความธรรมชาติ อาจจะไม่ได้หอมจัดเท่าบางแบรนด์ที่แต่งกลิ่น
- เหมาะกับ: ผู้ที่ชื่นชอบชาไทยสไตล์โบราณ รสชาติเข้มข้น เน้นกลิ่นชาแท้ๆ
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านค้าส่ง, ตลาดสด, บางซูเปอร์มาร์เก็ต
- ช่วงราคา: ชาแดงใหญ่ ตรามังกรบิน (450g) ประมาณ 70-100 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "รสชาติหอมกลิ่นชาแท้ ให้สีแดง-ส้ม สีสวย" "ชามังกรบินเข้มข้นกว่าชาตรามือ"
8. ชาตรากระต่าย (Rabbit Brand Tea)
แบรนด์ไทย ร้านชาจีนเก่าแก่ในย่านพระนคร ที่มีชาหลากหลาย รวมถึงชาแดงสำหรับชงชาไทย
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ใบชาแดง / ชาอู่หลง (ใช้สำหรับชงชาไทย)
- จุดเด่น: เป็นแบรนด์เก่าแก่ มีสูตรผสมชามายาวนานกว่า 100 ปี ใบชามีคุณภาพ รสชาติดี ชุ่มคอ
- ข้อเสีย: อาจจะต้องค้นหาสูตรการชงสำหรับชาไทยโดยเฉพาะ เนื่องจากเน้นชาจีนเป็นหลัก
- เหมาะกับ: ผู้ที่ชื่นชอบชาคุณภาพดีจากแบรนด์เก่าแก่ เน้นรสชาติชาแท้ๆ ที่มีมิติ
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Shopee (มีร้านค้าอย่างเป็นทางการ)
- ออฟไลน์: หน้าร้านที่ถนนมหรรณพ (เสาชิงช้า), ร้านสังฆภัณฑ์บางแห่ง
- ช่วงราคา: ใบชาแดง/ชาอู่หลง (ขนาดต่างๆ) ราคาจะหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทและขนาด
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาหอม ชุ่มคอ" "แบรนด์เก่าแก่ น่าเชื่อถือ"
9. ชาตรานกยูง (Peacock Tea)
แบรนด์ไทย แบรนด์ชาเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานเกือบ 100 ปี
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ใบชาปรุงสำเร็จ (ใช้สำหรับชงชาไทย)
- จุดเด่น: ใช้ใบชาแบบเต็มใบ ทำให้ได้กลิ่นและรสชาติที่เข้มข้น ไม่ใช่ชาผง เน้นคุณภาพและความคุ้มค่า
- ข้อเสีย: อาจจะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าชาตรามือสำหรับชาไทยโดยเฉพาะ
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการชาไทยคุณภาพดีจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เน้นใบชาแท้ๆ เพื่อรสชาติที่ดี
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: เว็บไซต์ของแบรนด์, Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: Tops, Foodland, AEON, ISETAN, TOKYU (ซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือเดอะมอลล์)
- ช่วงราคา: ใบชาปรุงสำเร็จ (ขนาดต่างๆ) ราคาจะหลากหลาย
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ใบชาพรีเมียม รสชาติดีแบบธรรมชาติ" "ใช้ใบชาเต็มใบ ลูกค้าจึงชื่นชอบ"
10. HOTTA (ฮอทต้า)
แบรนด์ไทย ผู้ผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรและเครื่องดื่มสำเร็จรูป
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทยปรุงสำเร็จ (แบบ 3 in 1)
- จุดเด่น: คัดเลือกใบชาธรรมชาติพิเศษ ให้รสชาติชาไทยแท้ๆ เข้มข้น กลมกล่อมลงตัว ชงง่ายเพียงฉีกซอง เติมน้ำร้อน สามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็น
- ข้อเสีย: เป็นแบบ 3 in 1 อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมความหวานเอง
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการชาไทยสำเร็จรูปที่ชงง่าย รสชาติกลมกล่อม มีคุณภาพดี พกพาสะดวก
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: Big C, Tops, 7-Eleven, Supermarket ทั่วไป
- ช่วงราคา: ชาไทยปรุงสำเร็จ HOTTA (10 ซอง) ประมาณ 90-120 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ฮอทต้าไม่ได้มีดีแค่น้ำขิง ชาไทยก็อร่อยเด็ด" "กลิ่นหอมของใบชาเตะจมูก รสชาติกลมกล่อมเข้มข้น"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!
Q: ชาไทยยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด?
A: ความอร่อยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลครับ แต่ ชาตรามือ ได้รับความนิยมสูงและเป็นที่รู้จักในรสชาติแบบดั้งเดิม หากชอบรสเข้มข้น แนะนำ ชาใต้ (Worldwide Coffee) หรือ Karun ส่วนถ้าชอบความสะดวก NESTEA หรือ HOTTA ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
Q: ชาไทยที่สีสวยๆ คือใส่สีไหม?
A: ชาไทยดั้งเดิมมักจะมีสีส้มจากการแต่งสีเพื่อให้ดูน่ารับประทานครับ แต่ปัจจุบันมีเทรนด์ "ชาไทยไม่ใส่สี" ที่เน้นสีธรรมชาติจากใบชา ซึ่งจะมีสีน้ำตาลอมส้มหรือน้ำตาลอิฐ แบรนด์อย่าง Cafe Amazon, KOI The, Chongdee Teahouse, BEARHOUSE, หรือ ยอดชา ก็มีเมนูชาไทยไม่ใส่สีให้เลือกครับ
Q: ซื้อชาไทยแบบผง หรือแบบ 3 in 1 ดีกว่ากัน?
A: ขึ้นอยู่กับความสะดวกและการใช้งานครับ แบบผง (ใบชาหยาบ/ผงละเอียด) ให้รสชาติที่เข้มข้นและหอมกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมรสชาติด้วยตัวเอง หรือร้านค้า ส่วน แบบ 3 in 1 (สำเร็จรูป) สะดวก รวดเร็ว พกพาง่าย เหมาะสำหรับชงดื่มเองที่บ้านหรือที่ทำงาน
Q: ชาไทยกับชาพม่าต่างกันอย่างไร?
A: ชาไทยและชาพม่ามีรสชาติที่แตกต่างกันครับ ชาไทยมักจะมีรสชาติหวานมัน เข้มข้น และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มักใช้ชาแดง ส่วน ชาพม่า (เช่น Royal Myanmar Teamix) จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติหวานน้อยกว่า และสีของชาจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลเข้มคล้ายกาแฟ ไม่ใช่สีแดงอมส้มแบบชาไทย บางคนรีวิวว่าชาพม่ารสชาติคล้ายนมอัดเม็ดหรือเป็นชาที่คล้ายชาไทยแต่หวานน้อยกว่า
Q: ซื้อชาไทยใน Lazada/Shopee ไว้ใจได้ไหม?
A: ส่วนใหญ่ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีเรตติ้งดีๆ บน Lazada/Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย หรือราคาถูกจนน่าตกใจ ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเยอะๆ ก่อนตัดสินใจครับ ทางที่ดีซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะปลอดภัยที่สุดครับ
สรุปและคำแนะนำ เลือกชาไทยให้ใช่ ในสไตล์เรา!
เห็นไหมครับว่าชาไทยมีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และเน้นฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ?
- ถ้า งบจำกัด และอยากได้รสชาติแบบดั้งเดิม ลองดู ชาตรามือ (ผงปรุงสำเร็จ), 666 ชาผงปรุงสำเร็จ หรือ ชามังกรบิน ครับ
- ถ้าเน้น ความสะดวก ชงง่าย พกพาไปไหนไปกัน ต้อง NESTEA Royal Milk Tea หรือ HOTTA ชาไทยปรุงสำเร็จ เลยครับ
- ถ้าเป็น สายเข้มข้น ถึงใจ หรือชอบ สไตล์ชาใต้ แนะนำ Worldwide Coffee ใบชาไทย สูตรปักษ์ใต้ ครับ
- ถ้าเป็น สายพรีเมียม ต้องการรสชาติและกลิ่นที่ละเมียดละไม หรือชอบ ชาไทย Specialty ต้อง Karun Thai Tea ครับ
- ถ้าต้องการ ชาคุณภาพดีจากแบรนด์เก่าแก่ เน้นใบชาแท้ๆ แนะนำ ชาตรากระต่าย หรือ ชาตรานกยูง ครับ
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค วันหมดอายุ และ วิธีการเก็บรักษา ของชาไทยแต่ละยี่ห้อ เพื่อคงคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุด ที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บน Lazada Shopee มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉
มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ชาไทยยี่ห้อไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Canon iNSPiC CV-123A กล้องปริ้นท์รูปได้ในตัว น่ารักน่าใช้แค่ไหน
รีวิวเลเซอร์ Dual Yellow ช่วยเรื่องรอยแดงสิว ผิวใส จริงหรือไม่
รีวิวอายแชโดว์ Innisfree My Palette เลือกสีที่ชอบ แต่งตาได้ทุกลุคทุกสไตล์
รีวิว Leaders Regeneration Cream ครีมบำรุงผิวที่คนพูดถึงเยอะ ดีจริงมั้ย
รีวิวทีวี Panasonic TH-43FX600T 4K HDR ภาพสวยคมชัด สมาร์ททีวีสุดคุ้ม
รีวิว My Clarins Re-Boost Refreshing Hydrating Cream ครีมเติมความชุ่มชื้นให้ผิว