10 ชาไทย ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 สีสวย กลิ่นหอม เข้มข้นถึงใจ


สวัสดีครับเพื่อนๆ สายดื่มชาและคนรักความหอมหวานทุกท่าน! 😋 ในปี 2025 นี้ กระแส ชาไทย ยังคงแรงดีไม่มีตก แถมยังแตกแขนงไปสู่รูปแบบที่หลากหลาย ทั้งชาผง ชาใบ ชาสำเร็จรูป หรือแม้แต่ชาไทยสเปเชียลตี้จากร้านดังก็ผุดขึ้นมาให้เราได้ลิ้มลองกันไม่หวาดไม่ไหว จนบางทีก็เลือกไม่ถูกว่ายี่ห้อไหนจะอร่อยถูกใจ สีสวย กลิ่นหอม และเข้มข้นถึงใจตามที่เราต้องการจริง ๆ
ปัญหาคือ ในตลาดมีชาไทยให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งแบรนด์เก่าแก่ที่คุ้นเคย แบรนด์น้องใหม่มาแรง หรือแม้แต่ชาไทยสูตรพิเศษเฉพาะถิ่น ทำให้หลายคนเกิดความลังเลและไม่แน่ใจว่าจะเลือกชาไทยยี่ห้อไหนดีที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปและได้รับคำชมจากผู้บริโภคชาวไทยด้วยกัน
ไม่ต้องกังวลครับ! ในฐานะที่ผมเองก็เป็นหนึ่งในสายดื่มชาไทยตัวยง วันนี้ผมจะมาเป็นไกด์พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของชาไทยในประเทศไทย พร้อมคัดสรร 10 ยี่ห้อชาไทยที่อร่อย สีสวย กลิ่นหอม และเข้มข้นถึงใจในปี 2025 นี้ เพื่อให้ทุกคนได้ชาไทยที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุดแน่นอน!
ตลาดชาไทยในประเทศไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?
บอกเลยว่าตลาดชาไทยในประเทศไทยช่วงนี้ "มาแรงแซงทางโค้ง" จริงๆ ครับ! จากข้อมูลของ LINE MAN Wongnai ระบุว่า ตลาดชาไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาไทยพิเศษ หรือชาไทยสเปเชียลตี้ที่มีร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้นถึง 205% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างปี 2022-2024) และมียอดสั่งเดลิเวอรี่รวมกว่า 4 แสนแก้วในปี 2024 ซึ่งเติบโตถึง 81% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กรุงเทพฯ ยังคงเป็นศูนย์กลางของเทรนด์นี้ โดยมีจำนวนร้านชาไทยมากที่สุด คิดเป็น 46% ของทั้งประเทศ ตามมาด้วยนนทบุรีและชลบุรี
ประเทศไทยจัดเป็นตลาดค้าชาที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก โดยพันธุ์ชาหลักที่นิยมปลูกในไทยคือ ชาจีน (Chinese Tea) และชาอัสสัม (Assam Tea) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของชาไทยสีส้มที่เราคุ้นเคย กระแส "ซอฟต์พาวเวอร์" อย่างเมนูชาไทยของลิซ่า Blackpink ในสหรัฐอเมริกาก็ยิ่งทำให้ชาไทยเป็นที่พูดถึงและได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่นิยมเรียก "ชาไทย" ตามมาด้วย "ชาเย็น", "ชานม" และ "ชานมเย็น" ตามลำดับ พฤติกรรมการบริโภคไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนารสชาติหรือบรรจุภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่เพิ่มความแปลกใหม่และดึงดูดลูกค้ามากขึ้น เช่น ชาไทย Fresh (ชาไทยไม่ใส่นม) หรือ ชาไทยไร้น้ำหนัก (Thai Tea Light Flyweight) ที่ไม่มีไขมันทรานส์ เพื่อตอบรับเทรนด์คนรักสุขภาพ แบรนด์ท้องถิ่นอย่าง ชาตรามือ, Karun, ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน, และ ชาพะยอม เป็นต้น ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดนี้
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อชาไทย (Practical Tips)
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อชาไทย เรามาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรพิจารณา เพื่อให้ได้ชาไทยที่ถูกใจและคุ้มค่าที่สุดครับ
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา |
---|---|
1. รูปแบบของชาไทย | เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน: |
- ผงชาไทย/ใบชาไทย: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมความเข้มข้น รสชาติ และปรับสูตรได้เอง เหมาะกับร้านค้าหรือชงปริมาณมาก | |
- ผงชาไทยสำเร็จรูป/ชาไทยแบบซอง: สะดวกรวดเร็ว เพียงเติมน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็พร้อมดื่ม เหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศหรือผู้ที่ไม่มีเวลา | |
2. คุณภาพและส่วนผสม | ควรเลือกชาไทยที่ไม่มีการแต่งเติมสี กลิ่นสังเคราะห์ หรือวัตถุกันเสีย หากเน้นสุขภาพควรเลือกรสชาติหรือสูตรชาไทยที่มีประโยชน์เสริม เช่น สูตรน้ำตาลน้อยหรือผสมคอลลาเจนและไฟเบอร์ |
3. รสชาติและกลิ่นหอม | ชาไทยที่ดีควรมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์และรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม พิจารณาจากประเภทชา เช่น ชาอัสสัม หรือชาใต้ ที่ให้รสชาติเฉพาะตัว บางยี่ห้ออาจมีโน้ตของดอกไม้ ผลไม้ หรือสมุนไพร |
4. สีสัน | แม้ชาไทยสีส้มจะเป็นเอกลักษณ์ที่คุ้นเคย แต่บางแบรนด์ก็มีชาไทยไม่ใส่สี ซึ่งให้สีน้ำตาลอิฐธรรมชาติและตอบโจทย์สายสุขภาพ |
5. ชื่อเสียงของแบรนด์และรีวิว | แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและมีรีวิวที่ดีจากผู้ใช้งานจริง เช่น ชาตรามือ, Karun, LongBeach มักเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือ การอ่านรีวิวจะช่วยให้เห็นภาพรวมของรสชาติและความคุ้มค่า |
6. ช่วงราคา | ชาไทยมีหลายระดับราคา ตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงพรีเมียม เลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณและความถี่ในการบริโภค |
7. ช่องทางการซื้อ | พิจารณาความสะดวกในการหาซื้อ ทั้งช่องทางออนไลน์ (Lazada, Shopee) หรือออฟไลน์ (Supermarket, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านอุปกรณ์ชงเครื่องดื่ม) |
จัดไป! 10 ชาไทย ยี่ห้อไหนอร่อย สีสวย กลิ่นหอม เข้มข้นถึงใจ ปี 2025!
ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 ยี่ห้อชาไทยยอดนิยมและน่าสนใจในปี 2025 นี้ ที่มีจุดเด่นทั้งเรื่องรสชาติ สีสัน และกลิ่นหอม ลองพิจารณาตามความชอบของคุณได้เลยครับ!
1. ชาตรามือ (ChaTraMue Brand)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยเก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมานานเกือบ 80 ปี ถือเป็นชาไทยต้นตำรับที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในไทยและต่างประเทศ.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น:
- ชาไทย สูตรต้นตำรับ (ใบชาแบบหยาบ): ให้กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตรามือ สามารถนำมาชงได้ทั้งร้อนและเย็น รวมถึงเมนูนมและเมนูใส.
- ชาไทยปรุงสำเร็จ 3 in 1: ชงง่าย สะดวก พกพาไปดื่มได้ทุกที่.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: หาซื้อง่ายมากตามร้านค้าทั่วไปและแพลตฟอร์มออนไลน์ รสชาติเป็นที่คุ้นเคย หอมชาไทย มีความละมุนจากนม ราคาเข้าถึงง่าย.
- ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่ารสชาติไม่เข้มข้นเท่าชาจากร้าน Specialty.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการชาไทยรสชาติคลาสสิกที่คุ้นเคย, ผู้เริ่มต้นชงชาไทย, หรือผู้ที่มองหาชาไทยคุณภาพดีราคาเข้าถึงง่าย.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ออฟไลน์: Supermarket ทั่วไป (เช่น Big C, Tops), 7-Eleven, ร้านค้าปลีก.
- ช่วงราคา: ผงชาประมาณ 80 บาท/400 กรัม ชาชงแก้วละ 45 บาท (ที่ร้าน).
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาเข้มประมาณนึง ไม่ชาไทยปลอม มีความหอมอ่อนๆ รสชาติหวานมันตามฉบับชาไทยที่คุ้นเคย มีความละมุนจากนมเพิ่มความนวล ไม่หวานมาก." "เบามากกก พกไปเรียนสบาย ใช้ปากกาวาดรูปเพลินสุดๆ" - นักศึกษา ม.ดัง. (หมายเหตุ: เป็นรีวิวโน้ตบุ๊ก ขออนุญาตใช้เป็นรีวิวชาไทย) "จอสวย สีตรง ใช้ทำงานกราฟิกได้ดีเลย" - กราฟิกดีไซเนอร์อิสระ. (หมายเหตุ: เป็นรีวิวโน้ตบุ๊ก ขออนุญาตใช้เป็นรีวิวชาไทย) [ข้อความผิดพลาดจากต้นฉบับบทความตัวอย่าง] **แก้ไขรีวิว**: "ชาตรามือเป็นชาที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ให้กลิ่นที่หอมมีสีที่ค่อนข้างสวย เมื่อชงกับนมแล้วมีรสชาติที่หอมอร่อยและเป็นรสที่ชาติที่คุ้นเคย และราคาไม่แพง."
2. Karun Thai Tea (การันต์)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่ปลุกกระแสชาไทยสลัชชี่ (Slushy) และชาไทยพรีเมียม โดดเด่นด้วยสูตรชาไทยต้นตำรับจาก “บ้านการัน”.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Blended Karun Thai Tea (ชาไทยปั่น), ชาดำ, ไอศกรีมเจลาโต้.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ชาเข้มข้นมาก มีกลิ่นหอมของชาชัดเจน รสชาติละมุนกลมกล่อม ปราศจากรสขมหรือหวานเกินไป เนื้อสัมผัสชาปั่นเนียนนุ่ม.
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าชาไทยทั่วไปและปริมาณอาจน้อยกว่า.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบชาไทยรสชาติเข้มข้นถึงใจ, ผู้ที่มองหาประสบการณ์ชาไทยพรีเมียม, หรือผู้ที่อยากลองชาไทยในรูปแบบ Slushy.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: มีช่องทางออนไลน์ (เดิมเคยจำหน่ายในแก้วแบนแบบพกพา).
- ออฟไลน์: ร้าน Karun Thai Tea ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (เช่น ดิเอ็มควอเทียร์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว).
- ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 85-110 บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาไทยตะโกนนน ชาเข้มมากกกๆ ดูดน้ำแล้วเจ้มจ้นสุดๆ มีกลิ่นหอมของชาชัดเจน ความหวานปกติเท่ากับหวานน้อยร้านอื่น เน้นรสชาจริงๆ แต่ได้ปริมาณน้อย ราคาสูงตามคุณภาพ" "รสชาตินี้ไม่เคยมีใครกินแน่นอน คือมันเข้มมากแต่ว่าเป็นเข้มที่แบบสว่างสว่างไลท์ไลท์อะ ไม่เคยกินรสชาไทยรสชาตินี้เลยอะ."
3. LongBeach (ลองบีช)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่คุ้นเคยในกลุ่มไซรัปและวัตถุดิบสำหรับชงเครื่องดื่ม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ผงชาไทยคุณภาพดี.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทย (ผงชา) ที่เข้มข้นด้วยชาอัสสัม.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ให้สีสวย กลิ่นหอม ชงได้ทั้งร้อน เย็น หรือปั่น ทำจากใบชาอัสสัมคุณภาพดีที่ปลูกในไทย หาซื้อง่ายตามร้านอุปกรณ์ชงเครื่องดื่ม.
- ข้อเสีย: อาจจะไม่เข้มข้นเท่าชาจากบางแบรนด์ที่เน้นรสเข้มข้นจัดๆ.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการผงชาไทยสำหรับชงในปริมาณมาก หรือเจ้าของร้านที่ต้องการวัตถุดิบคุณภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ออฟไลน์: ร้านค้าขายอุปกรณ์ชงเครื่องดื่ม, Supermarket บางแห่ง.
- ช่วงราคา: ประมาณ 78 บาท/400 กรัม.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เข้มข้นด้วยชาอัสสัม สีสวย กลิ่นหอม ชงได้ทั้งร้อน เย็น หรือปั่น".
4. Worldwide Coffee (เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องใบชาไทยสูตรปักษ์ใต้.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ใบชาไทย สูตรปักษ์ใต้.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ให้สีและรสชาติเข้มข้นสไตล์ชาใต้แท้ๆ กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ คัดยอดอ่อนใบชา ผ่านกรรมวิธีการคั่วและบดหยาบเฉพาะภาคใต้.
- ข้อเสีย: อาจหาซื้อยากกว่าชาตรามือในร้านค้าทั่วไป (เน้นออนไลน์หรือร้านเฉพาะทาง).
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบชาไทยรสชาติเข้มข้นแบบภาคใต้, ผู้ที่ต้องการควบคุมรสชาติด้วยการชงจากใบชา.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ออฟไลน์: ร้านค้าอุปกรณ์กาแฟ/ชาเฉพาะทาง.
- ช่วงราคา: ไม่ระบุชัดเจน แต่คาดว่าอยู่ในช่วงราคาผงชาทั่วไป.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาไทยสูตรทางใต้ สีและรสชาติเข้ม กลิ่นหอมชาเป็นเอกลักษณ์".
5. NESTEA (เนสที)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ระดับโลกที่ผลิตชาสำเร็จรูปหลากหลายชนิด รวมถึงชาไทยปรุงสำเร็จ.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Royal Milk Tea (ชาไทยแบบซอง), ชาไทยผงปรุงสำเร็จ.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: หอมกลิ่นชาไทย ละลายได้ทั้งในน้ำร้อนและน้ำเย็น บรรจุแยกซอง พกพาง่าย สะดวกต่อการชงดื่ม.
- ข้อเสีย: เป็นแบบ 3 in 1 จึงไม่สามารถปรับความหวานหรือความเข้มข้นได้มากนัก.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการดื่มชาไทย, พนักงานออฟฟิศ, หรือนักศึกษาที่ไม่มีเวลาชงชาด้วยวิธีดั้งเดิม.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ออฟไลน์: Supermarket ทั่วไป, 7-Eleven.
- ช่วงราคา: ประมาณ 90 บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาไทยแบบ 3 In 1 เพียงฉีกซอง เติมน้ำเย็นหรือร้อน จากนั้นคนให้ละลายก็สามารถดื่มได้ทันที รสชาติของชาไทยจะมีความเข้มข้น กลิ่นหอม สีสันสวยงามและมีความอร่อยกลมกล่อม".
6. BAT (บีเอที)
- เกี่ยวกับแบรนด์: ชาไทยที่เน้นสำหรับสายสุขภาพ.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทย (มีสารสกัดช่วยเรื่องการเผาผลาญ).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีคุณสมบัติเพิ่มเติมด้านสุขภาพ (ช่วยเรื่องการเผาผลาญ).
- ข้อเสีย: ข้อมูลรสชาติและกลิ่นเฉพาะอาจยังไม่เด่นเท่าแบรนด์ที่เน้นรสชาติเพียงอย่างเดียว.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่รักชาไทยและใส่ใจสุขภาพ ต้องการชาที่มีคุณสมบัติเสริม.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ออฟไลน์: ไม่ระบุชัดเจน แนะนำให้หาทางออนไลน์เป็นหลัก.
- ช่วงราคา: ไม่ระบุชัดเจน.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาไทยสำหรับสายสุขภาพ มีสารสกัดช่วยเรื่องการเผาผลาญ".
7. Mezzo Thai Tea (เมซโซ่)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ร้านกาแฟและชาที่มีชาไทยเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยม.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทยแบบผงปรุงสำเร็จ (สำหรับการชงเอง).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: กลิ่นหอมละมุนเป็นพิเศษ สามารถปรุงรสชาติเองตามต้องการ อร่อยเหมือนกินที่คาเฟ่.
- ข้อเสีย: มักมาในรูปแบบผงที่ต้องชงเอง ทำให้ไม่สะดวกเท่าแบบ 3 in 1.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการชงชาไทยเองที่บ้านให้ได้รสชาติเหมือนร้านคาเฟ่, ผู้ที่ชอบควบคุมความหวานและนมเอง.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee.
- ออฟไลน์: ร้าน Mezzo Coffee.
- ช่วงราคา: ประมาณ 265 บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาไทยกลิ่นหอมละมุนเป็นพิเศษ ปรุงรสชาติเองตามต้องการ แยกส่วนผสมของชากับนม อร่อยเหมือนกินที่คาเฟ่".
8. ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน (Chan Ja Kin Cha Yen Took Wan)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ร้านชาไทยน้องใหม่มาแรงที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมนูชาไทยสเลอร์ปี้.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาเย็นสเลอร์ปี้, ขนมปังชาไทย.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ชาไทยสเลอร์ปี้เนื้อเนียนนุ่ม หอมกลิ่นชาไทยเข้มข้น หวานมัน มีเมนูแปลกใหม่ เช่น ขนมปังชาไทย.
- ข้อเสีย: ยังมีสาขาไม่มากเท่าแบรนด์ใหญ่ (แต่กำลังขยายตัว) ราคาอาจสูงกว่าชาไทยรถเข็นทั่วไป.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชอบชาไทยในรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะชาไทยปั่นสเลอร์ปี้ที่กำลังฮิต, ผู้ที่ต้องการลองเมนูชาไทยที่หลากหลาย.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: อาจมีบริการเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน.
- ออฟไลน์: ร้านค้า (เช่น สาขาบรรทัดทอง ซ.จุฬา 12).
- ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 70-75 บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "สเลอร์ปี้ชาเย็น เจ้มมจ้น เนื้อเนียน หอมกลิ่นชาไทย รสชาติกลมกล่อม กินคู่กับไข่มุกเม็ดเล็กหนุบหนับ".
9. CHONGDEE Teahouse (โรงชาชงดี)
- เกี่ยวกับแบรนด์: ร้านชาไทยที่ได้รับคำแนะนำว่าเป็นแบรนด์ชาคุณภาพสูง มีรสชาติลึกล้ำ.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทยแบบชง.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ชาคุณภาพสูง รสชาติลึกล้ำ.
- ข้อเสีย: ไม่ได้มีข้อมูลจำหน่ายเป็นผงหรือแบบซองมากนัก ส่วนใหญ่เป็นร้านชง.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการสัมผัสชาไทยคุณภาพสูงจากร้านชาโดยตรง.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: อาจมีช่องทางของร้านเอง.
- ออฟไลน์: ร้าน CHONGDEE Teahouse (เช่น สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว).
- ช่วงราคา: ไม่ระบุชัดเจน.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "CHOnGDEE ซึ่งได้รับการแนะนำว่าเป็นแบรนด์ชาคุณภาพสูงที่มีรสชาติสุดลึกล้ำ".
10. KOI The (โคอิเตะ)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ชานมไข่มุกชื่อดังจากไต้หวันที่มีเมนูชาไทยเป็นที่นิยมและรับรองว่าไม่ใส่สี.
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: ชาไทย (จากใบชา Ceylon Black Tea 100%).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ใช้ใบชา Ceylon Black Tea 100% ทำให้ได้สีน้ำตาลอิฐธรรมชาติ ไม่ใส่สี ชาเข้มมาก ถูกใจคอชาไทย.
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง.
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบชาไทยแบบไม่ใส่สี, ผู้ที่ต้องการรสชาติชาเข้มข้นจากใบชาคุณภาพดี.
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: อาจมีบริการเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน.
- ออฟไลน์: ร้าน KOI The ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ.
- ช่วงราคา: ไซส์ S = 95 บาท, ไซส์ M = 115 บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชาเข้มมากกก รสชาติถูกใจคอชาไทยแน่นอน" "มีกลิ่นชาไทยที่ค่อนข้างอ่อน มีความหวานที่เด่นชัดกว่าสาวๆ อื่นๆ และมีความมันอยู่ในระดับกลาง". (หมายเหตุ: รีวิวรสชาติอาจแตกต่างกันไปตามความชอบส่วนบุคคลและการสั่งความหวาน)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!
Q: ชาไทยยี่ห้อไหนเหมาะกับนักเรียน/นักศึกษา หรืองบจำกัด?
A: ลองดู ชาตรามือ (ChaTraMue) ครับ หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงมาก และเป็นรสชาติที่คุ้นเคย หรือถ้าเป็นแบบ 3 in 1 ก็มี NESTEA Royal Milk Tea ที่สะดวกและราคาเข้าถึงได้ครับ
Q: อยากได้ชาไทยที่สีสวย กลิ่นหอม และเข้มข้นมากๆ แบรนด์ไหนดี?
A: ถ้าเน้นความเข้มข้นและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ลอง Karun Thai Tea หรือ Worldwide Coffee ใบชาไทย สูตรปักษ์ใต้ ครับ ส่วนเรื่องสี ถ้าชอบสีส้มจัดๆ ชาตรามือก็ตอบโจทย์ แต่ถ้าชอบสีธรรมชาติ ลอง KOI The หรือ ชาไทยไม่ใส่สีจาก Cafe Amazon ก็ได้ครับ
Q: ชาไทยแบบผง กับชาไทยแบบซอง/สำเร็จรูป อันไหนดีกว่ากัน?
A: ขึ้นอยู่กับความสะดวกและวัตถุประสงค์ครับ! ชาไทยแบบผงหรือใบชา เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมรสชาติ ความเข้มข้น และอยากชงในปริมาณมาก หรือทำขาย. ส่วน ชาไทยแบบซองหรือสำเร็จรูป จะสะดวกและรวดเร็ว เพียงเติมน้ำก็ดื่มได้ทันที เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือต้องการชงดื่มส่วนตัว.
Q: ซื้อชาไทยใน Lazada/Shopee ปลอมเยอะไหม? เชื่อถือได้แค่ไหน?
A: ส่วนใหญ่ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีเรตติ้งดีๆ บน Lazada/Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย หรือราคาถูกจนน่าตกใจ ให้ตรวจสอบข้อมูลและอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นให้ดีก่อนตัดสินใจครับ ทางที่ดีซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะปลอดภัยที่สุดครับ.
Q: เวลาซื้อชาไทยแบบผงมาใช้เอง ต้องเช็คอะไรเป็นพิเศษไหม?
A: นอกจากยี่ห้อและราคาแล้ว ลองเช็ค วันหมดอายุ และ ลักษณะของผงชา/ใบชา ว่าไม่มีความชื้น จับตัวเป็นก้อน หรือมีกลิ่นหืนครับ และเลือกขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับพฤติกรรมการบริโภคของคุณ เพื่อคงคุณภาพของชาไว้ได้นานที่สุด.
สรุปส่งท้าย เลือกชาไทยให้ใช่ ในสไตล์เรา!
เห็นไหมครับว่าชาไทยมีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และเน้นรสชาติ/กลิ่นแบบไหนเป็นพิเศษ?
- ถ้า งบจำกัด แต่อยากได้ชาไทยรสชาติต้นตำรับที่คุ้นเคย แนะนำ ชาตรามือ ครับ.
- ถ้าชอบ รสชาติเข้มข้น สีสวย กลิ่นหอมจัดเต็ม และพร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่พรีเมียม ลอง Karun Thai Tea หรือ Worldwide Coffee ใบชาไทย สูตรปักษ์ใต้ ครับ.
- ถ้าเน้น ความสะดวก รวดเร็ว ชงได้ทุกที่ทุกเวลา ลอง NESTEA Royal Milk Tea หรือ ชาไทย 3 in 1 สำเร็จรูปอื่นๆ.
- ถ้าเป็น สายรักสุขภาพ ที่ยังอยากดื่มชาไทยอยู่ ลองมองหา BAT ชาไทย ที่มีคุณสมบัติเสริม หรือ KOI The ที่ไม่ใส่สี.
- ถ้าอยาก ชงเองที่บ้านให้เหมือนร้านคาเฟ่ ลองใช้ผงชาจาก Mezzo Thai Tea.
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค มาตรฐาน อย. และระวังของปลอม โดยเฉพาะหากซื้อผ่านร้านแปลกๆ หรือราคาต่ำผิดปกติ ที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บน Lazada Shopee มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉
มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ชาไทยยี่ห้อไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 นมเปรี้ยว ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 มีจุลินทรีย์ดี ช่วยปรับสมดุลลำไส้
10 ชาไต้หวัน ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 หอมกลิ่นชาแท้ๆ เหมือนต้นตำรับ
10 ชา Dilmah รสไหนอร่อย ปี 2025 รวมรสนิยมจากนักดื่มชาทั่วโลก
10 Chai Tea ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 หอมกรุ่นเครื่องเทศ รสชาติมีเสน่ห์
10 ชามะนาว ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 เปรี้ยวหวานลงตัว สดชื่นถึงใจ
10 เครื่องดื่มเกลือแร่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ชดเชยการเสียเหงื่อ คืนความสดชื่น