10 Energy Gel ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พกพาง่าย ให้พลังงานสูง


สวัสดีครับเพื่อนๆ สายออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือสายกิจกรรม Endurance Sport ทุกคน! 👋 ในยุคที่สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกายกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายคน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นเวลานาน นั่นก็คือ Energy Gel หรือเจลให้พลังงาน นั่นเองครับ!
Energy Gel เป็นอาหารเสริมในรูปแบบเจลที่ออกแบบมาเพื่อให้พลังงานแก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะระหว่างการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น วิ่งมาราธอน ปั่นจักรยาน หรือไตรกีฬา ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือคาร์โบไฮเดรตและสารอาหารจำเป็นอื่น ๆ เช่น อิเล็กโทรไลต์ วิตามิน กรดอะมิโน ที่ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายได้เป็นอย่างดี
แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมี Energy Gel ออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายสูตร จนเลือกไม่ถูกกันเลยใช่ไหมล่ะครับ? จะเลือกยังไงให้ได้เจลที่ใช่ ให้พลังงานสูง พกพาง่าย ไม่หนืดคอ และไม่ทำให้ปวดมวนท้องระหว่างกิจกรรมสำคัญ? 🤔
ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับวงการออกกำลังกายมานาน วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของ Energy Gel ในไทย พร้อมแนะนำ 10 ยี่ห้อเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ พร้อมลุยทุกสนามแน่นอน!
ภาพรวมตลาด Energy Gel ในประเทศไทย ปี 2025
บอกเลยว่าตลาด Energy Gel ในประเทศไทยช่วงนี้กำลัง เติบโตอย่างต่อเนื่อง! จากข้อมูลคาดการณ์ ตลาด Energy Gel ในภูมิภาคอาเซียนจะมีมูลค่าประมาณ 10.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 และคาดว่าจะเติบโตไปถึง 11.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2035 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 12.5%
คนไทยยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพและเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาประเภท Endurance Sport มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือไตรกีฬา ทำให้ความต้องการแหล่งพลังงานที่สะดวกและรวดเร็วอย่าง Energy Gel เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แบรนด์ที่เห็นส่วนใหญ่ในตลาดจะเป็นแบรนด์นำเข้าเจ้าใหญ่ เช่น GU Energy Labs, Clif Bar, PowerBar, Honey Stinger, และ Science in Sport อย่างไรก็ตาม แบรนด์ท้องถิ่นของไทยก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ DEVER Vital Energy Gel ที่เป็นเจลให้พลังงานแบรนด์แรกของไทยและอาเซียน และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไทยอื่นๆ เช่น Active Peak, BOLT, AMMO, UP's, Garun และ Powco ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยมักจะมองหา Energy Gel ที่ให้พลังงานเร็ว ดูดซึมง่าย ไม่ทำให้เกิดอาการจุกเสียดหรือปวดมวนท้อง รวมถึงรสชาติที่ถูกปากและพกพาสะดวก แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นและตัวเลือกสินค้ามากมาย
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ Energy Gel ให้โดนใจ!
ก่อนจะวิ่งไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้ Energy Gel ที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา |
---|---|
ชนิดของคาร์โบไฮเดรต | เลือกคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมเร็ว เช่น Maltodextrin, Glucose, Fructose หรือนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Cluster Dextrin (Cyclic Dextrin) / Isomaltulose ที่ให้พลังงานต่อเนื่องและดูดซึมง่าย ลดการปวดท้อง |
ปริมาณพลังงาน | สำหรับนักกีฬาที่ออกกำลังกายหนักต่อเนื่องหลายชั่วโมง ควรเลือกเจลที่ให้พลังงาน 200 แคลอรี่ขึ้นไป หรือคาร์โบไฮเดรต 25-35 กรัม/ซอง เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันอาการหมดแรง |
เนื้อสัมผัส (Texture) | เลือกเจลที่กลืนลื่น ไม่หนืดคอ เพื่อความสะดวกในการทานระหว่างกิจกรรม โดยเฉพาะระหว่างวิ่งหรือปั่นจักรยาน บางยี่ห้อมีเนื้อสัมผัสแบบ Hydrogel ที่กลืนง่ายและช่วยลดอาการปวดมวนท้อง |
สารอาหารเพิ่มเติม | มีอิเล็กโทรไลต์ (Sodium, Potassium) เพื่อทดแทนการเสียเหงื่อ ป้องกันตะคริว หรือ BCAA ช่วยลดการสลายตัวของกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูร่างกาย และคาเฟอีนเพื่อกระตุ้นการตื่นตัว (ถ้าต้องการ) |
รสชาติ | สำคัญมาก! ควรเลือกรสชาติที่ชอบและไม่ทำให้รู้สึกฝืดคอหรือคลื่นไส้ระหว่างออกกำลังกาย บางแบรนด์มีรสชาติหลากหลายและถูกปากคนไทย |
ความสะดวกในการพกพา/ฉีกซอง | ซองควรมีขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย และฉีกซองได้สะดวกด้วยมือเดียวขณะเคลื่อนไหว |
ชื่อเสียงของแบรนด์/รีวิว | เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทย และได้รับการรับรองมาตรฐาน (อย.) |
ราคา | พิจารณาราคาต่อซองให้คุ้มค่ากับปริมาณและคุณภาพที่ได้รับ เนื่องจากต้องใช้ต่อเนื่อง |
จัดไป! 10 Energy Gel ยอดนิยม พกพาง่าย ให้พลังงานสูง ปี 2025!
ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 ยี่ห้อเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมในตลาดไทย พร้อมให้พลังงานสูง พกพาง่าย เหมาะสำหรับนักวิ่ง นักปั่น และนักกีฬาที่ต้องการบูสต์พลังงานได้อย่างรวดเร็ว ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!
1. DEVER Vital Energy Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยเจ้าแรกในวงการ Energy Gel พัฒนาโดยนักโภชนาการ และเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาทีมชาติไทย
- สินค้าเด่น: มีทั้งไซส์ 40ml (120kcal) และ 100ml (330kcal) รวมถึง Energy Chews แบบเยลลี่เคี้ยวหนึบสำหรับคนไม่ชอบแบบเจล
- ข้อดี: ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ดูดซึมเร็วภายใน 5-10 นาที ช่วยป้องกันการเกิดตะคริว มีรสชาติหลากหลายและถูกปากคนไทย พกพาสะดวก
- ข้อเสีย: -
- เหมาะกับใคร: นักกีฬาทุกประเภทที่ต้องการพลังงานอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักวิ่งมาราธอน นักปั่นจักรยาน และผู้ที่ออกกำลังกายหนักนานๆ รวมถึงผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ต้องการพลังงาน
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Shopee, Lazada
- ออฟไลน์: Super Sport, FBT, Lab Pharmacy (ข้อมูลปี 2019 อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
- ช่วงราคา: ประมาณ 60 - 120 บาทต่อซอง (ขึ้นอยู่กับขนาดและโปรโมชั่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "มีรสชาติให้เลือกหลากหลาย บรรเทาอาการเมื่อยล้าระหว่างออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็ว" "สินค้าคุณภาพดีค่ะ ราคาไม่แพง คุ้มค่าเหมาะสมกับราคา ซื้อซ้ำหลายรอบแล้วค่ะ" "ดูดซึมและให้พลังงานได้อย่างรวดเร็วภายใน 5-10 นาที"
2. Maurten Gel 100 / Gel 100 CAF 100
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสวีเดน เป็นที่รู้จักในเรื่องเทคโนโลยี Hydrogel ที่นักกีฬาระดับโลกอย่าง Eliud Kipchoge และ Mo Farah เลือกใช้
- สินค้าเด่น: Maurten Gel 100 (ไม่มีคาเฟอีน) และ Maurten Gel 100 CAF 100 (มีคาเฟอีน)
- ข้อดี: เทคโนโลยี Hydrogel ที่ช่วยให้เจลไม่รบกวนกระเพาะอาหาร ลดอาการปวดมวนท้อง ดูดซึมเร็ว และให้พลังงานต่อเนื่อง ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่มีสารปรุงแต่งกลิ่นสี รสชาติ หรือสารกันเสีย
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป
- เหมาะกับใคร: นักกีฬา Endurance Sport ที่จริงจังกับการแข่งขัน และผู้ที่มักมีปัญหาระบบทางเดินอาหารจากการทาน Energy Gel ทั่วไป
- ช่องทางซื้อ: Shopee, ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ
- ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 190 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เจลให้พลังงาน ให้พลังงานได้เร็ว ดูดซึมเร็ว ขนาดพกพาสะดวก ง่ายสำหรับการกินระหว่างแข่ง" "หากคุณหลีกเลี่ยงการใช้เจลเนื่องจากปัญหาระบบทางเดินอาหารที่ผ่านมานั้น ควรทดลอง MAURTEN Gel 100"
3. SiS GO Isotonic Energy Gel (Science in Sport)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ยอดนิยมจากประเทศอังกฤษ เป็นผู้บุกเบิก Isotonic Gel
- สินค้าเด่น: SiS GO Isotonic Energy Gel ที่ไม่ต้องดื่มน้ำตาม
- ข้อดี: Isotonic Formula ไม่ต้องดื่มน้ำตาม ทำให้สะดวกในการรับประทานระหว่างออกกำลังกาย เนื้อเจลไม่เหนียวหนืดคอ ดูดซึมง่ายและเร็ว ให้พลังงานทันที ช่วยให้วิ่ง/ออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง มีรสชาติหลากหลายและมีสูตรเพิ่มคาเฟอีนให้เลือก
- ข้อเสีย: ปริมาณซองอาจจะใหญ่กว่าเจลทั่วไปเล็กน้อย (แต่ก็สะดวกที่ไม่ต้องดื่มน้ำตาม)
- เหมาะกับใคร: นักกีฬาที่ต้องการความสะดวกสูงสุดในการเติมพลังงานระหว่างแข่งขัน/ฝึกซ้อมหนักๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การหาน้ำดื่มเป็นเรื่องยาก
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee, ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ
- ช่วงราคา: ประมาณ 80 - 100+ บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มน้ำมากกว่าเจล เนื้อเจลไม่เหนียวหนืดคอ ดูดซึมง่ายและเร็ว" "เป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาต่างประเทศ"
4. Active Peak Energy Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากไทย ที่เน้นนวัตกรรมการให้พลังงาน
- สินค้าเด่น: Energy Gel ที่ใช้ Cluster Dextrin (สารให้พลังงานนวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น)
- ข้อดี: ให้พลังงานยาวนาน เต็มประสิทธิภาพ ดูดซึมเร็ว ลดอาการเมื่อยล้าและลดการเกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหาร มี BCAA ช่วยลดการสลายตัวของกล้ามเนื้อ และ Electrolytes ช่วยป้องกันตะคริว ซองรักษ์โลก
- ข้อเสีย: -
- เหมาะกับใคร: นักกีฬาที่ต้องการพลังงานที่อยู่ได้ยาวนานขึ้น ลดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และต้องการสารอาหารเสริมสำหรับกล้ามเนื้อ
- ช่องทางซื้อ: Shopee, Lazada
- ช่วงราคา: ประมาณ 70 - 90 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ให้พลังงานด้วยสารแบบใหม่ ดูดซึมไว อยู่ได้ยาวนานกว่าเดิม" "เจลไม่หนืดติดคอ"
5. GU Energy Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในแบรนด์ Energy Gel ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและเป็นที่รู้จักมายาวนาน
- สินค้าเด่น: GU Energy Gel สูตรคลาสสิก พร้อมด้วยรสชาติและส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น คาเฟอีน, BCAA, อิเล็กโทรไลต์
- ข้อดี: ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว มีหลากหลายรสชาติให้เลือก รวมถึงรสชาติที่ถูกปากคนไทย มีส่วนผสมของกรดอะมิโนและอิเล็กโทรไลต์ช่วยรักษาสมดุลร่างกาย พกพาง่าย
- ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่าเนื้อเจลมีความหนืดเล็กน้อย
- เหมาะกับใคร: นักกีฬาทุกระดับที่ต้องการพลังงานที่เชื่อถือได้และมีตัวเลือกหลากหลาย
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee, ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ
- ช่วงราคา: ประมาณ 70 - 90 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เคี้ยวง่ายไม่หนืดคอ ดูดซึมได้รวดเร็ว ลดอาการปวดมวนท้อง"
6. BOLT Energy Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Energy Gel ที่ได้รับความนิยมในไทย
- สินค้าเด่น: BOLT Energy Gel ที่เน้นการให้พลังงานที่รวดเร็ว
- ข้อดี: ให้พลังงานเต็มที่แบบติดจรวด มีรสชาติโคล่าที่เป็นที่นิยม ซองกะทัดรัด พกพาสะดวก
- ข้อเสีย: ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับสารอาหารอาจไม่ละเอียดเท่าบางแบรนด์
- เหมาะกับใคร: นักกีฬาที่ต้องการบูสต์พลังงานอย่างรวดเร็วเพื่อลุยทุกสนาม
- ช่องทางซื้อ: Shopee, Lazada
- ช่วงราคา: ประมาณ 70 - 90 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ได้รับสินค้าตรงตามที่สั่ง คุณภาพสินค้าดีมาก" "โบลท์ เจลให้พลังงานเต็มที่แบบติดจรวด พลังเต็มหลอด พร้อมลุยทุกสนาม"
7. AMMO Natural Energy Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติ
- สินค้าเด่น: AMMO Natural Energy Gel รสกล้วย
- ข้อดี: วัตถุดิบจากธรรมชาติล้วนๆ ช่วยเติมเกลือแร่ (Sodium, Potassium, Magnesium) จากน้ำตาลมะพร้าว ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการเหนื่อยล้าด้วยส่วนผสมของน้ำตาลกล้วยตาก ให้พลังงานเทียบเท่ากล้วย 2 ลูก
- ข้อเสีย: ตัวเลือกรสชาติอาจไม่หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มองหา Energy Gel ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ต้องการทดแทนเกลือแร่ และฟื้นฟูร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 95 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "วัตถุดิบจากธรรมชาติล้วน ช่วยเติมเกลือแร่ ฟื้นฟูร่างกายไว"
8. Royal-D Energy Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่คุ้นเคยในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในไทย และมีผลิตภัณฑ์ Energy Gel
- สินค้าเด่น: Royal-D Energy Gel รสส้ม
- ข้อดี: หาซื้อง่าย (เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคย) ให้พลังงานที่จำเป็นต่อร่างกาย
- ข้อเสีย: ข้อมูลจำเพาะและรีวิวเฉพาะ Energy Gel อาจน้อยกว่าแบรนด์ที่เน้น Energy Gel โดยตรง
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการ Energy Gel จากแบรนด์ที่คุ้นเคยและเข้าถึงง่าย สำหรับการออกกำลังกายทั่วไปหรือกิจกรรมที่ไม่หนักมาก
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 20 - 40 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "รสชาติน้ำผลไม้แท้ ทำให้สดชื่นในทันที" (อ้างอิงจากลักษณะของเจลที่คล้ายน้ำผลไม้)
9. UP's Energy Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่นำเสนอ Energy Gel พร้อมส่วนผสมระดับพรีเมียม
- สินค้าเด่น: UP's Energy Gel พร้อมส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มความทนทาน
- ข้อดี: อุดมด้วยส่วนผสมระดับพรีเมียม เช่น BCAA 1,250 มก., D-Ribose, VitaCherry Sport ช่วยเติมพลังงานอย่างรวดเร็ว ลดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ฟื้นตัวไว ลดโอกาสเกิดตะคริว
- ข้อเสีย: ข้อมูลด้านราคาและช่องทางจำหน่ายอาจไม่แพร่หลายเท่าแบรนด์ใหญ่บางแบรนด์
- เหมาะกับใคร: นักกีฬาที่ต้องการ Energy Gel ที่ครบวงจร ทั้งการเติมพลังงานและช่วยฟื้นฟู/ลดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ
- ช่องทางซื้อ: Shopee, Lazada
- ช่วงราคา: ประมาณ 79 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "บูสเอเนอจี้ไปกับ UP's Energy Gel ดูดซึมไว เพิ่มพลังงานสะสมก่อนออกกำลังกาย" "ช่วยให้ร่างกายทนทานและออกกำลังได้นานขึ้น"
10. HIGH5 Energy Gel / Energy Iso Gel
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ เป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาต่างประเทศ
- สินค้าเด่น: HIGH5 Energy Gel และ HIGH5 Energy Iso Gel (Isotonic)
- ข้อดี: ใช้น้ำผลไม้แท้ รสชาติและกลิ่นใกล้เคียงกับผลไม้ ทำให้สดชื่น เนื้อเจลทานง่าย ไม่เหนียวหนืดคอ ดูดซึมง่ายและเร็ว บางรุ่นเป็น Isotonic Gel ที่ไม่ต้องดื่มน้ำตาม ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนในบางสูตร
- ข้อเสีย: บางคนอาจต้องการคาเฟอีนเสริม
- เหมาะกับใคร: นักกีฬาที่ชื่นชอบรสชาติผลไม้ธรรมชาติ ต้องการเจลที่ทานง่าย ไม่หนืดคอ และต้องการตัวเลือกทั้งแบบมีและไม่มีคาเฟอีน
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee, ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ
- ช่วงราคา: ประมาณ 70 - 90 บาทต่อซอง
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาต่างประเทศ" "รสชาติน้ำผลไม้แท้ ทำให้สดชื่นในทันที เนื้อเจลไม่เหนียวหนืดคอ ดูดซึมง่ายและเร็ว"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนรักสุขภาพ!
Q: Energy Gel กินตอนไหนดีที่สุด?
A: โดยทั่วไป Energy Gel สามารถรับประทานได้ทั้งก่อนออกกำลังกาย ระหว่างออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกาย
- ก่อนออกกำลังกาย: ควรทานประมาณ 30-45 นาทีก่อนเริ่มกิจกรรม เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานสะสมเพียงพอ เช่น DEVER Vital Energy Gel ขนาด 100ml สามารถทานก่อนออกกำลังกาย 20-30 นาทีแทนมื้ออาหารได้
- ระหว่างออกกำลังกาย: มักแนะนำให้ทานในช่วง 45-60 นาทีหลังเริ่มออกกำลังกาย หรือทุกๆ 30-60 นาที (ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกิจกรรมและปริมาณพลังงานในเจล) เพื่อเติมพลังงานที่ใช้ไป เช่น HIGH5 แนะนำให้ทานทุกๆ 30 นาทีระหว่างออกกำลังกาย
- หลังออกกำลังกาย: สามารถทานภายใน 30 นาทีหลังออกกำลังกายทันที เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรทดลองทานเจลในช่วงเวลาต่างๆ ระหว่างการฝึกซ้อม และสังเกตว่าช่วงเวลาใดร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุดครับ
Q: Energy Gel มีผลข้างเคียงไหม? กินแล้วจะจุกเสียดหรือปวดท้องไหม?
A: โดยทั่วไป Energy Gel ถูกออกแบบมาให้ดูดซึมง่ายและลดปัญหาในระบบทางเดินอาหาร อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีอาการจุกเสียดหรือปวดมวนท้องได้ หากทานผิดวิธี, ทานมากเกินไป, หรือร่างกายไม่คุ้นชินกับส่วนผสม การเลือกเจลที่มีเนื้อสัมผัสแบบ Hydrogel หรือ Isotonic Gel (เช่น Maurten, SiS) สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ รวมถึงการเลือกเจลที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติก็อาจช่วยได้
Q: Energy Gel ต่างจาก Energy Bar หรือเครื่องดื่มให้พลังงานอย่างไร?
A: Energy Gel มาในรูปแบบเจลเหลว พร้อมรับประทานได้ทันที พกพาสะดวก และให้พลังงานอย่างรวดเร็วเนื่องจากดูดซึมง่าย
- Energy Bar: เป็นรูปแบบอัดแท่ง มักมีส่วนผสมของธัญพืชและผลไม้ ให้พลังงานที่ยั่งยืนกว่า แต่ใช้เวลาในการย่อยนานกว่าเจล
- เครื่องดื่มให้พลังงาน (Energy Drink): เป็นรูปแบบน้ำที่ดื่มได้ทันที แต่ปริมาณคาร์โบไฮเดรตและสารอาหารอาจแตกต่างกันไป มักเน้นความสดชื่นและเพิ่มคาเฟอีน
Q: Energy Gel จำเป็นสำหรับนักวิ่งมือใหม่ไหม?
A: สำหรับนักวิ่งมือใหม่หรือผู้ที่ออกกำลังกายทั่วไปที่ใช้เวลาไม่นาน (ต่ำกว่า 60-90 นาที) อาจไม่จำเป็นต้องใช้ Energy Gel ครับ ร่างกายสามารถดึงพลังงานจากไกลโคเจนสะสมหรืออาหารมื้อหลักได้เพียงพอ แต่ถ้าเริ่มออกกำลังกายที่ใช้เวลานานขึ้น หรือต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกซ้อม Energy Gel ก็เป็นตัวช่วยที่ดีและสะดวกครับ
Q: ซื้อ Energy Gel ใน Lazada/Shopee ปลอมเยอะไหม? เชื่อถือได้แค่ไหน?
A: ส่วนใหญ่ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีเรตติ้งดีๆ บน Lazada/Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย หรือราคาถูกจนน่าตกใจ ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเยอะๆ ก่อนตัดสินใจ ทางที่ดีซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือจะปลอดภัยที่สุดครับ
สรุปส่งท้าย เลือก Energy Gel ให้ใช่ ในสไตล์เรา!
เห็นไหมครับว่า Energy Gel มีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และเน้นฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ?
- ถ้า เน้นแบรนด์ไทย คุณภาพดี รสชาติถูกปาก และช่วยลดตะคริว ต้อง DEVER Vital Energy Gel เลยครับ!
- ถ้า มีปัญหากระเพาะอาหารง่าย ต้องการ Hydrogel Technology และไม่เกี่ยงเรื่องราคา ต้องลอง Maurten Gel ครับ
- ถ้า ต้องการความสะดวกสูงสุด ไม่ต้องดื่มน้ำตาม แนะนำ SiS GO Isotonic Energy Gel ครับ
- ถ้า ต้องการพลังงานยาวนาน ลดปัญหาท้องไส้ และมี BCAA เสริม ลองพิจารณา Active Peak Energy Gel ครับ
- สำหรับ นักกีฬาที่ต้องการความหลากหลายและแบรนด์ที่เชื่อถือได้ทั่วโลก GU Energy Gel ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีครับ
- หาก ต้องการพลังงานแบบบูสต์เร็วทันใจ BOLT Energy Gel อาจเป็นคำตอบ
- ถ้า เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ฟื้นฟูร่างกาย AMMO Natural Energy Gel น่าสนใจไม่น้อย
- สำหรับผู้ที่ ต้องการเจลจากแบรนด์คุ้นเคย เข้าถึงง่ายในราคาเป็นมิตร Royal-D Energy Gel ก็เป็นทางเลือกที่ดี
- และถ้า ต้องการเจลที่ครบวงจร ทั้งเติมพลังและฟื้นฟู/ลดอาการเมื่อยล้า UP's Energy Gel คือคำตอบของคุณ
- สุดท้าย ถ้า ชอบรสชาติผลไม้ธรรมชาติ ไม่หนืดคอ และมีตัวเลือกทั้งแบบมี/ไม่มีคาเฟอีน HIGH5 Energy Gel ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค วันหมดอายุ และสังเกต สภาพบรรจุภัณฑ์ ก่อนซื้อเสมอ โดยเฉพาะหากซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บน Lazada Shopee มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉
มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ Energy Gel ยี่ห้อไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 นมเปรี้ยว ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 มีจุลินทรีย์ดี ช่วยปรับสมดุลลำไส้
10 ชาไต้หวัน ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 หอมกลิ่นชาแท้ๆ เหมือนต้นตำรับ
10 ชา Dilmah รสไหนอร่อย ปี 2025 รวมรสนิยมจากนักดื่มชาทั่วโลก
10 Chai Tea ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 หอมกรุ่นเครื่องเทศ รสชาติมีเสน่ห์
10 ชามะนาว ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 เปรี้ยวหวานลงตัว สดชื่นถึงใจ
10 เครื่องดื่มเกลือแร่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ชดเชยการเสียเหงื่อ คืนความสดชื่น