10 เครื่องดื่มเกลือแร่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ชดเชยการเสียเหงื่อ คืนความสดชื่น


สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน! ในสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนอบอ้าวเกือบตลอดทั้งปี แถมกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันก็ทำให้เราเสียเหงื่อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำงานกลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปไหนมาไหน เครื่องดื่มเกลือแร่ จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยชดเชยน้ำและแร่ธาตุที่ร่างกายสูญเสียไป เพื่อคืนความสดชื่นและรักษาสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติครับ
แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีเครื่องดื่มเกลือแร่ให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งแบบพร้อมดื่ม แบบผงชง หรือแม้แต่แบบเม็ดฟู่ ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ตัดสินใจได้ยากว่ายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเหมาะกับความต้องการของเราที่สุด
ไม่ต้องกังวลครับ! ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกโลกของเครื่องดื่มเกลือแร่ในประเทศไทย พร้อมแนะนำ 10 ยี่ห้อเด่นที่น่าสนใจในปี 2025 ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานชาวไทย เพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ใช่ ชดเชยการเสียเหงื่อ และคืนความสดชื่นได้อย่างเต็มที่!
ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในประเทศไทย
ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าสูงหลายพันล้านบาท เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนชื้นทำให้คนไทยเสียเหงื่อได้ง่าย รวมถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการเครื่องดื่มที่ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายสูงตามไปด้วย
แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานานและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย โดยเฉพาะแบรนด์ที่ผลิตในประเทศและแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศที่ทำการตลาดอย่างหนัก พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยมักจะเลือกซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่ตามวัตถุประสงค์การใช้งานหลักๆ คือ สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนัก (ประเภท ORT) และ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียหรืออาเจียน (ประเภท ORS)
แหล่งซื้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven, ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Big C, Tops และแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee ซึ่งมักจะมีโปรโมชั่นและราคาที่หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ตามความสะดวกและงบประมาณ
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่ ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุดครับ
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา |
---|---|
ประเภทของเกลือแร่ |
- ORT (Oral Rehydration Therapy): สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย กิจกรรมหนัก เน้นชดเชยน้ำตาลและพลังงาน
- ORS (Oral Rehydration Salt): สำหรับผู้ป่วยท้องเสีย อาเจียน เน้นชดเชยเกลือแร่สำคัญ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ไม่ควรมีน้ำตาลสูง
| | ส่วนประกอบและปริมาณแร่ธาตุ |
- โซเดียม โพแทสเซียม กลูโคส: แร่ธาตุหลักที่จำเป็นสำหรับการดูดซึมน้ำและรักษาสมดุลร่างกาย
- น้ำตาล: หากออกกำลังกายเบาๆ หรือไม่ได้เสียเหงื่อมาก ควรเลือกสูตรไม่มีน้ำตาล หรือน้ำตาลน้อย เพื่อไม่ให้ได้รับพลังงานส่วนเกิน
- วิตามิน/สารอาหารเสริม: บางยี่ห้ออาจมีวิตามินบี แมกนีเซียม หรือแร่ธาตุอื่นๆ เพิ่มเติม
| | รูปแบบและการพกพา |
- พร้อมดื่ม: สะดวก เปิดดื่มได้ทันที เหมาะกับการพกพา
- ชนิดผง: ประหยัดกว่า พกพาง่าย ชงดื่มได้ตามปริมาณที่ต้องการ
- เม็ดฟู่: สะดวก พกพาง่าย ละลายน้ำได้รวดเร็ว
| | รสชาติและความอร่อย | สำคัญมากเพื่อให้สามารถดื่มได้อย่างต่อเนื่องและไม่รู้สึกฝืน ควรเลือกรสชาติที่ถูกปาก เช่น รสผลไม้รวม รสส้ม รสเลมอนไลม์ | | ราคาและความคุ้มค่า | เปรียบเทียบราคาต่อหน่วย (ขวด/ซอง) และปริมาณที่ได้รับ เพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณและการใช้งานประจำวัน | | ชื่อเสียงของแบรนด์และรีวิว | เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการผลิต (เช่น อย.) และอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทย (Lazada, Shopee, pantip, โซเชียลมีเดียต่างๆ) | | ความสะดวกในการหาซื้อ | เลือกยี่ห้อที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป หรือร้านค้าออนไลน์ที่คุณใช้บริการเป็นประจำ |
แนะนำ 10 เครื่องดื่มเกลือแร่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025
เราคัดสรร 10 แบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่ยอดนิยมในตลาดไทย ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป มาให้คุณพิจารณาเลือกตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ครับ
1. Sponsor (สปอนเซอร์)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตกระทิงแดง เป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในไทยมาอย่างยาวนาน
- สินค้าเด่น: เครื่องดื่มเกลือแร่พร้อมดื่มแบบขวด (Original, Active รสสตรอว์เบอร์รี่), แบบผง
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: หาซื้อง่ายมากตามร้านค้าทั่วไปและ 7-Eleven, ราคาประหยัด, รสชาติคุ้นเคยดื่มง่าย, มีทั้งสูตรปกติและสูตรไม่มีน้ำตาลสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเบาๆ
- ข้อเสีย: สูตรปกติมีน้ำตาลค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการจำกัดน้ำตาล
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ออกกำลังกายทั่วไป ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เสียเหงื่อบ่อย ผู้ที่ต้องการความสดชื่นและคืนพลังงานอย่างรวดเร็ว (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Makro และร้านค้าทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 10 - 15 บาท/ขวด (250 ml)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "หาซื้อง่าย ราคาถูก ดื่มแล้วสดชื่นหายเหนื่อยดีมาก", "รสชาติคุ้นเคย ดื่มมาตั้งแต่เด็ก"
2. Gatorade (เกเตอเรด)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา เป็นที่ยอมรับระดับโลกในหมู่นักกีฬา และเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่อันดับ 1 ในหลายประเทศ
- สินค้าเด่น: เครื่องดื่มเกลือแร่พร้อมดื่ม (กลิ่นบลูบลาส, กลิ่นมะนาว, กลิ่นส้ม)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีวิตามิน B2 และ B6, ช่วยชดเชยน้ำและเกลือแร่ได้อย่างรวดเร็ว, มีรสชาติที่หลากหลายและอร่อย
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์ไทยบางยี่ห้อ
- เหมาะกับใคร: นักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก ผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 25 - 30 บาท/ขวด (500 ml)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "แช่เย็นดื่มแล้วสดชื่นหายเหนื่อย ชอบรสบลูบลาสมาก", "เป็นตัวเลือกแรกเวลาออกกำลังกายหนักๆ"
3. Pocari Sweat (โพคารี่สเวท)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น พัฒนามาจาก IV Solution หรือน้ำเกลือที่ใช้ในโรงพยาบาล โดยบริษัท Otsuka Pharmaceutical
- สินค้าเด่น: เครื่องดื่มเกลือแร่พร้อมดื่ม (กลิ่นซิตรัส), แบบผง
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีองค์ประกอบแร่ธาตุใกล้เคียงของเหลวในร่างกาย ทำให้ดูดซึมเร็ว, ไม่มีวัตถุกันเสีย สีสังเคราะห์ และคาเฟอีน, รสชาติอ่อนโยน ดื่มง่าย
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงกว่าบางแบรนด์ในไทย, บางคนอาจรู้สึกว่ารสชาติจืดไปนิด
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการชดเชยน้ำและแร่ธาตุหลังออกกำลังกาย ผู้ที่รู้สึกอ่อนเพลีย หรือแม้แต่ผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นตัวจากการเสียน้ำเล็กน้อย (ประเภท ORT ที่เหมาะกับการฟื้นตัวทั่วไป)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, และซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 30 - 35 บาท/ขวด (500 ml)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "รสชาติอ่อนๆ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่หนักท้อง", "ช่วยให้ฟื้นตัวจากอาการเพลียได้ดี"
4. Royal-D (รอแยล-ดี)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผง
- สินค้าเด่น: เครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผง (รสออริจินัล/ผลไม้รวม)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาประหยัดมากเมื่อเทียบกับแบบพร้อมดื่ม, พกพาง่าย ชงดื่มได้สะดวก, มีส่วนผสมของกลูโคส โพแทสเซียม และโซเดียมที่ช่วยรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย
- ข้อเสีย: ต้องผสมน้ำเอง, รสชาติอาจไม่หลากหลายเท่าแบบพร้อมดื่ม
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ผู้ที่ทำงานหนักเสียเหงื่อมาก ผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าและสามารถชงดื่มเองได้ (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: Makro, Big C, ร้านขายยาทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 170 - 260 บาท/กล่อง (50 ซอง)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "คุ้มค่ามาก ซื้อติดบ้านไว้ตลอด", "พกพาสะดวกเวลาไปออกกำลังกาย"
5. M-Electrolyte (เอ็มเกลือแร่ / M-Sport)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยภายใต้บริษัท โอสถสภา จำกัด เจ้าของเครื่องดื่ม M-150 เดิมชื่อ M-Sport และได้เปลี่ยนชื่อเป็น M-Electrolyte
- สินค้าเด่น: เครื่องดื่มเกลือแร่พร้อมดื่ม (สูตรพลัส)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: หาซื้อง่าย ราคาเข้าถึงได้, รสชาติอร่อย ดื่มง่าย ลื่นคอ, ให้พลังงานและความสดชื่น
- ข้อเสีย: มีน้ำตาลค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำตาล
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่เสียเหงื่อจากอากาศร้อน การออกกำลังกายเบาถึงปานกลาง ผู้ที่ต้องการคืนความสดชื่นอย่างรวดเร็ว (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: 7-Eleven, ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 10 - 12 บาท/ขวด (250 ml)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ดื่มแล้วสดชื่นหายเหนื่อยทันที", "รสชาติดี ดื่มง่าย"
6. 100 Plus (ฮันเดรดพลัส)
- เกี่ยวกับแบรนด์: เครื่องดื่มอัดลมเพื่อสุขภาพจากประเทศมาเลเซีย เป็นที่นิยมในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- สินค้าเด่น: เครื่องดื่มอัดลมผสมเกลือแร่ (กลิ่นซีตรัส, กลิ่นเลมอนไลม์, กลิ่นเกรปเบอร์รี่, กลิ่นเบอร์รี่)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: รสชาติอร่อย ซ่า สดชื่น, แคลอรี่ต่ำ, มีเกลือแร่และแร่ธาตุ 6 ชนิด, ไม่มีคาเฟอีน
- ข้อเสีย: เป็นเครื่องดื่มอัดลม อาจไม่เหมาะกับบางคน, ไม่เหมาะสำหรับผู้มีภาวะท้องเสีย
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ให้ความสดชื่นพิเศษด้วยความซ่า, ผู้ที่ออกกำลังกายเบาๆ หรือต้องการดื่มระหว่างวันเพื่อดับกระหาย (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 13 - 15 บาท/ขวด (370 ml)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบความซ่าของมัน ดื่มแล้วสดชื่นมากๆ", "อร่อยดี แคลอรี่น้อยด้วย"
7. Nuun (นูอูน)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา โดดเด่นด้วยนวัตกรรมเม็ดฟู่ละลายน้ำง่าย
- สินค้าเด่น: Nuun Sport Hydration (เม็ดฟู่รสชาติต่างๆ)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: รูปแบบเม็ดฟู่พกพาสะดวกมาก, ไม่มีน้ำตาล (ส่วนใหญ่เป็นสูตรไม่มีน้ำตาล), เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องการควบคุมน้ำตาล, มีมาตรฐานรองรับ
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบบขวดหรือผงทั่วไป, อาจหาซื้อได้ยากกว่าแบรนด์หลักในบางช่องทาง
- เหมาะกับใคร: นักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างจริงจังที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล ผู้ที่ชอบความสะดวกในการพกพาและชงดื่มเอง (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee (ร้านค้าทางการหรือตัวแทนจำหน่าย)
- ออฟไลน์: ร้านอุปกรณ์กีฬา, ร้านขายผลิตภัณฑ์สุขภาพบางแห่ง
- ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 300 บาท/หลอด (10 เม็ด)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "พกไปออกกำลังกายสะดวกมาก ไม่ต้องแบกขวดน้ำหนักๆ", "รสชาติดี ไม่มีน้ำตาล ดื่มแล้วไม่รู้สึกผิด"
8. Stronk-K (สตรอง-เค)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่เน้นเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผง สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อมากและนักกีฬา
- สินค้าเด่น: Stronk-K (ชนิดผงรสส้ม), Stronk-K Plus (สูตรเย็น ผสมแคลเซียมและวิตามินซี กลิ่นองุ่น)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือแร่หลายชนิดช่วยให้ร่างกายสดชื่น, เสริมสร้างระบบประสาทและกล้ามเนื้อ, มีสูตรเย็นที่เพิ่มความสดชื่น
- ข้อเสีย: ต้องชงกับน้ำเอง, รสชาติอาจไม่ถูกปากทุกคนเท่าบางแบรนด์พร้อมดื่ม
- เหมาะกับใคร: นักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกายหนัก ผู้ที่ทำงานใช้แรงงานมาก เสียเหงื่อมาก (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านขายยา, ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง
- ช่วงราคา: ประมาณ 120 - 150 บาท/กล่อง (25 ซอง)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น มีแรงขึ้นมาทันที", "รสส้มอร่อยดี ชงง่าย"
9. X-L Oreda (เอ็กซ์-แอล โอเรด้า)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่เน้นผลิตผงเกลือแร่สำหรับแก้ท้องเสียโดยเฉพาะ จัดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ (ORS)
- สินค้าเด่น: X-L Oreda (ผงเกลือแร่กลิ่นส้ม)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เป็นเกลือแร่ประเภท ORS ที่เหมาะสมกับผู้ป่วยท้องเสียหรืออาเจียนโดยเฉพาะ, ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำจากการท้องเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ, รสชาติเปรี้ยวเค็มกำลังดี ดื่มง่าย
- ข้อเสีย: รสชาติอาจไม่ถูกปากเท่าเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับออกกำลังกาย เพราะเน้นคุณค่าทางยามากกว่าความอร่อย, ไม่เหมาะสำหรับดื่มเพื่อชดเชยการเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายทั่วไป
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีอาการท้องเสีย อาเจียน หรืออาหารเป็นพิษที่ต้องการชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว (ประเภท ORS)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านขายยาทั่วไป, โรงพยาบาล, คลินิก
- ช่วงราคา: ประมาณ 120 - 150 บาท/กล่อง (50 ซอง)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ดื่มแล้วอาการท้องร่วงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด", "รสชาติโอเค ดื่มง่าย ไม่เฝื่อน"
10. CERA (ซีร่า)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่ผลิตเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผง สำหรับผู้เสียเหงื่อและนักกีฬา
- สินค้าเด่น: CERA Electrolyte Beverage Powder (รสผลไม้รวม, รสส้ม)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาคุ้มค่า หาซื้อง่ายในรูปแบบผง, ช่วยเติมความสดชื่นและแร่ธาตุที่จำเป็นหลังการออกกำลังกาย, มีให้เลือกหลายรสชาติ
- ข้อเสีย: ต้องชงกับน้ำเอง, รสชาติอาจมีความแตกต่างจากแบรนด์หลักบางยี่ห้อ
- เหมาะกับใคร: นักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่เสียเหงื่อมาก ต้องการเครื่องดื่มเกลือแร่แบบผงที่ราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพ (ประเภท ORT)
- ช่องทางซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านขายยา, ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง
- ช่วงราคา: ประมาณ 150 - 170 บาท/กล่อง (50 ซอง)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ราคาดีมาก ดื่มหลังออกกำลังกายแล้วสดชื่น", "รสผลไม้รวมอร่อย ดื่มง่าย"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ระหว่างเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับออกกำลังกาย (ORT) กับสำหรับคนท้องเสีย (ORS) ต่างกันยังไง?
A: ORT (Oral Rehydration Therapy) เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนักๆ จะเน้นน้ำตาลเป็นหลักเพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไป และมีเกลือแร่ในปริมาณที่น้อยกว่า ORS ครับ ส่วน ORS (Oral Rehydration Salt) เป็นเกลือแร่สำหรับผู้ป่วยท้องเสียหรืออาเจียน จะเน้นเกลือแร่สำคัญอย่างโซเดียมและโพแทสเซียมเป็นหลัก และมีน้ำตาลในปริมาณที่ต่ำกว่า เพื่อช่วยเร่งการดูดซึมน้ำและเกลือแร่กลับเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ป้องกันภาวะขาดน้ำ ไม่ควรดื่ม ORT ในกรณีท้องเสียเพราะน้ำตาลที่สูงอาจทำให้อาการแย่ลงได้ครับ
Q: ดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่แทนน้ำเปล่าได้ไหม?
A: ไม่ควรครับ! เครื่องดื่มเกลือแร่มีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยน้ำ แร่ธาตุ และพลังงานที่สูญเสียไปในสภาวะที่ร่างกายต้องการเป็นพิเศษ เช่น เสียเหงื่อมาก หรือท้องเสีย หากดื่มแทนน้ำเปล่าเป็นประจำโดยที่ร่างกายไม่ได้ต้องการ อาจทำให้ได้รับโซเดียมและน้ำตาลมากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำงานของตับ ไต หัวใจ และอาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้
Q: เครื่องดื่มเกลือแร่มีน้ำตาลเยอะไหม?
A: ขึ้นอยู่กับประเภทและยี่ห้อครับ เครื่องดื่มเกลือแร่ประเภท ORT (สำหรับออกกำลังกาย) มักจะมีปริมาณน้ำตาลสูงเพื่อชดเชยพลังงาน แต่ปัจจุบันก็มีสูตรแบบไม่มีน้ำตาล หรือน้ำตาลน้อยออกมาให้เลือก สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเบาๆ หรือต้องการจำกัดปริมาณน้ำตาล ส่วนเกลือแร่ประเภท ORS (สำหรับท้องเสีย) จะมีปริมาณน้ำตาลต่ำกว่า เพราะเน้นการดูดซึมเกลือแร่มากกว่าพลังงาน
Q: ซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ไหนถูกกว่ากัน?
A: โดยทั่วไป การซื้อแบบแพ็คใหญ่ หรือซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada หรือ Shopee มักจะมีราคาที่ถูกกว่าและมีโปรโมชั่นส่วนลดบ่อยครั้งครับ แต่หากต้องการความสะดวกและรวดเร็ว การซื้อที่ 7-Eleven หรือซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
สรุปและคำแนะนำ เลือกเครื่องดื่มเกลือแร่ให้ใช่ ในสไตล์เรา!
การเลือกเครื่องดื่มเกลือแร่ที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของคุณฟื้นตัวและสดชื่นได้อย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าคุณต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด และสภาพร่างกายของคุณเป็นอย่างไร:
- ถ้า ออกกำลังกายเบาๆ หรือเสียเหงื่อไม่มาก แนะนำให้เลือกเครื่องดื่มเกลือแร่ สูตรไม่มีน้ำตาล หรือ น้ำตาลน้อย เช่น Nuun หรือ Gatorade สูตรไม่มีน้ำตาล เพื่อความสดชื่นโดยไม่เพิ่มพลังงานส่วนเกิน
- ถ้าเป็น นักกีฬา หรือออกกำลังกาย/ทำกิจกรรมที่เสียเหงื่อหนักมาก แนะนำเครื่องดื่มเกลือแร่ประเภท ORT ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและแร่ธาตุที่เหมาะสม เพื่อชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปได้อย่างรวดเร็ว เช่น Sponsor, Gatorade, Pocari Sweat, M-Electrolyte, Royal-D, Stronk-K หรือ CERA ครับ
- สำหรับ ผู้ป่วยท้องเสียหรืออาเจียน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเลือก ผงเกลือแร่สำหรับท้องเสีย (ORS) โดยเฉพาะ เช่น X-L Oreda เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำรุนแรง และห้ามใช้เกลือแร่สำหรับนักกีฬาโดยเด็ดขาด เพราะน้ำตาลที่สูงจะยิ่งทำให้อาการแย่ลงได้
- หากเน้น ความคุ้มค่าและสะดวกในการพกพา ลองพิจารณาแบบผง เช่น Royal-D, Stronk-K, CERA หรือแบบเม็ดฟู่อย่าง Nuun ครับ
สิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่พร่ำเพรื่อ หรือดื่มแทนน้ำเปล่าในชีวิตประจำวัน หากไม่มีภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุในปริมาณมาก เพราะอาจได้รับโซเดียมและน้ำตาลเกินความจำเป็น และสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต หรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนดื่มเสมอ
มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่อยู่บ้างครับ? มีเคล็ดลับในการเลือกหรือมีแบรนด์ไหนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษไหม? หรือมีประสบการณ์อะไรที่อยากแบ่งปัน คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ และอยากให้เราจัดหาข้อมูลดีๆ แบบนี้อีก หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นเด็ดๆ ของเครื่องดื่มเกลือแร่ที่แนะนำไป พิมพ์คำว่า "อยากได้ลิงก์!" เดี๋ยวเราจะรวบรวมมาให้เป็นพิเศษเลยครับ! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 นมเปรี้ยว ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 มีจุลินทรีย์ดี ช่วยปรับสมดุลลำไส้
10 ชาไต้หวัน ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 หอมกลิ่นชาแท้ๆ เหมือนต้นตำรับ
10 ชา Dilmah รสไหนอร่อย ปี 2025 รวมรสนิยมจากนักดื่มชาทั่วโลก
10 Chai Tea ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 หอมกรุ่นเครื่องเทศ รสชาติมีเสน่ห์
10 ชามะนาว ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 เปรี้ยวหวานลงตัว สดชื่นถึงใจ
10 เครื่องดื่มเกลือแร่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ชดเชยการเสียเหงื่อ คืนความสดชื่น