รีวิว 10 คอนซีลเลอร์สำหรับคนเป็นสิว ปกปิดเนียน ไม่ทำให้อุดตันเพิ่ม


ปัญหาสิวไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องออกไปใช้ชีวิตประจำวัน การปกปิดรอยสิว รอยแดง หรือรอยดำที่สิวมักทิ้งไว้จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใครหลายคน แต่ในขณะเดียวกัน การเลือกคอนซีลเลอร์ก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะหากเลือกผิด อาจยิ่งทำให้อุดตันและกระตุ้นให้สิวเห่อหนักกว่าเดิมได้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงคุณสมบัติสำคัญและประเภทของคอนซีลเลอร์ที่เหมาะกับคนเป็นสิว เพื่อให้คุณได้เลือกใช้ไอเท็มคู่ใจที่ช่วยปกปิดได้อย่างเรียบเนียน โดยไม่ต้องกังวลว่าสิวจะเพิ่มขึ้น!
1. สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อคอนซีลเลอร์สำหรับผิวเป็นสิว
ก่อนที่เราจะลงลึกถึงคุณสมบัติเด่นของคอนซีลเลอร์แต่ละประเภท มาทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานในการเลือกกันก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้คอนซีลเลอร์ที่ตอบโจทย์ผิวเป็นสิวของคุณอย่างแท้จริง
ประเภทและคุณสมบัติที่สำคัญ:
- Non-Comedogenic: คำนี้หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนเป็นสิว เพราะการอุดตันคือสาเหตุหลักของการเกิดสิว
- Oil-Free: สูตรปราศจากน้ำมันจะช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของสิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวมัน
- มีส่วนผสมบำรุง/ลดสิว: คอนซีลเลอร์บางรุ่นมีส่วนผสมที่ช่วยดูแลสิว เช่น Salicylic Acid, Tea Tree Oil หรือ Niacinamide ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้
- เฉดสีที่เหมาะสม: การเลือกเฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวจริง หรือเข้มกว่าเล็กน้อยสำหรับรอยดำ จะช่วยให้ปกปิดได้เนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ดูลอย สำหรับรอยแดงจากสิว คอนซีลเลอร์สีเขียวคือตัวช่วยที่ดีเยี่ยมในการปรับสีให้ดูเป็นกลางก่อนลงคอนซีลเลอร์สีเนื้อ
- เนื้อสัมผัส: เนื้อลิควิดเหมาะกับผิวมันถึงผิวธรรมดา ให้การปกปิดแบบบางเบาถึงปานกลาง ส่วนเนื้อครีมหรือแบบแท่งจะให้การปกปิดที่สูงกว่าและเหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง
2. 10 คอนซีลเลอร์ที่น่าสนใจสำหรับผิวเป็นสิว (ตามคุณสมบัติ)
ในเมื่อผิวเป็นสิวมีความต้องการที่แตกต่างกัน คอนซีลเลอร์แต่ละชนิดจึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เฉพาะด้าน มาดูกันว่าคอนซีลเลอร์แบบไหนที่จะเหมาะกับสิวของคุณมากที่สุด
2.1 คอนซีลเลอร์สูตร Non-comedogenic (ไม่ทำให้อุดตัน)
นี่คือคุณสมบัติพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเป็นสิว หากคอนซีลเลอร์มีคุณสมบัติ Non-comedogenic ก็หมายความว่ามีสูตรที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดสิวใหม่หรือกระตุ้นสิวที่เป็นอยู่ให้แย่ลงได้
- การออกแบบ: คอนซีลเลอร์กลุ่มนี้มักมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งลิควิด ครีม หรือแท่ง เพื่อให้เลือกตามความถนัด
- ประสิทธิภาพ: เน้นการปกปิดรอยสิวโดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่อุดตันผิว สามารถปกปิดได้ดีตามระดับการปกปิดของแต่ละผลิตภัณฑ์
- ความง่ายในการใช้: ใช้งานง่ายเหมือนคอนซีลเลอร์ทั่วไป เพียงเลือกเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับสภาพผิว (ลิควิดสำหรับผิวมัน, ครีม/แท่งสำหรับผิวแห้ง)
- ความคุ้มค่า: เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นจากการแต่งหน้า
- ข้อดี: ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน ลดความเสี่ยงในการเกิดสิวใหม่ เหมาะสำหรับใช้เป็นประจำทุกวัน
- ข้อเสีย: บางแบรนด์อาจมีตัวเลือกเฉดสีน้อย หรือการปกปิดอาจไม่เข้มข้นเท่าคอนซีลเลอร์ทั่วไปที่ไม่ได้เน้นคุณสมบัตินี้
- เหมาะกับใคร: ทุกสภาพผิวที่เป็นสิวง่าย หรือกังวลเรื่องการอุดตัน
2.2 คอนซีลเลอร์เนื้อลิควิด (บางเบาแต่ปกปิด)
คอนซีลเลอร์เนื้อลิควิดเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย และมักไม่รู้สึกหนักหน้า
- การออกแบบ: มักมาในรูปแบบหลอดพร้อมหัวแปรง applicator หรือฟองน้ำสำหรับจุ่ม
- ประสิทธิภาพ: ให้การปกปิดที่หลากหลาย ตั้งแต่บางเบาไปจนถึงปกปิดสูง (Full Coverage) สามารถสร้างเลเยอร์เพื่อเพิ่มการปกปิดเฉพาะจุดได้ดี โดยไม่ทำให้เป็นคราบ เหมาะสำหรับการปกปิดรอยแดงหรือรอยดำจากสิวที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ
- ความง่ายในการใช้: เกลี่ยง่ายมากด้วยปลายนิ้ว ฟองน้ำ หรือแปรง ช่วยให้คอนซีลเลอร์กลืนไปกับผิวได้เนียนสนิท
- ความคุ้มค่า: ปริมาณการใช้ไม่มากต่อครั้ง ทำให้ใช้ได้นาน
- ข้อดี: บางเบา ไม่หนักหน้า เกลี่ยง่าย ไม่ตกร่อง เหมาะกับคนผิวมันถึงผิวธรรมดา
- ข้อเสีย: บางสูตรอาจไม่ติดทนเท่าที่ควร หรือต้องเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นเพื่อความคงทน
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีผิวมันถึงผิวธรรมดา หรือผู้ที่ต้องการการปกปิดที่ไม่ดูหนาเตอะ
2.3 คอนซีลเลอร์เนื้อครีม/สติ๊ก (ปกปิดขั้นสุด)
สำหรับรอยสิวที่ชัดเจน หรือสิวอักเสบที่ต้องการการปกปิดขั้นสุด คอนซีลเลอร์เนื้อครีมหรือแบบแท่งคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์
- การออกแบบ: เนื้อครีมมักมาในกระปุกหรือตลับ ส่วนแบบแท่งจะอยู่ในรูปแบบแท่งหมุน พกพาสะดวก
- ประสิทธิภาพ: มีเม็ดสีที่เข้มข้น มอบการปกปิดที่แน่นและสูง ทำให้สามารถปกปิดรอยสิว รอยแดง หรือสิวหัวหนองได้อย่างมิดชิด
- ความง่ายในการใช้: แนะนำให้ใช้แปรงเล็กๆ หรือปลายนิ้วค่อยๆ กดแตะลงบนรอยสิว เพื่อให้คอนซีลเลอร์ติดแน่นและไม่เป็นคราบ อาจต้องใช้เวลาในการเกลี่ยเล็กน้อยเพื่อให้กลืนไปกับผิว
- ความคุ้มค่า: ใช้ปริมาณน้อยแต่ให้การปกปิดสูง จึงใช้งานได้นาน
- ข้อดี: ปกปิดได้ดีเยี่ยม เหมาะกับรอยสิวที่เด่นชัด ติดทนนาน
- ข้อเสีย: อาจรู้สึกหนักหน้ากว่าเนื้อลิควิด หากใช้ปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เป็นคราบได้ ไม่เหมาะกับผิวแห้งมาก เพราะอาจเน้นให้เห็นผิวแห้งได้
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการปกปิดรอยสิวที่ชัดเจน หรือสิวอักเสบ
2.4 คอนซีลเลอร์ที่มีส่วนผสมบำรุงผิว (เช่น Salicylic Acid, Tea Tree Oil)
คอนซีลเลอร์ประเภทนี้ไม่ได้มีดีแค่การปกปิด แต่ยังมีส่วนผสมที่ช่วยดูแลปัญหาสิวไปในตัวด้วย
- การออกแบบ: มีทั้งรูปแบบลิควิด ครีม หรือแท่ง ขึ้นอยู่กับแบรนด์
- ประสิทธิภาพ: นอกจากจะช่วยปกปิดรอยสิวแล้ว สารบำรุงในคอนซีลเลอร์ยังช่วยลดการอักเสบของสิว ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น
- ความง่ายในการใช้: ใช้งานง่ายเหมือนคอนซีลเลอร์ทั่วไป เน้นการแต้มเฉพาะจุดที่มีสิว
- ความคุ้มค่า: ได้ทั้งการปกปิดและการบำรุงไปพร้อมกัน ถือเป็น 2-in-1 ที่คุ้มค่า
- ข้อดี: ช่วยรักษาสิวไปในตัว ไม่ต้องกลัวว่าจะอุดตันเพิ่ม และยังช่วยลดการอักเสบได้
- ข้อเสีย: อาจมีตัวเลือกเฉดสีที่จำกัด และอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ส่วนผสมเฉพาะทางเหล่านี้
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีสิวอักเสบ หรือสิวที่เพิ่งขึ้นใหม่ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
2.5 คอนซีลเลอร์สีเขียว (แก้รอยแดง)
รอยแดงจากสิวเป็นปัญหาใหญ่ที่รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์สีเนื้ออาจเอาไม่อยู่ คอนซีลเลอร์สีเขียวคือคำตอบ!
- การออกแบบ: มักเป็นเนื้อครีมหรือลิควิดสีเขียวอ่อนถึงเข้ม
- ประสิทธิภาพ: หลักการของวงล้อสีคือสีตรงข้ามจะหักล้างกัน สีเขียวจะช่วยลดความแดงของรอยสิว หรือรอยแดงจากสิวให้ดูเป็นกลางก่อนลงคอนซีลเลอร์สีเนื้อทับ
- ความง่ายในการใช้: แต้มบางๆ บนบริเวณที่เป็นรอยแดงเท่านั้น จากนั้นเกลี่ยให้กลืนไปกับผิว แล้วจึงตามด้วยคอนซีลเลอร์สีผิวปกติ
- ความคุ้มค่า: เป็นไอเท็มเฉพาะจุดที่ช่วยให้การปกปิดรอยแดงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ข้อดี: ช่วยปรับสีผิวบริเวณรอยแดงให้ดูเป็นกลาง ทำให้คอนซีลเลอร์สีเนื้อปกปิดได้เนียนยิ่งขึ้น
- ข้อเสีย: ต้องใช้ร่วมกับคอนซีลเลอร์สีเนื้อ ไม่สามารถใช้เดี่ยวๆ ได้ หากใช้ปริมาณมากไปอาจทำให้หน้าดูเขียวได้
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีรอยแดงจากสิว รอยแผลเป็นสีแดง หรือสิวอักเสบที่มีรอยแดงชัดเจน
2.6 คอนซีลเลอร์ที่ติดทนนาน (Waterproof/Long-wearing)
สำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อน เหงื่อออกง่าย หรือต้องการให้เมคอัพติดทนนานตลอดวัน คอนซีลเลอร์สูตรติดทนคือสิ่งสำคัญ
- การออกแบบ: มีหลากหลายเนื้อสัมผัส ส่วนใหญ่มักเป็นลิควิดหรือครีมที่แห้งไว
- ประสิทธิภาพ: สูตรที่ติดทนนานจะช่วยให้คอนซีลเลอร์ไม่ไหลเยิ้ม ไม่เป็นคราบ และปกปิดรอยสิวได้ยาวนาน แม้ในสภาพอากาศที่ท้าทาย
- ความง่ายในการใช้: ควรเกลี่ยให้เร็ว เนื่องจากบางสูตรอาจแห้งไว
- ความคุ้มค่า: ช่วยลดความจำเป็นในการเติมหน้าระหว่างวัน ทำให้ประหยัดเวลาและผลิตภัณฑ์
- ข้อดี: ติดทนนาน ไม่หลุดง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือมีเหงื่อออกมาก
- ข้อเสีย: บางสูตรอาจให้ความรู้สึกแห้ง หรือตกร่องได้หากผิวขาดความชุ่มชื้น อาจต้องใช้ Cleansing ที่มีประสิทธิภาพในการล้างออก
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการการปกปิดที่คงทนตลอดวัน หรือผู้ที่ต้องออกงานยาวนาน
2.7 คอนซีลเลอร์ที่ให้ฟินิชแบบธรรมชาติ (Satin/Natural Finish)
การปกปิดสิวไม่ได้หมายถึงการทำให้ผิวดูหนาเตอะ คอนซีลเลอร์ที่ให้ฟินิชแบบธรรมชาติจะช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนราวกับเป็นผิวจริง
- การออกแบบ: ส่วนใหญ่มักเป็นเนื้อลิควิดหรือครีมที่มีความเบาบาง
- ประสิทธิภาพ: ช่วยปกปิดรอยสิวได้อย่างแนบเนียน ไม่ทำให้ผิวดูด้านหรือแห้งเกินไป ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดีและไม่รู้สึกเหมือนโบ๊ะหนา
- ความง่ายในการใช้: เกลี่ยง่าย กลืนเข้ากับผิวได้ดี
- ความคุ้มค่า: ได้ลุคผิวสวยเป็นธรรมชาติ ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นหนาอีกชั้น
- ข้อดี: ผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนา เหมาะสำหรับ everyday look
- ข้อเสีย: การปกปิดอาจไม่เข้มข้นเท่าสูตร Full Coverage แต่สามารถ build เพิ่มได้
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการการปกปิดแบบบางเบาถึงปานกลาง และต้องการให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ
2.8 คอนซีลเลอร์ที่มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย
การหาเฉดสีคอนซีลเลอร์ที่เข้ากับสีผิวและอันเดอร์โทนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การปกปิดดูเป็นธรรมชาติและไม่ดูลอย
- การออกแบบ: คอนซีลเลอร์จากแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายของเฉดสีมักจะนำเสนอคอลเลกชันที่กว้างขวาง
- ประสิทธิภาพ: เมื่อเลือกเฉดสีที่ตรงกับสีผิว รอยสิวจะถูกปกปิดได้อย่างไร้ที่ติ และกลืนไปกับผิวโดยไม่ทิ้งขอบหรือสีที่แตกต่าง
- ความง่ายในการใช้: หากได้เฉดสีที่ตรง จะทำให้การเกลี่ยง่ายขึ้นและไม่ต้องใช้ความพยายามในการเบลนด์มาก
- ความคุ้มค่า: การลงทุนในคอนซีลเลอร์ที่มีเฉดสีหลากหลายจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้สีที่เหมาะสมกับสภาพผิวที่เปลี่ยนแปลงไปได้ (เช่น เมื่อผิวคล้ำขึ้นจากการโดนแดด)
- ข้อดี: ได้เฉดสีที่ตรงกับผิว ทำให้การปกปิดดูเนียนเป็นธรรมชาติสูงสุด
- ข้อเสีย: บางแบรนด์อาจหายาก หรือมีราคาที่สูงกว่า
- เหมาะกับใคร: ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีสีผิวพิเศษ หรือหาเฉดสีที่เข้ากันได้ยาก
2.9 คอนซีลเลอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย (Hypoallergenic/Fragrance-free)
ผิวเป็นสิวมักจะมาพร้อมกับความบอบบางและแพ้ง่าย คอนซีลเลอร์ที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองจึงเป็นทางเลือกที่ดี
- การออกแบบ: มักระบุคุณสมบัติเด่นที่ฉลาก เช่น Hypoallergenic, Fragrance-free, Alcohol-free, Paraben-free
- ประสิทธิภาพ: สูตรอ่อนโยนจะช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคือง หรืออาการแพ้ที่อาจกระตุ้นให้สิวแย่ลง ยังคงให้การปกปิดรอยสิวได้ดีตามคุณสมบัติพื้นฐาน
- ความง่ายในการใช้: ใช้งานง่าย ไม่แตกต่างจากคอนซีลเลอร์ทั่วไป
- ความคุ้มค่า: ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาอาการแพ้หรือสิวเห่อในระยะยาว
- ข้อดี: อ่อนโยนต่อผิวบอบบางแพ้ง่าย ลดโอกาสการเกิดสิวจากการแพ้
- ข้อเสีย: อาจมีตัวเลือกเฉดสีหรือระดับการปกปิดที่จำกัดกว่าคอนซีลเลอร์ทั่วไป
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการแพ้จากส่วนผสมในเครื่องสำอาง
2.10 คอนซีลเลอร์ที่มาพร้อมหัว Applicator ที่ใช้งานง่าย
ความสะดวกในการใช้งานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การลงคอนซีลเลอร์เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
- การออกแบบ: หัว applicator มีหลายประเภท เช่น หัวฟองน้ำ หัวแปรง หรือหัวแบบดินสอ
- ประสิทธิภาพ: หัว applicator ที่ออกแบบมาดีจะช่วยให้แต้มคอนซีลเลอร์ได้ตรงจุด และควบคุมปริมาณได้ง่าย ทำให้การปกปิดรอยสิวเป็นเรื่องที่รวดเร็วและแม่นยำ
- ความง่ายในการใช้: เหมาะสำหรับพกพาและแต้มเติมระหว่างวันได้สะดวก
- ความคุ้มค่า: ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้า และลดการใช้อุปกรณ์เสริมอื่นๆ
- ข้อดี: ใช้งานสะดวก รวดเร็ว เหมาะสำหรับการ touch-up ระหว่างวัน
- ข้อเสีย: หัว applicator อาจต้องหมั่นทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัยที่ดี
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการแต่งหน้า หรือผู้ที่ต้องการเติมหน้าระหว่างวันบ่อยๆ
3. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ
การเลือกซื้อคอนซีลเลอร์สำหรับผิวเป็นสิว ควรคำนึงถึงแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ และบริการหลังการขายเพื่อความมั่นใจ
คอนซีลเลอร์ส่วนใหญ่มีวางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ชั้นนำ เช่น Lazada, Shopee, Central Online, Konvy หรือ Beautrium รวมถึงร้านค้าทางการของแบรนด์ ควรตรวจสอบโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ อาทิ คูปองส่วนลด, โปรโมชั่นส่งฟรี, หรือตัวเลือกการผ่อนชำระ 0% ที่มักมีในช่วงแคมเปญ การจัดส่งสินค้ารวดเร็ว ส่วนใหญ่จะใช้เวลา 1-3 วันทำการขึ้นอยู่กับพื้นที่
4. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ
การเลือกคอนซีลเลอร์สำหรับคนเป็นสิวไม่ใช่แค่การปกปิด แต่คือการดูแลผิวไปพร้อมกัน หากคุณกำลังมองหาคอนซีลเลอร์คู่ใจ บทความนี้ได้รวบรวมคุณสมบัติเด่นและแนวทางการเลือกที่สำคัญไว้แล้ว
โดยสรุป หากคุณเป็นคนเป็นสิว เราแนะนำให้เน้นคอนซีลเลอร์ที่มีคุณสมบัติ Non-comedogenic และ Oil-free เป็นอันดับแรก จากนั้นพิจารณาเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับสภาพผิว (ลิควิดสำหรับผิวมัน, ครีม/แท่งสำหรับผิวแห้ง) และหากมีส่วนผสมช่วยบำรุงหรือลดสิวได้ด้วย จะยิ่งเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม
สำหรับผู้เริ่มต้น: ลองเริ่มต้นด้วยคอนซีลเลอร์เนื้อลิควิดสูตร Non-comedogenic ที่มีเฉดสีใกล้เคียงกับผิวจริง จะช่วยให้เกลี่ยง่ายและได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ สำหรับผู้ที่ต้องการปกปิดขั้นสุด: ลองมองหาคอนซีลเลอร์เนื้อครีมหรือแบบแท่ง และอาจพิจารณาคอนซีลเลอร์สีเขียวหากมีรอยแดงชัดเจน สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย: เลือกคอนซีลเลอร์ที่ระบุว่า Hypoallergenic, Fragrance-free และ Alcohol-free เพื่อลดความเสี่ยงในการระคายเคือง
สุดท้ายแล้ว การทดลองและเปรียบเทียบคือหัวใจสำคัญในการค้นหาคอนซีลเลอร์ที่ใช่สำหรับผิวของคุณ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Brother MFC-J3930DW: ปริ้นเตอร์ Inkjet พิมพ์งานใหญ่ ฟังก์ชันครบ
Fresh Black Tea Mask รีวิว: มาส์กหน้าใส ฟูอิ่ม เห็นผลในครั้งแรก?
รีวิว โครงการ Pleno (AP): ทาวน์โฮม/บ้าน ทำเลดี ราคาเข้าถึงง่าย น่าซื้อไหม?
รีวิว Sudocrem: ครีมสารพัดประโยชน์ แก้ผื่นผ้าอ้อม สิว และปัญหาผิวต่างๆ
รีวิว Park Origin ทองหล่อ: คอนโดหรูใจกลางเมือง ชีวิตดี๊ดีสมราคาไหม?
รีวิว Charlotte Tilbury Magic Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ผิวอิ่มฟู ฉ่ำโกลว์จริงไหม?