10 หูฟัง PS4 แนะนำ ปี 2025 เสียงเทพ เบสแน่น

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวเกมเมอร์ PS4 ทุกคน! ได้เวลาอัปเกรดประสบการณ์ความมันส์ในการเล่นเกมคู่ใจกันแล้วนะคร้าบ! ใครที่กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งเสียงเทพ เบสแน่นๆ ที่จะช่วยให้เราได้ยินทุกฝีก้าวของศัตรู หรือดื่มด่ำกับบรรยากาศในเกมแบบเต็มอิ่ม วันนี้ผมในฐานะคนวงในสายช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยง จะพาไปส่อง 10 หูฟัง PS4 เด็ดๆ ประจำปี 2025 ที่รับรองว่าถูกใจสายล่าโปร และเน้นความคุ้มค่าตามสไตล์คนไทยแน่นอน เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วตามมาดูกันเลย!

1. SteelSeries Arctis Nova Pro Wireless

• ชื่อแบรนด์: SteelSeries
• ชื่อสินค้า: Arctis Nova Pro Wireless
• ราคาสินค้า: ประมาณ 12,000 - 14,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ตัวท็อปในวงการหูฟังเกมมิ่งที่ชาว PS4 ใฝ่ฝัน ด้วยระบบเสียง Nova Pro Acoustic System ที่ให้รายละเอียดเสียงคมกริบทุกย่านความถี่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมหายใจเบาๆ หรือเสียงระเบิดตูมตาม ก็ชัดเจนสมจริง มีระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ตัดเสียงรบกวนรอบข้างขั้นเทพ ให้คุณโฟกัสกับเกมได้เต็มที่ เชื่อมต่อไร้สายแบบ Lossless 2.4GHz ที่เสถียรสุดๆ แถมมีแบตเตอรี่คู่ให้สลับใช้ได้ยาวๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดกลางคัน ใส่สบายด้วยวัสดุพรีเมียม เหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด
• จุดเด่นสินค้า: เสียงระดับ Hi-Res Audio, ระบบตัดเสียงรบกวน ANC, เชื่อมต่อไร้สายเสถียรด้วย Lossless 2.4GHz, แบตเตอรี่คู่ใช้งานยาวนาน, วัสดุพรีเมียมใส่สบาย
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ดื่มด่ำกับเสียงเกม: ระบบ Nova Pro Acoustic System ให้มิติเสียงที่สมจริง ช่วยให้ระบุทิศทางเสียงในเกมได้อย่างแม่นยำ เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมแนว FPS หรือเกมเนื้อเรื่องที่เน้นบรรยากาศ
  • สื่อสารชัดเจนกับเพื่อนร่วมทีม: ไมโครโฟน ClearCast Gen 2 คุณภาพสตูดิโอพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน AI ช่วยให้เสียงพูดของคุณคมชัด ปลายสายได้ยินชัดเจน ทำให้การวางแผนในเกมเป็นไปอย่างราบรื่น
  • ใช้งานได้หลากหลายแพลตฟอร์ม: รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบไร้สายกับ PS4, PS5, PC และยังสามารถเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้พร้อมกัน สลับใช้งานได้สะดวก
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4, PS5 ที่ต้องการคุณภาพเสียงและฟีเจอร์ระดับสูงสุด, ผู้ที่เล่นเกมหลายแพลตฟอร์ม, สตรีมเมอร์, ผู้ที่เน้นความสบายในการสวมใส่เป็นเวลานาน

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	แบตเตอรี่	รองรับ PS4
ไร้สาย 2.4GHz, Bluetooth, มีสาย 3.5mm	Custom High Fidelity 40mm	10–40,000 Hz	Nova Pro Acoustic System, ANC	ClearCast Gen 2 (AI Noise Cancellation)	ประมาณ 337 กรัม	แบตเตอรี่คู่ สลับใช้งาน	รองรับ (Wireless USB)

2. ASTRO A50 Wireless

• ชื่อแบรนด์: ASTRO
• ชื่อสินค้า: A50 Wireless + Base Station
• ราคาสินค้า: ประมาณ 9,000 - 12,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: หูฟังไร้สายยอดนิยมในหมู่เกมเมอร์คอนโซล โดยเฉพาะชาว PS4 ด้วยคุณภาพเสียง ASTRO Audio V2 ที่ให้เสียงเบสกระหึ่ม หนักแน่น สะใจคอเกมที่ชอบความตูมตามของเอฟเฟกต์ในเกม มาพร้อม Base Station ที่เป็นทั้งแท่นชาร์จและศูนย์ควบคุม รองรับระบบเสียง Dolby 7.1 Surround Sound ให้มิติเสียงรอบทิศทาง ตัวหูฟังใส่สบายด้วยฟองน้ำหุ้มกำมะหยี่ ดีไซน์แข็งแรงทนทาน เป็นอีกตัวจบที่หลายคนแนะนำสำหรับชาว PS4
• จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียง ASTRO Audio V2 เบสแน่น, สะดวกด้วย Base Station, รองรับ Dolby 7.1 Surround Sound, ใส่สบายด้วยฟองน้ำกำมะหยี่, แข็งแรงทนทาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • เสียงเบสทรงพลังสำหรับเกม: ให้เสียงเบสที่ลึกและหนักแน่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมแนวแอ็คชั่น, FPS หรือเกมที่มีเอฟเฟกต์เสียงอลังการ ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจในการเล่น
  • การสื่อสารที่ชัดเจนและควบคุมง่าย: ไมโครโฟนแบบ Flip-to-Mute เมื่อพับขึ้นไมค์จะปิดเสียงอัตโนมัติ ทำให้สะดวกในการเปิด-ปิดไมค์ระหว่างเล่น มีปุ่มควบคุม Game/Voice Balance บนตัวหูฟัง ทำให้ปรับเสียงเกมกับเสียงเพื่อนร่วมทีมได้ตามต้องการ
  • ความสะดวกสบายของ Base Station: Base Station ทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จและตัวรับสัญญาณไร้สาย 5.8GHz ที่เสถียร สามารถวางหูฟังเพื่อชาร์จได้ทันทีเมื่อไม่ใช้งาน และยังใช้ปรับตั้งค่า EQ ผ่านซอฟต์แวร์บน PC ได้
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4, PC ที่ชอบเสียงเบสหนักๆ, ผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายพร้อมแท่นชาร์จที่สะดวก, ผู้ที่เล่นเกมนานๆ และต้องการความสบายในการสวมใส่

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	แบตเตอรี่	รองรับ PS4
ไร้สาย 5.8GHz (Base Station)	40mm Neodymium	20 - 20,000 Hz	ASTRO Audio V2, Dolby 7.1 Surround	Flip-to-Mute Uni-directional 6.0mm	ประมาณ 380 กรัม	ประมาณ 15+ ชั่วโมง	รองรับ (Base Station เชื่อมต่อ Optical/USB)

3. Razer BlackShark V2 Pro

• ชื่อแบรนด์: Razer
• ชื่อสินค้า: BlackShark V2 Pro
• ราคาสินค้า: ประมาณ 5,000 - 6,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: หูฟังเกมมิ่งไร้สายที่เน้นความแม่นยำของเสียง เหมาะกับชาว PS4 สาย FPS ที่ต้องการได้ยินเสียงฝีเท้าหรือตำแหน่งศัตรูอย่างชัดเจน ใช้ไดรเวอร์ Razer™ TriForce Titanium ขนาด 50 มม. แยกเสียงได้ชัดเจนทุกย่าน มาพร้อมเทคโนโลยีไร้สาย HyperSpeed Wireless ที่ดีเลย์ต่ำ ไมโครโฟน HyperClear Supercardioid คุณภาพดีเยี่ยม ให้เสียงพูดคมชัด ตัดเสียงรบกวนได้ดี ตัวหูฟังน้ำหนักเบา ใส่สบายด้วยฟองน้ำ FlowKnit Memory Foam
• จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงแม่นยำสำหรับเกม FPS, เทคโนโลยีไร้สาย HyperSpeed ดีเลย์ต่ำ, ไมโครโฟน HyperClear คุณภาพสูง, น้ำหนักเบาใส่สบาย, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ระบุตำแหน่งศัตรูอย่างแม่นยำ: ด้วยไดรเวอร์ TriForce Titanium และระบบเสียง THX Spatial Audio (บน PC) ช่วยให้คุณได้ยินรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ และระบุทิศทางของเสียงได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้เปรียบในการเล่นเกมที่ต้องการความไว
  • สื่อสารชัดเจนเหมือนนั่งข้างๆ: ไมโครโฟน HyperClear Supercardioid ที่เน้นรับเสียงจากด้านหน้า พร้อมการตัดเสียงรบกวน ทำให้เสียงพูดของคุณชัดเจน เป็นธรรมชาติ เพื่อนร่วมทีมได้ยินคุณชัดเจนแม้ในสถานการณ์ที่เสียงดัง
  • เล่นเกมได้ยาวนานโดยไม่เมื่อยล้า: ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ใช้วัสดุน้ำหนักเบาและฟองน้ำหุ้มผ้า FlowKnit ที่นุ่มและระบายอากาศได้ดี ทำให้สวมใส่ได้สบายแม้จะเล่นเกมต่อเนื่องหลายชั่วโมง
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4, PC สาย FPS ที่เน้นความแม่นยำของเสียง, ผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายที่สัญญาณเสถียร, ผู้ที่ต้องการไมโครโฟนคุณภาพสูงสำหรับการสื่อสาร

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	แบตเตอรี่	รองรับ PS4
ไร้สาย 2.4GHz (HyperSpeed), Bluetooth, มีสาย 3.5mm	Razer™ TriForce Titanium 50mm	12 - 28,000 Hz	THX Spatial Audio (PC)	Razer™ HyperClear Supercardioid (ถอดได้)	ประมาณ 320 กรัม	สูงสุด 70 ชั่วโมง (2.4GHz)	รองรับ (Wireless USB Dongle)

4. Sony PULSE 3D Wireless Headset

• ชื่อแบรนด์: Sony
• ชื่อสินค้า: PULSE 3D Wireless Headset
• ราคาสินค้า: ประมาณ 3,000 - 4,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: หูฟังไร้สายดีไซน์เข้ากับเครื่อง PS5 และ PS4 โดยเฉพาะ เป็นหูฟัง Official จาก Sony ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบเสียง 3D Audio ของ PlayStation โดยเฉพาะ ให้เสียงที่สมจริง มีมิติ ช่วยให้ระบุตำแหน่งเสียงได้แม่นยำในเกมที่รองรับ มีไมโครโฟนซ่อนรูปพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ใช้งานง่าย แค่เสียบ USB Adapter ก็เชื่อมต่อได้เลย น้ำหนักเบา ใส่สบายกำลังดี เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับชาว PS4 ที่เน้นความเข้ากันได้และประสบการณ์เสียง 3D Audio
• จุดเด่นสินค้า: ออกแบบมาเพื่อ PlayStation, รองรับระบบเสียง 3D Audio, ไมโครโฟนซ่อนพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน, ใช้งานง่าย, ราคาไม่แรงมาก
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • สัมผัสประสบการณ์เสียง 3D Audio: ทำงานร่วมกับระบบเสียง 3D Audio ของเครื่อง PlayStation 4 และ PlayStation 5 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มอบมิติเสียงที่สมจริง ทำให้คุณดื่มด่ำกับโลกในเกมได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • สื่อสารได้โดยไม่มีไมค์เกะกะ: ไมโครโฟนคู่แบบซ่อนรูปพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน ช่วยให้เสียงพูดของคุณชัดเจน โดยที่คุณไม่ต้องมีก้านไมค์ยื่นออกมาให้รำคาญใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดีไซน์เรียบง่าย
  • ควบคุมง่าย ปรับแต่งเสียงได้: มีปุ่มควบคุมเสียง, ปุ่ม Mute Mic, ปุ่มปรับ Game/Chat Balance บนตัวหูฟัง สามารถปรับแต่ง EQ และตั้งค่าต่างๆ เพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Headset Companion บน PS4
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4, PS5 ที่ต้องการหูฟัง Official ที่เข้ากับตัวเครื่อง, ผู้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์เสียง 3D Audio, ผู้ที่ชอบหูฟังดีไซน์เรียบง่าย ไมค์ซ่อน

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	แบตเตอรี่	รองรับ PS4
ไร้สาย (USB Adapter), มีสาย 3.5mm	N/A	N/A	Virtual Surround 7.1, 3D Audio	ซ่อนรูป (Dual Hidden Mics)	ประมาณ 295 กรัม	ประมาณ 12 ชั่วโมง	รองรับ (Wireless USB Adapter)

5. HyperX Cloud Alpha Wireless

• ชื่อแบรนด์: HyperX
• ชื่อสินค้า: Cloud Alpha Wireless
• ราคาสินค้า: ประมาณ 5,000 - 6,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: โดดเด่นที่สุดคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมหาศาล! เหมาะกับชาว PS4 สายมาราธอนที่เล่นเกมนานๆ จนลืมชาร์จ ใช้ไดรเวอร์ Dual Chamber ที่ HyperX ขึ้นชื่อ ให้เสียงเบสที่ชัดเจน ไม่บวมไปรบกวนเสียงกลางแหลม คุณภาพเสียงโดยรวมดีเยี่ยม รองรับ DTS Headphone:X Spatial Audio ให้มิติเสียงรอบทิศทาง ใส่สบายตามสไตล์ Cloud Series ที่หลายคนชื่นชอบ ไมโครโฟนถอดได้พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน เป็นหูฟังไร้สายที่เน้นความอึดของแบตเตอรี่และคุณภาพเสียง
• จุดเด่นสินค้า: แบตเตอรี่โคตรอึด (สูงสุด 300 ชั่วโมง), ไดรเวอร์ Dual Chamber เสียงดี เบสไม่บวม, ใส่สบายเอกลักษณ์ Cloud Series, รองรับ DTS Headphone:X Spatial Audio, ไมโครโฟนถอดได้
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • เล่นเกมได้ต่อเนื่องแบบ Non-stop: ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 300 ชั่วโมง คุณสามารถเล่นเกมได้หลายวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ไม่ชอบชาร์จแบตบ่อยๆ
  • ได้ยินเสียงในเกมชัดเจนทุกรายละเอียด: ไดรเวอร์ Dual Chamber ช่วยแยกเสียงเบสออกจากเสียงกลางและเสียงแหลม ทำให้ได้ยินเสียงฝีเท้า, เสียงพูด หรือเสียงเอฟเฟกต์อื่นๆ ในเกมได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ
  • สื่อสารและปรับแต่งได้สะดวก: ไมโครโฟนแบบ Noise-Cancelling ที่ถอดออกได้ ทำให้สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างชัดเจน สามารถปรับตั้งค่า EQ และฟีเจอร์ต่างๆ ผ่านซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY บน PC ได้
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4, PC ที่เน้นแบตเตอรี่อึดสุดๆ, ผู้ที่ชื่นชอบคุณภาพเสียงและใส่สบายของ HyperX Cloud Series, ผู้ที่เล่นเกมนานหลายชั่วโมงต่อครั้ง

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	แบตเตอรี่	รองรับ PS4
ไร้สาย 2.4GHz	Custom Dynamic Dual Chamber 50mm	15 - 21,000 Hz	Stereo, DTS Headphone:X Spatial Audio (PC)	Noise-Cancelling (ถอดได้)	ประมาณ 318 กรัม	สูงสุด 300 ชั่วโมง	รองรับ (Wireless USB Dongle)

6. Logitech G Pro X

• ชื่อแบรนด์: Logitech
• ชื่อสินค้า: G Pro X Gaming Headphone
• ราคาสินค้า: ประมาณ 3,500 - 4,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: หูฟังเกมมิ่งแบบมีสายที่ได้รับความนิยมในหมู่โปรเพลเยอร์ ด้วยคุณภาพเสียงที่ปรับจูนโดยนักกีฬาอีสปอร์ต ทำให้ได้ยินเสียงในเกมได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเสียงฝีเท้า ใช้ไดรเวอร์ PRO-G 50 มม. ให้เสียงที่กว้างและชัดเจน มาพร้อมเทคโนโลยีไมโครโฟน Blue VO!CE คุณภาพสตูดิโอ เสียงพูดคมชัดสุดๆ แถมมี Sound Card USB มาให้ด้วย วัสดุแข็งแรงทนทาน ใส่สบายด้วยเมมโมรี่โฟม เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับชาว PS4 ที่เน้นคุณภาพเสียงและการสื่อสารแบบมีสาย
• จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงปรับจูนโดยโปรเพลเยอร์, ไมโครโฟน Blue VO!CE คุณภาพสตูดิโอ, มี Sound Card USB แถมให้, วัสดุแข็งแรงทนทาน, ใส่สบายด้วยเมมโมรี่โฟม
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ได้ยินเสียงสำคัญในเกมอย่างชัดเจน: ไดรเวอร์ PRO-G 50 มม. และการปรับจูนเสียงโดยนักกีฬาอีสปอร์ต ทำให้ได้ยินเสียงฝีเท้า, เสียงสกิล หรือเสียงสำคัญอื่นๆ ในเกมได้อย่างชัดเจน ช่วยให้ตัดสินใจในสถานการณ์คับขันได้ดี
  • สื่อสารด้วยเสียงคุณภาพระดับมืออาชีพ: เทคโนโลยีไมโครโฟน Blue VO!CE พร้อมซอฟต์แวร์ G HUB ช่วยให้ปรับแต่งเสียงไมค์ได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้เสียงพูดของคุณคมชัด เป็นธรรมชาติ ลดเสียงรบกวน ทำให้การสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย: สามารถเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านแจ็ค 3.5 มม. หรือใช้ Sound Card USB ที่แถมมาเพื่อเชื่อมต่อกับ PS4 และ PC ได้ ทำให้ใช้งานได้สะดวกกับหลายอุปกรณ์
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4, PC ที่เน้นคุณภาพเสียงและความแม่นยำ, ผู้ที่ต้องการไมโครโฟนคุณภาพสูงสำหรับการสื่อสารหรือสตรีม, ผู้ที่ชอบหูฟังแบบมีสายที่สัญญาณเสถียร

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	ความยาวสาย	รองรับ PS4
มีสาย 3.5mm, USB (ผ่าน Sound Card)	PRO-G 50mm Neodymium	20 - 20,000 Hz	Stereo, DTS Headphone:X 2.0 (PC)	Blue VO!CE (ถอดได้)	ประมาณ 320 กรัม	ประมาณ 2 เมตร	รองรับ (มีสาย 3.5mm / USB Sound Card)

7. Corsair HS80 Max Wireless

• ชื่อแบรนด์: Corsair
• ชื่อสินค้า: HS80 Max Wireless
• ราคาสินค้า: ประมาณ 5,500 - 6,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: หูฟังไร้สายดีไซน์โดดเด่น เน้นความสบายในการสวมใส่ด้วยแถบคาดศีรษะแบบลอยตัว ให้เสียงคุณภาพดี รองรับ Dolby Atmos (บน PC) เพื่อมิติเสียงที่สมจริง ไมโครโฟนแบบ Omni-directional ให้เสียงพูดชัดเจน มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย Slipstream Wireless 2.4GHz ที่รวดเร็วและเสถียร แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะกับชาว PS4 ที่ชอบดีไซน์ทันสมัยและเน้นความสบายในการใส่เล่นเกมยาวๆ
• จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์สวย ใส่สบายด้วยแถบคาดศีรษะลอยตัว, รองรับ Dolby Atmos (PC), ไมโครโฟน Omni-directional เสียงชัด, เชื่อมต่อไร้สาย Slipstream Wireless, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • สวมใส่สบายไร้แรงกดทับ: แถบคาดศีรษะแบบลอยตัวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหูฟังของ SteelSeries ช่วยกระจายน้ำหนักและลดแรงกดทับบนศีรษะ ทำให้สวมใส่ได้สบายเป็นพิเศษแม้จะเล่นเกมต่อเนื่องหลายชั่วโมง
  • ดื่มด่ำกับเสียงที่มีมิติ: แม้ Dolby Atmos จะรองรับบน PC เป็นหลัก แต่คุณภาพเสียงของไดรเวอร์ขนาด 50 มม. ก็ให้เสียงที่ทรงพลังและมีมิติบน PS4 ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับบรรยากาศในเกม
  • สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างราบรื่น: ไมโครโฟนแบบ Omni-directional ที่ให้เสียงพูดเป็นธรรมชาติและชัดเจน สามารถพับขึ้นเพื่อ Mute ได้ทันที ทำให้สื่อสารกับเพื่อนในปาร์ตี้ได้อย่างสะดวก
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4, PC ที่เน้นความสบายในการสวมใส่เป็นพิเศษ, ผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์ทันสมัย, ผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายที่สัญญาณเสถียร

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	แบตเตอรี่	รองรับ PS4
ไร้สาย 2.4GHz (Slipstream), Bluetooth, มีสาย USB	Custom Dynamic 50mm Neodymium	20 - 40,000 Hz	Stereo, Dolby Atmos (PC)	Omni-directional (Flip-to-Mute)	ประมาณ 321 กรัม	สูงสุด 24 ชั่วโมง (2.4GHz)	รองรับ (Wireless USB Receiver)

8. HyperX Cloud III

• ชื่อแบรนด์: HyperX
• ชื่อสินค้า: Cloud III Gaming Headset
• ราคาสินค้า: ประมาณ 3,000 - 4,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: รุ่นอัปเกรดจาก Cloud II ที่เป็นตำนานของ HyperX เน้นความสบายในการสวมใส่และคุณภาพเสียงที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่าย ใช้ไดรเวอร์ขนาด 53 มม. ที่ปรับปรุงใหม่ ให้เสียงที่ชัดเจนและเบสที่ทรงพลังขึ้น ใส่สบายด้วยเมมโมรี่โฟมอันเป็นเอกลักษณ์ของ HyperX ไมโครโฟนแบบ Noise-Cancelling ที่ถอดออกได้ ให้เสียงพูดคมชัด รองรับการเชื่อมต่อหลายรูปแบบ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับชาว PS4 ที่มองหาหูฟังคุ้มค่า ได้ทั้งคุณภาพเสียงและความสบาย
• จุดเด่นสินค้า: ใส่สบายระดับตำนานของ HyperX, ไดรเวอร์ 53 มม. เสียงชัด เบสดี, ไมโครโฟน Noise-Cancelling ถอดได้, วัสดุแข็งแรงทนทาน, ราคาคุ้มค่า
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • สวมใส่ได้ยาวนานโดยไม่เมื่อยล้า: ฟองน้ำเมมโมรี่โฟมอันนุ่มสบายและแถบคาดศีรษะที่ยืดหยุ่น ทำให้สวมใส่หูฟังได้นานหลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกบีบรัดหรือปวดหู เหมาะกับการเล่นเกมยาวๆ
  • คุณภาพเสียงที่ครอบคลุมการใช้งาน: ไดรเวอร์ขนาด 53 มม. ที่ปรับปรุงใหม่ ให้เสียงที่สมดุล ทั้งเสียงสูง กลาง และเบส สามารถใช้ได้ดีกับการเล่นเกมหลากหลายแนว รวมถึงการฟังเพลงหรือดูหนัง
  • สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างชัดเจน: ไมโครโฟนแบบ Noise-Cancelling ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้เสียงพูดของคุณชัดเจนยิ่งขึ้นในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม สามารถถอดไมค์ออกได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4 ที่มองหาหูฟังคุ้มค่า คุณภาพเสียงดี ใส่สบาย, ผู้ที่ชื่นชอบ HyperX Cloud Series, ผู้ที่ต้องการหูฟังที่ใช้งานได้หลากหลาย

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	ความยาวสาย	รองรับ PS4
มีสาย 3.5mm, USB-A, USB-C	Custom Dynamic 53mm Neodymium	10 - 21,000 Hz	Stereo, Virtual 7.1 (PC)	Noise-Cancelling (ถอดได้)	ประมาณ 308 กรัม	ประมาณ 1.2 เมตร (3.5mm) + 1.3 เมตร (USB)	รองรับ (มีสาย 3.5mm / USB)

9. Razer Kraken X for Console

• ชื่อแบรนด์: Razer
• ชื่อสินค้า: Kraken X for Console
• ราคาสินค้า: ประมาณ 1,200 - 1,800 บาท
• คำอธิบายสินค้า: หูฟังเกมมิ่งราคาประหยัดที่ชาว PS4 งบน้อยต้องเหลียวมอง ด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 250 กรัม ทำให้ใส่สบายเล่นเกมได้นาน ใช้ไดรเวอร์ขนาด 40 มม. ให้เสียงที่ชัดเจนพอตัว มีไมโครโฟนแบบ Cardioid ที่รับเสียงพูดได้ดีและลดเสียงรบกวนจากด้านข้าง เชื่อมต่อผ่านแจ็ค 3.5 มม. ใช้งานง่ายกับจอย PS4 หรืออุปกรณ์อื่นๆ เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับเกมเมอร์ที่อยากได้หูฟังเกมมิ่งในราคาเบาๆ
• จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกและคุ้มค่า, น้ำหนักเบามาก ใส่สบาย, ไมโครโฟน Cardioid เสียงชัด, ใช้งานง่ายแบบ Plug and Play, รองรับหลายแพลตฟอร์ม
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • สวมใส่สบายตลอดการเล่น: ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 250 กรัมและฟองน้ำหุ้มด้วย Leatherette และ Foam ที่นุ่มสบาย ทำให้สวมใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่เน้นความสบายในงบจำกัด
  • สื่อสารพื้นฐานได้ชัดเจน: ไมโครโฟนแบบ Bendable Cardioid รับเสียงพูดจากด้านหน้าได้ดี และลดเสียงรบกวนจากด้านข้าง ทำให้เพื่อนร่วมทีมได้ยินเสียงของคุณชัดเจนในการสื่อสารพื้นฐาน
  • ใช้งานง่าย เสียบแล้วเล่นได้เลย: เชื่อมต่อผ่านแจ็ค 3.5 มม. ทำให้ใช้งานได้ทันทีกับจอย PS4, PC, Mobile และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีพอร์ต 3.5 มม. โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติม
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4 งบน้อย, ผู้เริ่มต้นที่อยากได้หูฟังเกมมิ่ง, ผู้ที่เน้นหูฟังน้ำหนักเบาใส่สบาย, ผู้ที่ต้องการหูฟังที่ใช้งานง่ายกับหลายอุปกรณ์

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	ความยาวสาย	รองรับ PS4
มีสาย 3.5mm	Custom Tuned 40mm	12 - 28,000 Hz	Stereo, Virtual 7.1 (Windows 10 64-bit)	Bendable Cardioid	ประมาณ 250 กรัม	ประมาณ 1.3 เมตร	รองรับ (มีสาย 3.5mm)

10. ASTRO A10

• ชื่อแบรนด์: ASTRO
• ชื่อสินค้า: A10 Gaming Headset
• ราคาสินค้า: ประมาณ 2,000 - 2,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: หูฟังเกมมิ่งแบบมีสายที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษในราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับชาว PS4 ที่เน้นหูฟังที่อึด ถึก ทน พร้อมคุณภาพเสียงที่ดีตามมาตรฐาน ASTRO Audio V2 ให้เสียงที่สมดุล ไมค์แบบ Flip-to-Mute ใช้งานสะดวก โครงสร้างแข็งแรงด้วยแถบคาดศีรษะเหล็กหุ้มยาง ใส่สบายด้วย Ear Cushion แบบผ้า เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่มองหาหูฟังสายลุย ใช้งานได้นาน
• จุดเด่นสินค้า: ทนทานมาก วัสดุแข็งแรง, คุณภาพเสียง ASTRO Audio V2, ไมโครโฟน Flip-to-Mute, ใส่สบายด้วย Ear Cushion ผ้า, ราคาไม่แพงเกินไป
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ทนทานต่อการใช้งานหนัก: สร้างด้วยวัสดุคุณภาพสูง โดยเฉพาะแถบคาดศีรษะเหล็กหุ้มยาง ทำให้มีความยืดหยุ่นและทนทาน สามารถใช้งานได้สมบุกสมบัน ไม่ต้องกังวลว่าจะพังง่าย
  • คุณภาพเสียงที่ไว้ใจได้สำหรับเกม: แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ก็ยังคงคุณภาพเสียง ASTRO Audio V2 ที่ให้เสียงที่สมดุล เหมาะกับการเล่นเกมหลากหลายแนว ได้ยินเสียงสำคัญในเกมได้ชัดเจน
  • สื่อสารง่าย แค่พับไมค์ขึ้น: ไมโครโฟนแบบ Uni-directional ที่รับเสียงพูดได้ชัดเจน และมีฟังก์ชัน Flip-to-Mute ที่สะดวกมาก เพียงแค่พับก้านไมค์ขึ้นก็ปิดเสียงทันที เหมาะกับการสื่อสารในเกม
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ PS4 ที่เน้นความทนทานของหูฟัง, ผู้ที่มองหาหูฟังเกมมิ่งราคาไม่แรง แต่คุณภาพดี, ผู้ที่ชอบหูฟังแบบมีสายที่ใช้งานง่าย

การเชื่อมต่อ	ไดรเวอร์	การตอบสนองความถี่	ระบบเสียง	ไมโครโฟน	น้ำหนัก	ความยาวสาย	รองรับ PS4
มีสาย 3.5mm	40mm Neodymium	20 - 20,000 Hz	Stereo	Flip-to-Mute Uni-directional 6.0mm	ประมาณ 346 กรัม	ประมาณ 2 เมตร	รองรับ (มีสาย 3.5mm)

คำแนะนำการเลือกซื้อหูฟัง PS4 คู่ใจ

• 1. คุณภาพเสียงและเบสที่ใช่สำหรับเกมเมอร์ชาวไทย
  เรื่องเสียงนี่สำคัญสุดๆ สำหรับชาวเกมเมอร์ PS4 ที่อยากได้อรรถรสเต็มที่ในการเล่น การเลือกหูฟังที่มีคุณภาพเสียงดีจะช่วยให้เราได้เปรียบในเกมแนว Competitive อย่าง FPS เพราะจะได้ยินเสียงฝีเท้า, เสียงรีโหลดกระสุน หรือเสียงสกิลของศัตรูได้อย่างแม่นยำ ทำให้เรารู้ตำแหน่งและวางแผนรับมือได้ทันท่วงที ลองมองหาหูฟังที่ระบุว่ามีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ (เช่น 50 มม. ขึ้นไป) เพราะโดยทั่วไปแล้วไดรเวอร์ขนาดใหญ่กว่ามักจะให้เสียงที่ทรงพลังและรายละเอียดดีกว่า นอกจากนี้ สำหรับคอเกมที่ชอบความมันส์สะใจกับเอฟเฟกต์ระเบิดตูมตาม หรือเสียงเครื่องยนต์คำรามในเกมแข่งรถ การเลือกหูฟังที่เน้นเบสแน่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม แต่ก็ต้องระวังอย่าให้เบสไปกลบเสียงกลางและเสียงแหลมจนทำให้รายละเอียดเสียงสำคัญอื่นๆ หายไป ลองดูหูฟังที่มีเทคโนโลยีเสียงเฉพาะของแบรนด์นั้นๆ หรือรองรับระบบเสียงจำลองอย่าง Virtual Surround Sound หรือ 3D Audio (โดยเฉพาะถ้าคิดจะอัปเกรดไป PS5 ในอนาคต) ซึ่งจะช่วยเพิ่มมิติและความสมจริงให้กับเสียงในเกมได้มากครับ การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทยก็ช่วยได้เยอะเลยนะ เพราะสภาพแวดล้อมในการใช้งานจริงอาจแตกต่างจากการโฆษณา และบางทีรีวิวจากคนไทยด้วยกันจะเข้าใจง่ายและตรงใจเรามากกว่า
• 2. ความสบายในการสวมใส่ เล่นยาวแค่ไหนก็ไม่เมื่อย
  เชื่อว่าหลายคนน่าจะเป็นเหมือนกันคือติดลม เล่นเกมทีก็ลากยาวไปหลายชั่วโมง ดังนั้นความสบายของหูฟังนี่เป็นปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญมากๆ เลยนะ หูฟังที่ดีต้องไม่บีบศีรษะจนเกินไป ไม่ร้อนหู หรือทำให้ปวดเมื่อยเมื่อใส่ไปนานๆ ลองดูวัสดุของ Earcups (ฟองน้ำครอบหู) ซึ่งมีทั้งแบบผ้าและแบบหนัง แบบผ้าจะระบายอากาศได้ดีกว่า ทำให้ไม่ร้อนหูง่าย เหมาะกับอากาศบ้านเรา แต่แบบหนังก็ให้ความรู้สึกพรีเมียมและช่วยเรื่องการเก็บเสียงได้ดีกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้ยังต้องดูที่คาดศีรษะด้วยว่ามีการบุฟองน้ำมาดีพอหรือไม่ หรือเป็นแบบแถบคาดแบบลอยตัวที่ช่วยกระจายน้ำหนัก (แบบที่เห็นในหูฟัง SteelSeries บางรุ่น) น้ำหนักของหูฟังเองก็มีผล ถ้าหูฟังหนักเกินไปจะทำให้ปวดคอและศีรษะได้เมื่อใช้นานๆ ควรเลือกหูฟังที่มีน้ำหนักพอดีๆ ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomic Design) ก็มีส่วนช่วยให้ใส่สบายขึ้น การลองสวมใส่ดูก่อนถ้ามีโอกาส หรืออ่านรีวิวที่พูดถึงความสบายในการใช้งานเป็นเวลานานๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ อย่ามองข้ามจุดนี้นะ เพราะถ้าหูฟังไม่สบาย ต่อให้เสียงดีแค่ไหนก็อาจจะไม่อยากหยิบมาใช้บ่อยๆ ก็ได้
• 3. ไมโครโฟนที่ชัดเจน สื่อสารไม่มีสะดุด
  สำหรับชาว PS4 ที่ชอบเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนๆ หรือเล่นเกมที่ต้องใช้การสื่อสาร การมีไมโครโฟนคุณภาพดีเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เลยนะ ไมค์ที่ดีควรจะรับเสียงพูดของเราได้อย่างชัดเจน ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมได้ยินเราพูดได้อย่างชัดเจนและเข้าใจตรงกัน ลองดูว่าหูฟังมีไมโครโฟนแบบไหน เช่น ไมค์บูม (แบบมีก้าน) ที่ส่วนใหญ่จะให้เสียงชัดเจนกว่า และบางรุ่นสามารถถอดออกได้หรือพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน ซึ่งสะดวกมากๆ หรือเป็นแบบไมค์ซ่อนในตัวหูฟัง (แบบที่เห็นใน Sony PULSE 3D) ซึ่งจะทำให้หูฟังดูเรียบง่ายกว่า แต่คุณภาพเสียงอาจจะไม่ดีเท่าไมค์บูม นอกจากนี้ บางรุ่นยังมีฟีเจอร์ Noise-Cancelling ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม เช่น เสียงพัดลม เสียงคนคุยกัน ทำให้เสียงพูดของเราเด่นชัดขึ้นไปอีก ถ้าเน้นการสื่อสาร ลองหาหูฟังที่มีการรับรองจาก Discord หรือ TeamSpeak เพราะนั่นหมายถึงคุณภาพไมโครโฟนที่ดีตามมาตรฐาน การอ่านรีวิวหรือดูคลิปทดสอบเสียงไมโครโฟนจากผู้ใช้งานจริงจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของประสิทธิภาพไมค์ได้ดีที่สุดครับ จำไว้ว่าการสื่อสารที่ดีคือหัวใจสำคัญของชัยชนะในหลายๆ เกมออนไลน์!

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟัง PS4

• Q: หูฟังเกมมิ่งสำหรับ PS4 แตกต่างจากหูฟังทั่วไปยังไง?
  A: หูฟังเกมมิ่งสำหรับ PS4 หรือเครื่องคอนโซลอื่นๆ มักจะถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์โดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะมีคุณภาพเสียงที่เน้นรายละเอียดและทิศทางเสียงในเกมได้ดีกว่า เพื่อช่วยให้ระบุตำแหน่งศัตรูหรือดื่มด่ำกับบรรยากาศในเกมได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมักจะมีไมโครโฟนคุณภาพสูงสำหรับการสื่อสารในเกมออนไลน์ และเน้นความสบายในการสวมใส่เป็นเวลานานด้วยวัสดุที่ระบายอากาศได้ดีหรือดีไซน์ที่ลดแรงกดทับ บางรุ่นยังมีฟังก์ชันการควบคุมเสียงเฉพาะสำหรับการเล่นเกม เช่น ปุ่มปรับ Game/Chat Balance หรือรองรับระบบเสียงจำลองที่ให้มิติเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น

• Q: หูฟัง PS4 แบบมีสายหรือไร้สายดีกว่ากัน?
  A: ทั้งแบบมีสายและไร้สายต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปครับ แบบมีสายให้ความเสถียรของการเชื่อมต่อสูง เสียงดีเลย์ต่ำที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ และมักจะมีราคาที่ย่อมเยากว่า ในขณะที่แบบไร้สายให้ความสะดวกสบายและอิสระในการเคลื่อนไหวมากกว่า ไม่มีสายมารบกวน แต่ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องความเสถียรของสัญญาณหรือเสียงดีเลย์ได้ในบางรุ่น และต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่ การเลือกขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์การเล่นของคุณ ถ้าเน้นความเสถียรสูงสุดและการแข่งขัน อาจจะเหมาะกับแบบมีสายมากกว่า แต่ถ้าเน้นความสะดวกสบาย เล่นระยะไกล หรือไม่ชอบสายเกะกะ แบบไร้สายก็น่าสนใจครับ อย่าลืมเช็คว่าหูฟังไร้สายนั้นรองรับการเชื่อมต่อกับ PS4 โดยเฉพาะด้วยนะครับ เพราะหูฟัง Bluetooth ทั่วไปอาจจะไม่สามารถใช้ได้

• Q: หูฟังสำหรับ PS4 สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์อื่นได้ไหม?
  A: ส่วนใหญ่แล้วหูฟังเกมมิ่งสำหรับ PS4 มักจะรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วยครับ โดยเฉพาะรุ่นที่เชื่อมต่อผ่านแจ็ค 3.5 มม. ซึ่งสามารถใช้กับ PC, Mobile, Nintendo Switch และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีพอร์ตเดียวกันได้ บางรุ่นที่เชื่อมต่อแบบ USB ก็อาจจะรองรับการใช้งานกับ PC หรือ Mac ได้เช่นกัน รุ่นที่เป็นแบบไร้สายบางรุ่นอาจจะมีตัวเลือกการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth หรือมีสาย 3.5 มม. เพิ่มเติมมาให้ด้วย ทำให้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลจำเพาะของหูฟังแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ที่คุณต้องการได้ครบถ้วนครับ

• [Akponential] หูฟังที่ดีที่สุดปี 2025 (เสียงดีสุด? ไมค์ดีสุด? เล่นเกมส์ดี ...

• Best of หูฟังเกมมิ่งดีที่สุดในงบต่างๆ ปี 2023-2024

• 10 อันดับสุดยอดหูฟังขายดีประจำปี 2024 | Top 10 Headphones ...

• แนะนำหูฟังเล่นเกมรุ่นใหม่สำหรับคุณ

• จัดอันดับหูฟังไร้สาย น่าใช้ในปี 2024 | 425Audio Live