logo

10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อากาศสะอาด หายใจสบาย

user avatar
ภูมิ พงศ์ธนาธิป·06/25/2025 15:39
点赞
10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อากาศสะอาด หายใจสบาย

สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่รักสุขภาพปอดและอยากมีอากาศสะอาดบริสุทธิ์ในบ้านทุกคน! 👋 ยิ่งช่วงนี้ที่ประเทศไทยเราต้องเผชิญกับสารพัดมลภาวะ ทั้งฝุ่น PM2.5 ควัน กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือแม้แต่เชื้อโรคต่างๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า การมี "เครื่องฟอกอากาศ" ติดบ้านไว้ก็เหมือนมีบอดี้การ์ดส่วนตัวคอยดูแลสุขภาพปอดให้เราและคนที่คุณรัก หายใจได้เต็มปอดแบบสบายใจไร้กังวลจริงๆ ครับ

แต่พอจะซื้อทีไร โอโห้...ในตลาดมีเครื่องฟอกอากาศให้เลือกเยอะมากกกก หลากหลายยี่ห้อ รุ่น ฟังก์ชัน และราคา จนบางทีก็งงไปหมดว่าจะเลือกตัวไหนดีให้คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋า และตอบโจทย์การใช้งานในบ้านเราที่สุด?

ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมเองก็เป็นคนไทยที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพอากาศ และผ่านประสบการณ์การหาข้อมูล เปรียบเทียบ และเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศมาพอสมควร วันนี้ผมจะมาเป็นเพื่อนช่วยคิด ช่วยตัดสินใจ พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกเรื่องเครื่องฟอกอากาศในแบบฉบับคนไทย พร้อมแนะนำ 10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง ได้รับเสียงตอบรับดีจากผู้ใช้งานจริงในไทย อ่านจบแล้วรับรองว่าเลือกเครื่องฟอกอากาศคู่ใจได้แน่นอน!

ตลาดเครื่องฟอกอากาศในไทย คึกคักแค่ไหน?

บอกเลยว่าตลาดเครื่องฟอกอากาศในประเทศไทยตอนนี้กำลัง เติบโตอย่างก้าวกระโดด! จากปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ที่กลับมาเป็นประเด็นใหญ่แทบทุกปี ทำให้คนไทยตื่นตัวและเห็นความสำคัญของการมีอากาศสะอาดในบ้านมากขึ้น เครื่องฟอกอากาศเลยกลายเป็นไอเทมจำเป็นในหลายๆ ครัวเรือนไปแล้วครับ

ผู้เล่นหลักในตลาดส่วนใหญ่ยังคงเป็น แบรนด์นำเข้า จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน ที่ครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ไว้ ทั้งแบรนด์ใหญ่ที่คุ้นหูอย่าง Philips, Sharp, Daikin, Samsung, LG, Panasonic, Xiaomi และแบรนด์อื่นๆ ส่วนแบรนด์ฝั่งยุโรปและอเมริกาอย่าง Blueair หรือ Dyson ก็มีกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่ให้ความสนใจ

พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทย เวลาเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศจะเน้นไปที่ปัจจัยหลายอย่างรวมกันครับ จากผลวิจัยพบว่าเรื่อง ราคาที่เหมาะสมและความคุ้มค่า เป็นสิ่งแรกๆ ที่ผู้บริโภคคำนึงถึง ตามมาด้วย คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องมลภาวะในอากาศได้จริง ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพของแผ่นกรอง (ต้องเป็น HEPA Filter ที่กรอง PM2.5 ได้) ค่า CADR (อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์) ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ ชื่อเสียงของแบรนด์ และ ช่องทางการจัดจำหน่าย ที่เข้าถึงง่ายก็มีผลต่อการตัดสินใจครับ แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็แน่นอนว่าต้องเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีตัวเลือกเยอะและโปรโมชั่นเพียบ หรือถ้าใครอยากไปดูของจริง สัมผัสตัวเครื่อง ก็ต้องไปตามห้างสรรพสินค้า แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ครับ

เลือกเครื่องฟอกอากาศยังไงให้ได้เครื่องที่ใช่?

ก่อนจะเสียเงินซื้อเครื่องฟอกอากาศสักเครื่อง เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูลิสต์นี้แล้วสำรวจความต้องการของตัวเองได้เลย:

  • ขนาดห้อง (Area Coverage / CADR): สำคัญที่สุด! ต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้องที่เราจะนำไปใช้ ดูจากค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) หรือพื้นที่ครอบคลุม (ตร.ม.) ที่ผู้ผลิตระบุ ยิ่งค่า CADR สูง ก็ยิ่งฟอกอากาศในพื้นที่ใหญ่ๆ ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพครับ
  • ประเภทของแผ่นกรอง (Filter Type): หัวใจหลักของเครื่องฟอกอากาศ! ควรเลือกเครื่องที่มีแผ่นกรองอย่างน้อย 3 ชั้น คือ Pre-Filter (กรองฝุ่นหยาบ) , Activated Carbon Filter (กรองกลิ่นและสารเคมี) และที่สำคัญคือ HEPA Filter (High Efficiency Particulate Air Filter) ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กมากๆ อย่าง PM2.5 ได้ถึง 99.97% หรือบางรุ่นอาจมีเทคโนโลยีอื่นๆ เสริม เช่น แผ่นกรองฆ่าเชื้อ แผ่นกรองดักจับสารก่อภูมิแพ้
  • ฟังก์ชันพิเศษและเทคโนโลยี: เครื่องฟอกอากาศยุคใหม่มาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกเพียบ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศและปรับการทำงานอัตโนมัติ, หน้าจอแสดงผลค่า PM2.5 แบบเรียลไทม์, การเชื่อมต่อ Wi-Fi ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ, โหมด Sleep ที่ทำงานเงียบมากๆ หรือบางแบรนด์มีเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง Plasmacluster ของ Sharp หรือ Nanoe™ ของ Panasonic
  • ระดับเสียงรบกวน (Noise Level): ถ้าจะเปิดเครื่องตลอดเวลา โดยเฉพาะในห้องนอน ต้องดูค่าระดับเสียง (เดซิเบล, dB) ด้วยครับ ยิ่งค่าน้อยยิ่งเงียบ บางรุ่นมีโหมด Sleep ที่ทำงานเงียบเป็นพิเศษเพื่อให้ไม่รบกวนการนอน
  • ราคาและค่าใช้จ่ายระยะยาว: นอกจากราคาเครื่องแล้ว อย่าลืมคำนึงถึง ค่าเปลี่ยนแผ่นกรอง ด้วยนะครับ แผ่นกรองส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพอากาศ ควรเช็คราคาและหาซื้อแผ่นกรองเปลี่ยนได้ง่ายในไทย
  • ชื่อเสียงแบรนด์และบริการหลังการขาย: เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีศูนย์บริการในไทย หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ง่าย เผื่อมีปัญหาหรือต้องการซื้ออะไหล่ครับ บางแบรนด์มีบริการ On-site Service หรือรับประกันยาวนานก็เป็นข้อดี
  • ดีไซน์และการวางตำแหน่ง: เลือกดีไซน์ที่เข้ากับการตกแต่งบ้าน และมีขนาดที่สามารถจัดวางในพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม ควรวางเครื่องฟอกอากาศให้ห่างจากผนังหรือเฟอร์นิเจอร์พอสมควรเพื่อให้การไหลเวียนอากาศดีที่สุด

ส่อง! 10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่น่าสอย

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 แบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย และมีรุ่นที่น่าสนใจในปี 2025 นี้ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. Xiaomi (เสียวหมี่)

แบรนด์จากจีน เจ้าตลาดสินค้าสมาร์ทโฮม ที่มีเครื่องฟอกอากาศยอดฮิต ติดอันดับขายดีตลอดกาลในไทย เพราะ ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า และมีฟังก์ชันฉลาดๆ ครบครัน

  • รุ่นแนะนำ: Xiaomi Smart Air Purifier 4 Series (4, 4 Lite, 4 Pro, 4 Compact), Xiaomi Smart Air Purifier Elite
  • จุดเด่น: ราคาเข้าถึงง่ายเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ เชื่อมต่อและควบคุมผ่านแอป Mi Home ได้สะดวก แสดงผลค่า PM2.5 ได้ ดีไซน์มินิมอล เข้าได้กับทุกบ้าน แผ่นกรองหาซื้อง่าย
  • ข้อเสีย: บางรุ่นเสียงพัดลมอาจจะดังบ้างเมื่อเปิดแรงสุด ต้องระวังแผ่นกรองปลอมที่ไม่ได้คุณภาพ
  • เหมาะกับ: ผู้ที่มองหาเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะในราคาสบายกระเป๋า คนที่ชอบควบคุมอุปกรณ์ผ่านแอป นักศึกษา คนอยู่คอนโด/ห้องขนาดเล็กถึงกลาง
  • ช่องทางซื้อ: Xiaomi Store Thailand, BaNANA IT, JIB, Advice, Power Buy, Com7, รวมถึงร้านค้า Official Store บน Lazada และ Shopee
  • ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักพันปลายๆ ไปจนถึงหมื่นต้นๆ
  • รีวิว: "ราคาดี ฟังก์ชันครบ เชื่อมแอปแล้วชีวิตง่ายขึ้นเยอะ!" - ผู้ใช้ Xiaomi. "ใช้รุ่น Compact ในห้องนอนสบายๆ เลย เงียบดีตอนกลางคืน" - คนอยู่คอนโด.

2. Philips (ฟิลิปส์)

แบรนด์จากเนเธอร์แลนด์ เป็นอีกแบรนด์ยอดนิยมในไทยมานาน ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพการกรองอากาศที่ไว้ใจได้ และมีเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรค

  • รุ่นแนะนำ: Philips Air Purifier 600i, 1000i, 2000i, 3000i Series (เช่น AC0650, AC1715, AC2958, AC3220)
  • จุดเด่น: ระบบกรองหลายชั้นประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะแผ่นกรอง NanoProtect HEPA ที่ดักจับอนุภาคเล็กได้ดี มีเซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศแม่นยำ บางรุ่นควบคุมผ่านแอปได้ มีรุ่นที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มาก
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์จีนในสเปกใกล้เคียงกัน
  • เหมาะกับ: คนที่เน้นประสิทธิภาพการกรองเป็นหลัก ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ต้องการเครื่องที่เชื่อถือได้
  • ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Homepro, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท
  • รีวิว: "เป็นภูมิแพ้แล้วชีวิตดีขึ้นเยอะ กรองได้ไวและรู้สึกได้เลยว่าอากาศสะอาดขึ้น" - ผู้ใช้งานจริง. "รุ่นใหญ่ฟอกอากาศในห้องรับแขกพื้นที่เยอะๆ ได้สบายมาก" - เจ้าของบ้าน.

3. Sharp (ชาร์ป)

แบรนด์จากญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Plasmacluster ที่ช่วยลดปริมาณเชื้อโรค แบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ เป็นแบรนด์ยอดนิยมในกลุ่มราคาเข้าถึงง่าย

  • รุ่นแนะนำ: Sharp FP-J30TA, FP-J40TA, FP-J50TA Series
  • จุดเด่น: เทคโนโลยี Plasmacluster เป็นเอกลักษณ์ช่วยเรื่องฆ่าเชื้อและลดกลิ่น ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีรุ่นขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะกับห้องนอน/คอนโด
  • ข้อเสีย: แผ่นกรอง Plasmacluster บางครั้งอาจมีกลิ่นโอโซนเล็กน้อย (แต่ตามมาตรฐาน) บางรุ่นฟังก์ชันสมาร์ทยังไม่หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น
  • เหมาะกับ: ผู้ที่มองหาเครื่องฟอกอากาศราคาประหยัดที่ช่วยเรื่องฆ่าเชื้อและลดกลิ่นได้ดี คนอยู่ห้องขนาดเล็ก นักศึกษา
  • ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Homepro, Lazada, Shopee
  • ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่น
  • รีวิว: "ซื้อ Sharp มาใช้ในห้องนอน ราคาไม่แพง ช่วยลดกลิ่นอับได้ดี" - ผู้ใช้จริง. "เทคโนโลยี Plasmacluster เหมือนช่วยให้อากาศสดชื่นขึ้น" - ลูกค้า.

4. Daikin (ไดกิ้น)

แบรนด์จากญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพในเรื่องระบบปรับอากาศ รวมถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยี Flash Streamer ช่วยย่อยสลายสิ่งปนเปื้อน

  • รุ่นแนะนำ: Daikin Streamer Series (เช่น MC55ZV1S, MCK55TVM)
  • จุดเด่น: เทคโนโลยี Flash Streamer ช่วยย่อยสลายไวรัส แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ได้ ระบบกรองอากาศมีประสิทธิภาพ ความทนทานสูง เหมาะกับการใช้งานระยะยาว
  • ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะดูเรียบง่าย ราคาค่อนข้างสูงในบางรุ่น
  • เหมาะกับ: ผู้ที่เน้นความทนทาน ประสิทธิภาพการกรองขั้นสูง และเทคโนโลยีช่วยย่อยสลายเชื้อโรค ต้องการเครื่องที่ใช้งานได้ยาวนาน
  • ช่องทางซื้อ: ตัวแทนจำหน่าย Daikin, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Homepro
  • ช่วงราคา: หลักหมื่นต้นๆ ขึ้นไป
  • รีวิว: "ใช้ Daikin ทั้งแอร์ทั้งเครื่องฟอกอากาศ ทนทาน ไม่มีปัญหาเลย" - ลูกค้าประจำ. "เทคโนโลยี Streamer ฟังดูน่าสนใจ ช่วยให้มั่นใจเรื่องเชื้อโรค" - ผู้สนใจ.

5. Blueair (บลูแอร์)

แบรนด์จากสวีเดน ผู้นำตลาดเครื่องฟอกอากาศระดับพรีเมียมในไทย โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่รวดเร็วและดีไซน์ที่เรียบหรู

  • รุ่นแนะนำ: Blueair Blue Series, Classic Series, HealthProtect Series (เช่น Blue Max 3250, Classic 405, HealthProtect 7770i)
  • จุดเด่น: ฟอกอากาศได้รวดเร็วด้วยเทคโนโลยี HEPASilent™ (บางรุ่น) ประสิทธิภาพการกรองสูงมาก เหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้หรืออยู่ในพื้นที่มลพิษสูง ดีไซน์สวยงามทันสมัย มีบริการหลังการขายที่ดีในกลุ่มพรีเมียม
  • ข้อเสีย: ราคาสูง ค่าเปลี่ยนแผ่นกรองค่อนข้างสูง
  • เหมาะกับ: ผู้ที่เน้นประสิทธิภาพการฟอกอากาศสูงสุด ต้องการเครื่องระดับพรีเมียม ดีไซน์สวยงาม ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ขั้นรุนแรง
  • ช่องทางซื้อ: ตัวแทนจำหน่าย Blueair (แสงชัย แอร์ควอลิตี้), ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (เช่น Central, Emporium), Power Buy, Boonthavorn, ช่องทางออนไลน์
  • ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักหมื่นกลางๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท
  • รีวิว: "ยอมลงทุนกับ Blueair เพราะเป็นภูมิแพ้หนักมาก รู้สึกว่าอากาศดีขึ้นจริงๆ" - ผู้ใช้ Blueair. "ดีไซน์สวยมาก วางตรงไหนก็ดูดี" - คนรักการแต่งบ้าน.

6. Coway (โคเวย์)

แบรนด์จากเกาหลีใต้ มีชื่อเสียงด้านเครื่องกรองน้ำและเครื่องฟอกอากาศ โดดเด่นที่ระบบการกรองหลายขั้นตอนและบริการหลังการขายแบบ Subscription

  • รุ่นแนะนำ: Coway Air Purifiers (เช่น Storm, Lombok III)
  • จุดเด่น: ระบบกรองหลายชั้นละเอียด บางรุ่นมีพัดลมกระจายอากาศได้ไกล มีบริการเปลี่ยนไส้กรองและดูแลเครื่องถึงบ้าน (สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการแบบ Subscription)
  • ข้อเสีย: ราคาสูงเมื่อรวมค่าบริการรายเดือน/รายปีหากใช้แบบ Subscription
  • เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่มาพร้อมบริการดูแลรักษาถึงบ้าน ไม่ต้องคอยเปลี่ยนไส้กรองเอง คนที่เน้นความสะดวกสบาย
  • ช่องทางซื้อ: ตัวแทนจำหน่าย Coway, ช่องทางออนไลน์
  • ช่วงราคา: มีทั้งแบบซื้อขาดและแบบ Subscription (ค่าเครื่อง+บริการรายเดือน)
  • รีวิว: "สะดวกมากที่มีคนมาเปลี่ยนไส้กรองให้ถึงบ้าน ไม่ต้องจำว่าถึงเวลาเปลี่ยนหรือยัง" - ลูกค้า Coway.

7. Dyson (ไดสัน)

แบรนด์จากอังกฤษ ขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมและดีไซน์ล้ำสมัย เครื่องฟอกอากาศมักมาพร้อมฟังก์ชันพัดลมหรือฮีตเตอร์ในตัว

  • รุ่นแนะนำ: Dyson Purifier Cool/Hot/Formaldehyde Series (เช่น TP10, HP07, TP09)
  • จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม เป็นได้ทั้งเครื่องฟอกอากาศและพัดลม (หรือฮีตเตอร์) กรองอากาศได้ละเอียดถึงระดับ HEPA 13 ตรวจจับและแสดงค่ามลพิษต่างๆ ได้
  • ข้อเสีย: ราคาสูงมาก แผ่นกรองราคาสูง
  • เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำๆ ต้องการฟังก์ชันหลากหลายในเครื่องเดียว ผู้ที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพอากาศขั้นสูงและงบประมาณไม่ใช่ปัญหา
  • ช่องทางซื้อ: Dyson Demo Store, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Lazada, Shopee
  • ช่วงราคา: หลักหมื่นกลางๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท
  • รีวิว: "ดีไซน์สวยสุดๆ เป็นเครื่องประดับบ้านได้เลย แถมฟอกอากาศดีด้วย" - แฟนคลับ Dyson. "ซื้อตัวที่เป็นทั้งพัดลมทั้งเครื่องฟอกอากาศ คุ้มดี ใช้งานได้ทั้งปี" - ผู้ใช้.

8. LG (แอลจี)

แบรนด์จากเกาหลีใต้ มีเครื่องฟอกอากาศดีไซน์โดดเด่น โดยเฉพาะรุ่น PuriCare 360 ที่เป็นทรงกลมฟอกอากาศได้รอบทิศทาง

  • รุ่นแนะนำ: LG PuriCare 360 Series, LG PuriCare New 360 Series
  • จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม ฟอกอากาศได้รอบทิศทาง 360 องศา มีฟังก์ชันปล่อยลมสะอาดขึ้นด้านบนช่วยกระจายอากาศได้ไกล บางรุ่นมีเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละเอียดมาก
  • ข้อเสีย: ราคาสูงในรุ่นเรือธง
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบดีไซน์ทันสมัย ต้องการเครื่องที่ฟอกอากาศได้ครอบคลุมทั่วห้องอย่างรวดเร็ว ผู้ที่เน้นฟังก์ชันและความสวยงามควบคู่กัน
  • ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Homepro, Lazada, Shopee
  • ช่วงราคา: มีตั้งแต่หลักพันปลายๆ ในรุ่นเล็ก ไปจนถึงหลายหมื่นบาทในรุ่น PuriCare 360
  • รีวิว: "LG PuriCare 360 ตัวจริงสวยมาก วางกลางห้องแล้วฟอกอากาศได้ทั่วถึงดี" - ผู้ใช้. "ชอบฟังก์ชันปล่อยลมขึ้นด้านบน รู้สึกว่าอากาศหมุนเวียนดี" - ลูกค้า.

9. Hitachi (ฮิตาชิ)

แบรนด์จากญี่ปุ่น เป็นอีกแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คนไทยคุ้นเคย มีเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นและกลิ่น

  • รุ่นแนะนำ: Hitachi Air Purifier Series (เช่น EP-TZ50WO)
  • จุดเด่น: ความทนทานตามแบบฉบับแบรนด์ญี่ปุ่น ระบบกรองอากาศมาตรฐาน HEPA ช่วยจัดการฝุ่นและกลิ่น มีรุ่นที่ราคาไม่สูงมากนัก
  • ข้อเสีย: ฟังก์ชันอาจจะไม่หวือหวาเท่าแบรนด์ที่เน้นเทคโนโลยีสมัยใหม่
  • เหมาะกับ: ผู้ที่มองหาเครื่องฟอกอากาศที่เน้นความทนทาน ใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นและกลิ่นพื้นฐาน จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้
  • ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Homepro, Lazada, Shopee
  • ช่วงราคา: เริ่มต้นหลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักหมื่น
  • รีวิว: "ใช้ Hitachi มานานหลายอย่าง ทนทานดี เลยลองซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้ด้วย" - ผู้ใช้ Hitachi. "กรองฝุ่น กรองกลิ่นได้โอเคสำหรับใช้ในห้องนอน" - ลูกค้า.

10. Sharp (ชาร์ป) - เพิ่มอีกรุ่นเด่น

ขอเพิ่ม Sharp อีกรุ่นที่นิยมมากๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศพร้อมฟังก์ชันทำความชื้นในตัว

  • รุ่นแนะนำ: Sharp Air Purifier with Humidifying Function (เช่น KC-G40TA, KC-G50TA)
  • จุดเด่น: เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีระบบทำความชื้นในตัว ช่วยปรับสมดุลความชื้นในอากาศ เหมาะสำหรับห้องที่เปิดแอร์บ่อยๆ หรือคนที่มีปัญหาผิวแห้ง/ทางเดินหายใจแห้ง มีเทคโนโลยี Plasmacluster ด้วย
  • ข้อเสีย: ต้องคอยเติมน้ำในถังทำความชื้น ตัวเครื่องอาจมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นที่ไม่มีฟังก์ชันทำความชื้น
  • เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการทั้งอากาศสะอาดและอากาศที่มีความชื้นเหมาะสม คนที่อยู่ห้องแอร์นานๆ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความชื้นในอากาศ
  • ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Homepro, Lazada, Shopee
  • ช่วงราคา: หลักหมื่นขึ้นไป
  • รีวิว: "ชอบที่มีระบบทำความชื้นในตัว เปิดแอร์ทั้งคืนก็ไม่รู้สึกแสบจมูกแล้ว" - ผู้ใช้จริง. "เครื่องเดียวได้ทั้งฟอกอากาศทั้งเพิ่มความชื้น สะดวกดี" - ลูกค้า.

*หมายเหตุ: บางแบรนด์ เช่น Smarthome, Imarflex, Kashiwa, Venz หรือแม้แต่ Smart Air จากงานวิจัยก็มีรุ่นที่น่าสนใจในราคาที่เข้าถึงง่ายและได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานที่เน้นความคุ้มค่าเช่นกัน ซึ่งอาจพิจารณาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมได้ครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: ซื้อเครื่องฟอกอากาศมาแล้ว ต้องเปิดตลอดเวลาเลยไหม?
A: เพื่อให้อากาศในห้องสะอาดสม่ำเสมอ การเปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ตลอดเวลาก็เป็นวิธีที่ดีครับ แต่ถ้ากังวลเรื่องค่าไฟ (ซึ่งหลายรุ่นประหยัดไฟพอตัว) ก็อาจจะเปิดเฉพาะช่วงที่เราใช้งานห้องนั้นบ่อยๆ เช่น ในห้องนอนตอนกลางคืน หรือห้องนั่งเล่นตอนกลางวันครับ

Q: เปิดเครื่องฟอกอากาศพร้อมเปิดหน้าต่าง/พัดลมได้ไหม?
A: ในทางเทคนิคทำได้ครับ แต่ถ้าเปิดหน้าต่างเครื่องฟอกอากาศจะต้องทำงานหนักขึ้นมากเพื่อกรองอากาศที่ไหลเวียนเข้ามาใหม่ตลอดเวลา ซึ่งอาจไม่เต็มประสิทธิภาพ ควรปิดประตูหน้าต่างขณะเปิดเครื่องฟอกอากาศเพื่อให้เครื่องทำงานในพื้นที่ปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนการเปิดพัดลมพร้อมกัน สามารถช่วยให้การหมุนเวียนอากาศในห้องดีขึ้น และช่วยให้เครื่องฟอกอากาศกระจายอากาศสะอาดได้ทั่วถึงมากขึ้นครับ

Q: เครื่องฟอกอากาศช่วยเรื่องกลิ่นได้จริงเหรอ?
A: ได้ครับ! เครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่จะมีแผ่นกรอง Activated Carbon ที่ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ดี เช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง กลิ่นอับ หรือควันบุหรี่

Q: แผ่นกรองต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน หาซื้อยากไหมในไทย?
A: โดยทั่วไปแผ่นกรองมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพอากาศ เครื่องส่วนใหญ่จะมีไฟเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนครับ ส่วนการหาซื้อแผ่นกรองเปลี่ยน แบรนด์ดังๆ ส่วนใหญ่มีวางขายตามร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ทั่วไปครับ ควรเช็คราคาและดูว่าเป็นแผ่นกรองของแท้ตรงรุ่นด้วยนะครับ

Q: เครื่องฟอกอากาศแบบปล่อยประจุ (Ionizer) ปลอดภัยไหม?
A: เครื่องฟอกอากาศแบบปล่อยประจุ (Ionizer) ช่วยดักจับฝุ่นในอากาศได้ แต่บางรุ่นอาจปล่อยก๊าซโอโซนออกมา ซึ่งถ้ามีปริมาณมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ครับ ควรเลือกเครื่องที่ระบุว่าปล่อยโอโซนน้อยหรือไม่ปล่อยเลย หรือมีมาตรฐานรับรองความปลอดภัยครับ

สรุปและคำแนะนำ: เลือกเครื่องฟอกอากาศให้โดนใจ!

เป็นยังไงบ้างครับกับข้อมูลและ 10 แบรนด์เครื่องฟอกอากาศน่าสนใจในปี 2025 นี้ หวังว่าคงจะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ การเลือกเครื่องฟอกอากาศคู่ใจนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง:

  • ถ้า งบประมาณจำกัด แต่อยากได้ฟังก์ชันครบๆ เน้นความคุ้มค่า ลองดู Xiaomi, Sharp (รุ่นเล็ก), Smarthome, Imarflex ครับ
  • ถ้าเน้น ประสิทธิภาพการกรองสูงสุด หรือเป็น ภูมิแพ้/หอบหืด แนะนำ Philips, Blueair, Daikin, Dyson ครับ
  • ถ้าต้องการ ดีไซน์สวยล้ำ หรือมี ฟังก์ชันพิเศษ เช่น เป็นทั้งพัดลม/ฮีตเตอร์ หรือฟอกอากาศ 360 องศา ลองดู Dyson, LG ครับ
  • ถ้าอยากได้ ความสะดวกสบาย พร้อมบริการดูแลรักษาถึงบ้าน ลองดู Coway ครับ
  • ถ้าต้องการ ฟังก์ชันทำความชื้น ในตัวด้วย แนะนำ Sharp รุ่นที่มีระบบทำความชื้น ครับ

สิ่งสำคัญที่ต้อง ระวัง เลยคือเรื่องการซื้อแผ่นกรองปลอมที่คุณภาพไม่ดี อาจทำให้เครื่องทำงานได้ไม่เต็มที่ ควรซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ครับ และอย่าลืมเช็ค ขนาดพื้นที่ครอบคลุม (CADR) ให้เหมาะสมกับห้องที่เราจะใช้ด้วยนะครับ การมีเครื่องฟอกอากาศดีๆ ในบ้าน จะช่วยให้เราและคนที่คุณรักหายใจได้อย่างสบายใจ มีสุขภาพที่ดีขึ้นแน่นอนครับ!

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หรือมีคำถามถามได้เลยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้เครื่องฟอกอากาศรุ่นไหน แบรนด์ไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไงกันบ้าง ดีไม่ดีตรงไหน เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! หรือถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับรุ่นไหน แบรนด์ไหน หรืออยากให้ช่วยเปรียบเทียบตัวไหนเป็นพิเศษ คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครอ่านแล้วถูกใจ ได้ประโยชน์ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นเด็ดๆ ของเครื่องฟอกอากาศรุ่นที่สนใจ รบกวนพิมพ์คำว่า "ขอลิงก์หน่อยค่า/ครับ!" เดี๋ยวผมจะรวบรวมแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์ที่น่าสนใจ พร้อมโปรโมชั่นดีๆ มาฝากเป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะครับ สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่ะเหล่าแม่ๆ ชาวไทยหัวใจนักช้อปทั้งหลาย! วันนี้เจ๊มาพร้อมกับเรื่องที่คุณแม่มือใหม่ หรือแม่ๆ ที่กำลังมองหาไอเทมเด็ดๆ ให้เจ้าตัวเล็กต้องห้ามพลาด นั่นก็คือ "เบาะนอนทารก" นั่นเอง! บอกเลยว่าเรื่องนอนหลับพักผ่อนของลูกน้อยนี่สำคัญสุดๆ เพราะส
10 เบาะนอนทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ระบายอากาศดีเยี่ยม ไม่ยุบตัว
สวัสดีค่าาา! คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ หัวใจช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกท่าน วันนี้เจอกับดิฉันอีกแล้วนะคะ ในฐานะตัวแม่สายเปย์ (เพื่อลูก) ที่คัดสรรของดีมีคุณภาพมาฝากกันอีกเช่นเคย รู้ไหมว่าไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับบ้านที่มีเจ้าตัวเล็กวัยกำลังซน กำล
10 คอกกั้นทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 แข็งแรงทนทาน ปลอดภัย
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายGadget และมนุษย์ที่รักในเสียงเพลงทุกคน! 👋 ในยุคที่อะไรๆ ก็ไร้สายไปหมด แต่เครื่องเสียงตัวเก่ง หรือลำโพงตัวโปรดของเราบางทียังเป็นรุ่นเก่าที่ไม่มีบลูทูธนี่สิ จะทำยังไงดีล่ะ?ไม่ต้องกลัวครับ! เพราะ "ตัวรับสัญญาณบลูทูธ" หรือ
10 ตัวรับสัญญาณบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เชื่อมต่อง่าย เสียงดี

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

Okay, I have gathered information on popular 24000 BTU air conditioner brands in Thailand, their features (Inverter, energy saving labels like Energy Saving Label No. 5 with stars, EER/SEER values, air purification), price ranges, and where
10 แอร์ 24000 BTU ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เย็นฉ่ำ ประหยัดพลังงาน
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังมองหา "เพื่อนคู่ครัว" ตัวใหม่ ที่จะช่วยเก็บอาหารให้สดใหม่ แถมยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าช่วงค่าไฟพุ่งกระฉูด! 👋 ในยุคที่ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน การมีตู้เย็นดีๆ สักเครื่องไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่กลายเป็นปัจจัย
10 ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 จุเยอะ ประหยัดพลังงาน
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวไทยหัวใจรักความสะอาด (แต่แอบขี้เกียจ) ทุกคน! 👋 ในยุคที่ฝุ่น PM 2.5 ก็มาเยือนเป็นพักๆ แถมชีวิตก็ยุ่งเหยิงซะเหลือเกิน การจะหยิบไม้กวาดมาปัดๆ แล้วเจอฝุ่นฟุ้งกระจาย หรือจะก้มๆ เงยๆ ถูบ้านก็เมื่อยหลังเกินไป... บอ
10 เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 แรงดูดดี ทำความสะอาดง่าย

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ