วางระบบ Network ในบ้านและสำนักงาน ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่? พร้อมผู้ให้บริการแนะนำ


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องใกล้ตัวมากๆ ในยุคดิจิทัลแบบนี้ นั่นก็คือเรื่อง การวางระบบ Network ในบ้านและสำนักงานนั่นเอง! ใครที่กำลังปวดหัวกับปัญหาเน็ตช้า เน็ตหลุด สัญญาณอ่อน หรืออยากจะขยายจุดใช้งานให้ครอบคลุมทุกซอกทุกมุม มาฟังทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาแกะงบประมาณ พร้อมแนะนำผู้ให้บริการแบบเข้าใจง่าย สไตล์กันเอง พร้อมแล้วก็ไปดูกันเล้ย!
1. ระบบ Network ในบ้านและสำนักงานคืออะไร? ทำไมต้องวางระบบ?
พูดง่ายๆ เลยนะ ระบบ Network ก็คือโครงข่ายที่เชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ของเราเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต สมาร์ททีวี เครื่องพิมพ์ หรือแม้แต่กล้องวงจรปิด ให้พวกมันคุยกันได้ และที่สำคัญคือให้พวกมันเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ตได้นั่นเอง!
สำหรับ ในบ้าน การวางระบบที่ดีช่วยให้ทุกคนในบ้านใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างราบรื่น จะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ทำงานออนไลน์ หรือประชุมออนไลน์ ก็ไม่มีสะดุด สัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมทั่วถึง ไม่ว่าคุณจะนอนเล่นอยู่บนเตียง หรือนั่งทำงานในสวนหลังบ้าน!
ส่วน ในสำนักงาน นี่สำคัญกว่าเดิมอีกจ้า! ระบบ Network ที่เสถียรและรวดเร็วคือหัวใจหลักในการทำงานเลยนะ ช่วยให้การสื่อสารระหว่างพนักงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว การเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่าย แชร์ไฟล์สะดวก ประชุมออนไลน์ไม่กระตุก และที่สำคัญคือ ความปลอดภัยของข้อมูล ภายในองค์กรด้วยนะ!
กลุ่มผู้ใช้งานที่เหมาะกับการวางระบบ Network แบบจริงจังก็คือ บ้านที่มีพื้นที่กว้าง มีหลายชั้น หรือมีคนใช้งานพร้อมกันหลายคน รวมถึง สำนักงานขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ ที่ต้องการความเสถียร ความปลอดภัย และความสามารถในการขยายระบบในอนาคตนั่นเองจ้า
2. ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ในตลาดไทย?
มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ที่สุด! ค่าใช้จ่ายในการวางระบบ Network เนี่ย มันไม่ได้มีราคาตายตัวนะจ๊ะ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ เปรียบเหมือนการสร้างบ้านนั่นแหละ จะเล็กจะใหญ่ ใช้วัสดุแบบไหน ก็ว่างบไม่เท่ากันใช่มั้ยล่ะ?
ปัจจัยหลักๆ ที่มีผลต่อค่าใช้จ่ายก็คือ:
- ขนาดของพื้นที่: บ้านหลังเล็ก คอนโด หรือสำนักงานใหญ่เบิ้ม ยิ่งพื้นที่กว้างยิ่งต้องใช้อุปกรณ์เยอะ จุดกระจายสัญญาณเยอะ ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้น
- จำนวนผู้ใช้งานและอุปกรณ์: ยิ่งมีคนใช้เยอะ อุปกรณ์เชื่อมต่อเยอะ ก็ต้องการ Bandwidth ที่มากขึ้น อุปกรณ์ Network ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- ความซับซายของโครงสร้างอาคาร: ผนังหนาๆ หลายชั้น หรือมีสิ่งกีดขวางเยอะ สัญญาณ Wi-Fi ก็ไปไม่ถึง อาจจะต้องเดินสาย LAN เพิ่ม หรือใช้อุปกรณ์กระจายสัญญาณแบบพิเศษ
- ประเภทของระบบ: ต้องการแค่ Wi-Fi อย่างเดียว หรือต้องการเดินสาย LAN ทั่วบ้าน/ออฟฟิศด้วย การเดินสายจะมีค่าแรงและค่าสายเพิ่มเข้ามา
- คุณภาพของอุปกรณ์: ใช้ Router ธรรมดาๆ ราคาหลักร้อย หรือใช้ Access Point ระดับองค์กรราคาหลักพันหลักหมื่น หรือใช้ Mesh Wi-Fi System ราคาก็ต่างกันลิบลับ!
- ผู้ให้บริการ: จ้างฟรีแลนซ์ช่างคอมพ์ใกล้บ้าน หรือจ้างบริษัทวางระบบ Network โดยเฉพาะ ราคาก็แตกต่างกันไป
เอาเป็นว่าพอจะประมาณการแบบคร่าวๆ ได้ดังนี้:
- สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป (ขนาดกลางๆ): ถ้าไม่ได้ซับซ้อนมาก อาจจะเริ่มต้นที่ 5,000 - 20,000 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับจำนวนจุดที่ต้องการ และคุณภาพอุปกรณ์ Wi-Fi ที่เลือกใช้ (อาจจะรวมค่า Router หรือ Mesh Wi-Fi บางชุด)
- สำหรับบ้านที่ซับซ้อน มีหลายชั้น ต้องการเดินสาย LAN บางส่วน: งบอาจจะสูงขึ้นไปอีกที่ 15,000 - 50,000 บาท (฿) หรือมากกว่านี้ได้ ถ้าต้องการใช้อุปกรณ์เกรดดี หรือมีการเดินสายที่ยาก
- สำหรับสำนักงานขนาดเล็ก (ไม่เกิน 10-20 คน): งบประมาณอาจจะอยู่ราวๆ 20,000 - 80,000 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องคอมพ์ เซิร์ฟเวอร์ และความต้องการด้านความปลอดภัย
- สำหรับสำนักงานขนาดกลางถึงใหญ่: อันนี้งบประมาณจะค่อนข้างสูงและหลากหลายมากๆ อาจจะเริ่มต้นที่หลัก แสนบาท (฿) ขึ้นไป จนถึงหลัก หลายแสน หรือเป็นล้านบาท (฿) เลยก็มี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน จำนวนผู้ใช้งาน และโซลูชั่นที่เลือกใช้ (เช่น ระบบ Network แยก VLANs, Firewall, Server, etc.)
ราคาพวกนี้เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้นนะ! ทางที่ดีที่สุดคือต้องให้ผู้ให้บริการเข้ามาประเมินหน้างาน เพื่อให้ได้ใบเสนอราคาที่แม่นยำที่สุดจ้า
3. เปรียบเทียบราคาระหว่างจ้างทำกับทำเอง?
คำถามยอดฮิต! จะจ้างผู้เชี่ยวชาญมาวางระบบ หรือจะซื้ออุปกรณ์มาทำเองดี?
ถ้าเปรียบเทียบแค่ ค่าใช้จ่าย อย่างเดียว การ ซื้ออุปกรณ์มาทำเอง มักจะดูเหมือนถูกกว่านะ เพราะเราประหยัดค่าแรงไปได้ แต่! มันมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาด้วยจ้า
- ทำเอง:
- ข้อดี: ประหยัดค่าแรง ควบคุมอุปกรณ์ที่อยากใช้ได้เต็มที่ เรียนรู้ระบบ Network เบื้องต้นได้
- ข้อเสีย: เสียเวลาศึกษาข้อมูลและติดตั้งเองทั้งหมด อาจเจอปัญหาจุกจิกที่ไม่รู้จะแก้ยังไง ถ้าไม่มีความรู้พื้นฐานด้าน Network อาจทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือเลือกอุปกรณ์ไม่เหมาะสมกับความต้องการ เสียเวลาทดลองและแก้ไขปัญหาเอง
- จ้างผู้เชี่ยวชาญ:
- ข้อดี: ได้ระบบที่ออกแบบและติดตั้งโดยผู้มีความรู้ ประสิทธิภาพดี สัญญาณครอบคลุม เสถียร ปลอดภัย ประหยัดเวลา ไม่ต้องปวดหัวกับการติดตั้งและแก้ปัญหาเอง มักจะมีบริการหลังการติดตั้ง (แล้วแต่ตกลง)
- ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าทำเอง ต้องเลือกผู้ให้บริการที่ดี มีความน่าเชื่อถือ
สรุปคือ ถ้าคุณมี ความรู้ด้าน IT/Network อยู่บ้าง พื้นที่ติดตั้งไม่ซับซ้อนมาก และมีเวลาว่างพอสมควร การทำเองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและประหยัดงบได้ แต่ถ้าพื้นที่กว้าง ซับซ้อน ต้องการความเสถียรสูง มีอุปกรณ์เยอะ หรือ ไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่ การ จ้างผู้เชี่ยวชาญ มาดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ มักจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาวนะจ๊ะ ได้ระบบที่ดี ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาเองให้เสียอารมณ์!
4. จ้างแล้วได้อะไรบ้าง? มีบริการอะไรให้บ้างนะ?
เวลาที่เราจ้างบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญมาวางระบบ Network เนี่ย โดยทั่วไปแล้ว เค้าจะมีบริการหลักๆ ดังนี้จ้า:
- การสำรวจและออกแบบระบบ: อันนี้สำคัญมากๆ! ผู้ให้บริการจะเข้ามาดูหน้างาน สำรวจพื้นที่ ความต้องการของเรา (มีอุปกรณ์กี่ชิ้น ใช้งานแบบไหนบ้าง) แล้วเค้าก็จะออกแบบตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ Network ต่างๆ กำหนดจุดเดินสาย (ถ้ามี) เพื่อให้ได้ระบบที่เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานของเราที่สุด
- การเสนอราคา: หลังจากสำรวจและออกแบบแล้ว เค้าก็จะทำใบเสนอราคามาให้เราพิจารณา ซึ่งจะระบุรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น ค่าออกแบบ ค่าอุปกรณ์ (บางทีอุปกรณ์รวมอยู่ในแพ็คเกจ บางทีแยกต่างหาก) ค่าติดตั้ง ค่าแรง
- การจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์: ผู้ให้บริการจะจัดหาอุปกรณ์ Network ที่จำเป็นมาให้ (เช่น Router, Switch, Access Point, สาย LAN, Wall Plate) แล้วก็ดำเนินการติดตั้งตามแบบที่ออกแบบไว้
- การทดสอบและตั้งค่าระบบ: หลังจากติดตั้งเสร็จ เค้าจะทำการทดสอบสัญญาณ Wi-Fi ทดสอบความเร็ว ทดสอบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆ และตั้งค่าระบบ Network ให้เราพร้อมใช้งาน รวมถึงตั้งชื่อ Wi-Fi และรหัสผ่านด้วยนะ
- การส่งมอบงานและสอนการใช้งานเบื้องต้น: เค้าจะสรุปงานที่ทำไปทั้งหมด และอาจจะสอนวิธีการใช้งานเบื้องต้น หรือแนะนำวิธีดูแลรักษาระบบเล็กๆ น้อยๆ ให้เราด้วย
ส่วนเรื่อง ค่าขนส่งอุปกรณ์ ส่วนใหญ่มักจะรวมอยู่ในค่าบริการแล้วนะจ๊ะ หรือบางทีบริษัทอาจจะมีนโยบายส่งฟรีในเขตพื้นที่ให้บริการ ส่วนเรื่อง การรับประกัน อันนี้ต้องสอบถามให้ชัดเจนเลย! โดยทั่วไปจะมีการรับประกัน 2 ส่วน คือ รับประกันคุณภาพของอุปกรณ์ (อันนี้แล้วแต่แบรนด์อุปกรณ์นั้นๆ ซึ่งผู้ให้บริการจะเป็นคนจัดการเคลมให้) และ รับประกันคุณภาพงานติดตั้ง (เช่น รับประกันว่าสาย LAN จะใช้งานได้ตามปกติ ถ้ามีปัญหาจากการติดตั้ง เค้าจะเข้ามาแก้ไขให้ฟรีภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 30 วัน หรือ 90 วัน) คนไทยเราให้ความสำคัญกับการรับประกันมากๆ ก็ต้องสอบถามรายละเอียดตรงนี้ให้เคลียร์นะจ๊ะ
ส่วน ของแถมหรือโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับงานวางระบบ Network โดยตรงอาจจะไม่เยอะเท่าซื้อสินค้าสำเร็จรูปนะ แต่บางทีผู้ให้บริการอาจจะมีข้อเสนอพิเศษ เช่น แถมบริการดูแลระบบให้ฟรีในช่วง 1-3 เดือนแรก หรือมีส่วนลดถ้าติดตั้งพร้อมกับระบบอื่นๆ เช่น ระบบกล้องวงจรปิด ก็ต้องลองสอบถามต่อรองดูจ้า
5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าสนใจ? คำแนะนำในการเลือกซื้อบริการ
อย่างที่บอกไปในข้อที่แล้วว่างานบริการวางระบบเนี่ย อาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นลดราคาแบบช่วง 11.11 หรือ 12.12 เหมือนสินค้าทั่วไปนะจ๊ะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย!
ลองสังเกตดูว่า ช่วงไหนที่บริษัทหรือบ้านเรือนมีการย้ายเข้า ย้ายออก หรือปรับปรุงอาคารเยอะๆ ช่วงนั้นอาจจะเป็นช่วงที่ผู้ให้บริการมีคิวงานแน่น แต่บางทีก็อาจจะมีแพ็คเกจพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ หรือมีส่วนลดถ้าติดตั้งในช่วงนั้นๆ ก็เป็นได้
เทศกาลใหญ่ๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่สากล/ปีใหม่จีน ส่วนใหญ่จะเน้นโปรโมชั่นสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า แต่ก็ไม่แน่ว่าบริษัท IT หรือบริษัทรับวางระบบบางแห่งอาจจะมีโปรโมชั่นต้อนรับเทศกาลก็ได้ ก็ต้องคอยติดตามข่าวสารจากผู้ให้บริการโดยตรง หรือเว็บไซต์ของบริษัทเหล่านั้น
คำแนะนำในการเลือกซื้อบริการ:
- ขอใบเสนอราคาจากหลายๆ ที่: อย่าเพิ่งตัดสินใจเลือกที่แรกที่คุยด้วย ลองเปรียบเทียบราคา รายละเอียดงาน และเงื่อนไขการรับประกันจากผู้ให้บริการอย่างน้อย 2-3 ราย
- สอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน: งบประมาณที่เสนอมา รวมอะไรบ้าง? ค่าอุปกรณ์รวมอยู่ด้วยไหม? มีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ อีกหรือเปล่า? ระยะเวลาในการติดตั้งนานแค่ไหน? มีการรับประกันงานติดตั้งกี่วัน?
- ดูรีวิวหรือผลงานที่ผ่านมา: ถ้าเป็นบริษัท ลองเข้าไปดูเว็บไซต์ หรือ Facebook Page ของเค้า ว่ามีรีวิวจากลูกค้าคนอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง หรือมีผลงานที่เคยทำมาให้ดูไหม
- เลือกผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ: การวางระบบ Network ที่ดีต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ เลือกร้านหรือบริษัทที่มีโปรไฟล์ดี มีการรับประกันชัดเจน จะช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะ
- อย่าเห็นแก่ของถูกมากเกินไป: ราคาที่ถูกจนผิดสังเกตอาจจะมาพร้อมกับคุณภาพอุปกรณ์ที่ไม่ดี หรืองานติดตั้งที่ไม่เรียบร้อย ซึ่งจะสร้างปัญหาให้เราในภายหลังได้จ้า
6. คนไทยใช้บริการแล้วรู้สึกยังไงบ้าง? รีวิวจากผู้ใช้งานจริง!
เท่าที่ลองสำรวจความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงในไทยเนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่เกี่ยวกับการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาวางระบบ Network มักจะออกมาในแนวทางบวกนะ ถ้าได้ผู้ให้บริการที่ดี! จุดที่คนไทยมักจะประทับใจก็คือ:
- ความสะดวกสบาย: ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์เอง เดินสายเอง หรือตั้งค่าเอง แค่บอกความต้องการ ที่เหลือผู้เชี่ยวชาญจัดการให้หมด!
- ระบบเสถียร สัญญาณแรง: ปัญหาสัญญาณ Wi-Fi อ่อน เน็ตหลุดบ่อยๆ ที่เคยเจอ ก็หมดไป! ได้ระบบที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ใช้งานได้ลื่นไหล
- ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับการลองผิดลองถูก หรือหาวิธีแก้ปัญหาเอง
- ได้คำแนะนำที่ดี: ผู้เชี่ยวชาญมักจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน หรือการดูแลรักษาระบบเบื้องต้น ทำให้เราใช้งาน Network ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- แก้ปัญหาตรงจุด: ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญก็จะสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด
แน่นอนว่าก็มีฟีดแบ็กด้านลบอยู่บ้างนะ ถ้าเจอผู้ให้บริการที่ไม่ดี เช่น คิดราคาสูงเกินไป ใช้อุปกรณ์คุณภาพไม่ดี งานติดตั้งไม่เรียบร้อย หรือไม่มีบริการหลังการติดตั้งที่ดีพอ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังและพิจารณาให้ดีในการเลือกผู้ให้บริการจ้า
7. จะไปหาผู้ให้บริการได้จากช่องทางไหนบ้าง?
สำหรับใครที่ตัดสินใจแล้วว่าอยากจะจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลเรื่องระบบ Network ให้เนี่ย สามารถหาผู้ให้บริการได้จากหลายช่องทางเลยจ้า:
- ค้นหาออนไลน์ (Google Search): ลองใช้คำค้นหาว่า "รับวางระบบ Network บ้าน" "ติดตั้ง Wi-Fi สำนักงาน" "เดินสาย LAN อาคาร" "บริษัทวางระบบ IT" อะไรประมาณนี้ ก็จะมีรายชื่อบริษัทหรือฟรีแลนซ์ขึ้นมาให้เราเลือกเยอะแยะเลยจ้า
- สอบถามจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP): บางค่าย ISP รายใหญ่อาจจะมีบริการรับวางระบบ Network ภายในบ้านหรืออาคารเพิ่มเติมจากบริการอินเทอร์เน็ตหลักด้วยนะ ลองสอบถามจากค่ายที่เราใช้งานอยู่ดูก็ได้
- ร้านค้า IT หรือร้านคอมพิวเตอร์ใกล้บ้าน: ร้านใหญ่ๆ อย่าง Advice, JIB, Banana IT บางสาขาอาจจะมีบริการรับติดตั้ง Network ให้ด้วย หรืออย่างน้อยก็สามารถแนะนำผู้รับเหมาที่เค้ารู้จักได้
- กลุ่มซื้อขาย/สอบถามปัญหา IT ใน Facebook: ลองเข้าไปโพสต์ถามในกลุ่ม IT ต่างๆ ว่ามีใครรับวางระบบ Network ไหม หรือมีใครแนะนำผู้ให้บริการที่เคยใช้แล้วดีบ้าง ช่องทางนี้มักจะได้ฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานจริงโดยตรง
- เว็บไซต์รวมช่าง หรือรวมบริษัทรับเหมา: เดี๋ยวนี้มีเว็บไซต์ที่เป็นแพลตฟอร์มรวบรวมช่างหรือบริษัทรับเหมางานต่างๆ รวมถึงงานติดตั้งระบบ Network ด้วย เราสามารถเข้าไปโพสต์งานเพื่อขอใบเสนอราคา หรือค้นหาผู้ให้บริการในพื้นที่ของเราได้
- บอกต่อ/แนะนำจากเพื่อน: ถ้ามีเพื่อน หรือคนรู้จักที่เคยใช้บริการวางระบบ Network แล้วประทับใจ ลองขอให้เค้าแนะนำผู้ให้บริการที่เคยใช้ดูก็ได้จ้า
ข้อควรจำ: ไม่ว่าจะหาจากช่องทางไหน ก่อนตัดสินใจจ้าง อย่าลืมตรวจสอบประวัติ ผลงาน และขอใบเสนอราคาที่ชัดเจน พร้อมสอบถามเรื่องการรับประกันให้เรียบร้อยด้วยนะ!
8. สรุปแล้วคุ้มไหม? ใครควรจ้าง? ใครควรทำเอง?
มาถึงบทสรุปส่งท้ายกันแล้วจ้า! ถามว่า การจ้างผู้เชี่ยวชาญมาวางระบบ Network คุ้มค่าไหม? ถ้ามองในแง่ของ ความสะดวก ประหยัดเวลา ได้ระบบที่มีประสิทธิภาพ และลดปัญหาวุ่นวายในอนาคต ถือว่า คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า!
คนที่ควรพิจารณาจ้างผู้เชี่ยวชาญ:
- บ้านที่มีพื้นที่กว้าง หลายชั้น และต้องการสัญญาณ Wi-Fi ที่ครอบคลุมทั่วถึง
- บ้านที่มีสมาชิกในครอบครัวหลายคน และมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตพร้อมกันตลอดเวลา
- สำนักงานทุกขนาด ที่ต้องการระบบ Network ที่มีความเสถียร รวดเร็ว ปลอดภัย และรองรับการขยายในอนาคต
- คนที่ไม่มีความรู้ด้าน IT/Network เลย หรือไม่มีเวลามาศึกษาและติดตั้งระบบเอง
- คนที่ต้องการความสบายใจ อยากได้ระบบที่ทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับปัญหาทางเทคนิค
คนที่อาจจะลองทำเองได้ (ถ้ามีงบจำกัด หรือชอบศึกษาเอง):
- บ้านพักอาศัยขนาดเล็ก หรือคอนโด ที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก
- มีจำนวนผู้ใช้งานและอุปกรณ์เชื่อมต่อไม่เยอะ
- มีความรู้พื้นฐานด้าน IT/Network อยู่บ้าง และมีเวลาว่างในการศึกษาและติดตั้งเอง
- ต้องการประหยัดงบประมาณ ให้ได้มากที่สุด
การลงทุนกับการวางระบบ Network ที่ดี เปรียบเหมือนการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานของบ้านหรือสำนักงานนะจ๊ะ ถ้าวางระบบดีตั้งแต่แรก ก็จะช่วยให้การใช้งานต่างๆ ของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด ไม่ต้องมาคอยแก้ปัญหาจุกจิกให้เสียเวลาและเสียอารมณ์ในภายหลัง!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้ระบบ Network ที่แรง เสถียร ไม่มีสะดุด ใช้กันได้อย่างมีความสุข ทั้งที่บ้านและที่ทำงานเลยจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา พระพุทธชินราช วัดวังทอง ปี 2514: ดูอย่างไรให้เป็น เล่นหาสู่กันฟัง
ราคา แอร์ (รุ่นเก่า/มือสอง): ยังน่าใช้ไหม? หรือซื้อใหม่คุ้มกว่า
ราคาเกม Spider-Man PS4 และเวอร์ชัน Miles Morales
ราคา Tiger 200cc มอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิก/วิบาก
เช็คราคาหมูสดที่ Lotus's วันนี้ หมูส่วนไหนราคาดีสุด?
ค่าบริการ เช็คสภาพรถ 2568: ตรวจอะไรบ้าง ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่