ค่าบริการ เช็คสภาพรถ 2568: ตรวจอะไรบ้าง ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่


สวัสดีครับ/ค่ะ เพื่อนๆ ชาวรถยนต์ที่น่ารักทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องใกล้ตัวที่คนใช้รถต้องเจอเป็นประจำ นั่นก็คือ การเช็คสภาพรถ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า "ตรวจ ตรอ." นั่นเอง เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมสตางค์ให้พร้อมก่อนไปต่อภาษีรถยนต์ในปี 2568 กันครับ/ค่ะ
การตรวจสภาพรถ (ตรอ.) คืออะไร ทำไมต้องตรวจ?
การตรวจสภาพรถ หรือ ตรอ. (สถานตรวจสภาพรถเอกชน) คือหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกให้ทำหน้าที่ตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของเราก่อนที่เราจะไปเสียภาษีประจำปีครับ/ค่ะ ทำไมต้องตรวจน่ะเหรอ? หลักๆ เลยก็เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่ารถที่จะนำมาใช้งานได้ต้องมีสภาพที่แข็งแรง ปลอดภัย และมีอุปกรณ์ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรฐาน การตรวจนี้ก็เหมือนเป็นการเช็คสุขภาพรถของเราให้พร้อมใช้งาน ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายด้วยครับ/ค่ะ
รถแบบไหนที่ต้องตรวจสภาพในปี 2568?
รถทุกคันไม่ได้ต้องตรวจสภาพ ตรอ. ทุกปีนะครับ/คะ หลักเกณฑ์การตรวจจะขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของรถนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก โดยในปี 2568 รถที่เข้าเกณฑ์ต้องนำไปตรวจสภาพก่อนต่อภาษีมีดังนี้ครับ/ค่ะ
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน: มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป (นับถึงวันสิ้นสุดภาษีประจำปี)
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน: มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล: มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์: มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป (นับถึงวันสิ้นสุดภาษีประจำปี)
ถ้าหากรถของคุณเข้าเกณฑ์อายุที่ว่ามานี้ ต้องไปตรวจสภาพก่อนถึงจะต่อภาษีได้นะครับ/คะ และสามารถนำรถไปตรวจล่วงหน้าก่อนถึงวันครบกำหนดเสียภาษีได้ไม่เกิน 3 เดือนครับ/ค่ะ
ส่วนรถบางประเภท เช่น รถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้, รถที่ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี หรือรถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถ/เครื่องยนต์ จะไม่สามารถตรวจที่ ตรอ. ได้ ต้องไปตรวจที่สำนักงานขนส่งเท่านั้นครับ/ค่ะ
ตรวจสภาพรถ ตรวจอะไรบ้าง?
เวลาเอารถไปตรวจที่ ตรอ. เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบหลายอย่างเพื่อให้แน่ใจว่ารถของเราอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดมลพิษครับ/ค่ะ รายการตรวจหลักๆ ที่ ตรอ. จะเช็คมีดังนี้ครับ/ค่ะ
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลรถ: เช็คว่าข้อมูลรถ เช่น หมายเลขตัวถัง เครื่องยนต์ สีรถ ตรงกับในสมุดคู่มือทะเบียนรถหรือไม่
- ตรวจสอบสภาพภายนอกและภายในรถ: ดูความเรียบร้อยของตัวถัง, สีรถ, อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟต่างๆ, ที่ปัดน้ำฝน, แตร, เข็มขัดนิรภัย, สภาพยาง และอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ
- ตรวจสอบระบบบังคับเลี้ยวและระบบรองรับน้ำหนัก: ดูความสมบูรณ์ของช่วงล่างต่างๆ ครับ/ค่ะ
- ทดสอบระบบเบรก: ตรวจประสิทธิภาพการเบรก ทั้งเบรกมือและเบรกเท้า บนเครื่องทดสอบ
- ตรวจสอบวัดโคมไฟหน้า: วัดความเข้มและทิศทางการส่องสว่างของไฟหน้าว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่
- ตรวจวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไฮโดรคาร์บอน: สำหรับรถยนต์เบนซิน เพื่อดูปริมาณมลพิษที่ปล่อยออกมาจากท่อไอเสีย
- ตรวจวัดค่าควันดำ: สำหรับรถยนต์ดีเซล เพื่อวัดปริมาณควันดำที่ปล่อยออกมา ซึ่งต้องไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด
- ตรวจวัดระดับเสียง: วัดความดังของเสียงจากท่อไอเสีย ต้องไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด
สำหรับรถที่ใช้ก๊าซ LPG หรือ NGV จะต้องมีการตรวจสภาพถังก๊าซและอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยนะครับ/คะ
ค่าบริการเช็คสภาพรถปี 2568 ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่?
มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ นั่นก็คือค่าบริการตรวจสภาพรถที่ ตรอ. นี่แหละครับ/ค่ะ ค่าบริการนี้ถูกกำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก และมีอัตราที่เท่ากันทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการเรียกเก็บที่แตกต่างกันครับ/ค่ะ สำหรับปี 2568 (และย้อนหลังไปถึงปี 2567) อัตราค่าบริการมาตรฐานมีดังนี้ครับ/ค่ะ
- รถจักรยานยนต์: คันละ 60 บาท
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม: คันละ 150 บาท (บางแหล่งข้อมูลระบุ 200 บาท สำหรับรถยนต์ไม่เกิน 2,000 กก. แต่ข้อมูลส่วนใหญ่และล่าสุดที่พบคือ 150 บาทสำหรับไม่เกิน 1,600 กก. และ 250 บาทสำหรับเกิน 1,600 กก.)
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม: คันละ 250 บาท (บางแหล่งข้อมูลระบุ 300 บาท สำหรับเกิน 2,000 กก. แต่ข้อมูลส่วนใหญ่และล่าสุดที่พบคือ 150 บาทสำหรับไม่เกิน 1,600 กก. และ 250 บาทสำหรับเกิน 1,600 กก.)
ดังนั้น ราคาเริ่มต้นในการตรวจสภาพรถยนต์ที่ ตรอ. คือ 150 บาทสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและกลาง ส่วนรถจักรยานยนต์คือ 60 บาทครับ/ค่ะ
ในกรณีที่ตรวจสภาพแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ เจ้าของรถจะต้องนำรถไปแก้ไขและนำกลับมาตรวจใหม่ที่ ตรอ. เดิมภายใน 15 วัน โดยจะเสียค่าบริการเพียงครึ่งเดียวของอัตราปกติ แต่ถ้าเกิน 15 วัน หรือไปตรวจที่ ตรอ. อื่น จะต้องเสียค่าบริการเต็มจำนวนครับ/ค่ะ
เตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง?
เอกสารที่ใช้ในการตรวจสภาพรถที่ ตรอ. นั้นง่ายมากๆ ครับ/ค่ะ ใช้แค่ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง หรือสำเนาทะเบียนรถก็ได้ครับ/ค่ะ เมื่อตรวจผ่านแล้ว เราก็จะได้รับใบรับรองการตรวจสภาพรถซึ่งมีอายุ 3 เดือน เพื่อนำไปใช้ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีต่อไปครับ/ค่ะ
สรุป
การตรวจสภาพรถที่ ตรอ. เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดในปี 2568 เพื่อความปลอดภัยและรักษาสภาพรถของเราเองครับ/ค่ะ ค่าบริการก็เป็นอัตรามาตรฐานที่กำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกเรียกเก็บเกินจริง ส่วนสิ่งที่ตรวจก็ครอบคลุมหลายส่วนของรถ เพื่อให้มั่นใจว่ารถของเราพร้อมใช้งานบนท้องถนนครับ/ค่ะ อย่าลืมเช็คอายุรถของตัวเองและเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนไปใช้บริการ ตรอ. ใกล้บ้านนะครับ/คะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิวรองเท้าผ้าใบ Puma Carina: สวยคลาสสิก แมทช์ได้ทุกลุค
รีวิว YSL Pure Shots: เซรั่มกู้ผิวโทรม บูสต์ผิวใสในข้ามคืน
เปิดกรุรีวิวไอเทมเด็ดจาก Watsons: ตัวไหนน่าสอย ตัวไหนต้องลอง?
รีวิว Hiby R3: เครื่องเล่นเพลงพกพาเสียงดี เหมาะกับคนรักเสียงเพลง
รีวิว มาร์คเท้ากู้ชีพ: เปลี่ยนเท้าหยาบกร้าน เป็นเท้าเนียนนุ่มน่าสัมผัส
รีวิว Yamaha Nouvo Elegance 135cc: ออโตเมติกยอดนิยม ดีไซน์สปอร์ต ขี่สบาย