ราคา iPhone ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
สวัสดีจ้าาา นักช้อปออนไลน์มืออาชีพและมือสมัครเล่นทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนกำลังเล็งๆ อยู่ นั่นก็คือเรื่องของ iPhone นั่นเอง! ใช่แล้วค่ะ ปี 2025 แล้ว iPhone เขามีอะไรน่าสนใจบ้าง ราคาเป็นยังไง มีโปรเด็ดที่ไหน แล้วที่สำคัญ... จะซื้อทั้งทีต้องทำยังไงให้คุ้มสุดๆ ไปเลย! มาค่ะ มาตามดูกันแบบฉบับคนกันเอง เข้าใจง่าย แถมมีทริคเล็กๆ น้อยๆ สไตล์นักช้อปอย่างเรามาฝากด้วย!
1. ข้อมูลพื้นฐานของ iPhone (ฉบับอัปเดตปี 2025)
มาเริ่มกันที่ข้อมูลพื้นฐานกันก่อนเลยเนอะ สำหรับ iPhone เนี่ย เขาก็เป็นมือถือตัวท็อปจาก Apple ที่ไม่ว่าจะออกมากี่รุ่นก็ยังคงเป็นขวัญใจมหาชนเสมอ โดยเฉพาะเรื่องของความเสถียรและความพรีเมียม
สเปกหลักๆ ของ iPhone รุ่นใหม่ๆ ในปี 2025 นี้ก็จัดเต็มสุดๆ ค่ะ โดยเฉพาะเรื่อง ชิปประมวลผล ที่แรงแบบไม่มีใครเทียบ (อย่าง iPhone 15 ก็ใช้ A16 Bionic, ส่วน iPhone 16 รุ่นใหม่ก็ขยับไปอีกขั้น) RAM ก็ให้มาพอตัวสำหรับการใช้งานลื่นๆ ส่วน ROM หรือความจุเนี่ย มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่หลักร้อย GB ไปจนถึง TB เลยทีเดียว (แล้วแต่รุ่นและราคา)
เรื่อง กล้อง นี่ต้องยกให้! ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลักความละเอียดสูง (รุ่นใหม่ๆ จัดมาให้ 48MP กันแล้วนะจ๊ะ) กล้องอัลตร้าไวด์ หรือแม้แต่กล้องหน้า ก็ถ่ายสวยทั้งแสงปกติและแสงน้อย แถมยังมีฟีเจอร์ AI ช่วยประมวลผลภาพให้เริ่ดอีกต่างหาก
แน่นอนว่า iPhone รุ่นใหม่ๆ ในปี 2025 นี้ รองรับ 5G เต็มรูปแบบ ใช้เน็ตเร็วแรงสะใจแน่นอน แถมยังรองรับ eSIM ด้วยนะ เผื่อใครอยากใช้หลายเบอร์ก็สะดวกสุดๆ และที่สบายใจได้เลยคือ ระบบปฏิบัติการ iOS เขารองรับ หลายภาษา ทั่วโลก รวมถึงภาษาไทยของเราด้วย และแน่นอนว่า มี Apple Services ครบครัน ไม่ต้องกังวลเรื่องบริการเหมือนมือถือบางยี่ห้อนะคะ
2. ราคาขายในตลาดไทย (อัปเดตล่าสุดปี 2025)
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนรอคอย... เรื่อง ราคา! ราคา iPhone ในไทยปี 2025 นี่ก็มีหลากหลายมากค่ะ ขึ้นอยู่กับรุ่นและความจุเป็นหลัก ส่วนสีเครื่องส่วนมากราคาเท่ากันหมด ยกเว้นบางสีพิเศษตอนเปิดตัวอาจจะมีจำกัดหน่อย แต่โดยรวมแล้วเลือกสีไหนก็จ่ายเท่ากันจ้ะ
ราคาอย่างเป็นทางการ (อิงจาก Apple Store และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต) ของรุ่นที่ยังวางขายอยู่ (ข้อมูลช่วงต้น-กลางปี 2025) จะประมาณนี้ค่ะ:
- iPhone SE (Gen 3): เริ่มต้นประมาณ ฿16,900 (ประมาณ 460 USD) สำหรับความจุ 64GB รุ่นนี้เหมาะกับคนชอบกะทัดรัด ราคาเป็นมิตร
- iPhone 12: แม้จะเป็นรุ่นเก่าหน่อย แต่ยังหาซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่ายบางร้าน เริ่มต้นประมาณ ฿14,900 (ประมาณ 410 USD) สำหรับ 64GB
- iPhone 13: ราคาก็ดีลงมาแล้ว เริ่มต้นประมาณ ฿15,900 (ประมาณ 435 USD)
- iPhone 14: ขยับขึ้นมาอีกนิด เริ่มต้นประมาณ ฿17,900 - 22,900 (ประมาณ 490 - 630 USD) แล้วแต่รุ่นย่อยและความจุ
- iPhone 15 Series: รุ่นใหม่ยอดฮิต ราคาก็ตามความใหม่และความแรงค่ะ
- iPhone 15 เริ่มต้นประมาณ ฿20,900 - 26,900 (ประมาณ 570 - 740 USD)
- iPhone 15 Plus เริ่มต้นประมาณ ฿29,900 - 34,900 (ประมาณ 820 - 960 USD)
- iPhone 15 Pro เริ่มต้นประมาณ ฿28,900 - 39,900 (ประมาณ 790 - 1100 USD)
- iPhone 15 Pro Max เริ่มต้นประมาณ ฿35,900 - 48,900 (ประมาณ 980 - 1340 USD)
- iPhone 16 Series: รุ่นล่าสุดของปี 2025 (อิงข้อมูลช่วงต้นปี) ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก
- iPhone 16e เริ่มต้นประมาณ ฿22,900 (ประมาณ 630 USD)
- iPhone 16 เริ่มต้นประมาณ ฿29,900 (ประมาณ 820 USD)
- iPhone 16 Pro Max รุ่นท็อปอาจจะทะลุ ฿60,000++ (ประมาณ 1650 USD++) ไปเลยก็มี
ช่วงราคาโดยรวมของ iPhone ในไทยปี 2025: เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ ฿14,900 สำหรับรุ่นเก่าหรือ SE ไปจนถึง ฿64,900+ สำหรับรุ่น Pro Max ความจุสูงสุด
ปล. ราคาเทียบ USD เป็นแค่การประมาณคร่าวๆ นะคะ ค่าเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้จ้ะ
3. ช่องทางการจำหน่าย: ซื้อที่ไหนดีนะ?
อยากได้ iPhone สักเครื่อง ปี 2025 นี้มีช่องทางให้เลือกช้อปเพียบเลยค่ะ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ สะดวกแบบไหนจัดไปเลย!
สายช้อปออนไลน์ เตรียมพุ่งตัวไปที่:
- แพลตฟอร์ม E-commerce เจ้าใหญ่ๆ เช่น Lazada, Shopee บางร้านเป็น Apple Authorized Reseller โดยตรง ขายของแท้แน่นอน ต้องเลือกร้านที่เป็นทางการนะคะ
- เว็บไซต์ของค่ายมือถือ AIS, TrueMove H, DTAC เขาก็มีขายเครื่องเปล่าและแบบติดโปรพร้อมเบอร์ใหม่/ย้ายค่าย ให้ส่วนลดค่าเครื่องจุกๆ ไปเลย
- เว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เช่น Studio7, BaNANA
สายชอบไปดูเครื่องจริง ลองจับลองเล่น ไปที่:
- Apple Store สาขา Iconsiam (ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ) อันนี้ของแท้แน่นอน ได้ประสบการณ์แบบ Apple จ๋าๆ
- ร้านที่เป็น Apple Premium Partner หรือ Apple Authorized Reseller ทั่วประเทศ เช่น Studio7, BaNANA, Jaymart, Power Buy และอีกมากมาย ร้านพวกนี้มักจะมี หน้าร้านให้ลองเล่นเครื่อง ดูก่อนตัดสินใจซื้อได้ พนักงานก็พร้อมให้คำแนะนำจ้า
เลือกช่องทางที่สะดวกและน่าเชื่อถือนะคะ จะได้ไม่โดนหลอกลวง
4. โปรโมชั่นและความเคลื่อนไหวด้านราคา
เรื่องโปรโมชั่นนี่แหละคือหัวใจของนักช้อปอย่างเราๆ! iPhone เขาก็มีโปรมาเรื่อยๆ ค่ะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ ของไทย
- ช่วงไหนมีโปรเด็ด? ส่วนใหญ่โปรโมชั่นลดราคา iPhone จะมาในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ เช่น ตรุษจีน, สงกรานต์, Double Days (6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11, 12.12) และช่วง ปลายปี/ปีใหม่ ต้องคอยติดตามดีๆ ค่ะ
- ผ่อน 0% มีไหม? ส่วนมากมีค่ะ! โปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน หรือบางทีก็ 12-18 เดือน (แล้วแต่ร้านและบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ) นี่คือโปรยอดฮิตที่ทำให้นักช้อปตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นเยอะเลย
- มีของแถมอะไรบ้าง? อันนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละร้านค่ะ บางทีอาจจะมี แถมเคส, ฟิล์มกันรอย หรือ หัวชาร์จ (เพราะ Apple ไม่แถมมาในกล่องแล้วนะ!) บางค่ายมือถืออาจจะมีแถมแพ็กเกจดูหนัง ฟังเพลง หรือประกันมือถือให้ด้วย
นอกจากนี้ ราคา iPhone บางรุ่น (โดยเฉพาะรุ่นที่ออกมานานแล้ว) อาจจะมีการปรับลดลงเมื่อมีรุ่นใหม่ออกมา หรืออาจจะมีโปรลดพิเศษเพื่อเคลียร์สต็อกด้วยค่ะ
5. เปรียบเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่ราคาใกล้เคียงกัน
ถ้าดูที่ราคา iPhone บางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่ไม่ใช่ Pro Series หรือรุ่นเก่าหน่อย อาจจะมีราคาไปทับไลน์กับมือถือเรือธงหรือรุ่นท็อปๆ ของค่าย Android อย่าง Samsung, Xiaomi, realme, vivo ลองมาดูกันคร่าวๆ ว่าต่างกันตรงไหน
- iPhone: จุดเด่นคือ ระบบปฏิบัติการ iOS ที่ลื่นไหล เสถียร ใช้งานง่าย ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์นานหลายปีมากๆ ชิปประมวลผลแรง เล่นเกมหนักๆ สบายหายห่วง ระบบ Ecosystem ของ Apple ก็แข็งแกร่ง ถ้าใช้หลายอุปกรณ์ของ Apple อยู่แล้วก็จะเชื่อมต่อกันง่ายมาก เรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวก็ค่อนข้างดี และที่สำคัญคือ ราคาขายต่อค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับมือถือ Android
- มือถือ Android ค่ายอื่น: จุดเด่นมักจะอยู่ที่เรื่อง สเปกบนกระดาษ เช่น กล้องความละเอียดสูงเว่อร์ (บางทีเป็น 108MP หรือ 200MP!) ระบบชาร์จไวที่เร็วมากๆ (บางทีเป็นร้อยวัตต์!) การปรับแต่งหน้าจอและฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่าในบางด้าน ตัวเลือกราคาที่หลากหลายกว่า และบางรุ่นมีปากกาหรือฟีเจอร์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าคุณชอบความเรียบง่าย เสถียร ไม่ต้องมานั่งปรับแต่งอะไรเยอะ เน้นความแรงของชิป อัปเดตยาวๆ และอยู่ใน Ecosystem ของ Apple อยู่แล้ว iPhone ก็ยังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าค่ะ แต่ถ้าคุณชอบลองฟีเจอร์ใหม่ๆ ชอบกล้องสเปกสูงๆ (แม้ว่าคุณภาพรูปจริงๆ ต้องดูที่ซอฟต์แวร์ด้วย) ชอบชาร์จไว และต้องการความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง Android ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าในบางกรณีนะคะ
6. รีวิวและประสบการณ์ใช้งานจากผู้ใช้ชาวไทย
เสียงจากผู้ใช้งานจริงนี่แหละคือของจริง! จากที่ส่องๆ ตาม Pantip, รีวิวใน Lazada/Shopee หรือตามช่อง YouTube รีวิวมือถือต่างๆ เสียงส่วนใหญ่ของคนไทยที่ใช้ iPhone จะบอกว่า:
- ใช้งานลื่นปรื้ด ไม่ค่อยมีอาการค้างหรือหน่วงให้หงุดหงิดใจ
- กล้องถ่ายรูปสวย สีเป็นธรรมชาติ ถ่ายคนสวย ถ่ายวิวก็ปัง โดยเฉพาะ Portrait Mode คือดีงาม
- ตัวเครื่องทนทาน วัสดุดี (บางรุ่นใช้ Ceramic Shield ที่แข็งแรง)
- ขายต่อได้ราคาดี อันนี้เป็นข้อได้เปรียบมากๆ ของ iPhone
แต่ก็มีข้อที่ผู้ใช้บางส่วนติอยู่บ้าง เช่น แบตเตอรี่ที่อาจจะไม่ได้อึดเท่ามือถือ Android บางรุ่น (แต่รุ่นใหม่ๆ ก็ดีขึ้นนะ!) การถ่ายโอนไฟล์ที่อาจจะไม่ยืดหยุ่นเท่า Android หรือราคาเครื่องและอุปกรณ์เสริมที่ค่อนข้างสูง
เหมาะกับใคร? iPhone เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ ทั้ง นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการมือถือเสถียร ใช้เรียน ใช้เล่นโซเชียล คนทำงานทั่วไป ที่เน้นความสะดวกในการใช้งาน หรือ สายถ่ายรูป/วิดีโอ ที่ต้องการกล้องคุณภาพดี และแน่นอนว่าเหมาะกับคนที่ใช้อุปกรณ์ Apple อื่นๆ อยู่แล้วค่ะ
7. บริการหลังการขายและการรับประกัน
ซื้อโทรศัพท์แพงๆ ทั้งที เรื่องบริการหลังการขายก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ
- ถ้าซื้อ iPhone จากร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย คุณจะได้รับ ประกันศูนย์ไทย 1 ปีเต็ม สามารถนำเครื่องเข้า ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple ได้เลย
- แบรนด์ศูนย์บริการที่รองรับ ในไทยก็มีหลายเจ้าค่ะ ที่คุ้นหูบ่อยๆ ก็เช่น iCare (ของ ComSeven), iServe (ของ Copperwired), และร้านตัวแทนจำหน่ายใหญ่ๆ อย่าง Banana IT, Jaymart เขาก็มีบริการหลังการขายรองรับสินค้า Apple ที่ซื้อจากร้านตัวเองด้วย
- ระยะเวลารับประกัน: ปกติคือ 1 ปีสำหรับตัวเครื่อง ถ้ามีปัญหาที่เกิดจากการผลิตอยู่ในเงื่อนไขการรับประกันก็ส่งซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องได้ (ตามดุลยพินิจของศูนย์) ส่วนเรื่อง นโยบายการเปลี่ยน/คืนสินค้า ถ้าซื้อจากร้านค้าทั่วไป มักจะมีระยะเวลาให้เปลี่ยนคืนได้ภายใน 7-14 วัน หากสินค้ามีปัญหาจากการผลิตและเป็นไปตามเงื่อนไขของร้านนั้นๆ ค่ะ
การซื้อจากตัวแทนที่เชื่อถือได้จะช่วยให้เรื่องบริการหลังการขายสบายใจได้เยอะเลย
8. คำแนะนำในการซื้อและสรุปภาพรวม
มาถึงช่วงสรุปและคำแนะนำสำหรับคนที่กำลังลังเลค่ะ:
ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะแก่การซื้อ iPhone หรือยัง? ถ้าคุณต้องการใช้ iPhone แล้วมีงบพร้อม และมีโปรโมชั่นดีๆ ในช่วงที่คุณดูอยู่ (เช่น โปรลดราคา หรือโปรผ่อน 0%) ก็ถือเป็นเวลาที่เหมาะค่ะ ไม่ต้องรอรุ่นใหม่ล่าสุดเสมอไป เพราะ iPhone รุ่นเก่าหน่อยแต่ยังวางขายอย่าง iPhone 13, 14 หรือ 15 ก็ยังใช้งานได้ดีและแรงเหลือเฟือสำหรับปี 2025 แถมราคาเป็นมิตรขึ้นด้วย
คุ้มที่จะอัปเกรดหรือเปลี่ยนรุ่นไหม? อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้รุ่นอะไรอยู่ค่ะ ถ้าใช้รุ่นที่เก่ามากๆ แล้วรู้สึกว่าเครื่องเริ่มช้า แบตหมดไว หรืออยากได้ฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างกล้องที่ดีขึ้น หรือรองรับ 5G การอัปเกรดมาใช้รุ่นใหม่ๆ ก็คุ้มค่าแน่นอน แต่ถ้าใช้รุ่นที่ยังใหม่อยู่ อาจจะยังไม่ต้องรีบค่ะ
ความคุ้มค่าภาพรวม: iPhone ถือเป็นมือถือที่มีความคุ้มค่าในระยะยาว ด้วยความเสถียร การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ยาวนาน และราคาขายต่อที่ดี การลงทุนซื้อ iPhone สักเครื่องอาจจะดูราคาสูงในตอนแรก แต่ถ้าหารเฉลี่ยกับระยะเวลาใช้งานที่ยาวนานแล้ว ก็ถือว่าไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ
เคล็ดลับสุดท้าย: ก่อนตัดสินใจซื้อ อย่าลืมเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่น จากหลายๆ แหล่งนะคะ ทั้ง Apple Store, ตัวแทนจำหน่ายต่างๆ, และค่ายมือถือ ใช้โค้ดส่วนลดที่มี และใช้โปรผ่อน 0% ให้เป็นประโยชน์ที่สุดค่ะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม
บทความยอดนิยม