Mechanical Keyboard Keychron รุ่นไหนน่าใช้ ปี 2025 พร้อมราคาเปรียบเทียบ

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง Mechanical Keyboard ที่มาแรงแซงทางโค้งในปี 2025 อย่าง Keychron กัน ใครที่กำลังอยากได้คีย์บอร์ดฟีลลิ่งดีๆ พิมพ์มันส์ๆ หรืออยากจะลองเข้าวงการคัสต้อมคีย์บอร์ดดูบ้าง มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะ Keychron เค้ามีรุ่นให้เลือกละลานตาไปหมด! เราจะมาเจาะลึกว่ารุ่นไหนน่าสอยในปีนี้ พร้อมเทียบราคาให้ดูกันแบบชัดๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. คีย์บอร์ด Keychron มันคืออะไรกันแน่นะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นที่แบรนด์ Keychron กันก่อนเลย แบรนด์นี้มาจากฮ่องกงนะจ๊ะ เค้าดังมากๆ ในวงการ Mechanical Keyboard ทั่วโลกเลย จุดเด่นของ Keychron คือการทำคีย์บอร์ดที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS, iOS หรือ Android ทำให้คนที่ใช้หลายๆ อุปกรณ์ถูกอกถูกใจสิ่งนี้เป็นพิเศษ แถมยังเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย (Bluetooth) และบางรุ่นตัวใหม่ๆ มี 2.4GHz มาให้ด้วย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่สุดๆ

Keychron เค้าไม่ได้มีแค่คีย์บอร์ดสำเร็จรูปนะ แต่ยังมีซีรีส์ที่เน้นการ Custom หรือปรับแต่งได้เองด้วย ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากได้คีย์บอร์ดที่เป็นสไตล์ของตัวเองจริงๆ สามารถเปลี่ยนสวิตช์ เปลี่ยนคีย์แคป หรือแม้แต่ปรับแต่งฟังก์ชันปุ่มต่างๆ ผ่านซอฟต์แวร์ QMK/VIA ได้เลย เรียกว่าเปิดโลกใหม่ให้คนรักคีย์บอร์ดเลยทีเดียว

กลุ่มผู้ใช้ Keychron นี่ก็หลากหลายนะ ตั้งแต่คนทำงานที่พิมพ์เยอะๆ เกมเมอร์ที่ต้องการการตอบสนองที่แม่นยำ หรือแม้แต่คนทั่วๆ ไปที่แค่อยากได้คีย์บอร์ดสวยๆ ฟีลลิ่งดีๆ มาวางบนโต๊ะคอมให้ดูมินิมอล หรือจะสายโปรแกรมเมอร์ ดีไซเนอร์ ที่ต้องการปุ่มมาโครหรือฟังก์ชันพิเศษ ก็มีรุ่นที่รองรับนะ

2. ราคา Keychron ในตลาดไทย ปี 2025 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่หลายคนอยากรู้! Keychron เค้ามีหลายซีรีส์ หลายรุ่นมากๆ ทำให้ช่วงราคาก็หลากหลายตามไปด้วยนะ โดยหลักๆ จะแบ่งเป็นซีรีส์ยอดนิยมตามนี้

• K Series: เป็นซีรีส์เริ่มต้นที่ได้รับความนิยมสูง มีความหลากหลายของขนาด (60%, 75%, TKL, Full-size) และมีทั้งแบบ Low Profile และ Normal Profile เน้นความไร้สาย พกพาง่าย ราคาเข้าถึงง่ายหน่อยๆ อยู่ที่ประมาณ 3,000 - 5,000 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับรุ่นและสเปก อย่าง K2, K8, K10 นี่ตัวฮิตเลย
• V Series: ซีรีส์นี้จะเน้นความคุ้มค่า ให้ฟีเจอร์แบบ Custom Keyboard มาบ้าง เช่น รองรับ QMK/VIA, โครงสร้างแบบ Gasket Mount (บางรุ่น) แต่ยังเป็นเคสพลาสติก ทำให้ราคาไม่สูงมาก อยู่ที่ประมาณ 4,000 - 5,000 บาท (฿) เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากลอง Custom แต่ยังไม่อยากลงทุนเยอะ
• Q Series: ซีรีส์ตัวท็อป! เน้นวัสดุพรีเมียม เฟรมอะลูมิเนียมทั้งชิ้น ฟีลลิ่งการพิมพ์แบบ Gasket Mount เต็มรูปแบบ รองรับ QMK/VIA ปรับแต่งได้จัดเต็ม ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย เริ่มต้นที่ประมาณ 6,000 - 9,000 บาท (฿) หรือสูงกว่านั้นในรุ่นพิเศษ เช่น Q1, Q2, Q5, Q6
• อื่นๆ: ยังมีซีรีส์อื่นๆ อย่าง S Series (Low Profile อะลูมิเนียม), C Series (เน้นใช้สาย ราคาเป็นมิตรสุดๆ) หรือพวก Max Series (เพิ่มการเชื่อมต่อ 2.4GHz) ราคาจะแตกต่างกันไปอีก

ราคาพวกนี้เราสามารถหาได้ตามร้านค้าออนไลน์หลักๆ อย่าง Lazada และ Shopee โดยเฉพาะร้านค้า Official Store หรือร้านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ก็มีร้านอุปกรณ์ไอทีใหญ่ๆ อย่าง JIB หรือ Banana IT ที่เริ่มนำ Keychron เข้ามาขายบางรุ่นแล้ว ส่วน Central, Big C, The Mall อาจจะยังมีไม่หลากหลายเท่าร้านเฉพาะทางนะ

ถ้าเทียบกับราคาต่างประเทศ ส่วนใหญ่ราคาในไทยอาจจะสูงกว่าเล็กน้อย เนื่องจากมีเรื่องภาษีนำเข้า ค่าขนส่ง และการดำเนินงานของตัวแทนจำหน่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ได้ความสะดวกสบายในการซื้อและการรับประกันในประเทศมาแทนนะ

3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นล่ะ Keychron แพงไปไหม?

ถ้าให้เทียบกับ Mechanical Keyboard แบรนด์เกมมิ่งดังๆ อย่าง SteelSeries, Razer, หรือ Logitech ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน (เช่น มีไร้สาย รองรับหลายอุปกรณ์) Keychron มักจะตั้งราคามาได้น่าสนใจกว่า หรือถ้าเทียบในราคาที่พอๆ กัน Keychron มักจะให้ฟีเจอร์ที่สาย Mechanical Keyboard ชอบมากกว่า เช่น Hot-swappable (เปลี่ยนสวิตช์เองได้) หรือวัสดุที่ดีกว่า (เฟรมอะลูมิเนียมในซีรีส์ Q)

แต่ถ้าเทียบกับแบรนด์ Mechanical Keyboard จากจีนอื่นๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทยช่วงหลังๆ เช่น Akko, RK Royal Kludge หรือแบรนด์ไทยอย่าง Dekay บางรุ่น Keychron อาจจะมีราคาสูงกว่าบ้าง แต่ Keychron ก็มักจะชูจุดเด่นเรื่องความเสถียรในการเชื่อมต่อไร้สาย การรองรับ macOS ที่ทำมาได้ดีมากๆ และชื่อเสียงแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างกว่า

สรุปคือ Keychron วางตัวเองอยู่ในจุดที่คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับฟีเจอร์และคุณภาพที่ได้ ไม่ได้ถูกที่สุดในตลาด แต่ก็ไม่ได้แพงเวอร์เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันจ้า

4. ซื้อ Keychron แล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ Keychron สิ่งที่เราจะได้หลักๆ ก็คือตัวคีย์บอร์ดนั่นแหละจ้า แต่อุปกรณ์ที่มักจะแถมมาให้ในกล่องด้วยก็มีนะ เช่น

• สาย USB Type-C: สำหรับเชื่อมต่อแบบมีสายหรือชาร์จแบต
• ตัวแปลง USB-A to Type-C: สำหรับต่อกับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีพอร์ต Type-C
• ที่ดึงคีย์แคป (Keycap Puller): สำหรับถอดคีย์แคปเพื่อทำความสะอาดหรือเปลี่ยนลาย
• ที่ดึงสวิตช์ (Switch Puller): อันนี้จะได้มาในรุ่นที่รองรับ Hot-swappable เท่านั้นนะ เอาไว้ถอดเปลี่ยนสวิตช์ได้ง่ายๆ เลย
• คีย์แคปสำหรับ Windows/Mac: Keychron เค้าใจดีให้คีย์แคปสำหรับทั้งสองระบบมาเลย ไม่ว่าคุณจะใช้ Mac หรือ Windows ก็มีปุ่ม Command, Option, Alt มาให้เปลี่ยนครบ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์จากร้านค้า Official หรือร้านใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี นะ ต้องลองเช็คเงื่อนไขหน้าร้านดีๆ จ้า

เรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน! Keychron ที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายในไทยส่วนใหญ่จะมีการรับประกัน 1 ปีนะ ซึ่งครอบคลุมปัญหาจากการผลิต หรือความผิดปกติของตัวคีย์บอร์ด การซื้อจากร้านที่มีประกันศูนย์ไทยทำให้เราอุ่นใจกว่าเยอะเลย เวลาเครื่องมีปัญหาจะได้ส่งเคลมได้สะดวก ไม่ต้องส่งไปต่างประเทศให้วุ่นวาย

ส่วนของแถมอื่นๆ เช่น ที่รองข้อมือ (Palm Rest), เคสคีย์บอร์ด, หรือสายแบบขดสวยๆ (Coiled Cable) อันนี้อาจจะต้องซื้อแยกนะจ๊ะ แต่บางช่วงโปรโมชั่น ร้านค้าอาจจะมีจัดเป็น Bundle หรือมีของแถมพิเศษให้ ก็ต้องตาดีได้ ตาร้ายเสีย เอ้ย! ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นดีๆ นะ 😉

5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าโดนเป็นพิเศษบ้าง?

ขาช้อปตัวจริงต้องรู้! ช่วงเวลาทองของการช้อปปิ้งออนไลน์ในไทยก็คือช่วง Double Digit Sale ทั้งหลายนี่แหละจ้า ไม่ว่าจะเป็น 4.4, 5.5, 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11 และ 12.12 ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดใหญ่จัดเต็ม ลดกระหน่ำทุกเดือน Keychron Official Store หรือร้านตัวแทนจำหน่ายบนแพลตฟอร์มพวกนี้ก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นด้วยนะ บางทีมีลดราคาตัวคีย์บอร์ดเอง หรือมีโค้ดส่วนลดเพิ่มให้เก็บอีกเพียบ

นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็เป็นอีกช่วงที่มักจะมีโปรโมชั่นจากร้านค้าต่างๆ ทั้งออนไลน์และหน้าร้านนะ ร้าน IT ใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT ก็อาจจะมีโปรโมชั่นของแบรนด์ที่เค้าเอามาลงในช่วงนั้นๆ ด้วย

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ อดใจรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ จะคุ้มที่สุดเลยจ้า! เข้าไปเช็คราคาในแอปฯ ช้อปปิ้งบ่อยๆ กดติดตามร้าน Official Store ของ Keychron ไว้ จะได้ไม่พลาดดีลดีๆ นะยูวว์

6. ผู้ใช้ Keychron ในไทยเค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?

ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวหรือตามเว็บบอร์ดต่างๆ อย่าง Pantip เสียงตอบรับจากผู้ใช้ Keychron ในไทยส่วนใหญ่จะค่อนข้างไปในทางที่ดีเลยนะ จุดที่คนไทยประทับใจและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ

• ฟีลลิ่งการพิมพ์: หลายคนบอกว่า Keychron พิมพ์สนุก เสียงเพราะ (ขึ้นอยู่กับสวิตช์ที่เลือกนะ) กดมันส์มือกว่าคีย์บอร์ดทั่วๆ ไปเยอะ
• คุณภาพงานประกอบ: โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้วัสดุดีๆ อย่างซีรีส์ Q ที่เป็นอะลูมิเนียม คนไทยชมว่างานประกอบแน่นหนา แข็งแรง ดูพรีเมียมเกินราคา
• ความสะดวกในการเชื่อมต่อ: การที่เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ สลับไปมาได้ง่ายๆ นี่ตอบโจทย์คนที่ใช้ทั้งคอมฯ ทำงาน แท็บเล็ต มือถือมากๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้ Mac จะชอบเป็นพิเศษ เพราะ Keychron รองรับ Mac ได้ดีสุดๆ
• ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปกับฟีเจอร์ที่ได้ ทั้งไร้สาย Hot-swappable หรือ Custom ได้ หลายคนมองว่า Keychron เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ ในตลาด
• ดีไซน์: มีหลายรุ่นดีไซน์สวย มินิมอล เข้าได้กับโต๊ะทำงานหลายสไตล์

ส่วนข้อกังวลที่เคยเจอในรีวิวเก่าๆ บ้างก็อาจจะเป็นเรื่องความสูงของคีย์บอร์ด Normal Profile ที่อาจจะต้องใช้ที่รองข้อมือช่วย หรือเรื่องแบตเตอรี่ที่บางคนรู้สึกว่าหมดไวถ้าเปิดไฟ RGB สว่างๆ ตลอด แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นแบรนด์ที่ได้รับฟีดแบ็กที่ดีในหมู่ผู้บริโภคไทยจ้า

7. จะซื้อ Keychron ต้องไปที่ไหนดี?

ช่องทางซื้อ Keychron ในไทยตอนนี้มีหลายทางให้เลือกเลยจ้า

• ร้านค้า Official และตัวแทนจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์: อันนี้สะดวกสุดๆ เลย เพราะมีทั้งใน Shopee และ Lazada ข้อดีคือมีรุ่นให้เลือกเยอะ มีโปรโมชั่นบ่อยๆ มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และที่สำคัญคือถ้าเป็นร้าน Official หรือตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้ง จะมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้และมีการรับประกันในประเทศ ลองหาร้านที่ชื่อ Keychron Thailand หรือร้านที่เป็น Flagship Store บนแพลตฟอร์มนะ
• ร้านอุปกรณ์ IT ชั้นนำ: อย่าง JIB หรือ Banana IT ก็มี Keychron มาลงบ้างแล้วนะ ข้อดีคือเราสามารถไปลองสัมผัส ลองพิมพ์ดูก่อนได้เลยว่าชอบฟีลลิ่งแบบไหน แต่รุ่นที่วางขายอาจจะยังไม่เยอะเท่าบนออนไลน์นะ
• ร้านค้าออนไลน์เฉพาะทาง: มีร้านค้าออนไลน์บางร้านที่เน้นขาย Mechanical Keyboard โดยเฉพาะ ก็มักจะมี Keychron มาขายด้วย บางทีอาจจะมีรุ่นที่หายาก หรือมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกเยอะกว่า
• เว็บไซต์ Keychron Thailand: เข้าไปดูข้อมูลสินค้า หรือบางทีอาจจะมีช่องทางให้สั่งซื้อโดยตรงก็ได้นะ

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจในการรับประกันสินค้าได้เลยจ้า

8. สรุปแล้ว Keychron น่าสอยไหม? รุ่นไหนเหมาะกับใคร?

สรุปเลยว่า Mechanical Keyboard Keychron ในปี 2025 เนี่ย ยังน่าสอยมากๆ เลยจ้า! เค้าเป็นแบรนด์ที่มอบความคุ้มค่า ฟีเจอร์ครบครัน และคุณภาพที่ดีในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกัน

Keychron เหมาะกับใครบ้าง?

• คนที่อยากได้คีย์บอร์ดที่ดีกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป พิมพ์สนุกขึ้น ทำงานได้คล่องตัวขึ้น
• คนที่ใช้คอมพิวเตอร์หลายเครื่อง หลายระบบปฏิบัติการ
• คนที่อยากลองเข้าวงการ Custom Mechanical Keyboard แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน Keychron มีรุ่นที่ปรับแต่งได้ง่ายๆ เป็นตัวเลือกที่ดี
• คนที่ต้องการคีย์บอร์ดดีไซน์สวยๆ มาวางบนโต๊ะ

แล้วจะเลือกรุ่นไหนดี?

• ถ้าเน้นงบประหยัด เป็นมือใหม่ อยากได้คีย์บอร์ด Mechanical ไร้สายที่ฟีเจอร์ครบๆ ลองดู K Series หรือ V Series เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลย
• ถ้าอยากได้ ฟีลลิ่งพรีเมียม ปรับแต่งได้จัดเต็ม และมีงบประมาณพอสมควร ลุยเลยกับ Q Series ที่เป็นเฟรมอะลูมิเนียม รับรองไม่ผิดหวัง!
• ถ้าชอบคีย์บอร์ด บางๆ Low Profile Keychron ก็มี K Series Low Profile หรือ S Series ให้เลือกนะ
• ส่วนขนาดคีย์บอร์ด (Full-size, TKL, 75%, 60%) ก็เลือกตามความชอบและการใช้งานเลย ถ้าใช้ปุ่มตัวเลขบ่อยเลือก Full-size หรือ 96% ถ้าอยากได้เล็กๆ ประหยัดพื้นที่ก็ 60% หรือ 75%

ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน Keychron ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ในตลาด Mechanical Keyboard ปี 2025 เลยจ้า ขอให้ทุกคนได้คีย์บอร์ดที่ถูกใจ พิมพ์งาน เล่นเกมได้สนุกกว่าเดิมนะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ดูก่อนซื้อ! 7 คีย์บอร์ดรุ่นใหม่! ประจำเดือนพฤษภาคม 2025! ตัวเด็ด ตัว ...
• [spin9] รีวิว Keychron K Max — Mechanical Keyboard ยุคใหม่ ...
• ASMR เสียงคีย์บอร์ด Keychron (เกือบ)ทุกรุ่น แต่ละรุ่นต่างกันยังไง ...
• [รีวิว] Keychron - สุดยอดคีย์บอร์ดไร้สายแห่งยุค
• อัปเดตคีย์บอร์ดใหม่! กุมภาพันธ์ 2025! จะเน้นเกมหรือเน้นทำงาน มาให้ ...