ราคา Honda City ทุกรุ่นย่อย อัปเดตล่าสุด ผ่อนเท่าไหร่?


สวัสดีครับพี่น้อง! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยเรื่องรถยนต์สุดฮิตติดลมบนในตลาดไทยอย่าง Honda City กัน ใครที่กำลังมองหารถยนต์นั่งคันแรก หรืออยากจะเปลี่ยนรถใหม่ที่ขับง่าย ประหยัดน้ำมัน แถมยังดูทันสมัย มาทางนี้เลยครับ! เพราะเจ้า City คันนี้เนี่ย เค้าอยู่คู่คนไทยมานานนม ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อยังหนุ่มๆ จนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นขวัญใจมหาชนอยู่เลยนะ เราจะมาดูกันว่า Honda City ทุกรุ่นย่อย อัปเดตล่าสุด ราคาเท่าไหร่ แล้วผ่อนต่อเดือนประมาณกี่บาท เตรียมตังค์ เตรียมใจให้พร้อม แล้วไปลุยกัน!
1. Honda City คืออะไร? ทำไมคนไทยถึงเลิฟ?
Honda City เค้าจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือที่เรียกกันติดปากว่า B-Segment Sedan ครับ เป็นรถยนต์จากค่ายยักษ์ใหญ่แดนปลาดิบอย่าง Honda ซึ่งมีชื่อเสียงด้านคุณภาพ ความทนทาน และเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ จุดเด่นของ City ที่ทำให้ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานก็คือ ดีไซน์ที่ทันสมัย ขับไปไหนก็ดูดี ห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย ทั้งคนขับและผู้โดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่วางขาด้านหลังนี่คือจุดเด่นเลย แถมยังมีเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะดี ควบคู่ไปกับ ความประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนไทยในยุคน้ำมันแพง
เจ้า City เนี่ย เค้าไม่ได้มีแค่ตัวถังซีดาน 4 ประตูนะ ล่าสุดยังมีตัวถังแบบ Hatchback 5 ประตู ออกมาเอาใจคนชอบความอเนกประสงค์ด้วย ทำให้ City ตอบโจทย์ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์จริงๆ ครับ
2. ราคา Honda City ทุกรุ่นย่อย อัปเดตล่าสุด!
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้! สำหรับ Honda City ปี 2024 (และมีรุ่นปี 2025 ออกมาบ้างแล้ว) ตัวถังซีดาน 4 ประตู เค้ามีให้เลือกหลายรุ่นย่อยตามความต้องการและงบประมาณเลยครับ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่หกแสนกว่าบาท ไปจนถึงแปดแสนกว่าบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและขุมพลังที่เลือก
โดยรุ่นย่อยและราคา ณ ตอนนี้ (อ้างอิงข้อมูลล่าสุด) มีประมาณนี้ครับ:
- รุ่น 1.0 V ราคาประมาณ 629,000 บาท
- รุ่น 1.0 SV ราคาประมาณ 679,000 บาท
- รุ่น 1.0 RS ราคาประมาณ 749,000 บาท
- รุ่น e:HEV SV ราคาประมาณ 769,000 บาท
- รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณ 839,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีรุ่นเริ่มต้นที่เพิ่มเข้ามาคือ รุ่น 1.0 S ราคาประมาณ 599,000 บาท ด้วยนะ ส่วนสีตัวถังก็มีผลกับราคานิดหน่อย อย่างสีขาวแพลทินัม (มุก) หรือสีดำคริสตัล (มุก) อาจจะต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยครับ
3. เทียบราคากับเพื่อนๆ ในตลาดแล้วเป็นไง?
ถ้ามองหา Eco Car หรือรถยนต์นั่งขนาดเล็กในตลาดไทยตอนนี้ Honda City เค้าก็มีคู่แข่งตัวฉกาจหลายรุ่นเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Toyota Yaris Ativ, Nissan Almera, Mazda 2 หรือ Mitsubishi Attrage ถ้าเทียบกันเรื่องราคา เจ้า City จะอยู่ในช่วงกลางๆ ไปจนถึงค่อนไปทางสูงกว่านิดหน่อย ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยครับ
อย่าง Toyota Yaris Ativ ราคาเริ่มต้นจะใกล้เคียงกับ City รุ่นเริ่มต้น แต่ถ้าเป็นรุ่นบนๆ ของ City โดยเฉพาะรุ่น e:HEV ที่เป็นไฮบริด ราคาก็จะสูงกว่าเพื่อนร่วมกลุ่มที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินปกติ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องแลกมากับเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าและอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีกว่านั่นเองครับ
4. ซื้อรถแล้วได้อะไรมาบ้าง? การรับประกันเป็นยังไง?
เวลาออกรถยนต์ใหม่จากศูนย์ Honda สิ่งที่เราจะได้แน่นอนก็คือตัวรถ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานตามแต่ละรุ่นย่อย พวกของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น พรมปูพื้น, กรอบป้ายทะเบียน อันนี้แล้วแต่ดีลเลอร์และช่วงโปรโมชั่นเลยครับ
เรื่องสำคัญมากๆ สำหรับคนไทยคือ การรับประกัน ครับ โดยปกติ Honda City จะมาพร้อม การรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ ซึ่งรายละเอียดและระยะเวลาต้องสอบถามกับทางศูนย์ฯ อีกที และที่สำคัญคือ การรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี สำหรับรุ่น e:HEV อันนี้หายห่วงได้เลยเรื่องแบตเสื่อม
นอกจากนี้ หลายศูนย์ฯ หรือในบางช่วงโปรโมชั่น อาจมีข้อเสนอพิเศษ เช่น ฟรีประกันภัยชั้น 1 ในปีแรก หรือฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ บริการค่าแรงและค่าอะไหล่ตามระยะที่กำหนดด้วยนะ อันนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงแรกไปได้เยอะเลย
5. ช่วงไหนน่าซื้อ Honda City ที่สุด? มีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ ไหม?
ถ้าอยากได้ข้อเสนอดีๆ ต้องจับตาดูช่วง โปรโมชั่น ให้ดีเลยครับ! ปกติแล้ว Honda มักจะมีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงปลายปี ช่วงมอเตอร์โชว์ หรือช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ โปรโมชั่นยอดฮิตที่มักจะเจอคือ:
- ดอกเบี้ยพิเศษ เช่น ดอกเบี้ย 0% หรือดอกเบี้ยต่ำมากๆ
- ฟรีประกันภัยชั้น 1
- ช่วยผ่อนค่างวด ในช่วงแรก
- ดาวน์ต่ำ หรือ ฟรีดาวน์
- ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ หรือ ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่
- ส่วนลดพิเศษ หรือ ของแถมเพิ่มเติม เช่น บัตรเติมน้ำมัน
ช่วง Double Digit Sale บนแพลตฟอร์มออนไลน์ อาจจะไม่ได้มีส่วนลดรถยนต์โดยตรง แต่บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นเกี่ยวกับอุปกรณ์ตกแต่ง หรือบริการหลังการขายจากร้านค้าอื่นๆ ได้ครับ คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้รถมากๆ รอช่วงที่มีโปรโมชั่นใหญ่ๆ จะคุ้มค่ากว่าครับ ลองเช็คกับศูนย์ Honda ใกล้บ้าน หรือดูข้อมูลจากเว็บไซต์ Honda ประเทศไทยได้เลย
6. คนไทยที่ใช้ Honda City เค้าว่าไงกันบ้าง?
จากเสียงตอบรับของผู้ใช้งานชาวไทย ส่วนใหญ่ค่อนข้างพอใจกับ Honda City ครับ จุดที่มักจะได้รับคำชมคือ ความกว้างขวางของห้องโดยสาร โดยเฉพาะเบาะหลังที่นั่งสบาย ไม่อึดอัด อัตราประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1.0 Turbo และรุ่นไฮบริด e:HEV ที่ทำได้ดีมากๆ สมรรถนะเครื่องยนต์ ที่ขับสนุก ไม่อืด ทั้งๆ ที่เป็นเครื่องเล็ก และ ความทนทาน ใช้งานได้ยาวๆ ครับ
ส่วนข้อสังเกตบางส่วน อาจจะเกี่ยวกับช่วงล่างที่อาจจะไม่ได้นุ่มนวลเท่าบางรุ่น หรือวัสดุภายในบางจุดที่ดูเป็นพลาสติกไปบ้าง แต่โดยรวมแล้ว เมื่อเทียบกับราคาและความคุ้มค่าที่ได้ ถือว่าคนไทยส่วนใหญ่แฮปปี้ครับ
7. จะซื้อ Honda City ได้ที่ไหนบ้าง?
ช่องทางหลักในการซื้อ Honda City คันใหม่คือ ศูนย์บริการและผู้จำหน่ายรถยนต์ Honda ทั่วประเทศ ครับ การซื้อกับศูนย์ฯ โดยตรงจะมั่นใจได้เรื่องรถใหม่แกะกล่อง การรับประกัน บริการหลังการขาย และสามารถทดลองขับรถจริงได้ด้วยครับ
ส่วนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee โดยทั่วไปจะไม่ได้ขายรถยนต์ใหม่โดยตรง แต่ก็อาจจะมีร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ตกแต่ง หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ Honda อยู่บ้างครับ
8. สรุปแล้ว Honda City น่าซื้อไหม? ผ่อนเท่าไหร่ดี?
สรุปเลยว่า Honda City ยังเป็นรถยนต์ที่น่าซื้อมากๆ ในตลาดไทยครับ เหมาะสำหรับคนที่มองหารถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ครบเครื่อง ทั้งเรื่องดีไซน์ พื้นที่ใช้สอย สมรรถนะ และความประหยัดน้ำมัน ถ้าคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ เพิ่งเริ่มทำงาน มีครอบครัวขนาดเล็ก หรือใช้รถในเมืองเป็นหลัก City คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ
สำหรับเรื่อง ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่? อันนี้ต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น:
- ราคารถรุ่นที่เลือก: รุ่นท็อปก็จะผ่อนแพงกว่ารุ่นล่างเป็นธรรมดา
- เงินดาวน์: ยิ่งดาวน์เยอะ ยอดจัดไฟแนนซ์ก็น้อยลง ค่างวดต่อเดือนก็จะถูกลง
- ระยะเวลาผ่อน: ผ่อนนาน ค่างวดต่อเดือนก็ถูกลง แต่ดอกเบี้ยรวมก็จะสูงขึ้น
- อัตราดอกเบี้ย: แต่ละสถาบันการเงินให้ดอกเบี้ยไม่เท่ากัน และช่วงโปรโมชั่นก็อาจจะได้ดอกเบี้ยพิเศษ
ยกตัวอย่างคร่าวๆ ถ้าสมมติซื้อ Honda City รุ่น 1.0 S ราคา 599,000 บาท ดาวน์ 15% (ประมาณ 89,850 บาท) ยอดจัดไฟแนนซ์จะอยู่ที่ประมาณ 509,150 บาท ถ้าผ่อน 7 ปี (84 งวด) ค่างวดต่อเดือนอาจจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 - 9,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย แต่ถ้าดาวน์เยอะขึ้น หรือผ่อนสั้นลง ค่างวดก็จะขยับสูงขึ้นไปอีกครับ
สำหรับรุ่นยอดนิยมอย่าง 1.0 SV หรือ RS ราคาและยอดจัดก็จะสูงขึ้น ค่างวดต่อเดือนก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV ที่ราคาสูงกว่า ก็จะมีค่างวดต่อเดือนสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินปกติด้วยเช่นกันครับ
คำแนะนำคือ:
- ถ้าเน้นความคุ้มค่า งบไม่สูงมาก รุ่น 1.0 S หรือ 1.0 V ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานครับ
- ถ้าต้องการฟังก์ชันครบครันขึ้นมาหน่อย เช่น ระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีให้ทุกรุ่นย่อยแล้ว ลองดู รุ่น 1.0 SV หรือ RS
- ถ้าวิ่งเยอะ เน้นประหยัดน้ำมันสุดๆ และอยากได้เทคโนโลยีไฮบริด จัดไปเลยครับกับ รุ่น e:HEV SV หรือ RS
ทางที่ดีที่สุดคือ ลองเข้าไปสอบถามรายละเอียดและคำนวณยอดผ่อนกับทางศูนย์ Honda โดยตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและตรงกับเงื่อนไขของคุณที่สุดครับ! ขอให้ทุกคนได้รถ Honda City คันที่ถูกใจ และมีความสุขกับการขับขี่นะครับ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิวรองเท้าผ้าใบ Puma Carina: สวยคลาสสิก แมทช์ได้ทุกลุค
รีวิว YSL Pure Shots: เซรั่มกู้ผิวโทรม บูสต์ผิวใสในข้ามคืน
เปิดกรุรีวิวไอเทมเด็ดจาก Watsons: ตัวไหนน่าสอย ตัวไหนต้องลอง?
รีวิว Hiby R3: เครื่องเล่นเพลงพกพาเสียงดี เหมาะกับคนรักเสียงเพลง
รีวิว มาร์คเท้ากู้ชีพ: เปลี่ยนเท้าหยาบกร้าน เป็นเท้าเนียนนุ่มน่าสัมผัส
รีวิว Yamaha Nouvo Elegance 135cc: ออโตเมติกยอดนิยม ดีไซน์สปอร์ต ขี่สบาย