logo

รีวิวหนัง The Wrath (สาปสังหาร): หนังผีเกาหลี หลอน แรง น่ากลัวแค่ไหน?

user avatar
วีรศักดิ์ วัฒนศิริ·06/27/2025 18:50
点赞
รีวิวหนัง The Wrath (สาปสังหาร): หนังผีเกาหลี หลอน แรง น่ากลัวแค่ไหน?

ใครเป็นสายหนังสยองขวัญเกาหลีบ้างงงง? ยกมือขึ้น! ช่วงนี้ K-Horror เขามาแรงจริงจริ๊งงง ไม่ได้มีแค่ซีรีส์ซอมบี้คลั่งๆ นะจ๊ะ หนังผี พีเรียดเกาหลีเขาก็ทำถึง! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยหอยสังข์ถึงเรื่อง 《The Wrath (สาปสังหาร)》 หนังผีเกาหลีย้อนยุคที่ได้ข่าวว่าหลอนขั้นสุด เล่นเอาคนใจไม่แข็งต้องแอบเอามือปิดตา (หรือบางคนปิดทั้งหน้าไปเลย) มันจะน่ากลัวสมคำร่ำลือแค่ไหน? หลอนแรงจนต้องร้องขอชีวิตจริงดิ? ตามมาหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยจ้า!


1. ภาพรวมของหนัง: รู้จัก《สาปสังหาร》กันก่อนจะได้ไม่วิ่งหนีตอนเจอผี!

โอเค๊... ก่อนจะโดนสาป เรามาทำความรู้จักหนังเรื่องนี้กันหน่อย 《The Wrath》 หรือชื่อเกาหลีคือ 여곡성 (Yeogokseong) เป็นหนังปี 2018 นะจ๊ะ ถือเป็นการหยิบเอาหนังผีเกาหลีระดับตำนานปี 1986 เรื่อง Woman's Wail มารีเมคใหม่ บอกเลยว่าต้นฉบับเขาก็ว่าหลอนแล้ว ฉบับรีเมคนี้ผู้กำกับ (ยูยองซอน คนเดียวกับที่ทำ The Wicked) จะทำให้ขนหัวลุกกว่าเดิมได้มั้ยต้องมาดูกัน

แนว: สยองขวัญ, ลึกลับ, พีเรียดเกาหลี (โชซอน)

ปีที่เข้าฉาย: 2018

ผู้กำกับ: ยูยองซอน (Yoo Young-sun)

นักแสดงนำ: ซอ ยอง-ฮี (Seo Young-hee) และ ซน นา-อึน (Son Na-eun)

ความยาว: ประมาณ 1 ชั่วโมง 34 นาที

ตำแหน่งในวงการหนังสยองขวัญ: เป็นหนังรีเมคจากหนังคัลท์คลาสสิก เน้นบรรยากาศหลอนๆ กับผีเจ้าเสน่ห์ (เสน่ห์แบบขนลุกนะ) ที่มาตามหลอกหลอนตระกูลขุนนาง

จุดเด่นคร่าวๆ ที่เขาว่ากันว่าเด็ด:

  • ฉากพีเรียดเกาหลีสวยงามแต่แฝงความหลอน: บ้านโบราณ ชุดฮันบก จัดเต็มบรรยากาศยุคโชซอน
  • ผีพยาบาทที่มาแบบไม่ให้ตั้งตัว: เตรียมตัวโดน Jump Scare ได้เลย!
  • สองนักแสดงนำหญิงที่ต้องปะทะกัน: ซอ ยอง-ฮี และ ซน นา-อึน เรื่องนี้แบกความหลอนไว้เต็มๆ
  • เรื่องราวความลับในตระกูล: กว่าจะคลี่คลายปม อาจจะต้องลุ้นจนเยี่ยวเหนียว

2. ภาพและเสียง: บรรยากาศหลอนๆ สร้างได้ด้วยดีไซน์นี่แหละ!

ต้องยอมรับว่าหนังพีเรียดเกาหลีนี่เขาทำโปรดักชั่นดีจริง ฉาก บ้านโบราณ เครื่องแต่งกายยุคโชซอนคือสวยงาม รายละเอียดเป๊ะมาก แต่ความสวยงามนั้นมันแฝงความน่ากลัวไว้นะจ๊ะ ด้วยการใช้แสงเงาที่ทำให้รู้สึกวังเวง ชอบที่หนังสร้างบรรยากาศอึดอัด กดดันได้ดี เหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในทุกมุมของบ้านหลังนั้น

ส่วนเรื่องเสียง... โอ้โห! เสียงนี่ตัวดีเลย! ทั้งเสียงดนตรีประกอบที่บิ๊วท์อารมณ์ให้ตุ้มๆ ต่อมๆ เสียงประกอบที่ใส่มาแบบจงใจให้สะดุ้ง! บางทีก็เสียงเบาๆ กระซิบกระซาบ พอเราเริ่มคล้อยตาม... ตู้มมมมมมมมมมม! มาแล้วจ้า Jump Scare เต็มๆ หน้า ใครที่ขวัญอ่อนกับเสียงดังๆ อาจจะต้องเตรียมผ้าอุดหูไว้เลยนะ แต่บางทีเสียงมันก็ดูตั้งใจดังไปจนแอบหลุดขำก็มีนิดหน่อย


3. เนื้อเรื่องและจังหวะการเล่าเรื่อง: ความลับในบ้านขุนนางที่นำมาซึ่งความตาย

เรื่องราวจะพาเราย้อนยุคไปสมัยโชซอนในบ้านขุนนางใหญ่ ที่มีอันต้องสูญเสียลูกชายไปทีละคนอย่างปริศนา ด้วยความเชื่อเรื่องคำสาปหรือผีร้ายที่วนเวียนอยู่ในบ้าน แล้วก็มีหญิงสาวท้องแก่คนหนึ่ง (รับบทโดย ซน นา-อึน) ได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ แล้วก็เริ่มได้พบเจอสิ่งผิดปกติที่นำไปสู่เรื่องราวสุดหลอน

พล็อตเรื่องหลักๆ คือการเผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตและการไขความลับของตระกูล จังหวะการเล่าเรื่องช่วงแรกอาจจะดูเนิบๆ หน่อย เป็นการปูเรื่อง สร้างบรรยากาศ แต่พอผีเริ่มออกอาละวาด ความพีคก็จะค่อยๆ มาเรื่อยๆ สลับกับฉากตุ้งแช่เป็นระยะๆ บางช่วงอาจจะรู้สึกว่างงๆ กับปมบางอย่างนิดหน่อย แต่โดยรวมก็พอจะเข้าใจได้


4. ประสบการณ์ความหลอนและความน่ากลัว: สาปสังหาร... น่ากลัวสมชื่อมั้ย?

มาถึงประเด็นที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด! 《สาปสังหาร》น่ากลัวมั้ย? จากที่ดูแล้ว ส่วนตัวให้ว่า "น่ากลัวเป็นบางช่วงและเน้น Jump Scare เป็นหลัก" นะ

ความน่ากลัวมันมาจากบรรยากาศวังเวงในบ้านเก่า ผีที่โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งยอมรับว่าหลายๆ ฉากทำเอาสะดุ้งได้จริง ผีก็ดีไซน์ออกมาได้น่ากลัวตามสไตล์ผีเอเชีย มีความหลอนแบบคลาสสิก แต่ถ้าถามว่าหลอนติดตา หลอนจิต หลอนจนเก็บไปฝันร้ายมั้ย... อันนี้อาจจะแล้วแต่คน บางคนอาจจะบอกว่ายังไม่สุดเท่าที่คาดหวังไว้

หนังค่อนข้างพึ่งพา Jump Scare เยอะ ใครที่ไม่ชอบแนวนี้อาจจะมีเหนื่อย แต่ถ้าชอบความตกใจแบบฉับพลัน เรื่องนี้ตอบโจทย์


5. ตัวละครและการแสดง: ใครแบกความหลอนในเรื่องนี้?

ในเรื่องนี้ ตัวละครหลักๆ ที่เด่นชัดคือสองนักแสดงนำหญิง

  • ซอ ยอง-ฮี (รับบท มาดามชิน): คุณแม่สามีผู้ดูลึกลับ มีเบื้องหลังซ่อนอยู่ ซอ ยอง-ฮี แสดงบทบาทนี้ได้ดีมาก มีความสง่าแต่ก็แฝงความน่ากลัวไว้ ทำให้ตัวละครนี้น่าสนใจและน่าติดตาม
  • ซน นา-อึน (รับบท อ๊กบุน): หญิงสาวที่เข้ามาพัวพันกับคำสาป เรื่องนี้เป็นหนังเต็มตัวเรื่องแรกๆ ที่เธอได้รับบทนำ อาจจะมีบางช่วงที่การแสดงยังดูขัดๆ หรือดูไม่เข้ากับบริบทพีเรียดบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้โอเคในระดับหนึ่ง เธอต้องแสดงสีหน้าท่าทางที่หวาดกลัว สับสน ซึ่งก็ถ่ายทอดออกมาได้พอใช้ได้

ตัวละครอื่นๆ ในตระกูลก็มีส่วนในการขับเคลื่อนเรื่องราว แต่สองคนนี้คือคนที่จะทำให้เราเอาใจช่วยและลุ้นไปกับพวกเขา


6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักความหลอนก่อนตัดสินใจดู!

ข้อดีงามตามท้องเรื่อง:

  • บรรยากาศดี๊ดี: ฉาก แสง สี เสียง (บางที) สร้างบรรยากาศหลอนๆ ได้น่าขนลุก
  • ดีไซน์ผีสุดปัง: ผีเกาหลีไม่เคยทำให้ผิดหวังเรื่องความน่ากลัว
  • ซอ ยอง-ฮี คือที่สุด: การแสดงของเธอแบกเรื่องไว้ได้จริงๆ
  • เรื่องราวมีความน่าติดตาม: ปมปริศนาของตระกูลทำให้อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:

  • Jump Scare มาบ่อยไปหน่อย: ใครไม่ชอบอาจจะรำคาญได้
  • เนื้อเรื่องบางจุดยังไม่สุด: ปมบางอย่างอาจจะดูง่ายไป หรือการคลี่คลายยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร
  • น่ากลัวแต่ยังไม่ถึงขั้นหลอนติดตา: สำหรับคอหนังสยองขวัญฮาร์ดคอร์ อาจจะรู้สึกว่ายังไม่สุดเท่าต้นฉบับ
  • การแสดงของนักแสดงบางคนยังไม่เข้าที่: โดยเฉพาะบทนำที่เพิ่งมาสายภาพยนตร์

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการดู: ใครควรโดนสาป เอ้ย! ใครควรดูเรื่องนี้?

ถ้าคุณเป็น...

  • คนที่ชอบหนังสยองขวัญสไตล์เอเชีย: ผีผมยาว ชุดขาว บ้านเก่า เรื่องราวแก้แค้น นี่คือทางของคุณ!
  • แฟนคลับ K-Horror: อยากตามเก็บหนังผีเกาหลี เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด (ถึงแม้รีวิวจะบอกว่ายังไม่เท่าต้นฉบับก็ตาม)
  • คนที่ชอบบรรยากาศพีเรียดเกาหลี: ได้ดูฉากสวยๆ ย้อนยุค พร้อมความหลอนไปในตัว
  • คนที่ไม่ติดเรื่อง Jump Scare เยอะๆ: ถ้าคุณรับได้กับเสียงดังๆ ที่จะทำให้สะดุ้ง เรื่องนี้จัดเต็มให้คุณได้!

คำแนะนำในการดู: ควรดูในที่มืดๆ เสียงดังๆ หน่อยเพื่ออรรถรส (แต่ก็ระวังตกใจสุดขีดด้วยนะ) ถ้าดูคนเดียว อาจจะต้องหาเพื่อนมานั่งข้างๆ เพราะบางฉากก็ทำเอาแอบหลอนได้อยู่!


8. เทียบกับเรื่องอื่น: สาปสังหารยืนหนึ่งในสายรีเมคผีเกาหลีมั้ย?

เมื่อพูดถึงหนังผีเกาหลีรีเมค ก็มีหลายเรื่องที่ทำออกมา แต่《The Wrath》ฉบับปี 2018 นี้ หลายๆ เสียงบอกว่ายังทำได้ไม่ถึงชั้นต้นฉบับปี 1986 ซึ่งต้นฉบับเขาน่ากลัวจริงจังและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากกว่า

ถ้าเทียบกับ K-Horror ยุคใหม่เรื่องอื่นๆ ที่เน้นความแปลกใหม่ ความโหด หรือพล็อตซับซ้อน เรื่องนี้อาจจะดูคลาสสิกและตรงไปตรงมาหน่อย


9. บทสรุปและคำแนะนำสุดท้าย: ดูหรือไม่ดูดี? ตัดสินใจให้แล้ว!

สรุปแล้ว 《The Wrath (สาปสังหาร)》 เป็นหนังสยองขวัญพีเรียดเกาหลีที่ดูได้เพลินๆ สำหรับคนที่ชอบแนวผีเอเชีย เน้นบรรยากาศวังเวง และ Jump Scare เป็นหลัก โปรดักชั่นดีงาม ฉากสวย นักแสดงนำหญิงรุ่นแม่อย่างซอ ยอง-ฮี คือที่สุด

เหมาะสำหรับ: คนที่อยากดูหนังผีเกาหลีที่ไม่ต้องคิดเยอะ เน้นตกใจเป็นพักๆ และชอบบรรยากาศย้อนยุค

อาจจะไม่เหมาะสำหรับ: คนที่คาดหวังความหลอนสุดขีด หลอนจิต หลอนแบบไม่ใช้ Jump Scare หรือคนที่ดูต้นฉบับแล้วรู้สึกว่ารีเมคทำได้ไม่ถึง

ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มที่เหมาะ "แนะนำให้ลองดู!" แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มที่ไม่เหมาะ อาจจะต้องพิจารณาอีกที หรือทำใจไว้ก่อนว่าอาจจะไม่ได้น่ากลัวเท่าที่หวังไว้

แต่เอาเถอะ! ความน่ากลัวมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล บางทีคุณอาจจะดูแล้วหลอนกว่าเราก็ได้ ใครจะไปรู้! ลองเปิดใจดู แล้วมาบอกกันหน่อยนะว่า 《สาปสังหาร》ทำคุณขนหัวลุกไปถึงไหน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

โอ๊ยยย...ใครชอบหนังสืบสวนสอบสวนเกาหลีที่แบบว่า "ดูไปต้องยกมือทาบอกไป" หรือไม่ก็ "นั่งกัดเล็บจนจะกุด" ต้องมามุงตรงนี้เลยจ้า! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยหอยสังข์ถึงหนังเกาหลีเรื่องนึงที่ทำเอาหลายคนนอนไม่หลับไปหลายคืนอย่าง Forgotten (2017) หนังที่แ
รีวิวหนัง Forgotten (2017): ภาพยนตร์เกาหลีแนวระทึกขวัญ ลึกลับ ซับซ้อน สนุกไหม?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?