logo

รีวิว Olay Regenerist Revitalising Hydration Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ใช้แล้วปังจริงไหม

user avatar
นวพร สุวรรณรัตน์·06/28/2025 13:53
点赞
รีวิว Olay Regenerist Revitalising Hydration Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ใช้แล้วปังจริงไหม

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้มีเรื่องเม้าท์มอยเกี่ยวกับครีมบำรุงผิวตัวดังในตำนานมารีวิวให้ฟังกันแบบจัดเต็มในสไตล์บ้านๆ ของเราเองกับ Olay Regenerist Revitalising Hydration Cream หรือที่บางคนอาจจะคุ้นๆ ในชื่อ "โอเลย์ กระปุกแดง" ที่เคลมว่าใช้แล้วหน้าปัง ลดริ้วรอยนู่นนี่นั่น...เอ๊ะ! แล้วมันจะปังจริงเหมือนที่เขาว่ากันมั้ยนะ? ใช้แล้วจะเปลืองตังค์ฟรีหรือเปล่า? วันนี้แหละ เราจะมาไขข้อข้องใจแบบหมดเปลือกให้ดูกันเลยจ้า!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: มาทำความรู้จัก "กระปุกแดง" กันก่อน!

ถ้าพูดถึง Olay Regenerist เชื่อว่าสาวๆ หลายคนต้องร้องอ๋อ เพราะเป็นไลน์ที่ดังมากๆ ของ Olay เลยทีเดียว และเจ้าตัว Revitalising Hydration Cream SPF15 นี่แหละ คือหนึ่งในตัวเด็ดที่หลายคนเล็งไว้.

แบรนด์: Olay
รุ่น: Regenerist Revitalising Hydration Cream SPF15
ขนาด: ส่วนใหญ่มักจะเป็นขนาด 50 กรัม
ช่วงราคา: ประมาณ 600 - 700 บาท (แล้วแต่โปรโมชั่นนะจ๊ะ)

ตำแหน่งในตลาด: จัดเป็นครีมบำรุงกลุ่มลดเลือนริ้วรอย เน้นเรื่องความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากแสงแดด เหมาะสำหรับคนที่มีกังวลเรื่องริ้วรอย ผิวไม่กระชับ หรือผิวขาดน้ำ

จุดเด่นคร่าวๆ ที่เค้าเคลมมา:

  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเส้นริ้วต่างๆ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • ให้ความชุ่มชื้นแบบจัดเต็ม ผิวดูอิ่มฟู
  • ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ดูเด้งๆ เต่งตึง
  • มีส่วนผสม Amino-Peptide Complex และ Niacinamide (วิตามิน B3) ที่ช่วยบำรุงล้ำลึก
  • มี SPF15 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดในทุกๆ วัน

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: กระปุกแดงในตำนาน!

แพ็คเกจของ Olay Regenerist นี่เป็นเอกลักษณ์มากๆ คือ "กระปุกสีแดง" ที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่าเป็นไลน์นี้. ตัวกระปุกดูแข็งแรง เป็นพลาสติกเนื้อดี ให้ความรู้สึกพรีเมียมสมกับเป็นครีมบำรุงที่เน้นเรื่องริ้วรอย

การออกแบบ: กระปุกทรงกลม ฝาหมุนสีเงินหรือสีแดงเมทัลลิก ขนาดกำลังดี
วัสดุ: พลาสติก
ขนาดและน้ำหนัก: ขนาด 50 กรัม ถือได้เต็มไม้เต็มมือ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป
สีที่มีให้เลือก: ตัวกระปุกสีแดงสดใส
ความสะดวกในการพกพา: พกพาง่าย ใส่ในกระเป๋าเดินทางได้สบายๆ
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ก็มีตัวครีมในกระปุก พร้อมกล่องกระดาษที่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์บอกละเอียดอยู่ข้างในกล่อง (แต่บางทีส่วนผสมก็หาไม่เจอนะเอ้อ ต้องไปดูตามเว็บเอา)


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ใช้แล้วรู้สึกยังไง?

มาถึงหัวใจหลักของการรีวิว! หลังจากที่ได้ลองใช้เจ้ากระปุกแดงตัวนี้มาสักพัก บอกเลยว่าฟีลลิ่งตอนใช้มันดีนะ! เนื้อครีมจะเป็นสีออกพีชๆ หน่อย เนื้อค่อนข้างเข้มข้น แต่พอเกลี่ยลงบนผิวแล้วซึมไวอยู่เหมือนกัน ไม่ได้เหนอะหนะอย่างที่คิด ตอนทาแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นทันที

สำหรับเรื่องริ้วรอย อาจจะต้องใช้เวลาสักพักถึงจะเห็นผลชัดเจนนะ แต่เรื่องความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มฟู อันนี้เห็นผลค่อนข้างไวเลย ตื่นเช้ามาล้างหน้าแล้วรู้สึกผิวนุ่มๆ เด้งๆ ดี ส่วนเรื่อง SPF15 ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ออกแดดจัดๆ ก็ควรทากันแดดเพิ่มด้วยนะจ๊ะ

สรุปการใช้งาน:

  • เนื้อสัมผัส: ครีมเข้มข้น สีพีช ซึมไว ไม่เหนอะหนะ
  • กลิ่น: มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (แล้วแต่คนชอบนะ บางคนอาจจะไม่ชอบครีมมีน้ำหอม)
  • ผลลัพธ์หลังใช้ทันที: ผิวชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ
  • ผลลัพธ์ในระยะสั้น (1-2 สัปดาห์): ผิวนุ่ม เด้ง ดูเรียบเนียนขึ้น
  • ผลลัพธ์ในระยะยาว (1 เดือนขึ้นไป): ริ้วรอยเล็กๆ ดูตื้นขึ้น ผิวโดยรวมดูกระชับขึ้น

4. ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่ก็สบาย!

เรื่องความง่ายในการใช้ บอกเลยว่าสบายมาก! ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย แค่ตักครีมมาเล็กน้อย (ไม่ต้องเยอะนะ เดี๋ยวจะเหนอะไป) ค่อยๆ วอร์มที่ปลายนิ้วแล้วทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอนเลย

ตัวครีมเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่กวนเมคอัพ สามารถใช้เป็นเบสก่อนแต่งหน้าได้เลย

สรุปความง่ายในการใช้:

  • วิธีใช้: ง่ายสุดๆ แค่ทา ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ
  • ความเข้ากับสกินแคร์อื่นๆ: ใช้ร่วมกับเซรั่มหรือสกินแคร์ตัวอื่นได้ดี
  • เป็นคราบ/ขุยไหม: ไม่เป็นคราบ ไม่เป็นขุย

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: คุ้มไหมกับการลงทุน?

สำหรับครีมบำรุง เรื่องแบตเตอรี่คงไม่มี แต่ถ้าพูดถึง "ความคงทน" หรือ "ระยะเวลาการใช้งาน" ต่อ 1 กระปุก 50 กรัม ถ้าใช้เช้า-เย็น ทุกวัน ก็จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน แล้วแต่ปริมาณที่ใช้นะ

เมื่อเทียบกับราคาที่ประมาณ 600-700 บาท ต่อกระปุก ถือว่าไม่ได้แพงจนเกินไป ยิ่งถ้าซื้อช่วงโปรโมชั่นตามร้านวัตสัน, บู๊ทส์, หรือในออนไลน์แบบ Shopee, Lazada นี่คือคุ้มมากๆ

ส่วนเรื่องความคุ้มค่าในระยะยาว ถ้ามองว่าเค้าช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอยและให้ความชุ่มชื้นได้ดีในราคาเท่านี้ ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะครีมลดริ้วรอยตัวแพงๆ บางทีราคาพุ่งไปหลายพันเลยนะ

วิเคราะห์ความคุ้มค่า:

  • ราคาต่อปริมาณ: สมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไป
  • ระยะเวลาใช้งาน: ประมาณ 1-2 เดือน ต่อ 1 กระปุก 50 กรัม
  • ผลลัพธ์ที่ได้: เห็นผลเรื่องความชุ่มชื้นและริ้วรอยได้ดีในราคาที่เข้าถึงง่าย

6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีอะไรที่ควรรู้บ้าง?

มาสรุปแบบเจาะลึกกันเลยดีกว่า ว่าเจ้ากระปุกแดงตัวนี้มีดีอะไร และมีข้อควรพิจารณาตรงไหนบ้าง

ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):

  • หาซื้อง่ายมาก: มีขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ร้าน Drugstore และร้านค้าออนไลน์
  • ราคาเข้าถึงง่าย: ไม่แพงเท่าครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดี
  • ให้ความชุ่มชื้นได้ดี: เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราที่บางทีก็ร้อนจนผิวแห้ง หรืออยู่ในห้องแอร์นานๆ
  • มี SPF15 ในตัว: สะดวก ไม่ต้องทากันแดดเพิ่มในวันที่อยู่แต่ในบ้านหรือออกแดดไม่นาน
  • ช่วยเรื่องริ้วรอยได้จริง (แต่ต้องใช้เวลา): มีส่วนผสมที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยเรื่องนี้

ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเลใจ):

  • เนื้ออาจจะหนักไปสำหรับคนผิวมันมากๆ ในช่วงที่อากาศร้อนและชื้นสุดๆ: แม้จะซึมไว แต่คนผิวมันอาจจะรู้สึกไม่สบายผิว
  • กลิ่นน้ำหอม: คนที่แพ้น้ำหอมหรือชอบสกินแคร์ที่ไม่มีกลิ่นอาจจะต้องเลี่ยง
  • SPF15 อาจไม่พอ: สำหรับคนที่ต้องออกแดดจัดๆ เป็นเวลานาน ควรทากันแดดที่มี SPF สูงกว่านี้
  • ผลลัพธ์เรื่องริ้วรอยอาจจะไม่ได้เหมือนการทำหัตถการ: ต้องเข้าใจว่านี่คือครีมบำรุง อาจจะต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อดีไหมนะ?

จากที่ลองใช้และวิเคราะห์มา เจ้า Olay Regenerist Revitalising Hydration Cream SPF15 เนี่ย เหมาะมากๆ กับ:

  • คนที่มีอายุ 30+ ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ: หรือกังวลเรื่องผิวไม่กระชับ
  • คนที่มีผิวแห้งถึงผิวผสม: โดยเฉพาะคนที่ต้องการความชุ่มชื้นแบบจัดเต็ม
  • คนที่มองหาครีมลดริ้วรอยในราคาที่สมเหตุสมผล: ไม่ได้อยากลงทุนกับครีมเคาน์เตอร์แบรนด์แพงๆ
  • คนที่ต้องการครีมบำรุงตอนเช้าที่มีกันแดดในตัว: สะดวก รวดเร็ว

ถ้าถามว่าควรซื้อเลยไหม? ถ้าคุณเข้าข่ายกลุ่มด้านบน แล้วกำลังมองหาครีมตามคุณสมบัติเหล่านี้ **ก็จัดเลยจ้า!** โดยเฉพาะช่วงที่มีโปรโมชั่นตามร้านต่างๆ หรือในออนไลน์ ยิ่งคุ้มไปอีก


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: ในไลน์ Olay เองเป็นไง?

ในไลน์ Regenerist ของ Olay เองก็มีครีมหลายตัวนะ ที่ดังๆ พอๆ กันก็เช่น Olay Regenerist Micro-Sculpting Cream ตัวนี้จะเน้นเรื่องยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยที่ชัดเจนกว่า เนื้อจะเข้มข้นกว่าตัว Revitalising Hydration นิดหน่อย ราคาจะสูงกว่าด้วย

ถ้าเทียบกัน ตัว Revitalising Hydration SPF15 จะเน้นความชุ่มชื้นเป็นหลัก และมีกันแดดมาให้ด้วย เหมาะกับการใช้ตอนเช้า ส่วน Micro-Sculpting จะเน้นเรื่องริ้วรอยและความกระชับโดยตรง ถ้าผิวแห้งและต้องการกันแดดด้วย เลือกตัวนี้ แต่ถ้าเน้นแก้ปัญหาริ้วรอยหนักๆ อาจจะมอง Micro-Sculpting หรือใช้คู่กันไปเลยก็ได้


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ช้อปที่ไหนดี?

Olay เป็นแบรนด์ใหญ่ การรับประกันสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นไปตามเงื่อนไขของร้านค้าที่ซื้อมา เช่น หากสินค้าชำรุดเสียหายจากการผลิต ก็สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ตามนโยบายร้าน

ช่องทางการซื้อ: หาง่ายมากๆ แทบจะทุกที่เลยค่ะ ทั้ง
- ร้าน Drugstore ชั้นนำ: Watsons, Boots มีให้เลือกเพียบ และจัดโปรบ่อยมาก!
- ห้างสรรพสินค้า: แผนกบิวตี้ในห้างต่างๆ
- ร้านค้าออนไลน์: Shopee, Lazada, JD Central นี่คือแหล่งรวมโปรโมชั่นเลย มีโค้ดลด, ส่งฟรี, ผ่อน 0% ด้วยนะ
- ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Olay: มั่นใจว่าเป็นของแท้แน่นอน

คำแนะนำในการซื้อ: แนะนำให้ซื้อช่วงที่มีโปรโมชั่นลดราคา! Olay ชอบจัดโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าต่างๆ อยู่แล้ว ส่วนต่างของราคาก็แตกต่างกันไป บางทีในออนไลน์จัดหนักกว่าหน้าร้านอีก ต้องหมั่นเช็คโปรนะจ๊ะ

เรื่องการจัดส่ง ส่วนใหญ่ถ้าสั่งออนไลน์ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลก็รอไม่กี่วันก็ได้ของแล้ว


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

หลังจากที่ลองใช้และพิจารณามาทั้งหมดแล้ว ถ้าให้ฟันธงว่า Olay Regenerist Revitalising Hydration Cream SPF15 ควรซื้อไหม?

สำหรับผู้เริ่มต้นที่กังวลเรื่องริ้วรอยและต้องการครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นดี มีกันแดดในตัวในราคาที่เข้าถึงง่าย: **แนะนำให้ซื้อเลยค่ะ!** เป็นครีมบำรุงเริ่มต้นที่ดีมากๆ สำหรับการดูแลปัญหาริ้วรอย

สำหรับคนที่มีผิวแห้งถึงผิวผสม และมองหาครีมใช้ตอนเช้าที่มี SPF: **เหมาะมาก!** ให้ความชุ่มชื้นดี ไม่หนักหน้าจนเกินไปสำหรับใช้ตอนกลางวัน

แต่ถ้าคุณมีผิวมันมากๆ และอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นสุดๆ: อาจจะต้องลองเทสต์ที่ผิวก่อน หรือพิจารณารุ่นอื่นที่เนื้อเบากว่านี้ในไลน์เดียวกัน หรืออาจจะใช้แค่ตอนกลางคืนแทนก็ได้

สรุปง่ายๆ คือ เป็นครีมบำรุงลดริ้วรอยที่คุ้มค่าตัวหนึ่งเลยทีเดียว หาซื้อง่าย ราคาดี และให้ผลลัพธ์เรื่องความชุ่มชื้นและริ้วรอยได้น่าพอใจในระดับหนึ่งจ้า! ไปลองดูกันนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอมาป้ายยา เอ้ย! มารีวิวครีมในตำนานที่เชื่อว่าเกิน 80% ของคนไทยต้องเคยเห็น เคยใช้ หรืออย่างน้อยก็ต้องรู้จัก! ใช่แล้วค่ะ กำลังพูดถึง "นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงิน" นั่นเอง! เจ้ากระปุกกลมๆ สีน้ำเงิน ที่อยู่คู่บ้านคู่ชีวิตเร
รีวิว Nivea Creme ตลับน้ำเงิน: ครีมสารพัดประโยชน์ ใช้ดีตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงไหม?
สวัสดีค่าทุกคนนน วันนี้เราจะมาเมาท์มอยเรื่องสกินแคร์ตัวเด็ดที่ช่วงนี้ฮิตมาก (รึเปล่า? ไม่รู้แหละ แต่เราอิน!) นั่นก็คือ Lancome Hydra Zen ครีมบำรุงในตำนาน ที่เค้าเคลมว่าช่วยเติมความชุ่มชื้น กู้ผิวแห้งกร้าน แถมยังช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดงได้
รีวิว Lancome Hydra Zen ครีมบำรุง: เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ลดรอยแดง ได้ผลไหม?
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอมาป้ายยาแบบจัดเต็มกับครีมตัวดังในตำนานที่เขาว่ากันว่าช่วยลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับหน้าได้แบบสับๆ นั่นก็คือ Olay Regenerist Micro-Sculpting Cream หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า "โอเลย์กระปุกแดง" นั่นเองค่ะ! ใช้แล้วจะเห็น
รีวิว Olay Regenerist Micro-Sculpting Cream: ครีมลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับหน้า ใช้แล้วเห็นผลจริงหรือ?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?