Logitech G633 รีวิว: หูฟังเกมมิ่ง 7.1 เสียงรอบทิศทาง คุ้มค่าน่าซื้อไหม?

ชาวเกมเมอร์ทั้งหลายฟังทางนี้! ถ้าคุณกำลังเล็งหาหูฟังคู่ใจที่จะพาเสียงในเกมมาเสิร์ฟถึงหูแบบรอบทิศทาง ชนิดที่ว่าได้ยินเสียงศัตรูย่องเข้ามาแต่ไกล หรือเสียงสกิลตูมตามแบบกระหึ่มเหมือนอยู่ในโรงหนังล่ะก็ ชื่อของ Logitech G633 Artemis Spectrum ต้องเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างแหละน่า! แต่เจ้าตัวนี้มันจะเด็ดจริง คุ้มค่าน่าสอยมาไว้ข้างๆ โต๊ะคอมช่วงเงินเดือนออก หรือรอสอยตอนโปรโมชั่นดี? วันนี้เราจะมาเจาะลึก รีวิวแบบไม่มีกั๊ก สไตล์บ้านๆ เข้าใจง่าย ให้ดูกันไปเลยว่าเจ้าหูฟังเกมมิ่งตัวนี้มีดีอะไร แล้วมันเหมาะกับเกมเมอร์อย่างเราๆ แค่ไหนกันเชียว!

1. ภาพรวมสินค้า: มารู้จัก Logitech G633 กันหน่อยเป็นไง?

เจ้า Logitech G633 Artemis Spectrum เนี่ย เปิดตัวมาตั้งแต่ประมาณปี 2015 โน่นแน่ะ ถึงจะไม่ได้ใหม่กริ๊บ แต่บอกเลยว่าฟีเจอร์และคุณภาพเสียงยังน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะคนที่ชอบหูฟังแบบมีสาย ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องแบตหมดกลางคัน แถมยังพ่วงคำว่า Artemis Spectrum มาด้วย ซึ่งเป็นชื่อเรียกซีรีส์หูฟังของ Logitech ในยุคเดียวกัน

แบรนด์: Logitech G (เขาเน้นอุปกรณ์เกมมิ่งโดยเฉพาะนะ)
รุ่น: G633 Artemis Spectrum
ปีที่วางขาย: ประมาณปลายปี 2015
ช่วงราคาขาย: ตอนเปิดตัวราคาประมาณ 149.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนในไทยราคาตอนนี้ก็เห็นมีตั้งแต่ประมาณ 4,000 - 6,000 บาท แล้วแต่โปรโมชั่น

การวางตำแหน่งสินค้า: จัดอยู่ในระดับกลางๆ ถึงค่อนไปทางสูงเมื่อเทียบกับหูฟังเกมมิ่งแบบมีสายด้วยกัน เหมาะกับเกมเมอร์ที่อยากได้คุณภาพเสียงที่ดี ฟีเจอร์ครบ ทั้งแสงสีเสียงแบบ 7.1 รอบทิศทาง

สรุปจุดเด่นหลัก (ที่เราว่าเด็ด!):

• เสียงรอบทิศทาง 7.1: รองรับทั้ง Dolby Surround Sound และ DTS Headphone:X ให้มิติเสียงที่สมจริง ได้ยินเสียงเท้า เสียงทิศทางแม่นยำ (แต่ต้องใช้กับ PC และลงโปรแกรม Logitech Gaming Software/G HUB นะ)
• ไดรเวอร์ Pro-G: Logitech บอกว่าใช้ไดรเวอร์แบบใหม่ วัสดุพิเศษ ให้เสียงที่ใสและเบสแน่น
• ไฟ RGB ปรับได้: มีไฟที่โลโก้ตัว G และแถบด้านหลัง ปรับได้ 16.8 ล้านสีผ่านโปรแกรม (ถึงจะใส่เองแล้วไม่เห็นก็เถอะนะ... แต่มันเท่!)
• เชื่อมต่อได้หลายแบบ: มีทั้งแบบ USB สำหรับ PC และ 3.5mm สำหรับเชื่อมต่อกับมือถือ, PS4, Xbox One ได้ด้วย
• ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน: ก้านไมค์พับเก็บได้ มีไฟบอกสถานะ Mute ด้วย
• ปุ่ม G-Key ตั้งโปรแกรมได้: มี 3 ปุ่มบนหูฟัง ตั้งค่าคำสั่งลัดต่างๆ ได้

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เท่ ดุดัน หรือยังไงดี?

ดีไซน์ของ G633 มาในโทนสีดำดุดัน วัสดุหลักเป็นพลาสติก แต่ดูแข็งแรงอยู่นะ ขนาดค่อนข้างใหญ่ และหนักพอตัว (ประมาณ 374 กรัม) ใส่แล้วเต็มหูแน่นอน

การออกแบบ: ดูล้ำๆ ตามสไตล์หูฟังเกมมิ่งยุคนั้น มีส่วนที่เป็นเหลี่ยมเป็นมุม ไฟ RGB อยู่ตรงโลโก้ตัว G ที่ครอบหู และแถบด้านหลัง ข้างๆ หูซ้ายมีปุ่มต่างๆ ให้กดเพียบ

วัสดุที่ใช้: ตัวหูฟังเป็นพลาสติก ส่วนก้านคาดศีรษะด้านในบุด้วยผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ที่ครอบหูเป็นผ้าคล้ายๆ กำมะหยี่ นุ่มๆ ใส่สบายหู

ขนาดและน้ำหนัก: ขนาดค่อนข้างใหญ่และหนัก (374 กรัม) ใส่แล้วอาจจะรู้สึกว่ามีน้ำหนักอยู่บนหัวหน่อย

สีที่มีให้เลือก: หลักๆ ที่เห็นก็จะเป็นสีดำนี่แหละ

ความสะดวกในการพกพา: ไม่ได้ออกแบบมาให้พับหรือพกพาสะดวกเท่าไหร่ เน้นใช้งานอยู่กับที่มากกว่า

เหมาะกับวางไว้ที่ไหนในบ้าน: เหมาะวางไว้บนโต๊ะคอมพ์ข้างๆ คู่ใจอย่างเมาส์และคีย์บอร์ดเกมมิ่งนั่นแหละ จัดระเบียบสายดีๆ ก็ดูดี

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ เลยคือตัวหูฟัง, สาย USB สำหรับต่อ PC (เส้นยาวประมาณ 3 เมตร), สาย 3.5mm พร้อมรีโมทควบคุมเล็กๆ สำหรับต่อมือถือหรือเครื่องเกม, คู่มือ, และบางทีอาจจะมีฝาครอบหูฟังสำรองมาให้ด้วย (เป็นแม่เหล็กถอดเปลี่ยนได้)

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เสียงเทพจริงไหม?

หัวใจหลักของเจ้า G633 เลยก็คือเรื่องเสียงนี่แหละ โดยเฉพาะระบบเสียง 7.1 รอบทิศทางที่รองรับทั้ง Dolby Surround Sound และ DTS Headphone:X ซึ่งต้องต่อผ่าน USB กับ PC และใช้โปรแกรม Logitech Gaming Software (LGS) หรือ G HUB เพื่อเปิดใช้งาน

ทดสอบเสียงในเกม: เวลาเล่นเกม FPS อย่าง CS:GO หรือ Valorant ที่เน้นการฟังเสียงฝีเท้า บอกเลยว่า จับทิศทางได้ดีมาก ได้ยินเสียงศัตรูมาจากซ้าย ขวา หน้า หลัง หรือเฉียงๆ ค่อนข้างแม่นยำ ทำให้เรารู้ตัวก่อนและเตรียมรับมือได้ทัน เสียงระเบิด เสียงปืน ก็ดังกระหึ่ม สมจริงดี

ทดสอบดูหนัง: ฟีลลิ่งเหมือนดูในโรงหนังย่อมๆ เสียงโอบล้อมดี ได้ยินเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ พุ่งมาจากทิศทางที่ถูกต้อง เหมาะกับคอหนังที่ชอบความสมจริง

ทดสอบฟังเพลง: อันนี้แล้วแต่คนชอบแนวเสียงนะ บางคนอาจจะรู้สึกว่าเบสหนักไปนิดสำหรับเพลงที่เน้นเสียงร้อง แต่โดยรวมเสียงก็ยังโอเค รายละเอียดดี ปรับ EQ ในโปรแกรมเอาก็ได้

ไมโครโฟน: ไมค์เป็นแบบก้าน พับเก็บได้ มีระบบตัดเสียงรบกวน เสียงพูดค่อนข้างชัดเจนสำหรับใช้คุยกับเพื่อนในเกมหรือ Discord มีไฟ LED เล็กๆ ที่ปลายไมค์ บอกสถานะ Mute เวลาเราพับเก็บ สะดวกดีนะ

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: เสียบปุ๊บติดปั๊บ หรือต้องตั้งค่าเยอะ?

ถ้าต่อผ่านสาย 3.5mm คือเสียบแล้วใช้ได้เลย ง่ายๆ แต่ถ้าอยากได้ฟีเจอร์เต็มๆ ทั้งเสียง 7.1 หรือปรับไฟ RGB ต้องต่อผ่าน USB และลงโปรแกรม Logitech Gaming Software (LGS) หรือ G HUB ก่อน โปรแกรมของ Logitech ค่อนข้างใช้งานง่าย มีเมนูภาษาไทยด้วย ปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ละเอียด ตั้งแต่ EQ เสียง, โหมดเสียงรอบทิศทาง, การตั้งค่าปุ่ม G-Key, และไฟ RGB

ความสบายในการสวมใส่: ที่ครอบหูเป็นผ้า ระบายอากาศได้ดี ใส่เล่นเกมนานๆ ได้สบายหู ไม่ร้อน ไม่อับเท่าพวกที่เป็นหนังเทียม แต่ด้วยความที่ตัวหูฟังค่อนข้างมีน้ำหนัก บางคนอาจจะรู้สึกเมื่อยล้าที่ศีรษะถ้าใส่นานมากๆ

เสียงดังมั้ย ร้อนเร็วมั้ย: เสียงตอนใช้งานปกติไม่ดังรบกวนคนรอบข้าง ส่วนเรื่องความร้อน ที่ครอบหูที่เป็นผ้าช่วยระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่ค่อยร้อนหู

รองรับภาษาไทยมั้ย: ตัวโปรแกรม Logitech Gaming Software รองรับภาษาไทย ทำให้ตั้งค่าต่างๆ ได้ง่าย

ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า: หูฟังเป็นมาตรฐานทั่วไป ใช้กับแอปพลิเคชันต่างๆ ในไทยได้ปกติ ไม่มีปัญหาจ้า

5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ลงทุนครั้งเดียวจบไหม?

เนื่องจากเป็นหูฟังแบบมีสาย เรื่องแบตเตอรี่จึงไม่ใช่ปัญหา ใช้ไฟจากพอร์ต USB หรือจากอุปกรณ์ที่ต่อสาย 3.5mm ได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเสื่อมในระยะยาว อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับความทนทานของวัสดุและสาย

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ อาจจะมีแค่ค่าเปลี่ยนที่ครอบหู ถ้าใช้ไปนานๆ แล้วมันเสื่อมสภาพ ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้ ส่วนสายถ้าเสียก็อาจจะต้องหาซื้อใหม่

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าเทียบกับราคาเปิดตัวในอดีต ปัจจุบันราคา G633 ถือว่าลงมาเยอะพอสมควร ด้วยฟีเจอร์เสียง 7.1 คุณภาพเสียงที่ดีสำหรับเกมมิ่ง และความสบายในการสวมใส่สำหรับการใช้งานนานๆ ถือว่า ค่อนข้างคุ้มค่าในราคาปัจจุบัน

6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีอะไรที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ?

ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):

• เสียง 7.1 แยกทิศทางดีมาก: สายเกม FPS ถูกใจสิ่งนี้
• ใส่สบายหู ไม่ร้อน: ที่ครอบหูผ้า ใส่เล่นนานๆ ช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงกักตัวก็สบาย
• เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์: ต่อกับ PC, PS4, Xbox One, มือถือ ได้หมด
• ไมค์ชัด มีไฟบอกสถานะ Mute: คุยกับเพื่อนร่วมทีมไม่ติดขัด
• มีปุ่ม G-Key ตั้ง Macro ได้: สะดวกสำหรับเกมเมอร์ PC

ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเลใจ):

• ตัวหูฟังค่อนข้างใหญ่และหนัก: อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังที่ใหญ่ๆ หรือคนที่ศีรษะเล็ก
• ต้องลงโปรแกรมถึงใช้ฟีเจอร์ 7.1 ได้เต็มที่บน PC: ถ้าใช้แค่ 3.5mm จะได้แค่เสียง Stereo
• ไฟ RGB อาจจะดูไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับคนใส่เอง: เพราะมองไม่เห็น
• รุ่นค่อนข้างเก่าแล้ว: อาจจะมีรุ่นใหม่ๆ ที่สเปกดีกว่า หรือฟีเจอร์ทันสมัยกว่าออกมาแล้ว
• สายอาจจะเกะกะสำหรับบางคน: เป็นหูฟังแบบมีสายนะ ต้องจัดการสายให้ดี

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: คุณคือคนที่ใช่หรือเปล่า?

เหมาะกับ:

• เกมเมอร์ PC ที่จริงจังกับเสียง: โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมแนว FPS หรือเกมที่ต้องการความแม่นยำในการฟังเสียง
• คนที่ชอบดูหนังฟังเพลงบน PC: ระบบเสียง 7.1 ช่วยเพิ่มอรรถรสได้เยอะ
• คนที่ใช้หลายอุปกรณ์: ทั้ง PC, Console, มือถือ อยากใช้หูฟังตัวเดียวจบ
• คนที่มองหาหูฟังเกมมิ่งราคาช่วงกลางๆ ที่เน้นคุณภาพเสียง: ในงบประมาณที่ยอมจ่ายได้เพื่อเสียงที่ดีขึ้น

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: เหมาะกับการนั่งเล่นเกมนานๆ อยู่กับที่, ดูหนัง, ฟังเพลง, คุย Discord

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า? ด้วยความที่รุ่นออกมานานแล้ว แนะนำให้รอซื้อช่วงโปรโมชั่นจะคุ้มที่สุด! เทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ต่างๆ (อย่าง 10.10, 11.11, 12.12 หรือช่วง Payday) มักจะมีส่วนลดดีๆ หรือของแถมให้

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เผื่อลังเล): มีตัวเลือกอื่นอีกไหม?

ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน หรือแบรนด์คู่แข่งในราคาใกล้เคียง:

• เทียบกับ Logitech G933: G933 คือรุ่นไร้สายของ G633 ฟีเจอร์ส่วนใหญ่คล้ายกัน แต่ G933 จะแพงกว่าและต้องชาร์จแบต ถ้าไม่ติดเรื่องสาย G633 ก็เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่า
• เทียบกับ Logitech G533: G533 เป็นรุ่นไร้สายที่ใหม่กว่า G633/G933 เล็กน้อย ดีไซน์ต่างกันเล็กน้อย G533 จะเบากว่า แต่ G633 อาจจะมีฟีเจอร์บางอย่างเยอะกว่า เช่น ปุ่ม G-Key หรือการเชื่อมต่อแบบ 3.5mm
• เทียบกับ HyperX Cloud II: เป็นหูฟังเกมมิ่งยอดนิยมอีกตัวที่เน้นความสบายและเสียง 7.1 ดีไซน์และแนวเสียงอาจจะต่างกัน ต้องลองเปรียบเทียบรีวิวดู แต่ Cloud II มักถูกยกมาเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจในกลุ่มหูฟัง 7.1 Wired

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนสบายใจสุด?

Logitech มีชื่อเสียงที่ดีพอสมควรในเรื่องการรับประกันสินค้า โดยทั่วไปหูฟังเกมมิ่งของ Logitech มักจะมีการรับประกันจากผู้จัดจำหน่ายในไทย (ลองเช็คระยะเวลารับประกันกับร้านที่ซื้ออีกที ส่วนใหญ่จะประมาณ 1-2 ปี) สามารถติดต่อเคลมผ่านศูนย์บริการในไทยได้

ช่องทางการซื้อ: หาซื้อได้ทั้งร้านค้าออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada, Shopee หรือร้านขายอุปกรณ์เกมมิ่งชั้นนำในไทย รวมถึงร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Logitech

โปรโมชั่น: แนะนำให้ติดตามช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ (อย่างพวก Double Digit Sale) มักจะมีส่วนลด โค้ดส่งฟรี หรือโค้ดส่วนลดเพิ่มเติม

ตัวเลือกการชำระเงิน: มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งชำระเต็ม, ผ่อนชำระ 0% (แล้วแต่ร้านและบัตร), เก็บเงินปลายทาง ก็มีนะ

ระยะเวลาการจัดส่งและค่าจัดส่ง: ถ้าสั่งในประเทศมักจะส่งไว 1-3 วันทำการ (ในกรุงเทพฯ อาจจะวันเดียวถึงก็ได้) ค่าจัดส่งแล้วแต่ร้าน บางทีก็มีโปรส่งฟรี

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วสอยเลยดีไหม?

จากที่รีวิวมาทั้งหมด เจ้า Logitech G633 Artemis Spectrum เป็นหูฟังเกมมิ่งแบบมีสายที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียงรอบทิศทาง 7.1 ได้ดีเยี่ยม ใส่สบายหู เหมาะกับการเล่นเกมนานๆ และเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ แม้จะเป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว แต่ฟีเจอร์หลักๆ ยังคงตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ต้องการเสียงที่แม่นยำในการระบุทิศทาง

คำแนะนำขั้นสุดท้าย:

• ถ้าคุณเป็น เกมเมอร์ PC ที่เน้นเสียงรอบทิศทางเป็นพิเศษ งบประมาณกลางๆ และไม่ติดเรื่องหูฟังมีสาย และเจอในราคาโปรโมชั่นดีๆ รุ่นนี้ถือว่า น่าซื้อ และ คุ้มค่า อยู่ครับ
• ถ้าคุณ เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกเกมมิ่งจริงจัง อยากลองสัมผัสเสียง 7.1 ในราคาที่เข้าถึงง่าย (ถ้าเจอราคาดีๆ) G633 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการเริ่มต้น
• แต่ถ้าคุณ ไม่ชอบหูฟังใหญ่ๆ หนักๆ หรือ ต้องการหูฟังไร้สาย หรือ อยากได้ฟีเจอร์ที่ใหม่ล่าสุดจริงๆ อาจจะต้องมองหารุ่นอื่นแทนครับ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะครับ ใครใช้ G633 อยู่ หรือมีประสบการณ์กับหูฟังตัวนี้ มาแชร์กันในคอมเมนต์ได้เลยนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Logitech G633s หูฟัง 7.1 ที่พร้อมใช้งานทั้ง PC และ PS4 Xbox ...
• Ep.74 Logitech G633 Artemis หูฟังเกมเมอร์ ที่เทพเกมต้องมี
• รีวิว Logitech G433 เรียบหรู ดูแพง เอาชื่อนี้ไปเลย เสียงไมค์อย่างแจ่ม
• หูฟังไรสาย 7.1 ระดับเทพ Logitech G933S หมดปัญหาสายเกะกะ ...
• [UNBOX] รีวิว Logitech G933 หูฟัง 7.1 ระบบ DTS X !!