รีวิว Asics GEL-Nimbus 21: รองเท้าวิ่งสายซัพพอร์ตตัวท็อป วิ่งสบายจริงไหม?


เรื่องของเรื่องคือช่วงนี้ใครๆ ก็หันมาออกกำลังกายกันเยอะใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งในสวน วิ่งบนลู่ หรือจะวิ่งไล่จับโปรโมชั่นตามห้างก็ตาม (อันนี้หลังๆ เริ่มไม่ใช่ละ) แต่วิ่งทั้งที รองเท้าคู่ใจมันสำคัญมากกกกก! วันนี้เราเลยจะมาขยี้รีวิวรองเท้าวิ่งตัวท็อปในตำนานอย่าง Asics GEL-Nimbus 21 ให้ดูกันแบบหมดเปลือก ว่าที่เขาว่าวิ่งสบายเหมือนเหยียบเมฆน่ะ จริงหรือจ้อจี้?!
1. ภาพรวมน้องนิมบัส 21: รู้จักกันไว้ไม่เสียหาย
ถ้าพูดถึงรองเท้าวิ่งสายซัพพอร์ต นุ่มๆ เด้งๆ ชื่อ Asics GEL-Nimbus ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ เลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะรุ่น 21 เนี่ย ถือเป็นตัวเก่งที่ออกมาพักใหญ่แล้ว แต่ความนิยมยังไม่ตก เพราะอะไรน่ะเหรอ? อ่านต่อเลย!
แบรนด์: ASICS
รุ่น: GEL-Nimbus 21
ปีที่วางขาย: เปิดตัวช่วงปลายปี 2018 - ต้นปี 2019
ช่วงราคาขาย: ตอนเปิดตัวก็ตัวเลขเอาเรื่องอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้หาราคาน่ารักๆ ได้เพียบ เริ่มต้นพันปลายๆ ถึงสามสี่พันก็มี
ตำแหน่งในตลาด: เป็นรองเท้าวิ่ง สายซัพพอร์ตตัวท็อป เน้นความสบายสูงสุดสำหรับการวิ่งระยะไกล เหมาะกับนักวิ่งที่ต้องการการรองรับแรงกระแทกเยอะๆ
สรุปจุดเด่นแบบย่อๆ ที่เขาเคลมมา:
- นุ่มสบายขั้นสุด: เหมือนวิ่งบนก้อนเมฆ สมชื่อ Nimbus ที่แปลว่าเมฆนี่แหละ
- ซัพพอร์ตดีเยี่ยม: ช่วยลดแรงกระแทก ปกป้องข้อต่อ
- วิ่งได้ไกลขึ้น นานขึ้น: ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้รู้สึกไม่ล้า
- ระบายอากาศดี: เท้าไม่อบ ไม่เหม็นอับ (อันนี้สำคัญมาก!)
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบๆ แต่ดูแพง
หน้าตาน้อง Nimbus 21 ก็มาในสไตล์ Asics ที่คุ้นเคยค่ะ ไม่ได้หวือหวามาก แต่ดูแข็งแรงทนทาน ส่วนใหญ่มาในโทนสีเรียบๆ หรือทูโทน แต่ก็มีสีสันสดใสให้เลือกบ้างตามคอลเลคชั่นพิเศษ วัสดุด้านบนเป็นผ้าตาข่าย Jacquard Mesh ที่เขาบอกว่ายืดหยุ่นกระชับตามรูปเท้า และระบายอากาศได้ดี
ขนาดและน้ำหนัก: สำหรับรองเท้าสายซัพพอร์ตตัวท็อป น้ำหนักอาจจะไม่ได้เบาหวิวเท่าพวกรองเท้าสายซิ่งค่ะ น้ำหนักประมาณ 310 กรัมสำหรับผู้ชาย อาจจะไม่ได้เหมาะกับการพกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนแบบมินิมอลเท่าไหร่ แต่อยู่บ้านก็วางไว้ตรงชั้นรองเท้าหน้าประตูสวยๆ ได้เลย
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ส่วนใหญ่ก็จะมีรองเท้ามาให้ 1 คู่ พร้อมกล่อง คู่มือการใช้งานพื้นฐานค่ะ (คงไม่มีสายชาร์จเพราะเป็นรองเท้าวิ่งเนอะ)
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: นุ่ม เด้ง ซัพพอร์ตจุกๆ!
มาถึงไฮไลท์ของน้อง Nimbus 21 นั่นก็คือ ความนุ่มและความซัพพอร์ต ค่ะ เทคโนโลยีหลักๆ ที่อัดแน่นมาก็คือ GEL™ ที่วางอยู่ในจุดที่รับแรงกระแทกเยอะๆ ทั้งหน้าเท้าและส้นเท้า รวมถึงโฟม FlyteFoam Propel และ FlyteFoam Lyte ที่ช่วยให้พื้นรองเท้าเด้งส่งและมีน้ำหนักเบา
เวลาสวมเข้าไปครั้งแรก จะรู้สึกถึงความนุ่มนิ่ม เหมือนเหยียบฟองน้ำแน่นๆ เลยค่ะ ตอนวิ่งนี่แหละคือเรื่องจริง! แรงกระแทกที่ส่งกลับมาที่ข้อน้อยลงอย่างรู้สึกได้ ยิ่งวิ่งระยะไกลๆ หรือวิ่งนานๆ จะยิ่งเห็นผลเรื่องความสบาย ไม่ค่อยมีอาการเมื่อยล้าฝ่าเท้าหรือเข่ามากเท่าที่เคยเป็น (อันนี้แล้วแต่คนด้วยนะคะ)
โฟม FlyteFoam Propel ให้ฟีลเด้งๆ ช่วยส่งแรงก้าว ส่วน FlyteFoam Lyte ก็ช่วยคุมน้ำหนักรองเท้าไม่ให้หนักเกินไป การผสมผสานของเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้วิ่งได้นุ่มนวล ราบรื่น เหมือนลอยอยู่บนอากาศ (เว่อร์ไปนิด แต่ฟีลประมาณนั้นจริงๆ นะ!)
ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใส่ง่าย วิ่งสบาย
เรื่องความง่ายในการใช้งานนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ Asics GEL-Nimbus 21 เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาให้ใส่แล้ววิ่งได้เลย ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก ผ้าอัปเปอร์คือนุ่ม กระชับเท้าดี ไม่รู้สึกอึดอัด หรือกัดเท้า (อันนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าต้องวิ่งนานๆ)
ระบบต่างๆ ของรองเท้าคือพื้นฐานรองเท้าวิ่งที่ดีงามอยู่แล้ว ไม่ได้มีซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันซับซ้อนอะไรค่ะ แค่ผูกเชือกให้พอดี แล้วออกไปวิ่งได้เลย
เรื่องเสียงตอนวิ่งก็ไม่ได้ดังเอี๊ยดอ๊าดน่ารำคาญค่ะ ส่วนความร้อนนี่ผ้า Jacquard Mesh ช่วยระบายอากาศได้ดีทีเดียว ใส่วิ่งช่วงหน้าร้อน เหงื่อออกเยอะๆ ก็ไม่รู้สึกอบเท้ามากนัก
4. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ทนทาน วิ่งได้ยาว
สำหรับรองเท้าวิ่ง ความทนทานคือหัวใจหลักค่ะ GEL-Nimbus 21 เนี่ยขึ้นชื่อเรื่องความอึดอยู่แล้ว ด้วยพื้นยาง AHAR+ ที่ทนทานต่อการสึกหรอ ทำให้ใช้งานได้ยาวนาน วิ่งได้หลายร้อยกิโลเมตรกว่าจะเริ่มเห็นการเสื่อมสภาพของพื้นรองเท้า
ในระยะยาวแล้ว ถ้ามองเรื่องความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป (โดยเฉพาะถ้าซื้อได้ตอนลดราคา) ถือว่าคุ้มค่ะ เพราะได้รองเท้าสายซัพพอร์ตตัวท็อปที่ช่วยลดโอกาสบาดเจ็บ และใช้งานได้นาน ถ้าเทียบกับบางรุ่นที่พื้นสึกไวๆ ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ รุ่นนี้ถือว่าเซฟเงินในกระเป๋าได้ในระยะยาวเลยล่ะค่ะ
5. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งรักทั้งแอบบ่น
ข้อดีที่คนน่าจะเลิฟ:
- ความนุ่มระดับสิบ: ใครชอบรองเท้านุ่มๆ เด้งๆ ต้องรุ่นนี้เลย
- ซัพพอร์ตดีจริงจัง: ช่วยเซฟเข่า เซฟข้อต่อได้ดีมาก
- เหมาะกับวิ่งระยะไกล: ใส่แล้วไม่ค่อยล้า วิ่งเพลิน
- ผ้าอัปเปอร์ใส่สบาย: กระชับเท้า ระบายอากาศเยี่ยม
- พื้นทนทาน: ใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่า
ข้อเสียที่อาจทำให้คิดหนัก:
- น้ำหนัก: ไม่ใช่รองเท้าที่เบาที่สุดในตลาด อาจไม่เหมาะกับคนเน้นทำความเร็ว
- ราคาตอนเปิดตัวสูง: ถ้าซื้อตอนเพิ่งออกนี่กระเป๋าแฟ่บแน่นอน (แต่ตอนนี้ราคาดีแล้วนะ!)
- อาจจะไม่เด้งเท่าบางรุ่นใหม่ๆ: เทคโนโลยีโฟมอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่ารุ่นใหม่ๆ ที่ใช้โฟมล่าสุดของ Asics
6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรมีไว้ในครอบครอง?
Asics GEL-Nimbus 21 เหมาะกับ:
- นักวิ่งที่เน้นความสบาย: ไม่ว่าจะวิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งพักฟื้น หรือวิ่งยาวๆ เอาเพลินๆ
- นักวิ่งที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อ/หัวเข่า: ต้องการรองเท้าที่ซัพพอร์ตดีๆ ช่วยลดแรงกระแทก
- นักวิ่งที่มีรูปเท้าปกติถึงอุ้งเท้าสูง (High Arch) หรือข้อเท้าเอียงออกด้านนอก (Underpronation): รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับลักษณะเท้าแบบนี้
- คนที่มองหารองเท้าใส่เดิน/ยืนนานๆ: ด้วยความนุ่มและซัพพอร์ต ทำให้ใส่ในชีวิตประจำวันก็สบาย
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอโปรดีกว่า? ด้วยความที่รุ่นนี้ออกมาพักใหญ่แล้ว ราคาตอนนี้น่ารักน่าคบหามากค่ะ ไม่ต้องรอโปรโมชั่นใหญ่ๆ ก็ได้ราคาดีแล้ว แต่ถ้าเจอช่วงแคมเปญต่างๆ เช่น เลขเบิ้ลใน Lazada/Shopee ก็อาจจะได้ส่วนลดหรือของแถมเพิ่มไปอีก!
7. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เผื่อลังเล):
ถ้าเทียบกับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน อย่างพวก Hoka Clifton หรือรองเท้าสายซัพพอร์ตของแบรนด์อื่นๆ ฟีลลิ่งของ Nimbus 21 จะเด่นเรื่องความนุ่มและความมั่นคงค่ะ
ส่วนถ้าเทียบกับพี่น้องร่วมค่ายอย่าง ASICS GEL-Kayano รุ่น Kayano จะเน้นไปที่การซัพพอร์ตสำหรับคนเท้าแบนหรือเท้าล้ม (Overpronation) มากกว่า ด้วยโครงสร้างที่ช่วยควบคุมการบิดของเท้า ในขณะที่ Nimbus 21 จะเหมาะกับคนเท้าปกติถึงอุ้งเท้าสูงมากกว่า ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองเท้าแบบไหน ลองไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ร้าน Asics เพื่อทำ ASICS FOOT ID ได้นะคะ เขาจะมีเครื่องสแกนเท้า บอกได้เลยว่าเราเหมาะกับรุ่นไหน
ถ้าเทียบกับรุ่นใหม่กว่าอย่าง GEL-Nimbus 24 หรือ 25, 26 แน่นอนว่ารุ่นใหม่ย่อมมีเทคโนโลยีโฟมที่เบาและเด้งกว่า แต่นั่นก็แลกมากับราคาที่สูงกว่าเช่นกันค่ะ ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องความเบาหรือความเด้งแบบสุดๆ Nimbus 21 ในราคาปัจจุบันถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ
8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อง่าย สบายใจ
ASICS เป็นแบรนด์ใหญ่ มีตัวแทนจำหน่ายในไทยชัดเจนค่ะ ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันสินค้าตามมาตรฐาน สามารถส่งเคลมหรือซ่อมได้ตามเงื่อนไข
ช่องทางการซื้อก็หลากหลายค่ะ ทั้งร้านค้าอย่างเป็นทางการของ ASICS เอง หรือตามร้านตัวแทนจำหน่ายรองเท้าวิ่ง รวมถึงร้านค้าออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee ก็มีให้เลือกเพียบค่ะ บางร้านมีบริการเก็บเงินปลายทาง ส่งฟรี หรือมีตัวเลือกผ่อนชำระด้วยนะคะ ช่วงนี้ราคาในออนไลน์คือน่ารักมากๆ ต่างจากราคาป้ายตอนเปิดตัวเยอะเลย
9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สอยไม่สอย?
สรุปแล้ว ถ้าคุณเป็นนักวิ่งที่ เน้นความสบายเป็นหลัก ต้องการรองเท้าที่ซัพพอร์ตดีๆ สำหรับวิ่งระยะไกลหรือวิ่งทั่วไป หรือมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บที่เข่า/ข้อเท้า และมีรูปเท้าปกติถึงอุ้งเท้าสูง Asics GEL-Nimbus 21 คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ
ด้วยราคา ณ ตอนนี้ที่เข้าถึงง่ายกว่าตอนเปิดตัวเยอะมาก ถือเป็นโอกาสทองสำหรับคนที่อยากได้รองเท้าสายซัพพอร์ตตัวท็อปในราคาเบาๆ เลยล่ะค่ะ
แต่ถ้าคุณเป็นนักวิ่งที่เน้นทำความเร็ว ชอบรองเท้าเบาๆ พุ่งๆ หรือมีรูปเท้าแบน เท้าล้มมากๆ อาจจะต้องลองพิจารณารุ่นอื่นดูค่ะ (ไปลอง Kayano ก็ได้นะ!)
สุดท้ายนี้ คำแนะนำที่เวิร์คที่สุด คือถ้าเป็นไปได้ ลองไปลองสวมที่ร้านดูก่อนค่ะ จะได้รู้ว่าไซส์พอดีไหม ฟีลลิ่งเป็นยังไง แล้วค่อยตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางที่สะดวกและได้ราคาดีที่สุดค่ะ! ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการวิ่งนะคะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว รองเท้าวิ่ง Asics Gel-Nimbus 27 นุ่มลึกเหนือระดับ | Ari ...
- รีวิวรองเท้าวิ่ง ASICS ปี 2024 (เกือบ) ทุกรุ่น
- [EP.2] Asics Gel Nimbus 24 รองเท้าวิ่งสาย Support ที่ดีที่สุด??
- รีวิวรองเท้าวิ่ง ASICS รุ่นไหน เหมาะกับใคร ปี 2024 #asicsrunning
- รีวิวรองเท้าวิ่ง Asics Gel-Nimbus 27 นุ่มนวล วิ่งแล้วสบายเท้า
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?