รีวิวเลนส์ Nikon AF-S DX NIKKOR 16-80mm f/2.8-4E ED VR: เลนส์ตัวเดียวเที่ยวได้ทั่วโลก

อ้าววว... กำลังมองหาเลนส์ตัวใหม่ไปเที่ยวรับลมหนาว เอ้ย! รับหน้าฝนอยู่เหรอ? หรือจะเอาไว้ถ่ายบรรยากาศงานบุญ งานบวช งานแต่ง งานไหนๆ ที่ไทยเราจัดแน่นจัดเต็มตลอดปี? แล้วเจอเลนส์ Nikon AF-S DX NIKKOR 16-80mm f/2.8-4E ED VR ตัวนี้แล้วสงสัยว่า "ตัวเดียวเที่ยวได้ทั่วโลกจริงดิ?" หรือว่า "มันจะคุ้มค่าตัวมั้ยเนี่ย?" วันนี้เราจะมารีวิวแบบจัดเต็ม สไตล์บ้านๆ เข้าถึงง่าย ใช้จริงแบบคนไทยๆ ให้ดูกันไปเลยว่าเจ้าเลนส์ตัวนี้มันเจ๋งแค่ไหน มีดีมีร้ายตรงไหนบ้าง ก่อนจะควักเงินในกระเป๋าไปสู่ขอมาอยู่ด้วย!

1. ภาพรวมเลนส์: รู้จักเจ้า 16-80mm ตัวนี้ก่อน

นี่คือเลนส์ซูมมาตรฐานตัวเทพสำหรับกล้อง Nikon เซ็นเซอร์ DX (หรือ APS-C นั่นแหละ) มันออกมาเอาใจคนที่ไม่ชอบพกเลนส์หลายตัว แต่อยากได้ช่วงที่ครอบคลุมตั้งแต่กว้างๆ ยันซูมเข้าไปหน่อยๆ แถมรูรับแสงยังพอใช้ได้เลยนะ

แบรนด์: Nikon

รุ่น: AF-S DX NIKKOR 16-80mm f/2.8-4E ED VR

เปิดตัว: ประมาณกลางปี 2015 นี่เอง

ช่วงราคา: ตอนเปิดตัวใหม่ๆ ราคาก็เอาเรื่องอยู่ หลักสามหมื่นกว่าบาท แต่ตอนนี้ถ้าซื้อมือสองสภาพดีๆ อาจจะเจอราคาดีๆ อยู่ที่หลักหมื่นปลายๆ ถึงสองหมื่นต้นๆ นะ

ตำแหน่งในตลาด: ถือเป็นเลนส์เกรดพรีเมียมในกลุ่มเลนส์ DX เป็นตัวอัปเกรดที่ดีมากจากเลนส์คิท 18-55mm หรือ 18-140mm เหมาะกับคนที่ซีเรียสเรื่องคุณภาพไฟล์ขึ้นมาอีกหน่อย แต่อยากได้ความสะดวกครบจบในตัวเดียว

จุดเด่นหลักที่ต้องรู้:

• ช่วงซูม 16-80mm: เทียบเท่าประมาณ 24-120mm บนกล้อง Full Frame คือกว้างก็ได้ ซูมก็ได้ ถ่ายได้เกือบทุกอย่าง!
• รูรับแสงกว้าง f/2.8-4: ที่ช่วงกว้างสุดได้ถึง f/2.8 ช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และละลายหลังได้สวยกำลังดี
• ระบบกันสั่น VR: เคลมว่ากันสั่นได้ถึง 4 สต็อป ถ่ายภาพกลางคืน หรือถ่ายวิดีโอแบบถือกล้องสบายขึ้นเยอะ!
• มี Nano Crystal Coat: โค้ทผิวเลนส์ตัวเทพของ Nikon ช่วยลดแสงแฟลร์และแสงโกสต์ ทำให้ได้ภาพที่ใส คมชัด แม้ย้อนแสง
• น้ำหนักเบา พกพาง่าย: สำหรับเลนส์ที่มีสเปกประมาณนี้ ถือว่าทำน้ำหนักมาได้ดีมาก แค่ประมาณ 480 กรัมเอง พกไปเที่ยวไม่เป็นภาระ

2. ดีไซน์และรูปลักษณ์ภายนอก: ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่เทอะทะ

พอจับเลนส์ตัวนี้ครั้งแรกจะรู้สึกเลยว่ามันไม่ก๊องแก๊ง วัสดุงานประกอบดูแน่นหนาตามสไตล์เลนส์เกรดดีของ Nikon

การออกแบบ: ดูเรียบๆ ดำๆ ทึมๆ ตามสไตล์เลนส์ค่าย มีวงแหวนซูมใหญ่จับถนัด และวงแหวนโฟกัสเล็กกว่าอยู่ด้านหน้า

วัสดุที่ใช้: บอดี้เป็นพลาสติกคุณภาพดี แต่เมาท์เลนส์เป็นโลหะ แข็งแรงหายห่วง

ขนาดและน้ำหนัก: ขนาดกำลังดี ไม่ได้ยาวใหญ่เกะกะมากนัก น้ำหนักประมาณ 480 กรัม ถือว่าเบาเลยสำหรับเลนส์ช่วงนี้ที่มี f/2.8 แถม VR มาด้วย

สีที่มีให้เลือก: สีดำสีเดียวจ้า เลนส์กล้องก็งี้แหละเนอะ

ความสะดวกในการพกพา: สะดวกมากกกก! นี่แหละคือเสน่ห์ของมัน ติดกล้องตัวเดียวไปเที่ยวได้สบายๆ ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักๆ เหมือนสมัยก่อนที่จะไปถ่ายวิวต้องพกเลนส์ไวด์ จะถ่ายคนต้องพกเลนส์พอร์ตเทรต ตัวนี้จบได้หลายสถานการณ์

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ปกติจะมีฝาปิดหน้า-หลังเลนส์ และฮูดเลนส์ HB-75 มาให้ด้วยนะ

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ตัวเดียวเอาอยู่จริง!

มาถึงหัวใจหลักของการรีวิวเลนส์ตัวนี้คือเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพ บอกเลยว่า "ทำได้ดีเกินคาด!"

ช่วงซูม 16-80mm: นี่คือช่วงที่ใช้งานได้หลากหลายมากจริงๆ ไปเที่ยวทะเล ถ่ายวิวหาดทราย ท้องฟ้า ถ่ายได้กว้างสะใจ (16mm) ไปเดินตลาดน้ำ ถ่ายบรรยากาศบ้านเรือนริมคลอง ถ่ายของกิน ถ่ายคนยิ้มแย้ม (ช่วงกลางๆ) เจอร้านเด็ดๆ อยากถ่ายรูปอาหารให้เห็นชัดๆ ละลายหลังหน่อยๆ หรือจะถ่ายรูปคู่เพื่อนให้หน้าชัดหลังเบลอสวยๆ (ช่วง 80mm ที่ f/4) ได้หมด! มันเหมือนพกเลนส์ไปหลายระยะในตัวเดียวจริงๆ

รูรับแสง f/2.8-4: ถึงจะไม่ใช่ f/2.8 ตลอดช่วง แต่ f/2.8 ที่ 16mm นี่มีประโยชน์มาก ถ่ายในวัดตอนเย็นๆ ที่แสงเริ่มน้อย หรือถ่ายบรรยากาศร้านอาหารแสงสลัวๆ ช่วยให้ไม่ต้องดัน ISO สูงปรี๊ดจน Noise บาน หรือต้องใช้ขาตั้งกล้องตลอดเวลา ส่วน f/4 ที่ 80mm ก็ยังพอละลายหลังได้สวยงามสำหรับถ่ายพอร์ตเทรตครึ่งตัว

ระบบกันสั่น VR: อันนี้เจ๋งจริง! ช่วยได้เยอะเวลาถ่ายในที่แสงน้อย หรือซูมไปสุดที่ 80mm แล้วมือไม่นิ่ง ลองถ่ายตอนกลางคืน เช่น ถ่ายรูปโคมลอยในงานยี่เป็ง หรือถ่ายพลุตอนปีใหม่ ถือกล้องถ่ายได้สบายขึ้นมาก โอกาสได้รูปคมๆ มีสูง

ระบบโฟกัส (AF-S): โฟกัสไวและเงียบดีตามสไตล์ SWM (Silent Wave Motor) ของ Nikon ถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ เช่น ตอนแห่นางแมว หรือเด็กๆ เล่นน้ำสงกรานต์ จับโฟกัสได้ทันใจ แต่ถ้าเป็นวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วและคาดเดายากมากๆ อาจจะมีหลุดบ้างเล็กน้อย

คุณภาพไฟล์: โดยรวมถือว่าให้ภาพที่คมชัด สีสันสวยงามตามสไตล์ Nikon มีความคลาดสี (Chromatic Aberration) และความบิดเบี้ยว (Distortion) บ้างตามธรรมชาติของเลนส์ซูม แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ และสามารถแก้ได้ง่ายในโปรแกรมแต่งรูป ความคมชัดดีตั้งแต่กลางภาพไปถึงขอบภาพ โดยจะคมสุดๆ เมื่อหรี่รูรับแสงลงนิดหน่อย

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: หยิบใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก

เลนส์ตัวนี้ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่เลย แค่หมุนซูม หมุนโฟกัส เหมือนเลนส์ทั่วไป

ใช้ง่ายมั้ย?: ง่ายสุดๆ! มีสวิตช์เปิด-ปิด VR และสวิตช์เลือกโหมดโฟกัส AF/MF อยู่ที่ตัวเลนส์เลย ปรับเปลี่ยนสะดวก วงแหวนซูมหมุนนุ่มมือดี

ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมั้ย?: ไม่เลย ถ้าใช้กล้อง Nikon อยู่แล้วก็เหมือนเปลี่ยนเลนส์คิทมาใช้ตัวที่คุณภาพดีขึ้น

ระบบซอฟต์แวร์ลื่นมั้ย?: ตัวเลนส์ไม่มีซอฟต์แวร์ในตัวเอง แต่ทำงานร่วมกับกล้อง Nikon DX ได้อย่างราบรื่น กลไกรูรับแสงแบบแม่เหล็กไฟฟ้า (E) ช่วยให้ควบคุมค่าแสงได้แม่นยำเวลาถ่ายภาพต่อเนื่อง

เสียงดังมั้ย ร้อนเร็วมั้ย?: ตอนโฟกัสมีเสียงการทำงานของมอเตอร์บ้าง แต่ถือว่าเงียบมาก ไม่รบกวน ส่วนเรื่องความร้อน ไม่มีปัญหาเลย

สบายเวลาถือ/สวมใส่หรือไม่: ด้วยน้ำหนักที่ไม่มากเกินไป ทำให้กล้องและเลนส์ชุดนี้บาลานซ์ได้ดีกับกล้อง Nikon DX หลายรุ่น ถือถ่ายนานๆ ได้สบาย ไม่เมื่อย

รองรับภาษาไทยมั้ย ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า: อันนี้เป็นเรื่องของตัวกล้องและแอปแต่งรูปมากกว่า เลนส์ไม่ได้มีส่วนนี้จ้า

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ลงทุนครั้งเดียว ใช้ยาวๆ

เลนส์ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ในตัวเอง พลังงานมาจากตัวกล้องโดยตรง

ระยะเวลาการใช้งาน: ขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ของกล้องล้วนๆ เลย

ความเร็วในการชาร์จ: N/A

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ ก็คือการดูแลรักษา ทำความสะอาดเลนส์ อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายถ้าต้องส่งเข้าศูนย์ทำความสะอาดใหญ่ หรือซ่อมแซมหากเกิดอุบัติเหตุ

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับราคาตอนเปิดตัวที่สูงพอสมควร ปัจจุบันราคาในตลาดมือสองถือว่าน่าสนใจมาก ถ้ามองว่าเลนส์ตัวนี้สามารถแทนเลนส์หลายๆ ตัวที่คุณอาจจะต้องพกไปเที่ยว หรือใช้งานทั่วไปได้ คุณภาพที่ได้ก็ดีกว่าเลนส์คิทอย่างชัดเจน ระบบกันสั่นก็ช่วยให้ถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์มากขึ้น ถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับคนที่ใช้กล้อง Nikon DX เป็นหลัก

6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งรักทั้งชัง

มาดูแบบตรงไปตรงมา ทั้งข้อดีที่ทำให้หลงรัก และข้อเสียที่อาจจะต้องทำใจหน่อย

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:

• ช่วงซูมครอบคลุม ใช้ได้ทุกงาน ทุกเทศกาล! ตั้งแต่ถ่ายรูปหมู่ญาติๆ ตอนรวมตัว ไปจนถึงซูมถ่ายขบวนแห่
• เบา พกพาง่าย ไปเที่ยวไหนก็สบาย ติดกล้องตัวเดียวไม่ต้องแบกหนัก เหมือนมีตากล้องส่วนตัวตามติดทุกย่างก้าว
• กันสั่นดี๊ดี ถ่ายในที่มืดได้สบายใจขึ้น เหมาะกับบรรยากาศงานวัด งานลอยกระทง หรือร้านอาหารริมทางตอนค่ำๆ
• ภาพคมสวย สีสันสดใส โพสต์ลงโซเชียลเพื่อนกดไลก์เพียบ!
• งานประกอบดี แข็งแรงน่าเชื่อถือ ใช้ได้นานๆ ไม่ต้องกลัวพังง่ายๆ (ถ้าไม่ทำตกนะ)

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

• ราคาไม่เบาเลย ถึงแม้ตอนนี้มือสองจะราคาลงมาเยอะแล้ว
• รูรับแสง f/4 ที่ช่วงซูมสุด อาจจะไม่ละลายหลังเท่าที่บางคนอยากได้ ถ้าอยากได้โบเก้ฟุ้งๆ อาจจะต้องไปหาเลนส์ Fix รูรับแสงกว้างๆ เพิ่ม
• AF ไม่ได้ไวปรี๊ดปร๊าดขนาดเลนส์สปอร์ตตัวท็อป ถ่ายกีฬา หรืออะไรที่เคลื่อนไหวเร็วมาก อาจจะมีพลาดบ้าง
• เป็นเลนส์ DX เท่านั้น ถ้าวันนึงอยากขยับไปใช้กล้อง Full Frame ก็ต้องขายตัวนี้ทิ้ง หรือเก็บไว้เป็นที่ระทึก

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอย?

เลนส์ตัวนี้เหมือนเกิดมาเพื่อ...

เหมาะกับผู้ใช้แบบไหน:

• ชาว Nikon DX ที่อยากอัปเกรดจากเลนส์คิท: คุณจะได้คุณภาพไฟล์ที่ดีขึ้นชัดเจน และได้รูรับแสงที่กว้างขึ้นนิดหน่อย
• สายเที่ยว สายแบกเป้: ตัวเดียวจบจริงๆ พกไปไหนก็สะดวก คล่องตัวมาก
• คนที่ชอบถ่ายภาพหลากหลายแนวในทริปเดียว: ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ พลาดช็อตเด็ด
• คนที่ถ่ายภาพในที่แสงน้อยบ่อยๆ: f/2.8 ที่ช่วงวายด์และระบบ VR ช่วยได้เยอะ

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

• ท่องเที่ยว: อันนี้ยืนพื้นเลย เหมาะสุดๆ
• ถ่ายภาพทั่วไปในชีวิตประจำวัน (Everyday): ถ่ายคน ถ่ายของกิน ถ่ายสัตว์เลี้ยง ถ่ายบรรยากาศรอบตัว
• Street Photography: ช่วง 16-80mm คล่องตัวมาก ถ่ายได้ทั้งมุมกว้างๆ และซูมดึงองค์ประกอบ
• Landscape Photography (วิวทิวทัศน์): ช่วง 16mm ให้มุมกว้างที่สวยงาม
• Portrait Photography (ถ่ายคน): ใช้ช่วง 80mm ที่ f/4 ได้โบเก้กำลังสวย

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?: ถ้าเจอราคาดีๆ ทั้งมือหนึ่งหรือมือสองที่ไว้ใจได้ ก็น่าจัดเลย เพราะเป็นเลนส์ที่ใช้งานได้หลากหลายจริงๆ แต่ถ้ายังไม่รีบ ลองดูช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลสำคัญๆ ในไทย อาจจะมีร้านค้าจัดโปรลดราคา หรือมีของแถมพิเศษ

8. เปรียบเทียบกับเลนส์คล้ายๆ กัน: มีคู่แข่งเป็นใครบ้าง?

ในตลาดเลนส์ซูมมาตรฐานสำหรับ Nikon DX ก็มีตัวเลือกอยู่บ้าง แต่ละตัวก็มีดีมีด้อยต่างกันไป

เทียบกับเลนส์คิท 18-55mm VR: 16-80mm กินขาดเกือบทุกด้าน ทั้งช่วงซูมที่กว้างกว่าและซูมได้ไกลกว่า รูรับแสงที่กว้างกว่า คุณภาพไฟล์ที่ดีกว่า และงานประกอบที่ดีกว่ามาก ถ้ามีงบอัปเกรด แนะนำให้ข้ามจาก 18-55mm มาตัวนี้เลย

เทียบกับเลนส์ Superzoom เช่น 18-140mm VR หรือ 18-200mm VR: เลนส์ Superzoom จะได้ช่วง Telephoto ที่ยาวกว่า ถ่ายซูมไกลๆ ได้สะใจกว่า แต่ 16-80mm จะได้รูรับแสงที่กว้างกว่าเล็กน้อยที่ช่วงวายด์ คุณภาพไฟล์โดยรวมมักจะดีกว่า โดยเฉพาะความคมชัด และขนาดอาจจะกะทัดรัดกว่า ถ้าเน้นคุณภาพไฟล์และความสะดวกที่ช่วงซูมไม่ถึงกับต้องไกลมากๆ 16-80mm น่าสนใจกว่า

เทียบกับเลนส์ค่ายอื่นช่วงใกล้เคียง (Sigma/Tamron 17-50mm f/2.8 หรือ 17-70mm f/2.8-4): เลนส์ Sigma/Tamron มักจะมีจุดเด่นที่รูรับแสงกว้าง f/2.8 ตลอดช่วงซูม (สำหรับบางรุ่น) หรือช่วงซูมที่ครอบคลุมและรูรับแสงกว้างคล้ายๆ กัน แถมราคามักจะดีกว่า แต่เลนส์ Nikon ค่ายเองก็มีข้อได้เปรียบเรื่องความเข้ากันได้กับกล้อง Nikon อย่างสมบูรณ์แบบ และชื่อชั้นเรื่องคุณภาพกับบริการหลังการขาย

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

เรื่องบริการหลังการขายก็สำคัญ ซื้อเลนส์แพงๆ ต้องมั่นใจหน่อยเนอะ

มีการรับประกันหรือไม่?: ปกติเลนส์ Nikon ที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย จะมีการรับประกันศูนย์ Nikon Thailand ระยะเวลา 1 ปี

เครือข่ายการให้บริการเป็นอย่างไร?: มีศูนย์บริการ Nikon ในประเทศไทย สามารถส่งซ่อม/เคลมได้ตามเงื่อนไขการรับประกัน

มีบริการลูกค้าในพื้นที่ / การรับประกันการคืนสินค้าและเปลี่ยนสินค้า หรือไม่: อันนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของร้านค้าที่คุณซื้อเป็นหลัก ถ้าซื้อจากร้านใหญ่ๆ น่าเชื่อถือ มักจะมีนโยบายการรับคืน/เปลี่ยนสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด หากสินค้ามีปัญหาจากการผลิต

โปรโมชั่นล่าสุดในช่องทางต่างๆ: ลองเช็กจากร้านกล้องใหญ่ๆ เช่น Big Camera, World Camera, EC Mall หรือดูในร้านค้า Official ของ Nikon ในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ช่วงเทศกาล หรือวันเลขเบิ้ล (เช่น 6.6, 7.7) มักจะมีโค้ดส่วนลด, cashback, หรือจัดโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ ให้ผ่อน 0% ได้ด้วย

ตัวเลือกผ่อนชำระ, คูปองส่วนลด, เงินคืน: อันนี้หาได้ตามแพลตฟอร์มออนไลน์และร้านกล้องใหญ่ๆ ทั่วไปเลย

คำแนะนำเกี่ยวกับส่วนต่างของราคาระหว่างออนไลน์และออฟไลน์: บางทีซื้อออนไลน์อาจจะได้ราคาดีกว่า เพราะมีการแข่งขันสูง และมีโค้ดส่วนลดเยอะ แต่ข้อดีของการซื้อหน้าร้านคือได้ลองจับลองเล่น ได้สอบถามพนักงาน และบางทีมีโปรโมชั่นหน้าร้านที่คุ้มค่าไม่แพ้กัน ต้องลองเปรียบเทียบดูดีๆ

ระยะเวลาการจัดส่งและค่าจัดส่งโดยประมาณ: ถ้าสั่งออนไลน์จากร้านในประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอาจจะได้รับภายใน 1-2 วันทำการ ต่างจังหวัดก็อาจจะ 2-4 วันทำการ ค่าจัดส่งขึ้นอยู่กับนโยบายร้าน บางทีมีโปรส่งฟรีด้วย

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ควรจัดหรือไม่จัดดี?

หลังจากที่ลองเล่น ลองใช้เจ้า Nikon 16-80mm f/2.8-4E ED VR ตัวนี้มาพักใหญ่ๆ ถ้าถามว่า "ควรซื้อไหม?" คำตอบคือ... "ถ้าใช้กล้อง Nikon DX อยู่ และมีงบประมาณถึงระดับนึง คือ น่าโดนมากกกก!"

นี่คือเลนส์ซูมมาตรฐานสำหรับกล้อง DX ที่คุ้มค่ากับการลงทุนจริงๆ มันให้คุณภาพที่ดีกว่าเลนส์คิทเดิมๆ แบบคนละเรื่อง ได้ช่วงซูมที่ใช้งานได้หลากหลายครอบคลุมทุกสถานการณ์ แถมยังมีกันสั่นที่ช่วยให้ถ่ายภาพสนุกขึ้นในหลายๆ สภาพแสง พกตัวเดียวเที่ยวได้ทั่วไทย ไปยันทั่วโลกจริงๆ ตามชื่อหัวข้อเลย

คำแนะนำเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งาน:

• ถ้าคุณคือนักเดินทางตัวยง หรือชอบเที่ยวแบบ One-day trip: เลนส์ตัวนี้คือเพื่อนคู่ใจที่ดีที่สุดของคุณ ไม่ต้องแบกเยอะ ได้รูปสวยครบจบในตัวเดียว
• ถ้าคุณอยากอัปเกรดจากเลนส์คิท 18-55mm แต่ยังไม่พร้อมโดดไป Full Frame: ตัวนี้คือคำตอบที่ใช่ คุณจะได้คุณภาพไฟล์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และได้ฟังก์ชันที่ครบครัน
• ถ้าคุณชอบถ่ายภาพหลากหลายแนว แต่ขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์: ไม่ว่าจะเป็นวิว คน ของกิน หรือสตรีท เลนส์ตัวนี้เอาอยู่เกือบหมด
• ถ้าคุณงบจำกัดมากๆ หรือเน้นถ่ายแค่แนวใดแนวหนึ่งเป็นพิเศษจริงๆ: อาจจะต้องพิจารณาเลนส์คิทราคาประหยัด หรือเลนส์ Fix เฉพาะทางแทน

โดยรวมแล้ว Nikon AF-S DX NIKKOR 16-80mm f/2.8-4E ED VR เป็นเลนส์ที่น่าประทับใจมากสำหรับผู้ใช้ Nikon DX มันคือเลนส์ "ตัวจบ" ของใครหลายๆ คน ที่ต้องการความสะดวก คุณภาพ และความอเนกประสงค์ในแพ็กเกจที่ไม่ใหญ่ไม่หนักจนเกินไป

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• I AM MY NIKKOR: AF-S DX NIKKOR 16-80mm f/2.8-4E ED VR
• รีวิว เลนส์ Nikkor 16-80mm F2.8-4 DX หลังใช้งาน 3 เดือน
• Nikon AF-S DX NIKKOR 16-80mm f:2.8-4E Review
• Nikkor AF-S 16-80mm f2.8-4E DX VR Zoom & Test Shots
• Nikon 16-80: Nikon AF-S DX Nikkor 16-80mm f/2.8-4E ED VR ...