Garmin Fenix 5 Sapphire รีวิว: นาฬิกาวิ่งมัลติสปอร์ตตัวท็อป ฟังก์ชันครบจริงไหม?

สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้ขอมาเม้าท์มอยเรื่องนาฬิกาที่ฮอตปรอทแตกในวงการวิ่งและกิจกรรมสายลุย นั่นก็คือ Garmin Fenix 5 Sapphire นั่นเอง! เห็นราคาแล้วบางคนอาจจะปาดเหงื่อ แต่ฟังก์ชันที่เขาว่ามาเนี่ย มันครบจริงไหม? เหมาะกับคนไทยอย่างเราๆ ที่ชอบวิ่งมาราธอนช่วงอากาศดีๆ หรือชอบเดินป่าหน้าหนาวรึเปล่า? ตามมาดูกันแบบเจาะลึก สไตล์บ้านๆ เข้าถึงง่าย มีครบทุกรสชาติเหมือนสั่งข้าวราดแกงสามอย่าง!

ภาพรวมของสินค้า: รู้จักเจ้า Garmin Fenix 5 Sapphire กันก่อน

ถ้าพูดถึงนาฬิกาออกกำลังกายตัวท็อป หนึ่งในชื่อที่เด้งขึ้นมาอันดับแรกๆ ก็ต้องมี Garmin Fenix นี่แหละค่ะ รุ่น 5 Sapphire นี่จัดเป็นตัวตึงเมื่อหลายปีก่อน (เปิดตัวมีนาคม 2560) เป็นพี่น้องในตระกูล Fenix 5 ที่ออกมาพร้อมกัน 3 ไซส์ คือ 5S (เล็ก), 5 (กลาง), และ 5X (ใหญ่สุดมีแผนที่) ส่วนรุ่น Sapphire ที่เรากำลังจะรีวิววันนี้ คือรุ่นจอแข็งพิเศษ กันรอยขีดข่วนได้ดีกว่ารุ่นปกติค่ะ

แบรนด์: Garmin
รุ่น: Fenix 5 Sapphire (ตัวเรือนขนาด 47 มม.)
ปีที่วางขาย: เริ่มวางขายในไทยช่วงมีนาคม 2560
ช่วงราคาขายตอนเปิดตัว: ประมาณ 25,900 บาท

การวางตำแหน่งสินค้า: เป็นรุ่นตัวท็อปของซีรีส์ Fenix 5 ณ เวลานั้น เหมาะกับนักกีฬาจริงจัง สายผจญภัย ที่ต้องการนาฬิกาที่ทนทาน ฟังก์ชันแน่นๆ และใส่เป็น Everyday Watch ได้

สรุปจุดเด่นหลักๆ ที่เคลมมา:

• หน้าจอ Sapphire Crystal ทนทาน กันรอยขีดข่วนขั้นสุด
• วัดอัตราการเต้นหัวใจที่ข้อมือ Garmin Elevate ตลอด 24 ชม.
• รองรับ มัลติสปอร์ต หลากหลาย ทั้งวิ่ง, ปั่น, ว่ายน้ำ, ไตรกีฬา, ปีนเขา, กอล์ฟ และอีกเพียบ!
• มี GPS + GLONASS นำทางแม่นยำ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย
• กันน้ำลึก 100 เมตร (10 ATM) ใส่ว่ายน้ำ ดำน้ำได้สบาย
• แจ้งเตือนภาษาไทย จากสมาร์ทโฟนได้
• ดีไซน์แข็งแรงทนทาน วัสดุระดับพรีเมียม (ขอบ/ปุ่ม/ฝาหลังสแตนเลส)
• เปลี่ยนสายง่ายด้วยระบบ QuickFit

ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่ เท่ ถึก!

เห็นครั้งแรกต้องบอกว่า "หล่อ" เลยค่ะ! ตัวเรือนเป็นทรงกลมบึกบึน ดูแข็งแรงสมบุกสมบัน วัสดุขอบ ปุ่มกด และฝาหลังทำจาก สแตนเลสสตีล ให้ความรู้สึกพรีเมียมและทนทานมากๆ หน้าปัดขนาด 47 มม. กำลังดีสำหรับข้อมือผู้ชายไทยส่วนใหญ่ ไม่เล็กไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เล็กจิ๋วเหมือนนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ทั่วไปนะคะ

ขนาดและน้ำหนัก: ตัวเรือน 47 x 47 x 15.5 มม. น้ำหนักประมาณ 87 กรัม คือรู้สึกได้ว่าใส่นาฬิกาอยู่ ไม่ได้เบาหวิว แต่ก็ไม่ได้ถ่วงจนน่ารำคาญ

สีที่มีให้เลือก: รุ่น Sapphire ส่วนใหญ่มาพร้อมสายซิลิโคนสีดำ ดูเรียบง่าย เข้าได้กับทุกชุด ทุกกิจกรรม

ความสะดวกในการพกพา: แม้จะดูใหญ่และหนา แต่ก็ยังใส่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี ไม่ติดขัดอะไร เหมาะกับการใส่ติดข้อมือไปทุกที่ ตั้งแต่ห้องประชุมยันยอดเขา!

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ที่มาด้วยคือ สายชาร์จ USB และ คู่มือการใช้งาน (ซึ่งบางทีก็มีภาษาไทยมาให้ด้วยนะ!)

ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: โค้ชส่วนตัวอยู่บนข้อมือ!

ฟังก์ชันของ Fenix 5 Sapphire นี่บอกเลยว่าแน่นจริงจัง สมกับเป็นนาฬิกามัลติสปอร์ตตัวท็อปสมัยนั้นค่ะ

GPS & การติดตามกิจกรรม: ลองเอาไปวิ่งสวนสาธารณะช่วงเย็นๆ รับลม ฟีลแบบวิ่งหนีความวุ่นวายในเมือง GPS จับสัญญาณได้ค่อนข้างไวและแม่นยำดี มันไม่ได้แค่วัดระยะทางกับความเร็วธรรมดานะ แต่ยังมี Running Dynamics ช่วยวิเคราะห์ฟอร์มการวิ่งเราได้ละเอียดขึ้นด้วย (ถ้าใช้คู่กับสายคาดอก HRM เพิ่มเติม) เช่น ระยะก้าวขา, เวลาที่เท้าสัมผัสพื้น นอกจากวิ่งแล้ว ก็มีโหมดอื่นๆ อีกเยอะมากกกก ทั้งปั่นจักรยาน (รองรับ Power Meter ด้วยนะ), ว่ายน้ำ (วัดสถิติในสระและว่ายทะเลได้), ไตรกีฬา, เดินป่า, ปีนเขา, พายเรือ, สกี, กอล์ฟ คือครบจบในเรือนเดียวจริงๆ

การวัดอัตราการเต้นหัวใจ: ใช้เทคโนโลยี Garmin Elevate วัดจากข้อมือโดยตรง สะดวก ไม่ต้องคาดอกให้รำคาญใจ มันวัดต่อเนื่องให้ทั้งวันด้วย ทำให้เราเห็นภาพรวมสุขภาพได้ดีขึ้น รวมถึงคำนวณแคลอรี่ที่เผาผลาญไปในแต่ละวัน

ฟังก์ชันอื่นๆ: มีเข็มทิศ, เครื่องวัดความสูง, เครื่องวัดความกดอากาศ สำหรับสายลุย สายเทรล มีฟีเจอร์ Training Effect ช่วยบอกว่าการออกกำลังกายครั้งนั้นๆ มีผลต่อความฟิตของเราแค่ไหน รวมถึง Recovery Advisor แนะนำระยะเวลาพักฟื้น

ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: แรกๆ อาจจะงงๆ แต่พอชินก็สบาย

นาฬิกาฟังก์ชันเยอะขนาดนี้ ถามว่าง่ายไหมสำหรับมือใหม่ซิงๆ? ตอบตามตรงว่า "อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้หน่อย" ค่ะ

Fenix 5 ใช้การควบคุมด้วย ปุ่มกด 5 ปุ่ม รอบตัวเรือน ไม่มีระบบสัมผัส แรกๆ อาจจะงงนิดหน่อยว่าปุ่มไหนทำอะไรบ้าง แต่พอชินแล้วจะรู้ว่ามันทนทานและใช้งานได้ดีมากๆ โดยเฉพาะเวลาเหงื่อออก หรือใส่น้ำอยู่ ปุ่มกดจะชัวร์กว่าระบบสัมผัสเยอะ

ระบบซอฟต์แวร์: ตัว UI บนนาฬิกาปรับปรุงจากรุ่นก่อนๆ ให้ดูดีขึ้น การเชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect Mobile บนมือถือนี่แหละคือหัวใจหลัก มันทำหน้าที่เก็บข้อมูล วิเคราะห์สถิติ แพลนการฝึกซ้อม และปรับตั้งค่าต่างๆ ได้สะดวกสุดๆ แอปใช้งานง่าย รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ และตัวนาฬิกาก็แสดงแจ้งเตือนภาษาไทยได้ดี ไม่มีปัญหาตัวแตก

ความสบายในการสวมใส่: ด้วยขนาดและน้ำหนัก ก็อย่างที่บอกว่าไม่ได้เบาหวิว แต่สายซิลิโคน QuickFit ที่ให้มานุ่ม ใส่สบายข้อมือดีค่ะ และตัวเซ็นเซอร์วัดหัวใจด้านหลังก็ไม่ได้นูนออกมาจนรำคาญ สามารถใส่ได้ทั้งวันทั้งคืน (เพื่อติดตามการนอน)

แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: อึดจริงไรจริง!

เรื่องแบตเตอรี่นี่คือจุดเด่นมากๆ ของซีรีส์ Fenix เลยค่ะ ไม่ต้องชาร์จบ่อยเหมือน Smartwatch ทั่วไป

ระยะเวลาการใช้งาน: จากข้อมูลเคลมและรีวิวต่างๆ

• โหมด Smartwatch: อยู่ได้สูงสุดถึง 2 สัปดาห์
• โหมด GPS (เปิดเต็มรูปแบบ): อยู่ได้ประมาณ 20-24 ชั่วโมง
• โหมดประหยัดพลังงาน UltraTrac: อยู่ได้นานขึ้นอีก (แต่ความแม่นยำ GPS อาจลดลง)

หมายถึงถ้าใส่วิ่งวันละชั่วโมงสองชั่วโมง สัปดาห์นึงชาร์จทีก็ยังไหว! นี่แหละที่สายเทรล สาย Ultra ชอบ

ความเร็วในการชาร์จ: ชาร์จจากใกล้หมดจนเต็มใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ ก็จะมีค่าเปลี่ยนสายนาฬิกา ถ้าสายเดิมชำรุด หรืออยากเปลี่ยนสีเปลี่ยนสไตล์ (สาย QuickFit หาง่าย มีหลายแบบหลายราคา) ส่วนแบตเตอรี่อาจมีเสื่อมบ้างตามอายุการใช้งาน แต่ก็ถือว่าทนทานกว่านาฬิกาทั่วไปเยอะ

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: แม้ราคาเปิดตัวจะสูง แต่ด้วยความทนทาน ฟังก์ชันครบครัน และแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ ทำให้ Fenix 5 Sapphire เป็นการลงทุนที่ คุ้มค่าในระยะยาว สำหรับคนที่ใช้งานจริงจังกับกิจกรรมหลากหลาย ยิ่งถ้าซื้อได้ตอนมีโปรโมชั่น หรือเป็นเครื่องมือสองสภาพดี ราคาก็จะน่ารักขึ้นเยอะค่ะ

ข้อดี-ข้อเสีย: มีรัก มีเลิก... เอ้ย! มีข้อดี มีข้อควรพิจารณา

มาดูแบบชัดๆ สไตล์ไม่โลกสวยกันบ้าง

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:

• ทน ถึก อึด! ใส่ลุยได้ทุกสภาพอากาศ ทุกเทศกาล ไม่ต้องกลัวพังง่าย
• หน้าจอ Sapphire หมดห่วงเรื่องรอยขีดข่วน จะไปเบียดไปชนอะไรก็สบายใจกว่ากระจกธรรมดาเยอะ
• แบตเตอรี่โคตรอึด ไม่ต้องคอยชาร์จทุกวัน เหมาะกับสายเดินทางไกล หรือคนขี้ลืมชาร์จ
• ฟังก์ชันมัลติสปอร์ตครบมาก เรือนเดียวเอาอยู่ทุกกิจกรรม ตั้งแต่วิ่ง ปั่น ว่าย ยันปีนเขา
• แจ้งเตือนภาษาไทย ไม่พลาดทุกข้อความสำคัญจาก LINE หรือแอปอื่นๆ

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

• ราคาสูง เมื่อเทียบกับ Smartwatch หรือนาฬิกาวิ่งรุ่นเริ่มต้น
• ไม่มีหน้าจอสัมผัส บางคนอาจจะไม่ชินกับการควบคุมด้วยปุ่มทั้งหมด
• ตัวเรือนค่อนข้างใหญ่และหนา อาจจะไม่เหมาะกับคนข้อมือเล็กมากๆ หรือคนที่ชอบนาฬิกาดีไซน์มินิมอล
• รุ่น Fenix 5 ธรรมดาไม่มีแผนที่ในตัว (แผนที่สีมีเฉพาะรุ่น 5X หรือรุ่นใหม่กว่าอย่าง 5 Plus / 6)
• ฟังก์ชันบางอย่างต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมเพิ่ม (เช่น Running Dynamics แบบละเอียดต้องใช้สายคาดอก HRM)

เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ถ้าใช่ก็จัดไป อย่าให้เสีย!

จากที่เล่ามาทั้งหมด Fenix 5 Sapphire เหมาะสุดๆ กับ:

• นักกีฬาจริงจัง ทั้งนักวิ่ง นักปั่น นักไตรกีฬา ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนาตัวเอง
• สายลุย สายผจญภัย ชอบเดินป่า ปีนเขา ทำกิจกรรม Outdoor ที่ต้องการนาฬิกาทนๆ แบตอึดๆ มีระบบนำทางเบื้องต้น
• คนที่กำลังมองหานาฬิกาเรือนเดียวจบ ใส่ได้ทั้งออกกำลังกายและใส่ในชีวิตประจำวัน
• คนที่มีงบประมาณสำหรับนาฬิการะดับพรีเมียม และต้องการความทนทานขั้นสุดของหน้าจอ

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ และรับได้กับขนาดและราคา การซื้อ Fenix 5 Sapphire ก็เป็นการตัดสินใจที่ดีค่ะ ควรซื้อเลยไหม? ถ้าเจอรุ่น Sapphire ในสภาพดี ราคาโดนๆ ตอนนี้ (เพราะเป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว) ก็จัดได้เลยค่ะ หรือถ้ารอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ตามแอปช้อปปิ้งต่างๆ อาจจะได้ราคาที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น

เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: พี่น้องเองก็มีหลายแบบนะ

ในตระกูล Fenix 5 ด้วยกัน ก็มีรุ่น 5S (ตัวเล็ก) และ 5X (ตัวใหญ่สุด มีแผนที่ในตัว) ถ้าข้อมือเล็ก หรือชอบนาฬิกาไม่ใหญ่มาก ลองดู 5S ถ้าอยากได้แผนที่นำทางบนนาฬิกาเลย ต้องไป 5X แต่ถ้าเน้นความทนทานของหน้าจอ ตัว 5 Sapphire (ไซส์กลาง) ก็ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ

ส่วนรุ่นที่ใหม่กว่าอย่าง Fenix 5 Plus หรือ Fenix 6 ก็จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา เช่น ฟังเพลงจากนาฬิกาได้ (ในรุ่น Plus/6), Garmin Pay (ในรุ่น Plus/6), หรือแผนที่สีในบางรุ่น ถ้ามีงบเพิ่ม และอยากได้ฟีเจอร์พวกนี้ ก็อาจจะพิจารณารุ่นใหม่กว่าได้ค่ะ

บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: สบายใจหายห่วง

Garmin เป็นแบรนด์ที่มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในไทยอย่างเป็นทางการ ทำให้ค่อนข้างมั่นใจเรื่องบริการหลังการขายค่ะ

การรับประกัน: ปกติเครื่องศูนย์ไทยจะมีการรับประกัน 1 ปี (สำหรับอุปกรณ์ GPS)

ช่องทางการซื้อ: หาซื้อได้ง่าย ทั้งร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Shopee, Lazada หลายร้านมีโปรโมชั่น ส่วนลด หรือโค้ดลดให้เก็บได้ตลอด บางทีมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ด้วยค่ะ

ระยะเวลาจัดส่งก็รวดเร็วทันใจ ส่วนใหญ่ถ้าอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง หรือสั่งช่วงมีโปรส่งฟรี ก็แทบจะไม่ได้เสียค่าส่งเพิ่มเลยค่ะ

บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ซื้อหรือไม่ซื้อ? อ่านนี่!

สรุปแล้ว Garmin Fenix 5 Sapphire เป็นนาฬิกามัลติสปอร์ตระดับเทพในยุคของมัน ที่ยังคงความเก๋าและฟังก์ชันแน่นๆ อยู่ถึงปัจจุบันค่ะ

ถ้าคุณเป็นคน จริงจังกับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ไม่กลัวความใหญ่และหนาของตัวเรือน และ ให้ความสำคัญกับความทนทานของหน้าจอแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ รวมถึงมีงบประมาณที่พร้อมจ่ายเพื่อนาฬิกาที่เหมือนมีโค้ชส่วนตัวอยู่บนข้อมือ รุ่นนี้ แนะนำให้ซื้อ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเจอราคาที่น่าสนใจในตลาดมือสอง หรือช่วงที่มีโปรโมชั่นดีๆ

แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มวิ่ง หรือเน้นแค่วิ่งอย่างเดียว ไม่ได้ทำกิจกรรมหลากหลายขนาดนั้น หรือมีงบจำกัดมากๆ อาจจะลองดู Garmin รุ่นอื่นๆ ที่ราคาย่อมเยากว่า หรือรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์อื่นดูก่อนก็ได้ค่ะ ส่วนใครที่อยากได้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ล่าสุด เช่น ฟังเพลงได้เลยบนนาฬิกา หรือมีแผนที่ในตัว อาจจะต้องมองไปที่รุ่น Fenix 5 Plus หรือ Fenix 6 แทนค่ะ

หวังว่ารีวิวสไตล์บ้านๆ นี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ใครมีคำถาม หรือเคยใช้ Fenix 5 แล้วเป็นยังไง มาแชร์กันได้เลยนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Garmin Fenix 5 Sapphire
• Garmin Fenix 5 Plus
• (Review)เปรียบเทียบ Garmin Fenix 5 plus กับ Garmin Fenix 6 ...
• Review Garmin Fenix 5 กับการใช้งาน
• Full Review Garmin Fenix 7 รีวิวเจาะลึกทุกฟังก์ชั่นการใช้งานเด็ดๆ ...