Garmin Fenix 5 Sapphire รีวิว: นาฬิกาวิ่งมัลติสปอร์ตตัวท็อป ฟังก์ชันครบจริงไหม?


สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้จะมาเม้าท์มอยเรื่องแก๊ดเจ็ตคู่ใจสายสปอร์ตที่ฮิตตลอดกาล นั่นก็คือนาฬิกา Garmin Fenix นั่นเอง! และรุ่นที่เราจะมาเจาะลึกกันวันนี้คือ Garmin Fenix 5 Sapphire ตัวตึงในตำนานเมื่อหลายปีก่อน ที่ยังมีคนตามหากันอยู่เยอะมากกกก แต่สงสัยกันใช่ไหมล่ะว่ามันยังน่าใช้อยู่ไหม ฟังก์ชันครบจริงหรือเปล่า ในปี 2024 เนี่ย!? ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ ตามมาอ่านรีวิวฉบับบ้านๆ สนุกๆ เข้าถึงง่าย เหมือนนั่งคุยกับเพื่อนซี้กันเลย!
1. ภาพรวม: รู้จัก "พี่ใหญ่" Fenix 5 Sapphire กันก่อน
แบรนด์: Garmin แบรนด์นี้ไม่ต้องพูดเยอะ เจ็บคอ! เรื่องนาฬิกาสปอร์ต GPS นี่ไว้ใจได้เลย.
รุ่น: Fenix 5 Sapphire Edition ตัวนี้คือรุ่นท็อปสุดของ Fenix 5 ซีรีส์.
ปีที่วางขาย: เปิดตัวประมาณต้นปี 2017 นะคะ ถือเป็น "พี่ใหญ่" ที่เปิดมานานแล้ว.
ช่วงราคาขายปัจจุบัน: เนื่องจากเป็นรุ่นเก่า ของใหม่อาจจะหายากหน่อย แต่ถ้าเป็นมือสองนี่มีตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหมื่นต้นๆ เลยค่ะ แล้วแต่สภาพและความครบของอุปกรณ์.
การวางตำแหน่งสินค้า: ตอนเปิดตัวคือเป็นรุ่น ตัวท็อปสำหรับนักวิ่ง นักไตรกีฬา และสายผจญภัย ที่จริงจังกับการเก็บข้อมูลและต้องการความทนทานสูงปรี๊ด. แม้ตอนนี้จะมีรุ่นใหม่กว่าออกมาเยอะ แต่ Fenix 5 Sapphire ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากได้นาฬิกาเกรดพรีเมียมฟังก์ชันแน่นๆ ในงบที่สบายกระเป๋าขึ้น.
จุดเด่นหลักๆ (ตอนนั้น & ตอนนี้):
- จอ Sapphire กันรอยขีดข่วน: ตัว Sapphire นี่แหละคือจุดเด่นหลักที่ทำให้จอทนทานมากๆ ลุยแค่ไหนก็ไม่กลัวเป็นรอยง่ายๆ.
- วัสดุแข็งแรงทนทาน: บอดี้ทำจากวัสดุคุณภาพดี ขอบหน้าปัดเป็นสเตนเลสสตีล แข็งแรงสมบุกสมบันสุดๆ.
- ฟังก์ชันกีฬามัลติสปอร์ตครบครัน: รองรับกีฬาหลากหลายประเภท ไม่ใช่แค่วิ่ง ปั่น ว่าย แต่ยังมีปีนเขา เดินป่า สกี และอีกเพียบ.
- GPS/GLONASS แม่นยำ: จับสัญญาณ GPS และ GLONASS ได้ ทำให้ระบุตำแหน่งและระยะทางได้ค่อนข้างแม่นยำ.
- วัดชีพจรผ่านข้อมือ: มีเซ็นเซอร์วัดชีพจรที่ข้อมือ Garmin Elevate™ ทำให้ไม่ต้องใส่สายคาดอกตลอดเวลา (แต่ถ้าอยากได้แม่นเป๊ะๆ สำหรับเทรนนิ่งหนักๆ อาจจะต้องพิจารณาสายคาดอกเพิ่มนะ).
- แจ้งเตือนอัจฉริยะ: รับการแจ้งเตือนจากมือถือได้ (ข้อความ, สายเรียกเข้า, แอปต่างๆ).
- เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้: รุ่น Sapphire จะมี Wi-Fi ด้วย สะดวกเวลาอัปโหลดข้อมูลซ้อมหรืออัปเดตซอฟต์แวร์.
- แบตเตอรี่อึดใช้ได้: อยู่ได้หลายวันในโหมด Smartwatch และหลายชั่วโมงในโหมด GPS.
- รองรับภาษาไทย: เมนูและการแจ้งเตือนต่างๆ เป็นภาษาไทย ทำให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องงม.
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่ แกร่ง แต่ดูดี!
ดีไซน์ของ Fenix 5 นี่มาแนวนาฬิกาข้อมือจริงๆ ไม่ได้ดูเป็นแก๊ดเจ็ตจ๋าๆ ทรงกลมๆ หน้าปัดใหญ่ๆ. วัสดุหลักเป็นไฟเบอร์เสริมโพลีเมอร์พร้อมฝาหลังสเตนเลสสตีล และแน่นอนว่ารุ่น Sapphire เนี่ยพิเศษตรงที่หน้าจอเป็นกระจกแซฟไฟร์กันรอยขั้นเทพ. ขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 47 มม. ถือว่าเป็นไซส์มาตรฐานสำหรับ Fenix 5 (มีรุ่น 5S ที่เล็กกว่า 42 มม. และ 5X ที่ใหญ่กว่า 51 มม.). น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 85 กรัมสำหรับรุ่นสายซิลิโคน ถือว่ามีน้ำหนักอยู่พอสมควร ใส่แล้วรู้สึกถึงความเป็นนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือ ไม่ได้เบาหวิวเหมือนพวกสมาร์ทวอทช์แฟชั่น.
มีสีให้เลือกหลากหลายตอนเปิดตัว แต่รุ่น Sapphire มักจะมากับสีพรีเมียมๆ หน่อย อย่างสีดำ Slate Gray. เรื่องการพกพา? ก็ใส่อยู่บนข้อมือนี่แหละค่ะ แต่ด้วยความหนา 15.5 มม. อาจจะติดขัดนิดหน่อยถ้าต้องใส่กับเสื้อแขนยาวหรือสูท. วางไว้บนโต๊ะก็ดูเป็นของแต่งบ้านเก๋ๆ แนวสปอร์ตได้อยู่.
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ปกติแล้วในกล่องจะมีตัวนาฬิกา, สายชาร์จ USB (เป็นแบบหนีบเฉพาะของ Garmin), และคู่มือ. รุ่น Sapphire บางทีอาจจะมีสาย QuickFit™ (สายแบบถอดเปลี่ยนง่าย) แถมมาให้อีกเส้นด้วย.
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ครอบจักรวาลจริงๆ เหรอ?
นี่แหละหัวใจหลักของนาฬิกาสายสปอร์ต! Fenix 5 Sapphire นี่เกิดมาเพื่อเก็บข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ของเราค่ะ.
การวิ่ง: มีข้อมูลครบถ้วน ตั้งแต่ระยะทาง, Pace (ความเร็ว), เวลา, รอบขา (Cadence), ค่า Vertical Oscillation (การกระเด้งตัวขึ้นลง), Ground Contact Time (เวลาที่เท้าแตะพื้น) ถ้าใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม. จับ GPS ได้ไว ไม่ต้องยืนรอนานจนเหงื่อแห้ง. สามารถตั้ง Target Pace หรือ Target Time สำหรับการซ้อมวิ่งได้ด้วย.
การปั่นจักรยาน: วัดความเร็ว, ระยะทาง, รอบขา, และรองรับการเชื่อมต่อ Power Meter ด้วย.
การว่ายน้ำ: กันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้สบายทั้งสระและเปิด. วัดรอบการว่าย, ระยะทาง, Pace, จำนวนสโตรกได้.
กีฬาอื่นๆ: มีโปรไฟล์สำหรับปีนเขา (พร้อม Altimeter, Barometer, Compass หรือ ABC sensors), เดินป่า, สกี, พายเรือ, กอล์ฟ, และอีกมากมาย!. เรียกว่าเป็นนาฬิกาที่พาเราไปได้ทุกที่จริงๆ.
วัดชีพจร: เซ็นเซอร์ที่ข้อมือค่อนข้างสะดวกสำหรับ Life everyday และการออกกำลังกายที่ไม่หนักมากนัก. แต่ถ้าเน้นความแม่นยำสูงสุดสำหรับการซ้อมแบบ Interval หรือดูโซนหัวใจแบบละเอียด อาจจะต้องต่อกับสายคาดอก ANT+.
ABC Sensors: มี Altimeter (วัดความสูง), Barometer (วัดความกดอากาศ/คาดการณ์สภาพอากาศ), และ Compass (เข็มทิศ) ในตัว เหมาะกับสายเทรล สายเดินป่ามากๆ.
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ต้องงมไหม?
หน้าตาของ Fenix 5 ยังคงเป็นแบบใช้ปุ่มกด 5 ปุ่มรอบตัวเรือน ไม่ใช่จอสัมผัสเหมือนสมาร์ทวอทช์ทั่วไป. แรกๆ อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับการกดปุ่มหน่อย แต่พอชินแล้วจะรู้สึกว่ามันสะดวกและแม่นยำกว่าจอสัมผัสเวลาเหงื่อออกหรือใส่น้ำอยู่. เมนูต่างๆ ค่อนข้างเป็นระบบ มีภาษาไทยรองรับ.
ระบบซอฟต์แวร์ของ Garmin (Connect IQ) ค่อนข้างเสถียร. สามารถโหลด Watch Face, Widget, App และ Data Field เพิ่มเติมได้จาก Connect IQ Store เพื่อปรับแต่งนาฬิกาให้ตรงกับการใช้งานของเราได้เต็มที่. การเชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect ในมือถือทำได้ง่ายผ่าน Bluetooth และรุ่น Sapphire มี Wi-Fi ช่วยให้อัปเดตข้อมูลหลังซ้อมได้สะดวกขึ้นมากๆ. เสียงแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ดังรบกวนเกินไป และมีการสั่นเตือนด้วย. ส่วนเรื่องความร้อน ตัวเรือนสเตนเลสอาจจะอมความร้อนบ้างถ้าอยู่กลางแดดจัดๆ นานๆ แต่ปกติใส่ออกกำลังกายก็ไม่ได้ร้อนจนรู้สึกแย่ค่ะ.
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ชาร์จทีอยู่ได้กี่วัน?
เรื่องแบตเตอรี่นี่เป็นจุดเด่นของ Garmin เลยค่ะ Fenix 5 Sapphire เคลมว่าอยู่ได้สูงสุด 14 วันในโหมด Smartwatch และสูงสุด 24 ชั่วโมงในโหมด GPS ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง. ซึ่งจากการใช้งานจริงก็ถือว่าอึดจริงตามที่เคลมเลยค่ะ ถ้าใส่ในชีวิตประจำวันพร้อมรับแจ้งเตือนและออกกำลังกายสั้นๆ บ้าง ชาร์จทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์สบายๆ ไม่ต้องชาร์จทุกวันเหมือนสมาร์ทวอทช์หลายๆ รุ่น.
ความเร็วในการชาร์จก็ไม่ได้ชาร์จไวแบบมือถือ แต่ก็ไม่ได้ช้าจนหงุดหงิดค่ะ.
ค่าใช้จ่ายระยะยาวสำหรับนาฬิกา Garmin หลักๆ ก็คือค่าเปลี่ยนสายนาฬิกาค่ะ ถ้าใช้สายซิลิโคนนานๆ อาจจะเสื่อมได้ ส่วนอะไหล่อื่นๆ ถ้าไม่ได้ทำตกหรือกระแทกแรงๆ จอ Sapphire นี่คือทนทานสุดๆ อยู่แล้ว. การดูแลรักษาก็แค่ทำความสะอาดตัวเรือนและจุดชาร์จเป็นประจำก็พอค่ะ.
วิเคราะห์ความคุ้มค่า? ถ้ามองหานาฬิกามัลติสปอร์ตที่ฟังก์ชันครบ ทนทาน แบตอึด และไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด Fenix 5 Sapphire ถือว่า คุ้มค่ามากๆ โดยเฉพาะถ้าหามือสองสภาพดีได้ในราคาไม่แรง. เทียบกับนาฬิกาที่ราคาใกล้เคียงกันในตลาดมือสอง Fenix 5 Sapphire ให้ฟังก์ชันกีฬาที่จริงจังกว่าและความทนทานที่เหนือกว่าหลายรุ่นเลยค่ะ.
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย (ฉบับไม่โลกสวย)
ข้อดี:
- จอ Sapphire แข็งแกร่งโคตรๆ: กันรอยได้ดีมาก ไม่ต้องติดฟิล์มก็ได้.
- วัสดุพรีเมียม ทนทานขั้นสุด: ใส่ลุยได้ทุกสภาพอากาศ ทุกกิจกรรมแบบไม่ต้องถนอม.
- ฟังก์ชันกีฬามัลติสปอร์ตแน่นจริง: ตอบโจทย์คนออกกำลังกายหลากหลายประเภท.
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน: ไม่ต้องพะวงเรื่องชาร์จแบตทุกวัน.
- รองรับภาษาไทย ใช้งานง่าย: เมนูเป็นภาษาไทย เข้าใจง่ายตั้งแต่แกะกล่อง.
- มี Wi-Fi สะดวกมาก: อัปโหลดข้อมูลซ้อมได้เอง ไม่ต้องผ่านมือถือตลอด.
ข้อเสีย:
- เป็นรุ่นเก่า ฟังก์ชันใหม่ๆ ไม่มี: พวกฟังก์ชัน Sleep Tracking ขั้นสูง, Pulse Ox (วัดออกซิเจนในเลือด), Garmin Pay (จ่ายเงินไร้สัมผัส), หรือแผนที่แบบสี (มีเฉพาะรุ่น 5X ขึ้นไป) จะไม่มีในรุ่นนี้.
- ขนาดและน้ำหนักค่อนข้างใหญ่: อาจจะไม่เหมาะกับคนข้อมือเล็ก หรือคนที่ชอบนาฬิกาเบาๆ.
- ไม่มีหน้าจอสัมผัส: สายที่ชินกับ Smartwatch จอสัมผัสอาจจะต้องปรับตัว.
- เซ็นเซอร์วัดชีพจรที่ข้อมืออาจจะไม่แม่นเท่าสายคาดอก: สำหรับการซ้อมที่ต้องการความแม่นยำสูง.
- เทคโนโลยี GPS อาจจะไม่ล่าสุดเท่ารุ่นใหม่: รุ่นใหม่ๆ จะมี Multiband GPS ที่แม่นยำกว่าในที่อับสัญญาณ.
- ราคาตอนเปิดตัวสูงลิ่ว: แม้มือสองจะถูกลง แต่ถ้าซื้อมือหนึ่งตอนนั้นก็จุกอยู่.
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีไหมนะ?
เหมาะกับ:
- นักวิ่ง นักปั่น นักไตรกีฬา และนักผจญภัย ที่ต้องการนาฬิกาคู่ใจทนๆ ฟังก์ชันกีฬาแน่นๆ.
- คนที่ชอบทำกิจกรรม Outdoor บ่อยๆ: เดินป่า ปีนเขา พายเรือ ที่ต้องการความทนทานและฟังก์ชันนำทาง/สภาพอากาศเบื้องต้น.
- คนที่งบจำกัด แต่อยากได้นาฬิกาเกรดพรีเมียม: มองหามือสองสภาพดี รุ่นนี้ให้ประสบการณ์ที่ดีในราคาที่เอื้อมถึง.
- คนที่ชอบนาฬิกาหน้าตาแบบ Classic หน่อยๆ: ไม่ได้อยากได้ Smartwatch จอสีสันสดใสแบบมือถือ.
ไม่เหมาะกับ:
- คนที่ต้องการ Smartwatch แบบจัดเต็ม: เน้นตอบข้อความ โทรออก ฟังเพลงผ่านนาฬิกา หรือฟังก์ชันใหม่ๆ ล้ำๆ.
- คนที่ต้องการนาฬิกาขนาดเล็ก น้ำหนักเบา: Fenix 5 อาจจะใหญ่เกินไปสำหรับข้อมือเล็ก.
- คนที่ต้องการฟังก์ชันแผนที่นำทางแบบละเอียดบนข้อมือ: ฟังก์ชันนี้มีเฉพาะรุ่น Fenix 5X ขึ้นไป.
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอโปรโมชั่นดีกว่า?
ถ้าคุณเจอมือสองสภาพดีในราคาที่ถูกใจ (อย่างที่บอก หลักพันปลายๆ ถึงหมื่นต้นๆ) และคุณสมบัติตรงกับความต้องการที่กล่าวมาข้างต้น ก็จัดเลยค่ะ! เพราะเป็นรุ่นที่ทนทานและยังใช้งานได้ดีมากๆ สำหรับการออกกำลังกาย. แต่ถ้าอยากได้ของใหม่แกะกล่อง อาจจะต้องมองข้ามรุ่นนี้ไปหารุ่นใหม่ๆ แทน เพราะ Fenix 5 ไม่ใช่รุ่นที่ผลิตใหม่แล้วค่ะ.
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เอาไว้ประกอบการตัดสินใจ)
เทียบกับ Garmin รุ่นอื่นในซีรีส์ Fenix 5:
- Fenix 5S Sapphire: ฟังก์ชันเหมือนกันเป๊ะ แต่ขนาดเล็กกว่า เหมาะกับคนข้อมือเล็ก.
- Fenix 5X Sapphire: ใหญ่สุดในซีรีส์ มีฟังก์ชันแผนที่แบบสีเพิ่มเข้ามาด้วย เหมาะกับสายเทรล สายเดินป่าที่เน้นการนำทางบนข้อมือ.
เทียบกับรุ่นที่ใหม่กว่าในซีรีส์ Fenix (เช่น Fenix 6, 7, 8):
รุ่นใหม่ๆ จะมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นเยอะมาก เช่น แผนที่แบบสีละเอียดขึ้น, แบตเตอรี่ที่อึดกว่าเดิม (บางรุ่นมี Solar Charging), ฟังก์ชัน Sleep Tracking ที่แม่นยำขึ้น, Pulse Ox, Garmin Pay, หน้าจอสัมผัส (ในบางรุ่น), และเซ็นเซอร์วัดชีพจรที่พัฒนาขึ้น. ถ้าฟังก์ชันเหล่านี้สำคัญกับคุณมากๆ การขยับไปเล่นรุ่นใหม่กว่าก็คุ้มค่าที่จะลงทุนเพิ่มค่ะ แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย.
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?
สำหรับ Garmin ในประเทศไทย มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และมีศูนย์บริการรองรับค่ะ. ถ้าซื้อมือหนึ่งจากร้านค้าทางการ หรือตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ ก็จะได้รับการรับประกันตามปกติ (มักจะเป็น 1 ปี) และสามารถส่งเคลมหรือซ่อมได้ที่ศูนย์บริการในประเทศ.
ช่องทางการซื้อ:
- ร้านค้าออนไลน์: Shopee, Lazada เป็นแหล่งหลักที่หามือสองเยอะมากค่ะ. ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ และสอบถามสภาพสินค้าให้ละเอียดก่อนซื้อ.
- กลุ่มซื้อขายนาฬิกา Garmin ใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่หามือสองได้ และมักจะได้คุยกับผู้ขายโดยตรง อาจจะขอดูรูปหรือวิดีโอสินค้าจริงได้ง่ายกว่า.
- ร้านรับซื้อมือสอง: บางร้านอาจจะมี Fenix 5 Sapphire มือสองขาย ลองสอบถามดูค่ะ.
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย: อาจจะยังมีของใหม่เหลืออยู่บ้างแต่น้อยมากๆ หรือเป็นรุ่นที่ตกรุ่นไปแล้ว ลองเช็คดูค่ะ.
คำแนะนำในการซื้อมือสอง:
เน้นร้านหรือผู้ขายที่ไว้ใจได้ ขอรูปหลายๆ มุม โดยเฉพาะบริเวณหน้าจอและเซ็นเซอร์ด้านหลัง. สอบถามอายุการใช้งานและสภาพแบตเตอรี่ให้ชัดเจนค่ะ. ถ้าเป็นไปได้ นัดเจอเพื่อดูสินค้าจริงและทดสอบเบื้องต้นได้จะดีที่สุด.
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!
สำหรับ Garmin Fenix 5 Sapphire ถ้ามองหานาฬิกาวิ่งมัลติสปอร์ตที่ ทนทาน แบตอึด ฟังก์ชันกีฬาครบในระดับ Advance และมีหน้าจอ Sapphire กันรอยแบบสุดๆ โดยที่ ไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชัน Smartwatch ล่าสุด หรือแผนที่แบบสีละเอียดๆ และรับได้กับขนาดและน้ำหนักที่ค่อนข้างใหญ่
ฟันธงเลยว่า: รุ่นนี้ ยังน่าใช้และคุ้มค่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหามือสองสภาพดีได้ในราคาที่สมเหตุสมผลค่ะ. มันคือนาฬิกาที่จะเป็นเพื่อนคู่ใจพาคุณไปลุยได้ทุกที่โดยไม่ต้องกลัวพังง่ายๆ.
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ถ้าเน้นวิ่งอย่างเดียว อาจจะมีรุ่นอื่นที่เบากว่าและราคาไม่สูงเท่า Fenix (เช่น Forerunner Series) ที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่า.
- ถ้าเงินถึง และต้องการฟังก์ชัน Smartwatch หรือฟังก์ชันกีฬาที่ล้ำขึ้นไปอีก การขยับไปเล่น Fenix รุ่นใหม่ๆ อย่าง Fenix 6, 7, หรือ 8 ก็น่าสนใจค่ะ.
สุดท้ายแล้ว การเลือกนาฬิกาก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคนค่ะ หวังว่ารีวิวฉบับบ้านๆ นี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ใครใช้ Fenix 5 อยู่ หรือเคยใช้แล้วเป็นยังไง มาเม้าท์สู่กันฟังในคอมเมนต์ได้เลยนะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว เหล้า Beehive: วิสกี้รสชาติดี ราคาเป็นมิตร น่าลองไหม?
รีวิวล่าสุด Canon EOS M50: กล้อง Mirrorless ยอดฮิต ยังน่าใช้ไหมในปี 2024?
Mpow M5 รีวิว: หูฟังไร้สายราคาเบา คุณภาพเสียงเป็นยังไง?
รีวิว The Common Saladaeng: แหล่งแฮงค์เอาท์สุดชิค ใจกลางสาทร มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
รีวิว Copycat Killer (ซีรีส์ Netflix): ดราม่าอาชญากรรมสุดเข้มข้น ห้ามพลาด!
Rebalance Clinic รีวิว: ทำสวยที่นี่ดีไหม? ครบวงจรเรื่องผิวและหัตถการ