10 เครื่องดูดควัน ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ดูดควันดี เสียงเงียบ

สวัสดีครับเพื่อนๆ พ่อบ้านแม่บ้าน และชาวแก๊งนักทำอาหารทั้งหลาย! 👋 เข้าใจเลยว่าเวลาทำอาหารแต่ละที โดยเฉพาะเมนูเด็ดๆ จัดจ้านแบบไทยๆ ทั้งผัด ทั้งทอด ทั้งแกง ควันโขมง กลิ่นคลุ้งเต็มบ้านไปหมด บางทีทำเสร็จกว่ากลิ่นจะหายก็กินเวลาไปนานแสนนาน จนเสียบรรยากาศการกินข้าวไปเลยใช่ไหมครับ?

เครื่องดูดควันนี่แหละคือฮีโร่กู้ชีพครัวไทย! ตัวช่วยสำคัญที่จะมาจัดการกับปัญหาควัน กลิ่น และไอน้ำมันที่ฟุ้งกระจาย ให้ห้องครัวของเราสะอาด น่าใช้งานอยู่เสมอ ไม่ต้องคอยกังวลว่ากลิ่นอาหารจะไปติดผ้าม่าน ติดโซฟา หรือลอยไปรบกวนคนในบ้านอีกต่อไป

แต่ปัญหาคือ... ตลาดเครื่องดูดควันตอนนี้มีให้เลือกเยอะมากกกก ชนิดที่ว่าเดินเข้าห้างหรือเปิดแอปช้อปปิ้งออนไลน์แล้วตาลายไปหมด! ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนที่ดูดควันเก่งจริง เสียงไม่ดังหนวกหู แถมราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วย 🤔

ไม่ต้องกลุ้มใจไปครับ! เพราะวันนี้ผม ในฐานะคนที่ชอบทำอาหาร (และเจอมาเยอะกับปัญหากลิ่นควัน!) จะขออาสาเป็นไกด์พาเพื่อนๆ ไปบุกตลาดเครื่องดูดควันในไทย พร้อมแนะนำ 10 รุ่นเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ ได้เครื่องดูดควันคู่ใจไปกู้ชีพครัวแน่นอน!

ส่องตลาดเครื่องดูดควันในไทย อะไรกำลังมา?

บอกเลยว่ายุคนี้คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตในบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ "ครัว" ไม่ได้เป็นแค่ที่ทำอาหารอีกต่อไป แต่เป็นพื้นที่แห่งความสุข เป็นมุมที่ใช้เวลาดีๆ กับครอบครัว การมีอากาศที่สะอาด ปลอดโปร่ง จึงสำคัญมากๆ ทำให้ตลาดเครื่องดูดควันในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรือทาวน์โฮมที่พื้นที่จำกัด การระบายอากาศไม่ดีเท่าบ้านเดี่ยว เครื่องดูดควันจึงกลายเป็นของจำเป็นไปแล้ว

แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ต่างชาติที่นำเข้าเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น Electrolux, Hafele, Teka, MEX, Franke, Elica, Siemens, Smeg หรือแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวโดยเฉพาะ ส่วนแบรนด์ไทยอย่าง Lucky Flame และ Axia ก็เป็นที่นิยมและมีรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Lucky Flame ที่เน้นสินค้าสำหรับครัวไทยโดยเฉพาะ

พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเวลาเลือกซื้อเครื่องดูดควัน มักจะมองหาเครื่องที่ "กำลังดูดแรง" เป็นอันดับแรก เพราะอาหารไทยเน้นผัด ทอด ที่มีควันและน้ำมันเยอะ รองลงมาคือเรื่อง "เสียงเงียบ" เพราะคงไม่มีใครอยากทำอาหารไป ฟังเสียงเครื่องบินเจ็ตไปใช่ไหมล่ะครับ นอกจากนี้ดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับครัว การทำความสะอาดง่าย และบริการหลังการขายก็เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเช่นกัน แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายและมีโปรโมชั่นอยู่เสมอ

เลือกเครื่องดูดควันยังไงให้ใช่... ไม่ต้องปวดหัว?

ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป มาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องดูดควันที่ตอบโจทย์ครัวของเราที่สุดครับ ลองดูตามนี้เลย:

1. กำลังดูด (Suction Power): สำคัญอันดับต้นๆ เลยครับ! ยิ่งกำลังดูดสูง ยิ่งดูดควันและกลิ่นได้ดี โดยทั่วไปหน่วยจะเป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m³/hr) สำหรับครัวไทยที่ทำอาหารหนักๆ แนะนำให้เลือกที่กำลังดูดตั้งแต่ 1,000 m³/hr ขึ้นไปถึงจะเอาอยู่
2. ระดับเสียง (Noise Level): ไม่มีใครอยากได้เครื่องที่ดูดแรงแต่เสียงดังจนคุยกันไม่รู้เรื่องใช่ไหมครับ? หน่วยวัดเป็นเดซิเบล (dB) ยิ่งค่าน้อยยิ่งเงียบ เครื่องที่ดีควรมีระดับเสียงไม่เกิน 70 dB ยิ่งน้อยกว่า 60 dB ยิ่งดีต่อสุขภาพหูและบรรยากาศในครัว
3. ประเภทของเครื่องดูดควัน: มีหลายแบบให้เลือกครับ
   • แบบกระโจม (Chimney Hood / Island Hood): กำลังดูดสูง ดีไซน์สวยงาม เหมาะกับครัวที่ทำอาหารหนักๆ มีพื้นที่กว้าง ติดตั้งได้ทั้งแบบติดผนังและแบบกลางห้อง
   • แบบมาตรฐาน หรือแบบติดใต้ตู้ (Standard Hood / Under Cabinet Hood): ขนาดกะทัดรัด ติดตั้งใต้ตู้ลอย เหมาะกับครัวขนาดเล็ก คอนโด หรือคนที่ทำอาหารไม่หนักมาก กำลังดูดอาจไม่สูงเท่าแบบกระโจม
   • แบบซ่อนในตู้ (Integrated Hood): ซ่อนตัวอยู่ในตู้ ทำให้ครัวดูเรียบร้อยสวยงาม
   • แบบสลิมไลน์ (Slimline Hood): บางและกะทัดรัด มีแผงสไลด์ดึงออกมาเพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดควันได้ เหมาะกับครัวขนาดเล็ก
4. ระบบการทำงาน: ส่วนใหญ่มี 2 ระบบ คือ
   • ระบบต่อท่อออกภายนอก (Ducted System): ดูดควัน กลิ่น และไอน้ำมันออกไปนอกตัวอาคาร มีประสิทธิภาพสูงสุด แนะนำสำหรับบ้านหรือคอนโดที่สามารถเจาะผนัง/ฝ้าเพื่อต่อท่อได้
   • ระบบหมุนเวียนภายใน (Recirculating System): ดูดอากาศผ่านแผ่นกรองไขมันและแผ่นกรองคาร์บอน เพื่อกรองกลิ่นและไขมัน ก่อนปล่อยอากาศกลับเข้ามาในห้อง เหมาะกับคอนโดที่ไม่สามารถเจาะผนังได้ แต่ต้องหมั่นเปลี่ยนแผ่นกรองคาร์บอนบ่อยๆ
5. วัสดุและการทำความสะอาด: ควรเลือกวัสดุที่ทนทาน ทำความสะอาดง่าย เช่น สเตนเลส หรือกระจก บางรุ่นมีระบบทำความสะอาดตัวเองด้วย แผ่นกรองที่ถอดล้างได้ง่ายก็สำคัญ
6. ฟังก์ชันเสริม: เช่น ไฟส่องสว่าง LED, ระบบควบคุมแบบสัมผัส, ตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ, ระบบควบคุมด้วยมือโบก (Gesture Control) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
7. ชื่อเสียงแบรนด์และบริการหลังการขาย: เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีศูนย์บริการหรือตัวแทนในไทยชัดเจน เพื่อความสะดวกในการซ่อมบำรุงหรือหาอะไหล่

เปิดโผ! 10 เครื่องดูดควันน่าโดน ปี 2025 ดูดควันดี เสียงเงียบ!

ได้เวลามาดูกันแล้วครับว่า 10 รุ่นเด่นที่เราคัดมา มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง! ลิสต์นี้รวบรวมจากข้อมูลรีวิวและรุ่นยอดนิยมในตลาดไทย โดยเน้นที่กำลังดูดที่เหมาะกับครัวไทย และเสียงที่ไม่ดังรบกวนครับ

1. Lucky Flame รุ่น RG-901S / RG-971T

แบรนด์จากไทย ที่คนไทยไว้ใจเรื่องเครื่องครัวและเตาแก๊ส และทำเครื่องดูดควันมาตอบโจทย์ครัวไทยโดยเฉพาะ

• รุ่นแนะนำ: RG-901S, RG-971T
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่เข้าใจพฤติกรรมการทำอาหารของคนไทยเป็นอย่างดี
• จุดเด่น: กำลังดูดสูงถึง 1,600 m³/hr ในบางรุ่น วัสดุสเตนเลสแข็งแรงทนทาน แผ่นกรองสเตนเลสทำความสะอาดง่าย เหมาะกับครัวไทยที่น้ำมันเยอะ มีดีไซน์หลากหลายทั้งแบบกระโจมและแบบมาตรฐาน
• ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะเน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก อาจไม่หวือหวาเท่าแบรนด์ยุโรปบางยี่ห้อ
• เหมาะกับ: ครัวไทยที่ทำอาหารหนัก เน้นกำลังดูดสูง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และต้องการแบรนด์ที่ไว้ใจได้เรื่องบริการในไทย
• ช่องทางซื้อ: HomePro, Boonthavorn, ร้านแก๊สและเครื่องครัวชั้นนำ, Lazada, Shopee, NocNoc
• ช่วงราคา: ประมาณ 6,xxx - 1x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภท
• รีวิว: "ใช้ Lucky Flame มาหลายตัวแล้ว ทนดี ดูดควันเก่งจริง เหมาะกับครัวที่บ้านมากๆ" "รุ่น RG-901S ดูดควันแรงสะใจ ผัดกะเพราได้สบาย ไม่มีกลิ่นติดบ้านเลย"

2. Hafele รุ่น HH-TT0690QCC / Plus+ Series

แบรนด์จากเยอรมนี ที่มีสินค้าหลากหลายสำหรับบ้านและอาคาร รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว

• รุ่นแนะนำ: HH-TT0690QCC, Plus+ Series (เช่น BAYU 60)
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์นำเข้าจากเยอรมนี มีชื่อเสียงด้านคุณภาพมาตรฐานยุโรป
• จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย เข้าได้กับครัวหลายสไตล์ มีกำลังดูดสูงถึง 1,300-1,500 m³/hr ในบางรุ่น วัสดุแข็งแรงทนทาน บางรุ่นมีระบบควบคุมแบบสัมผัสหรือ Gesture Control
• ข้อเสีย: บางรุ่นอาจมีเสียงดังเมื่อเปิดแรงสุด ราคาอาจสูงกว่าแบรนด์ไทย
• เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องดูดควันดีไซน์สวย คุณภาพมาตรฐานยุโรป และมีกำลังดูดสูง
• ช่องทางซื้อ: Hafele Showroom, HomePro, Boonthavorn, ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 5,xxx - 2x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน
• รีวิว: "Hafele สวยมาก เข้ากับครัวโมเดิร์นที่บ้านสุดๆ ดูดควันได้ดีเลย" "ซื้อเป็นเซ็ตเตากับฮูด Hafele คุ้มค่ามาก" "ใช้งานดี แต่ถ้าเปิดเบอร์แรงสุดเสียงจะดังนิดหน่อย"

3. MEX รุ่น K638BFX90 / 3826X60

แบรนด์จากอิตาลี ที่นำเข้าโดยบริษัทเดียวกับ Smeg ในไทย ทำให้มั่นใจเรื่องคุณภาพ

• รุ่นแนะนำ: K638BFX90, 3826X60
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์นำเข้าจากอิตาลี เน้นคุณภาพและดีไซน์ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าแบรนด์ยุโรปอื่นๆ
• จุดเด่น: กำลังดูดสูงเหมาะกับครัวไทย (บางรุ่นถึง 1,188 m³/hr) วัสดุสเตนเลสเกรดดี ทนทาน ฟิลเตอร์ออกแบบมาให้กรองไอน้ำมันได้ดี มีดีไซน์สวยงาม ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัสในหลายรุ่น
• ข้อเสีย: อาจต้องเช็คบริการหลังการขายในพื้นที่
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องดูดควันคุณภาพดีจากยุโรป กำลังดูดแรง เหมาะกับครัวไทย ในงบประมาณที่สมเหตุสมผล
• ช่องทางซื้อ: HomePro, Boonthavorn, ตัวแทนจำหน่าย MEX, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 4,xxx - 1x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภท
• รีวิว: "ใช้ MEX มาหลายปีแล้วยังใช้งานดีอยู่ ดูดควันได้หมดจด" "MEX รุ่นที่ออกแบบมาเพื่อครัวไทยโดยเฉพาะ ฟิลเตอร์ดีมาก กรองน้ำมันได้ดีจริงๆ"

4. Electrolux รุ่น EFC9533X / EFC936GAR

แบรนด์จากสวีเดน ที่มีสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านครบวงจร เป็นที่รู้จักและเชื่อถือในไทยมานาน

• รุ่นแนะนำ: EFC9533X, EFC936GAR
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ระดับโลกจากสวีเดน มีมาตรฐานการผลิตที่เชื่อถือได้
• จุดเด่น: มีรุ่นให้เลือกหลากหลาย ครอบคลุมหลายราคา กำลังดูดพอใช้สำหรับครัวทั่วไปถึงครัวหนัก ดีไซน์เรียบง่าย สวยงาม เข้ากับครัวได้หลายแบบ มีบริการหลังการขายที่เข้าถึงง่าย
• ข้อเสีย: กำลังดูดในบางรุ่นอาจไม่สูงเท่าแบรนด์ที่เน้นกำลังดูดสูงเป็นพิเศษ
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องดูดควันจากแบรนด์ใหญ่ มีความน่าเชื่อถือ หาซื้อและซ่อมบำรุงง่าย เหมาะกับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไปถึงปานกลาง
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า, Power Buy, HomePro, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 5,xxx - 2x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภท
• รีวิว: "Electrolux เป็นแบรนด์ที่ไว้ใจได้ ซื้อมาใช้หลายอย่างแล้วไม่มีปัญหา เครื่องดูดควันก็ใช้ดี เสียงไม่ดังรบกวน"

5. Teka รุ่น LDH TC 90 / GFX 55

แบรนด์จากสเปน ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวโดยเฉพาะ

• รุ่นแนะนำ: LDH TC 90, GFX 55
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสเปน เน้นฟังก์ชันการใช้งานและดีไซน์
• จุดเด่น: มีกำลังดูดสูงในบางรุ่น (สูงสุด 1,200 m³/hr) ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย มีรุ่นให้เลือกหลากหลายรูปแบบ บางรุ่นมีระบบควบคุมแบบสัมผัส
• ข้อเสีย: บางรีวิวใน Pantip เคยมีปัญหาเรื่องบริการหลังการขาย เสียงอาจดังเมื่อเปิดแรง
• เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องดูดควันกำลังดูดสูง ดีไซน์สวย จากแบรนด์ที่เน้นเครื่องครัวโดยเฉพาะ
• ช่องทางซื้อ: Boonthavorn, ตัวแทนจำหน่าย Teka, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 6,xxx - 2x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน
• รีวิว: "ดีไซน์ Teka สวยถูกใจมาก ดูดควันได้ดีในระดับหนึ่ง" "รุ่น LDH TC 90 สวยมาก เป็นระบบสัมผัสด้วย"

6. Axia รุ่น C-SENSE 90 / HERO KNIGHT 90

แบรนด์ไทย ที่พัฒนาสินค้าเครื่องครัวมาตอบโจทย์คนไทย

• รุ่นแนะนำ: C-SENSE 90, HERO KNIGHT 90
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่มีนวัตกรรมน่าสนใจ โดยเฉพาะระบบควบคุมแบบมือโบก
• จุดเด่น: มีกำลังดูดสูงถึง 1,600 m³/hr ในบางรุ่น นวัตกรรมควบคุมด้วยมือโบกสะดวกสบายไม่ต้องสัมผัส มีระบบทำความสะอาดตัวเองในบางรุ่น ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
• ข้อเสีย: อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าแบรนด์ต่างชาติใหญ่ๆ
• เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องดูดควันกำลังดูดสูง มีนวัตกรรมใหม่ๆ และสนับสนุนแบรนด์ไทย
• ช่องทางซื้อ: HomePro, ตัวแทนจำหน่าย Axia, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 8,xxx - 2x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน
• รีวิว: "ชอบ Axia รุ่นที่ควบคุมด้วยมือโบกมาก สะดวกเวลาทำอาหารมือเปื้อน" "เครื่องดูดควัน Axia ดูดแรงจริง ควันหายเกลี้ยงเลย"

7. EVE รุ่น HC-HEE52J-90 / HC-ECLIPSE-90

แบรนด์นำเข้า ที่มีสินค้าเครื่องครัวดีไซน์สวยงาม

• รุ่นแนะนำ: HC-HEE52J-90, HC-ECLIPSE-90
• เกี่ยวกับแบรนด์: มีเครื่องดูดควันหลายรุ่น ดีไซน์ทันสมัย
• จุดเด่น: กำลังดูดสูงในบางรุ่น (ถึง 1,500-1,600 m³/hr) ดีไซน์สวยงาม บางรุ่นมีระบบทำความสะอาดเครื่องอัตโนมัติ
• ข้อเสีย: บางรุ่นอาจมีเสียงดัง
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องดูดควันกำลังดูดสูง ดีไซน์สวยงาม มีฟังก์ชันเสริมที่ช่วยอำนวยความสะดวก
• ช่องทางซื้อ: Boonthavorn, ตัวแทนจำหน่าย EVE, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 7,xxx - 2x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน
• รีวิว: "เครื่องดูดควัน EVE ดีไซน์สวย ชอบรุ่นกระจกโค้งมาก" "ดูดควันแรงดี คุ้มค่ากับราคา"

8. Kashiwa รุ่น PSD-203D / PSD-308H

แบรนด์สินค้าในบ้าน ที่มีสินค้าหลากหลาย ราคาเข้าถึงง่าย

• รุ่นแนะนำ: PSD-203D, PSD-308H
• เกี่ยวกับแบรนด์: เน้นสินค้าคุณภาพดีในราคาประหยัด
• จุดเด่น: ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณ กำลังดูดพอใช้สำหรับครัวทั่วไป บางรุ่นเสียงค่อนข้างเงียบ ใช้งานง่าย
• ข้อเสีย: วัสดุอาจจะไม่แข็งแรงทนทานเท่าแบรนด์ราคาสูง กำลังดูดอาจไม่สูงพอสำหรับคนที่ทำอาหารหนักมากๆ
• เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องดูดควันฟังก์ชันพื้นฐาน ราคาประหยัด เหมาะกับครัวขนาดเล็ก หรือทำอาหารไม่บ่อย
• ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee, ร้านค้าออนไลน์ทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 3,xxx บาท
• รีวิว: "Kashiwa ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับฟังก์ชัน ใช้ดูดควันเบาๆ ในคอนโดได้ดี" "เหมาะกับคนงบน้อย ใช้งานง่ายดี"

9. Smeg รุ่น KBT900XE / KSET62E

แบรนด์จากอิตาลี ที่เน้นดีไซน์สวยงามคลาสสิก เป็นที่ชื่นชอบของคนรักการแต่งบ้าน

• รุ่นแนะนำ: KBT900XE, KSET62E
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์พรีเมียมจากอิตาลี ดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์
• จุดเด่น: ดีไซน์สวยโดดเด่น ไม่เหมือนใคร วัสดุคุณภาพดี มีรุ่นที่มีกำลังดูดสูงพอใช้
• ข้อเสีย: ราคาสูง การบริการหลังการขายและอะไหล่มีราคาสูงและอาจหายาก
• เหมาะกับ: คนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ต้องการเครื่องดูดควันพรีเมียมที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้าน และมีงบประมาณสูง
• ช่องทางซื้อ: Boonthavorn, ตัวแทนจำหน่าย Smeg, NocNoc
• ช่วงราคา: ประมาณ 9,xxx - 4x,xxx+ บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและดีไซน์
• รีวิว: "Smeg สวยมาก แค่ตั้งไว้ในครัวก็ดูดีแล้ว" "ซื้อมาเพราะดีไซน์ล้วนๆ คุณภาพก็โอเคเลย"

10. Tecnogas / Tecnoplus (ในเครือเดียวกัน)

แบรนด์จากอิตาลี ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวหลากหลาย

• รุ่นแนะนำ: Tecnogas 3490K-AC, Tecnoplus TNP HDS 6048 DG
• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์นำเข้าจากอิตาลี มีสินค้าเครื่องครัวหลากหลาย
• จุดเด่น: มีรุ่นกำลังดูดสูงให้เลือก ดีไซน์สวยงาม มีทั้งรุ่นราคาเข้าถึงง่ายและราคาสูง
• ข้อเสีย: การตั้งชื่อรุ่นอาจทำให้สับสนเล็กน้อย
• เหมาะกับ: คนที่มองหาเครื่องดูดควันจากแบรนด์ยุโรป มีตัวเลือกหลากหลายทั้งดีไซน์และราคา
• ช่องทางซื้อ: Boonthavorn, ตัวแทนจำหน่าย Tecnogas/Tecnoplus, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 1x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและกำลังดูด
• รีวิว: "ใช้ Tecnogas รุ่นกำลังดูดสูงอยู่ ดูดควันจากอาหารไทยได้ดี" "ราคาไม่แรงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์ยุโรปอื่นๆ"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนครัว!

Q: เครื่องดูดควันแบบต่อท่อกับแบบหมุนเวียน อันไหนดีกว่ากัน?
A: ถ้าทำได้ แบบต่อท่อออกภายนอกดีที่สุดครับ เพราะเป็นการนำควัน กลิ่น และไอน้ำมันออกไปจากพื้นที่ครัวจริงๆ ทำให้ครัวสะอาดกว่า ส่วนแบบหมุนเวียนจะเหมาะกับกรณีที่ไม่สามารถเจาะผนังได้จริงๆ เช่น คอนโด แต่ต้องยอมรับว่าประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นและควันอาจไม่เท่าแบบต่อท่อ และต้องหมั่นเปลี่ยนแผ่นกรองคาร์บอนบ่อยๆ ครับ

Q: กำลังดูดเท่าไหร่ถึงจะพอสำหรับครัวไทย?
A: สำหรับครัวไทยที่เน้นเมนูผัด ทอด แกง ที่มีควันและน้ำมันเยอะ แนะนำให้เลือกเครื่องที่มีกำลังดูด ตั้งแต่ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m³/hr) ขึ้นไป ครับ ยิ่งสูงยิ่งดี

Q: เสียงเครื่องดูดควันดังแค่ไหนถึงเรียกว่า "เงียบ"?
A: ระดับเสียงที่ถือว่าค่อนข้างเงียบสำหรับเครื่องดูดควันคือ ไม่เกิน 60 เดซิเบล (dB) ครับ แต่เครื่องที่กำลังดูดสูงมากๆ อาจมีเสียงดังขึ้นบ้างเมื่อเปิดระดับสูงสุด ลองเช็คสเปกและรีวิวของรุ่นนั้นๆ ก่อนตัดสินใจครับ

Q: ซื้อเครื่องดูดควันออนไลน์ใน Lazada/Shopee ไว้ใจได้ไหม?
A: ส่วนใหญ่ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีเรตติ้งดีๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกซื้อจากร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านที่มีรีวิวจากผู้ซื้อคนไทยเยอะๆ และมีบริการหลังการขายที่ชัดเจนจะดีที่สุดครับ

Q: อายุการใช้งานของเครื่องดูดควันประมาณกี่ปี?
A: อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและคุณภาพของเครื่องครับ ถ้าดูแลสม่ำเสมอ หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรอง, เปลี่ยนแผ่นกรองคาร์บอน (สำหรับระบบหมุนเวียน), และใช้งานอย่างถูกวิธี เครื่องดูดควันคุณภาพดีก็สามารถใช้งานได้นานหลายปี บางแบรนด์มีการรับประกันมอเตอร์หลายปีก็มีครับ

สรุปและคำแนะนำ: เลือกเครื่องดูดควันให้ฟิน... ควันไม่บินมากวนใจ!

เป็นยังไงบ้างครับกับ 10 รุ่นเครื่องดูดควันที่เราคัดมาให้ เห็นแล้วพอจะเลือกได้หรือยังเอ่ย? การเลือกเครื่องดูดควันเหมือนกับการเลือกคู่ชีวิตในครัวเลยนะครับ ต้องเลือกให้ดี ให้เหมาะกับสไตล์การทำอาหารและพื้นที่ของเรา

• ถ้าเน้น ครัวไทย ทำอาหารหนักๆ ต้องการกำลังดูดสูง แนะนำ Lucky Flame, Hafele, MEX, Axia, EVE รุ่นกำลังดูดสูงๆ ครับ
• ถ้าเน้น ดีไซน์สวยงาม พรีเมียม เข้ากับครัวโมเดิร์น มีงบประมาณหน่อย ลองดู Hafele, MEX, Smeg, Teka, EVE ครับ
• ถ้าเน้น ราคาเป็นมิตร เหมาะกับครัวขนาดเล็ก หรือทำอาหารไม่หนักมาก Kashiwa หรือ Tecnogas/Tecnoplus บางรุ่นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
• ถ้าเน้น แบรนด์ที่มีบริการหลังการขายดี ในไทย แบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Electrolux หรือแบรนด์ไทยอย่าง Lucky Flame, Axia ก็น่าพิจารณาครับ

อย่าลืมเช็คเรื่อง ระดับเสียง ด้วยนะครับ ถึงดูดแรงแต่ถ้าเสียงดังเกินไปก็อาจจะรบกวนการใช้งานได้

สิ่งที่ควรระวังในการช้อปปิ้งออนไลน์คือ เช็คผู้ขาย ให้ดีว่าเป็นร้านที่เชื่อถือได้หรือไม่ อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ เยอะๆ ครับ และ เช็คสเปกเครื่อง ให้ตรงกับความต้องการของเราจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องกำลังดูดและขนาดของเครื่อง

ช่วงเทศกาลหรือแคมเปญใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเยอะมากครับ! ใครที่กำลังเล็งอยู่ อย่าพลาดช่วงนี้เด็ดขาด อาจจะได้เครื่องดูดควันสเปกดีในราคาคุ้มสุดๆ ไปเลย!

มาคุยกันหน่อย! ใช้รุ่นไหนอยู่? ประสบการณ์เป็นไงบ้าง?

เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้เครื่องดูดควันรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรอยู่บ้างครับ? ดูดควันดีจริงไหม เสียงดังรบกวนหรือเปล่า หรือมีเคล็ดลับการเลือกซื้อเครื่องดูดควันดีๆ มาแชร์กัน คอมเมนต์บอกต่อเพื่อนๆ คนอื่นได้เลยนะครับ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากให้ผมรวบรวมดีลเด็ดๆ จากร้านค้าออนไลน์ ลองพิมพ์คำว่า "อยากได้ดีลเด็ด!" ใต้คอมเมนต์ได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะพยายามหามาให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำอาหารในครัวสะอาดๆ ไร้ควันไร้กลิ่นนะครับ! สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว 3 เครื่องดูดควันยอดฮิต กำจัดกลิ่นควันแรง เงียบ เบา คุ้มราคา!
• เครื่องดูดควัน FOTILE - JQG9009T เครื่องดูดควันที่เสียงเบามากๆ แต่ ...
• 10 อันดับ เครื่องดูดควัน ยี่ห้อไหนดี 2022
• เครื่องดูดควัน เสียงรบกวนต่ำ พลังแรงลมสูง
• วิธีเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะกับครัว