ซื้อ ตู้กดน้ำเย็น ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี? เปรียบเทียบราคา รุ่นยอดนิยม

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องใกล้ตัวที่ขาดไม่ได้ในเมืองไทยที่อากาศฮอตกว่าแดดซัมเมอร์ นั่นก็คือ ตู้กดน้ำเย็นไฟฟ้า นั่นเอง! คิดดูสิ อากาศร้อนๆ ได้น้ำเย็นๆ ชื่นใจสักแก้ว มันฟินแค่ไหน! บทความนี้เราจะมาดูกันว่าซื้อตู้กดน้ำเย็นเนี่ย ยี่ห้อไหนดี ราคาเป็นยังไง มีรุ่นไหนฮิตๆ บ้าง ตามมาดูกันเลย!

1. เจ้าตู้กดน้ำเย็นนี่มันคืออะไร แล้วใครควรมี?

เจ้า ตู้กดน้ำเย็นไฟฟ้า เนี่ย พูดง่ายๆ มันก็คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเปลี่ยนน้ำอุณหภูมิปกติให้กลายเป็นน้ำเย็นเจี๊ยบได้ทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาไปกรอกน้ำใส่ขวดแล้วแช่ตู้เย็นให้วุ่นวาย บางรุ่นนี่ไม่ใช่แค่น้ำเย็นนะจ๊ะ ยังมีน้ำร้อนให้ชงกาแฟ ชงชา หรือน้ำอุณหภูมิห้องให้ดื่มได้อีกด้วย สะดวกสุดๆ ไปเลย!

แล้วใครล่ะที่เหมาะจะมีเจ้าเครื่องนี้ไว้ติดบ้านหรือติดออฟฟิศ? บอกเลยว่าเหมาะกับทุกคนเลยจ้า! ไม่ว่าจะอยู่บ้าน คอนโด หอพัก หรือออฟฟิศ ยิ่งบ้านไหนมีสมาชิกหลายคน หรือมีคนเข้าออกบ่อยๆ อย่างร้านค้า ร้านอาหาร หรือออฟฟิศ ยิ่งต้องมี! เพราะมันช่วยประหยัดเวลา แถมยังได้ดื่มน้ำเย็นสะอาดๆ ตลอดเวลาด้วยนะ ยี่ห้อดังๆ ที่เห็นในตลาดก็มีเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Toshiba, Midea, Sharp, Clarte', Alectric, Hitachi, Victor, Imarflex, Standard, Electrolux, ZAGIO และอื่นๆ อีกมากมาย แบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นแบรนด์ที่คุ้นหูคุ้นตาในไทยมานาน มีทั้งจากญี่ปุ่น จีน ยุโรป เค้าก็พัฒนาสินค้ามาให้ตอบโจทย์คนไทยนี่แหละ

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

เรื่องราคาเนี่ยมีหลากหลายสุดๆ เลยจ้า ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ฟังก์ชัน และขนาดของตู้กดน้ำ ตู้กดน้ำเย็นอย่างเดียว แบบตั้งโต๊ะเล็กๆ ก็ราคาไม่แรงมาก แต่ถ้าเป็นแบบตั้งพื้น มีน้ำร้อนน้ำเย็นครบ หรือมีระบบกรองในตัว ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก

ช่วงราคาในตลาดไทยแบบคร่าวๆ นะ (อันนี้เป็นราคา ณ ช่วงกลางปี 2025 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้):

• แบบตั้งโต๊ะ (น้ำเย็นอย่างเดียว หรือมีน้ำร้อนด้วย): เริ่มต้นประมาณ ฿1,000 - ฿4,000 บาท บางรุ่นเล็กๆ ราคาหลักร้อยก็มีนะแต่ต้องเช็คดีๆ ว่าคุณภาพโอเคไหม
• แบบตั้งพื้น (น้ำร้อน-น้ำเย็น หรือมีน้ำอุณหภูมิห้องด้วย): ราคาจะหลากหลายกว่ามาก เริ่มตั้งแต่ประมาณ ฿2,000 ปลายๆ ไปจนถึงหลักหมื่นบาทเลยจ้า รุ่นยอดนิยมอย่าง Toshiba, Midea, Sharp, Electrolux, Hitachi ราคาก็จะอยู่ในช่วง ฿4,000 - ฿9,000 บาทโดยประมาณ แล้วแต่รุ่นและโปรโมชั่นนะ
• แบบถังน้ำอยู่ด้านล่าง (Bottom Load): รุ่นนี้จะสะดวกตรงที่ไม่ต้องยกถังน้ำหนักๆ ขึ้นไปคว่ำด้านบน ราคาก็จะสูงขึ้นมาอีกหน่อย ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง ฿5,000 บาทขึ้นไป

แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada และ Shopee นี่แหละ แหล่งรวมตู้กดน้ำเย็นเลย มีให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งร้านค้าทางการ (Official Store) และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือร้านค้าทั่วไป ลองเข้าไปดูในหมวดหมู่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน หรือเครื่องใช้ในครัว จะเจอเพียบ! นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Power Buy และร้านวัสดุบ้านอย่าง HomePro, ไทวัสดุ ก็มีให้เลือกซื้อเหมือนกันนะ ข้อดีคือเราไปดูของจริง เปรียบเทียบขนาด สีสัน ได้สัมผัสของจริงก่อนตัดสินใจซื้อจ้า

3. แล้วเทียบกับยี่ห้ออื่น รุ่นอื่น เป็นไงบ้าง?

เวลาจะซื้อตู้กดน้ำเย็น เราก็ต้องลองเปรียบเทียบกับรุ่นใกล้เคียงกัน หรือยี่ห้ออื่นๆ ด้วยใช่ไหมล่ะ? อย่างเช่น ตู้กดน้ำเย็น-น้ำร้อน แบบตั้งพื้นของ Toshiba รุ่นฮิตๆ อาจจะราคาประมาณ ฿4,000 - ฿6,000 บาท ขณะที่ Midea รุ่นใกล้เคียงกันก็อาจจะราคาอยู่ในช่วงเดียวกัน หรือถูกกว่านิดหน่อย ส่วนแบรนด์ไทยอย่าง Imarflex หรือ Victor, Standard, Sonar ราคาก็จะจับต้องง่ายขึ้นมาอีก อาจจะเริ่มต้นที่หลักพันต้นๆ สำหรับแบบตั้งโต๊ะ หรือประมาณ ฿2,000 - ฿4,000 สำหรับแบบตั้งพื้น แต่ก็ต้องดูเรื่องฟังก์ชัน การรับประกัน และวัสดุด้วยนะ

บางทีรุ่นราคาเป็นมิตร อาจจะมีแค่ระบบทำความเย็นแบบใช้แผงทำความเย็น (Electronic Cooling) ซึ่งจะไม่เย็นเท่าแบบใช้คอมเพรสเซอร์ ถ้าอยากได้น้ำเย็นเร็ว เย็นฉ่ำเหมือนแช่ตู้เย็น ก็ต้องเลือกรุ่นที่เป็นระบบคอมเพรสเซอร์ ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนรุ่นแพงๆ บางทีอาจจะมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น ระบบกรองน้ำในตัว ระบบ UV ฆ่าเชื้อ หรือการแจ้งเตือนน้ำหมด ซึ่งถ้าฟังก์ชันพวกนี้ตอบโจทย์ความต้องการของเรา ก็ถือว่าคุ้มค่านะจ๊ะ

4. ซื้อแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง?

เวลาซื้อตู้กดน้ำเย็น สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ เลยก็คือ ตัวเครื่องตู้กดน้ำ นั่นแหละจ้า

ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องเช็ครายละเอียดดีๆ นะ:

• ค่าขนส่ง: ส่วนใหญ่ถ้าซื้อออนไลน์ตามแพลตฟอร์มใหญ่ๆ มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี นะ หรือบางร้านอาจจะกำหนดขั้นต่ำในการสั่งซื้อถึงจะได้ส่งฟรี แต่ถ้าซื้อตามร้านค้าปลีกใหญ่ๆ บางทีก็มีบริการจัดส่งและติดตั้งให้ฟรีในพื้นที่ที่กำหนด
• การรับประกัน: อันนี้คนไทยเราให้ความสำคัญมากๆ! ส่วนใหญ่ตู้กดน้ำเย็นจะมีการรับประกันสินค้าอย่างน้อย 1 ปี และรับประกันคอมเพรสเซอร์ 5 ปี (คอมเพรสเซอร์นี่สำคัญมาก เพราะเป็นหัวใจของการทำความเย็น) ต้องเก็บใบเสร็จและใบรับประกันไว้ให้ดีๆ เลยนะ เวลาเครื่องมีปัญหาจะได้เคลมได้
• อุปกรณ์เสริมและของแถม: บางทีร้านค้าอาจจะมีโปรโมชั่นแถมถังน้ำดื่มเปล่ามาให้ด้วย หรือแถมขาตั้งตู้กดน้ำสำหรับรุ่นตั้งโต๊ะ บางทีก็มีคูปองส่วนลด หรือโปรโมชั่นอื่นๆ ให้ ก็ต้องลองดูดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ

5. ช่วงไหนน่าช้อปเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ ไหม?

ถ้าอยากได้ตู้กดน้ำเย็นในราคาคุ้มๆ ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มแทบจะทุกเดือน โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 หรือ Pay Day Sale ช่วงสิ้นเดือน นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย อย่าง สงกรานต์ ปีใหม่ หรือช่วงเปิดเทอม บางทีร้านค้า หรือแบรนด์ต่างๆ ก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านออกมาด้วยนะ

ร้านค้าที่เป็น Official Store ของแบรนด์ดังๆ บน Lazada หรือ Shopee ก็มักจะมีโค้ดส่วนลด หรือโปรโมชั่นเฉพาะร้านให้บ่อยๆ แนะนำให้กดติดตามร้านค้าที่เราสนใจไว้เลย จะได้ไม่พลาด ส่วนร้านค้าปลีกใหญ่ๆ อย่าง Power Buy, HomePro, Central ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือผ่อน 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการออกมาเป็นช่วงๆ ถ้าไม่รีบมาก รอช่วงโปรโมชั่นแล้วค่อยซื้อเนี่ย มีโอกาสได้ราคาดีงาม คุ้มค่ากว่าเดิมแน่นอนจ้า

6. คนไทยที่ใช้แล้ว เค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวใน Lazada, Shopee หรือตามเว็บบอร์ดต่างๆ นะจ๊ะ คนไทยที่ซื้อตู้กดน้ำเย็นมาใช้ ส่วนใหญ่ก็แฮปปี้กันดีเลย จุดที่เค้าชมกันบ่อยๆ เลยคือ:

• น้ำเย็นเร็วทันใจ: อันนี้คือสิ่งที่เราต้องการที่สุดในอากาศร้อนๆ ใช่ไหมล่ะ! หลายคนบอกว่าเปิดเครื่องไม่นานก็ได้น้ำเย็นชื่นใจแล้ว
• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: เสียบปลั๊ก ใส่น้ำ กดปุ่ม ก็ใช้งานได้เลย บางรุ่นมีปุ่มกดน้ำร้อนพร้อมระบบ Safety Lock กันเด็กกดโดนด้วย สะดวกและปลอดภัยดี
• ดีไซน์สวย เข้ากับบ้าน: เดี๋ยวนี้ตู้กดน้ำก็ทำดีไซน์ออกมาสวยงาม ทันสมัย มีหลายสีหลายแบบให้เลือกวางตรงไหนก็ดูดี
• ขนาดกะทัดรัด: สำหรับรุ่นตั้งโต๊ะ หรือรุ่นตั้งพื้นบางรุ่นก็ไม่ได้ใหญ่เทอะทะมาก เหมาะกับพื้นที่จำกัดในคอนโด หรือบ้านสมัยใหม่
• ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายที่ได้รับ และคุณภาพของน้ำที่ได้ดื่ม หลายคนมองว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
• ทนทาน ใช้งานได้นาน: อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่คนไทยให้ความสำคัญ หลายคนใช้มาหลายปีก็ยังไม่มีปัญหาจุกจิก (แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วยนะ)

แต่ก็มีบ้างที่เจอข้อติ เช่น เสียงคอมเพรสเซอร์ดังไปหน่อย หรือรุ่นที่ไม่มีระบบกรองน้ำในตัว ก็ต้องมั่นใจในคุณภาพของน้ำที่เราเอามาใส่ถังนะจ๊ะ

7. แล้วจะไปสอยเจ้าตู้กดน้ำเย็นได้จากช่องทางไหนดีล่ะ?

ช่องทางการซื้อตู้กดน้ำเย็นไฟฟ้าก็มีให้เลือกหลากหลายเลยจ้า ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเราเลย:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ในไทย: Lazada และ Shopee เนี่ยคือแหล่งช้อปปิ้งหลักเลย ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะมากๆ สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านได้ง่าย มีรีวิวจากผู้ใช้คนอื่นๆ ให้ดูประกอบการตัดสินใจ มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมักจะมีโปรโมชั่น โค้ดส่วนลด หรือส่งฟรี แถมยังกดสั่งซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวกสุดๆ!
• ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้า: อย่าง Power Buy, HomePro, Central, Big C, The Mall, ไทวัสดุ ช่องทางนี้เหมาะกับคนที่อยากไปดูของจริง สัมผัสของจริง เปรียบเทียบดีไซน์ ขนาด หรือสอบถามข้อมูลจากพนักงานได้โดยตรง บางทีเค้าก็มีโปรโมชั่นหน้าร้าน หรือโปรโมชั่นผ่อน 0% ที่น่าสนใจนะ
• ร้านค้าทางการ (Official Store) ของแบรนด์ต่างๆ: บางแบรนด์ก็มีเว็บไซต์ของตัวเองให้สั่งซื้อโดยตรง หรือมีร้านค้าทางการบน Lazada/Shopee การซื้อจากช่องทางทางการมักจะมั่นใจได้ว่าเป็นสินค้าของแท้ และมีการรับประกันตามมาตรฐานของแบรนด์นั้นๆ

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า ที่สำคัญอย่าลืมเช็คเรื่องการรับประกันและบริการหลังการขายด้วยนะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? ควรเลือกรุ่นไหนดี?

มาถึงบทสรุปแล้ว! ถามว่าตู้กดน้ำเย็นไฟฟ้ายังน่าซื้ออยู่ไหมในยุคนี้? บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ เลยจ้า! ยิ่งเมืองไทยอากาศร้อนแบบนี้ การมีน้ำเย็นๆ สะอาดๆ พร้อมดื่มตลอดเวลาเนี่ย มันช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเยอะจริงๆ

แล้วควรเลือกรุ่นไหนดีล่ะ?

• ถ้าเน้นประหยัดงบ ใช้งานง่ายๆ แค่น้ำเย็นอย่างเดียว หรือมีน้ำร้อนเพิ่มมานิดหน่อย และไม่ได้มีคนใช้เยอะมาก แบบตั้งโต๊ะ หรือ แบบตั้งพื้นรุ่นเริ่มต้น ก็เพียงพอแล้ว เน้นดูที่ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกัน
• ถ้ามีคนใช้เยอะในบ้าน หรือออฟฟิศเล็กๆ อยากได้ทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้องด้วย และมีพื้นที่ในการวางหน่อย แบบตั้งพื้น รุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ดังๆ อย่าง Toshiba, Midea, Sharp, Electrolux ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เลือกรุ่นที่มีระบบคอมเพรสเซอร์ น้ำจะเย็นกว่าและเย็นเร็ว
• ถ้าเน้นความสะดวกสบายขั้นสุด ไม่อยากยกถังน้ำหนักๆ เลือกรุ่นที่เป็น แบบถังน้ำอยู่ด้านล่าง (Bottom Load) ไปเลยจ้า ราคาจะสูงหน่อย แต่สบายหลังแน่นอน!
• ถ้ากังวลเรื่องความสะอาดของน้ำที่เอามาใส่ถัง อาจจะมองหารุ่นที่มีระบบกรองน้ำในตัว หรือมีระบบ UV ฆ่าเชื้อเพิ่มเข้ามาด้วย อันนี้ก็จะราคาสูงขึ้นไปอีกขั้น

สรุปคือ ตู้กดน้ำเย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากๆ ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นเยอะเลยจ้า! ลองพิจารณาจากจำนวนคนใช้งาน งบประมาณ ฟังก์ชันที่ต้องการ และพื้นที่ในการวาง แล้วเลือกซื้อรุ่นที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดนะจ๊ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อตู้กดน้ำเย็นไฟฟ้าของทุกคนนะ ขอให้ได้ตู้กดน้ำที่ถูกใจ เย็นชื่นใจ ดับร้อนกันถ้วนหน้านะจ๊ะ บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• EP.42 : 9 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อตู้กดน้ำเย็น! ไม่อยากเสียเงินฟรีต้องดู
• 10 อันดับ เครื่องทำน้ำเย็น ยี่ห้อไหนดี 2023
• ตู้กดน้ำร้อนเย็น: สะดวก ประหยัดไฟที่บ้าน
• เครื่องกดน้ำร้อนและเย็น สุดคุ้ม ดีต่อสุขภาพ
• ตู้กดน้ำ2ระบบ: น้ำร้อนน้ำเย็นอย่างมีสไตล์