10 เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 บดละเอียด ใช้งานง่าย


สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สายคาเฟอีนทั้งหลาย! 👋 เชื่อว่าหลายคนในที่นี้เป็นคอกาแฟตัวจริง เสียงจริง ที่วันไหนไม่ได้ดื่มกาแฟ เหมือนชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง صح? โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยุคนี้ที่การ Work From Home ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หรือบางทีก็อยากจะเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นคาเฟ่ส่วนตัว นั่งจิบกาแฟหอมๆ ตอนเช้าๆ แบบไม่ต้องรีบออกไปไหน
แต่ปัญหาคือ... การจะได้กาแฟรสชาติ "ถึงแก่น" เนี่ย มันไม่ได้มีแค่เมล็ดกาแฟดีๆ หรือเครื่องชงเทพๆ เท่านั้นนะรู้ยัง? อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่หลายคนมองข้ามไป นั่นก็คือ "เครื่องบดกาแฟ" นี่แหละครับ!
ลองคิดดูสิครับ เมล็ดกาแฟที่บดใหม่ๆ ก่อนชง กับกาแฟที่บดทิ้งไว้นานแล้ว กลิ่นหอมและรสชาติมันต่างกันลิบลับเลยนะ! การบดเมล็ดกาแฟเองช่วยให้เราได้ความสดใหม่ และที่สำคัญคือ ควบคุมขนาดผงกาแฟได้ตามต้องการ ซึ่งผงกาแฟขนาดต่างๆ กันนี่แหละ ที่ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟในแต่ละสไตล์การชง ไม่ว่าจะเป็น Espresso, Drip, French Press หรือ Moka Pot
แต่พอหันไปมองตลาดเครื่องบดกาแฟ โอโห้! มีให้เลือกเยอะแยะละลานตาไปหมด ทั้งแบบมือหมุน แบบไฟฟ้าสารพัดยี่ห้อ หลายราคาจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดีใช่ไหมครับ?
ไม่ต้องกังวลไป! บทความนี้ผมในฐานะคนรักกาแฟ (และชอบสรรหาของดี) จะมาเป็นไกด์นำทางให้ทุกคนครับ เราจะมาเจาะลึกว่าทำไมเครื่องบดกาแฟถึงสำคัญ แล้วในปี 2025 นี้ มียี่ห้อไหน รุ่นไหนที่น่าสอย น่าจับตามองเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือ ใช้งานง่าย บดละเอียดโดนใจ และเหมาะกับคอกาแฟชาวไทย อย่างเราๆ บ้าง ตามมาดูกันเลยครับ!
ตลาดเครื่องบดกาแฟในไทย คึกคักแค่ไหนกันนะ?
ต้องบอกเลยว่าตลาดอุปกรณ์ชงกาแฟ รวมถึงเครื่องบดกาแฟในไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมานี่ เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด! ด้วยกระแส Home Cafe ที่มาแรง ผู้คนหันมาชงกาแฟดื่มเองที่บ้านมากขึ้น ทำให้ความต้องการเครื่องบดกาแฟเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยครับ
แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์ต่างประเทศที่คนไทยคุ้นเคยและให้ความเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็น Timemore, Hario, Baratza, Minimex, Duchess หรือแบรนด์ที่เน้นกลุ่มร้านกาแฟจริงจังอย่าง Mahlkonig หรือ Eureka ส่วนแบรนด์ไทยเองก็เริ่มมีเข้ามาบ้าง และน่าจับตาดูเช่นกันครับ
พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยเวลาเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟ มักจะมองหาเครื่องที่ใช้งานง่าย ปรับความละเอียดได้หลากหลายระดับ ดีไซน์สวยงามเข้ากับครัวหรือมุมกาแฟที่บ้าน และที่สำคัญคือราคาต้องสมเหตุสมผล แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์เจ้าใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีตัวเลือกเยอะ มีโปรโมชั่นดึงดูดใจตลอดปี หรือถ้าใครอยากไปสัมผัสตัวจริงเสียงจริง ก็ต้องไปตามร้านอุปกรณ์กาแฟโดยเฉพาะ หรือแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำครับ
เลือกเครื่องบดกาแฟยังไงให้ได้ผงละเอียดถูกใจ?
ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป มาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราควรพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องบดกาแฟที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุดครับ
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา |
---|---|
ประเภทของเครื่องบด | แบบใบมีด (Blade Grinder) ราคาถูก ใช้ง่าย แต่บดไม่สม่ำเสมอ เหมาะกับ French Press หรือ Cold Brew |
แบบเฟือง (Burr Grinder) บดสม่ำเสมอ ปรับความละเอียดได้แม่นยำ เหมาะกับ Espresso หรือ Drip | |
- แบบเฟืองแบน (Flat Burr) | |
- แบบเฟืองกรวย (Conical Burr) | |
ขนาดการบดและการปรับระดับ | ต้องการบดละเอียดแค่ไหน? สำหรับชงแบบไหน (Espresso, Drip, Moka Pot)? เครื่องสามารถปรับระดับความละเอียดได้กี่ระดับ? |
วัสดุของเฟืองบด/ใบมีด | สแตนเลสหรือเซรามิก? วัสดุมีผลต่อความทนทานและความสม่ำเสมอในการบด |
ความจุของโถใส่เมล็ดกาแฟ | บดครั้งละเยอะแค่ไหน? สำหรับใช้ในบ้านหรือร้านกาแฟ? |
ความเร็วในการบด/กำลังไฟ (สำหรับเครื่องไฟฟ้า) | ต้องการความเร็วแค่ไหน? มอเตอร์คุณภาพดีช่วยลดความร้อนสะสม |
การใช้งานและการทำความสะอาด | ใช้ง่ายไหม? ถอดล้างทำความสะอาดสะดวกหรือเปล่า? |
เสียงรบกวน | ดังมากน้อยแค่ไหน? (เครื่องบดเฟืองกรวยมักจะเงียบกว่าแบบใบมีด) |
ดีไซน์และขนาด | เข้ากับพื้นที่ของเราไหม? พกพาสะดวกหรือเปล่า (ถ้าเป็นแบบมือหมุน)? |
ราคา | มีงบเท่าไหร่? เลือกรุ่นที่คุ้มค่ากับงบประมาณและคุณภาพที่ได้ |
ชื่อเสียงแบรนด์และรีวิวผู้ใช้ในไทย | แบรนด์น่าเชื่อถือไหม? คนไทยที่ซื้อไปใช้จริงรีวิวว่ายังไงบ้าง? |
จัดไป! 10 เครื่องบดกาแฟน่าสอย ปี 2025!
ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่นเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบบมือหมุนและแบบไฟฟ้า ที่กำลังเป็นที่นิยมและน่าจับตามองในปี 2025 นี้ครับ ลองพิจารณาตามสไตล์การชงและงบประมาณของตัวเองได้เลย!
1. Timemore Chestnut Series (มือหมุน)
แบรนด์จากจีน ที่โด่งดังในวงการกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ด้วยดีไซน์สวยงามและคุณภาพการบดที่ยอดเยี่ยม
- รุ่นแนะนำ: Timemore Chestnut C2, C3, G1, X (มีหลายรุ่นย่อยตามวัสดุและเฟืองบด)
- จุดเด่น: บดได้ละเอียดและสม่ำเสมอมากเมื่อเทียบกับเครื่องบดมือหมุนอื่นๆ ปรับระดับการบดได้หลากหลาย เฟืองบดคมทน (มักเป็นสแตนเลส) ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพดี ดีไซน์สวย พกพาสะดวก
- ข้อเสีย: ใช้แรงและเวลาในการบด (ตามสไตล์เครื่องมือหมุน) รุ่นที่สเปกสูง ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
- เหมาะกับ: คนที่ชอบชงกาแฟแบบ Drip, Pour Over, Aeropress, French Press เน้นคุณภาพผงกาแฟที่ดี และชอบความคลาสสิกของการบดด้วยมือ หรือต้องการเครื่องบดพกพา
- ช่องทางซื้อ: Lazada, Shopee (Official Store และร้านค้าตัวแทน), ร้านอุปกรณ์กาแฟ
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 8xx - 6,xxx บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและวัสดุ)
- รีวิว: "บดง่ายมาก เบาแรง ผงกาแฟสม่ำเสมอ ชงดริปรสชาติดีขึ้นเยอะเลย" "Timemore C2 คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ พกไปเที่ยวสะดวกมาก"
2. Baratza Encore / Encore ESP (ไฟฟ้า เฟืองกรวย)
แบรนด์จากอเมริกา เป็นที่ยอมรับในวงการกาแฟทั่วโลก เน้นคุณภาพและความทนทาน
- รุ่นแนะนำ: Baratza Encore (รุ่นคลาสสิก), Baratza Encore ESP (เน้นบดละเอียดสำหรับ Espresso)
- จุดเด่น: เฟืองบดแบบ Conical Burr คุณภาพดี บดได้สม่ำเสมอ ปรับระดับการบดได้ละเอียดหลากหลาย เหมาะสำหรับ Home Barista ที่ต้องการบดได้ทั้ง Espresso และ Filter Coffee ใช้งานง่าย ทำความสะอาดไม่ยาก
- ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะดูเรียบๆ ไม่หวือหวา เสียงดังเล็กน้อยขณะบด
- เหมาะกับ: คนที่จริงจังกับการชงกาแฟที่บ้าน ต้องการเครื่องบดไฟฟ้าคุณภาพดี บดได้หลากหลายสไตล์ และเน้นความทนทาน
- ช่องทางซื้อ: ร้านอุปกรณ์กาแฟนำเข้า, Shopee, Lazada (ร้านค้าที่นำเข้า)
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 5,xxx - 8,xxx บาท (สำหรับรุ่น Encore)
- รีวิว: "Baratza Encore เป็นเครื่องบดตัวแรกที่ Home Barista ควรมี บดได้ครอบคลุมมากๆ" "ลงทุนกับ Baratza คุ้มค่าในระยะยาวจริงๆ"
3. Eureka Mignon Series (ไฟฟ้า เฟืองแบน)
แบรนด์จากอิตาลี ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องบดกาแฟคุณภาพสูง ดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับ Espresso เป็นพิเศษ
- รุ่นแนะนำ: Eureka Mignon Silenzio, Mignon Specialita, Mignon Single Dose 65 (มีหลายรุ่นย่อยมากๆ)
- จุดเด่น: บดละเอียดได้ยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอมาก เหมาะสำหรับ Espresso เฟืองบดแบนขนาดใหญ่ช่วยให้บดได้รวดเร็วและลดความร้อนสะสม เสียงเงียบ (ในรุ่น Silenzio) ปรับความละเอียดแบบ Stepless ทำได้แม่นยำ
- ข้อเสีย: ราคาสูง เหมาะกับ Espresso เป็นหลัก หากต้องการบดหยาบสำหรับ Filter Coffee อาจจะต้องเลือกรุ่นที่รองรับโดยเฉพาะ
- เหมาะกับ: คนที่เน้นการชง Espresso ที่บ้านเป็นหลัก ต้องการเครื่องบดไฟฟ้าคุณภาพระดับโปร ดีไซน์สวยงาม และมีงบประมาณสูง
- ช่องทางซื้อ: ร้านอุปกรณ์กาแฟนำเข้า, Shopee, Lazada (ร้านค้าที่นำเข้า)
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1x,xxx - 3x,xxx+ บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
- รีวิว: "Eureka Mignon คือที่สุดสำหรับ Espresso! ผงกาแฟที่ได้เนียนกริบจริงๆ" "ดีไซน์สวย วางไว้บนเคาน์เตอร์แล้วดูดีมาก"
4. Minimex (ไฟฟ้า / ใบมีด)
แบรนด์ที่ทำตลาดในไทย มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวหลากหลาย รวมถึงเครื่องบดกาแฟที่มีตัวเลือกทั้งแบบใบมีดและแบบเฟือง
- รุ่นแนะนำ: Minimex MCG4 (แบบใบมีด), Minimex รุ่นอื่นๆ ที่เป็นแบบเฟือง
- จุดเด่น: หาซื้อง่าย มีตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปและออนไลน์ ราคาไม่สูงมากนัก รุ่นแบบใบมีดใช้งานง่าย รวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบดกาแฟเพื่อชงแบบง่ายๆ หรือบดเครื่องเทศอื่นๆ ด้วย
- ข้อเสีย: รุ่นแบบใบมีดบดได้ไม่สม่ำเสมอ ควบคุมความละเอียดได้ยาก คุณภาพการบดของรุ่นเฟืองอาจจะไม่เท่าแบรนด์ที่เน้นเครื่องบดโดยเฉพาะในระดับราคาที่สูงกว่า
- เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการเครื่องบดกาแฟใช้ง่ายๆ ในราคาประหยัด สำหรับชง French Press, Cold Brew หรือใช้บดเครื่องเทศอื่นๆ หรือคนที่ต้องการหาซื้อง่ายๆ ตามห้าง
- ช่องทางซื้อ: Central, Power Buy, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Lazada, Shopee
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ หลักร้อย - 3,xxx บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทและรุ่น)
- รีวิว: "Minimex MCG4 ใช้งานง่ายดีค่ะ เอามาบดเมล็ดกาแฟสำหรับชง French Press สะดวกดี" "ราคาดี เหมาะกับคนงบน้อย"
5. Duchess (ไฟฟ้า / ใบมีด)
แบรนด์ที่ทำตลาดในไทย มีสินค้าเกี่ยวกับกาแฟหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องชงไปจนถึงเครื่องบด
- รุ่นแนะนำ: Duchess CG9100, CG9300B
- จุดเด่น: หาซื้อง่าย มีตามห้างสรรพสินค้าและร้านขายอุปกรณ์กาแฟ ราคาเข้าถึงง่าย ดีไซน์สวยงาม มีตัวเลือกทั้งแบบใบมีดและแบบเฟือง
- ข้อเสีย: คุณภาพการบดอาจจะยังไม่ละเอียดและสม่ำเสมอเท่าแบรนด์ที่เน้นเครื่องบดโดยเฉพาะในระดับราคาที่สูงกว่า
- เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการเครื่องบดกาแฟไฟฟ้าในราคาไม่แพง ดีไซน์สวยงาม สำหรับใช้งานทั่วไปที่บ้าน
- ช่องทางซื้อ: Central, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, ร้านขายอุปกรณ์กาแฟ, Lazada, Shopee
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1,xxx - 3,xxx บาท
- รีวิว: "ซื้อ Duchess มาใช้ที่บ้าน ราคาไม่แรง ใช้งานง่ายดีค่ะ" "ดีไซน์สวย เข้ากับมุมกาแฟที่คอนโด"
6. Hario Skerton Pro / Mini Mill Plus (มือหมุน)
แบรนด์จากญี่ปุ่น ที่รู้จักกันดีในวงการอุปกรณ์ชงกาแฟ มีเครื่องบดมือหมุนที่เป็นที่นิยม
- รุ่นแนะนำ: Hario Skerton Pro, Hario Mini Mill Plus
- จุดเด่น: เฟืองบดเซรามิก คมทน ปรับระดับความละเอียดได้ (แต่ Skerton Pro จะปรับได้แม่นยำกว่ารุ่นเก่า) ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ทำความสะอาดง่าย
- ข้อเสีย: การบดอาจจะต้องใช้แรงและเวลาพอสมควร ความสม่ำเสมอของผงบดอาจไม่เท่าเครื่องบดเฟืองโลหะในราคาสูง
- เหมาะกับ: คนที่เริ่มต้นชงกาแฟดริป French Press ด้วยตัวเอง ต้องการเครื่องบดมือหมุนคุณภาพดีในราคาไม่สูงมาก พกพาสะดวก
- ช่องทางซื้อ: ร้านอุปกรณ์กาแฟชั้นนำ, Central Online, Lazada, Shopee
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 8xx - 1,xxx บาท
- รีวิว: "Hario Mini Mill Plus พกไปออฟฟิศสะดวกมาก บดดื่มแก้วต่อแก้ว หอมอร่อย" "Skerton Pro ปรับปรุงเรื่องแกนหมุนให้ดีขึ้น บดได้นิ่งขึ้น"
7. Comandante C40 (มือหมุน)
แบรนด์จากเยอรมนี ถือเป็นเครื่องบดมือหมุนระดับไฮเอนด์ ได้รับการยอมรับจากบาริสต้าทั่วโลก
- รุ่นแนะนำ: Comandante C40 MK4
- จุดเด่น: เฟืองบดคุณภาพสูงสุด (Nitro Blade) บดได้ละเอียดและสม่ำเสมออย่างไม่น่าเชื่อ ปรับระดับการบดได้ละเอียดมาก เหมาะสำหรับทุกวิธีการชง ดีไซน์สวยงาม วัสดุดีเยี่ยม ทนทาน
- ข้อเสีย: ราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับเครื่องบดมือหมุนทั่วไป
- เหมาะกับ: คอกาแฟตัวจริงที่ต้องการคุณภาพผงกาแฟระดับสูงสุด พร้อมลงทุนเพื่อรสชาติกาแฟที่ยอดเยี่ยม
- ช่องทางซื้อ: ร้านอุปกรณ์กาแฟพิเศษนำเข้า, Shopee, Lazada (ร้านค้าที่นำเข้า/ตัวแทน)
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 7,xxx - 1x,xxx+ บาท
- รีวิว: "Comandante คือจบ! บดได้เนียนกริบจริงๆ รสชาติกาแฟที่ได้ดีขึ้นแบบรู้สึกได้เลย" "แพงแต่คุ้มค่ากับคุณภาพที่ได้รับ"
8. 1Zpresso (มือหมุน)
แบรนด์จากไต้หวัน โดดเด่นเรื่องเครื่องบดมือหมุนคุณภาพสูง มีหลากหลายรุ่นตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน
- รุ่นแนะนำ: 1Zpresso JX-PRO, K-Plus, ZP6
- จุดเด่น: เฟืองบดคม บดได้รวดเร็วและสม่ำเสมอมากเมื่อเทียบกับเครื่องบดมือหมุนทั่วไป ปรับระดับการบดได้ละเอียดมาก บางรุ่นมี Magnetic Catch Cup ใช้งานสะดวก คุณภาพดี คุ้มค่ากับราคา
- ข้อเสีย: อาจจะยังมีรุ่นย่อยเยอะ ต้องศึกษาแต่ละรุ่นให้ดีก่อนตัดสินใจ
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องบดมือหมุนคุณภาพสูงใกล้เคียง Comandante แต่ราคาเป็นมิตรลงมาหน่อย หรือต้องการเครื่องบดมือที่บด Espresso ได้ดี
- ช่องทางซื้อ: ร้านอุปกรณ์กาแฟนำเข้า, Shopee, Lazada (ร้านค้าที่นำเข้า/ตัวแทน)
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 3,xxx - 6,xxx บาท
- รีวิว: "1Zpresso JX-PRO บด Espresso ได้ดีเกินคาด! ปรับละเอียดง่ายมาก" "คุณภาพดีมาก เทียบกับราคานี่คุ้มสุดๆ"
9. Alectric (ไฟฟ้า / ใบมีด)
แบรนด์ของ Central Group ที่เน้นสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ราคาเข้าถึงง่าย
- รุ่นแนะนำ: Alectric รุ่น GD-C1
- จุดเด่น: ราคาถูกมาก หาซื้อง่าย ดีไซน์เรียบง่าย ใช้งานไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับบดกาแฟหรือเครื่องเทศอื่นๆ
- ข้อเสีย: เป็นระบบใบมีด บดได้ไม่สม่ำเสมอ ควบคุมความละเอียดได้ยาก คุณภาพวัสดุตามราคา
- เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นที่เน้นเรื่องงบประมาณเป็นหลัก ต้องการเครื่องบดราคาถูกสุดๆ สำหรับบดกาแฟที่ไม่ต้องการความละเอียดสม่ำเสมอมากนัก เช่น French Press หรือ Cold Brew หรือใช้บดเครื่องเทศทั่วไป
- ช่องทางซื้อ: Central, Power Buy, ห้างสรรพสินค้าในเครือ Central, Lazada, Shopee
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ หลักร้อยบาท
- รีวิว: "Alectric ราคาดีมากค่ะ เอามาบดเครื่องเทศทำกับข้าว คุ้มค่า" "ซื้อมาบดกาแฟชงแบบง่ายๆ ใช้ได้ค่ะ แต่ผงไม่ค่อยละเอียดเท่ากัน"
10. OXO Brew (ไฟฟ้า เฟืองกรวย)
แบรนด์จากอเมริกา เน้นดีไซน์สวยงาม ใช้งานง่าย และฟังก์ชันครบครัน
- รุ่นแนะนำ: OXO Brew Conical Burr Coffee Grinder
- จุดเด่น: เฟืองบด Conical Burr ให้ผงกาแฟสม่ำเสมอ ปรับระดับความละเอียดได้หลากหลาย มี Timer ตั้งเวลาบดได้ ใช้งานง่าย ทำความสะอาดสะดวก ดีไซน์ทันสมัย
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าเครื่องบดไฟฟ้าระดับเริ่มต้นบางรุ่น
- เหมาะกับ: คนที่ต้องการเครื่องบดไฟฟ้าแบบเฟืองบดคุณภาพดี ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันเสริม (ตั้งเวลา) และดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับ Home Barista ที่ชงกาแฟหลากหลายสไตล์
- ช่องทางซื้อ: Central Online, ร้านอุปกรณ์กาแฟนำเข้า, Lazada, Shopee (ร้านค้าที่นำเข้า)
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 4,xxx - 6,xxx บาท
- รีวิว: "OXO Brew ใช้งานง่ายมากๆ ค่ะ แค่กดปุ่มก็ได้กาแฟบดสดใหม่ทุกเช้า" "ดีไซน์สวยมินิมอล วางตรงไหนก็ดูดี"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนรักกาแฟไทย!
Q: เครื่องบดกาแฟแบบใบมีด กับแบบเฟือง ต่างกันยังไง? เลือกแบบไหนดี?
A: ง่ายๆ เลยครับ แบบใบมีด เหมือนเอาเครื่องปั่นมาสับเมล็ดกาแฟให้แตกเป็นชิ้นๆ ข้อดีคือราคาถูก ใช้ง่าย ข้อเสียคือผงกาแฟที่ได้จะไม่สม่ำเสมอ มีทั้งผงละเอียดและชิ้นใหญ่ปนกัน ไม่เหมาะกับ Espresso เพราะจะทำให้น้ำกาแฟไหลไม่สม่ำเสมอ เหมาะกับ French Press หรือ Cold Brew มากกว่า
ส่วน แบบเฟือง จะใช้เฟืองสองชิ้นบดเมล็ดกาแฟให้ได้ขนาดเท่าๆ กัน ข้อดีคือบดได้สม่ำเสมอมาก ปรับความละเอียดได้แม่นยำกว่าเยอะ ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่ดีกว่า และเหมาะกับการชงทุกแบบ โดยเฉพาะ Espresso ข้อเสียคือราคาสูงกว่า ถ้าเน้นคุณภาพรสชาติ แนะนำแบบเฟืองครับ!
Q: อยากได้เครื่องบดกาแฟที่บด Espresso ได้ดีๆ เลย ต้องเลือกรุ่นไหน?
A: ถ้าเน้น Espresso แนะนำให้มองหาเครื่องบด แบบเฟือง (Burr Grinder) ที่สามารถปรับระดับความละเอียดได้ละเอียดมากๆ โดยเฉพาะรุ่นที่เน้นสำหรับ Espresso โดยเฉพาะ เช่น Baratza Encore ESP หรือตระกูล Eureka Mignon หรือถ้าเป็นมือหมุนก็พวก 1Zpresso JX-PRO, K-Plus หรือ Comandante
Q: เครื่องบดมือหมุน ยี่ห้อ Timemore กับ 1Zpresso ต่างกันมากไหม?
A: สองแบรนด์นี้เป็นคู่แข่งกันในตลาดเครื่องบดมือหมุนคุณภาพสูงเลยครับ Timemore จะมีดีไซน์ที่หลากหลายกว่า บางรุ่นเน้นพกพา บางรุ่นเน้นดีไซน์สวยงาม คุณภาพการบดดีมากเมื่อเทียบกับราคาในรุ่นเริ่มต้นถึงกลางๆ ส่วน 1Zpresso จะเน้นเรื่องประสิทธิภาพการบดที่ยอดเยี่ยมมากๆ บางรุ่นบด Espresso ได้ดีไม่แพ้เครื่องไฟฟ้าเลยครับ การเลือกระหว่างสองแบรนด์นี้อาจจะขึ้นอยู่กับงบประมาณ ดีไซน์ที่ชอบ และเน้นบดเพื่อชงแบบไหนเป็นพิเศษครับ
Q: ซื้อเครื่องบดกาแฟออนไลน์ใน Lazada/Shopee ไว้ใจได้ไหม? มีของปลอมเยอะหรือเปล่า?
A: ส่วนใหญ่ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีเรตติ้งดีๆ มีรีวิวเยอะๆ บน Lazada/Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ก็มีโอกาสเจอของปลอมได้เช่นกัน โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมที่มีราคาถูกกว่าปกติมากๆ ทางที่ดีควรเช็คชื่อร้าน เช็คคะแนนและรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจ หรือเลือกซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อความสบายใจที่สุดครับ
Q: การทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟสำคัญแค่ไหน? ต้องทำบ่อยแค่ไหน?
A: สำคัญมากครับ! เพราะผงกาแฟและน้ำมันกาแฟที่ค้างอยู่ในเครื่องบดอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนและส่งผลเสียต่อรสชาติกาแฟแก้วต่อไปได้ ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทุกสัปดาห์ หรืออย่างน้อยเดือนละครั้ง ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานครับ
สรุปส่งท้าย เลือกเครื่องบดกาแฟให้ใช่ แล้วไปสนุกกับการชงกาแฟ!
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 อันดับเครื่องบดกาแฟน่าสอยในปี 2025 นี้? หวังว่าข้อมูลแน่นๆ ที่ผมนำมาฝาก จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกเครื่องบดคู่ใจได้ง่ายขึ้นนะครับ!
หัวใจสำคัญคือ อย่าลืมถามตัวเองว่า เราชงกาแฟแบบไหนบ่อยที่สุด? มีงบประมาณเท่าไหร่? และให้ความสำคัญกับปัจจัยไหนเป็นพิเศษ?
- ถ้าเป็น มือใหม่ งบน้อย และเน้นชง French Press หรือ Cold Brew ลองดู Minimex, Duchess หรือ Alectric รุ่นแบบใบมีด หรือ Timemore C2, Hario (มือหมุนราคาเบาๆ) ครับ
- ถ้าต้องการ เครื่องบดไฟฟ้าคุณภาพดี บดได้หลากหลาย สำหรับ Home Barista ที่บ้าน ลองดู Baratza Encore/Encore ESP หรือ OXO Brew ครับ
- ถ้าเป็น คอกาแฟตัวจริง เน้น Espresso สุดๆ และมีงบประมาณ พร้อมลงทุน แนะนำ Eureka Mignon Series ครับ
- ถ้าชอบ เครื่องบดมือหมุนคุณภาพสูง พกพาสะดวก และอยากได้รสชาติที่ดีเยี่ยม ลองดู Timemore รุ่นสูงๆ, 1Zpresso หรือ Comandante ครับ
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอีกอย่างคือ การรับประกันและบริการหลังการขาย โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาสูง ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือและมีการรับประกันที่ชัดเจนนะครับ และอย่างที่บอกไปใน FAQ ระวังของปลอมด้วยจ้า!
มาคุยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์ใช้เครื่องบดกาแฟของคุณสิ!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้เครื่องบดกาแฟรุ่นไหนอยู่บ้าง? ใช้แล้วเป็นยังไง ชอบไม่ชอบตรงไหน หรือมีเคล็ดลับการเลือกซื้อ การใช้งาน การทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟอะไรเด็ดๆ มาแชร์ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ฟังหน่อยสิครับ! คอมเมนต์บอกกันได้เลยน้าาาา 👇
ถ้าใครอ่านแล้วได้ประโยชน์ หรืออยากให้ผมรวบรวมพิกัดร้านหรือลิงก์โปรโมชั่นดีๆ ของเครื่องบดกาแฟรุ่นที่แนะนำ พิมพ์มาเลยว่า "อยากได้พิกัด!" เดี๋ยวจัดให้ครับ! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการดื่มกาแฟที่บดเองนะครับ! สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 ไมโครเวฟ Electrolux รุ่นไหนดี ปี 2025 ทำอาหารง่าย ฟังก์ชันครบ
10 เตาแก๊สปิคนิค ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พกพาสะดวก ใช้งานง่าย
รีวิว Argus Car Hire: บริการเช่ารถต่างประเทศ ประสบการณ์เป็นอย่างไร?
รีวิว Park Origin ทองหล่อ: คอนโดหรูใจกลางเมือง ชีวิตดี๊ดีสมราคาไหม?
10 ที่นอนสปริง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 นอนหลับสบาย รองรับสรีระ
ราคา iPad Gen 8 Wi-Fi + Cellular 128GB มือสอง คุ้มไหมปี 2024?