รีวิวกล้องฟิล์ม Rollei Giro 105: มือใหม่หัดใช้ รูปสวยง่ายจริงไหม?


สวัสดีค่า! วันนี้ขออินเทรนด์กับเขาหน่อย ด้วยการหยิบเอากล้องฟิล์มสุดฮิตจากอดีตอย่าง Rollei Giro 105 มารีวิวให้ดูกันชัดๆ แบบไม่มีกั๊ก! หลายคนเห็นรูปฟิล์มสวยๆ แล้วอยากลอง แต่ก็แอบกลัวว่ามันจะใช้ยาก จะถ่ายไม่ติด จะโฟกัสไม่เข้า... โอ๊ยสารพัดกังวลใช่ป่ะ? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่าเจ้า Giro 105 ตัวนี้เนี่ย มือใหม่หัดใช้จะรอดมั้ย? รูปจะสวยง่ายจริงป่าว? ไปดูกันเล้ย!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: Rollei Giro 105 น้องเล็กน่ารัก
แบรนด์: Rollei (แต่รุ่นนี้ผลิตในยุคหลังๆ)
รุ่น: Giro 105
ปีที่วางขาย: ประมาณช่วงปลายยุค 90s - ต้นยุค 2000s
ช่วงราคาขาย (ปัจจุบัน): ราคาค่อนข้างหลากหลาย แล้วแต่สภาพและแหล่งที่มา ส่วนใหญ่เจอในตลาดมือสองค่ะ มีตั้งแต่หลักพันกลางๆ ไปจนถึงปลายๆ แล้วแต่ความกริบ!
ตำแหน่งในตลาด: เป็นกล้องฟิล์มคอมแพค Point-and-Shoot อัตโนมัติ เหมาะกับมือใหม่หัดเข้าวงการกล้องฟิล์ม หรือคนที่อยากได้กล้องพกง่ายๆ ถ่ายสนุกๆ ไม่ต้องคิดเยอะ
จุดเด่นคร่าวๆ:
- เล็ก เบา พกสะดวก ยัดใส่กระเป๋าเสื้อยังได้!
- ใช้งานง่ายมาก เล็งแล้วกดถ่ายอย่างเดียว ที่เหลือกล้องจัดการให้!
- เลนส์ซูมได้ 38-105mm ถ่ายได้หลากหลายแนว
- มีแฟลชในตัว ถ่ายในที่มืดก็ได้อยู่
- ราคาไม่แรงเกินไป สำหรับกล้องฟิล์มยุคนี้
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: หน้าตาน่ารัก พกไปไหนก็ไม่หนัก
ตอนเห็นกล้องครั้งแรก อื้อหือ... ตัวเล็กจิ๋วเดียวเอง! ดีไซน์ดูเรียบๆ วัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติก แต่ก็ดูแน่นหนาไม่ก๊องแก๊ง สีมาตรฐานที่เจอบ่อยๆ ก็จะเป็นสีเงินๆ เทาๆ เนี่ยแหละ มีบางรุ่นอาจจะมีสีอื่นบ้างแต่หายาก
ขนาดและน้ำหนัก: ประมาณฝ่ามือเองค่ะ น้ำหนักเบาหวิว พกใส่กระเป๋าถือ กระเป๋ากางเกง หรือจะคล้องคอไว้ก็ไม่เป็นภาระเลย เหมาะมากสำหรับสายเที่ยว ไม่ต้องแบกกล้องใหญ่ให้เมื่อยตุ้ม!
อุปกรณ์เสริมในกล่อง (ถ้าซื้อมือหนึ่งตอนนั้น): ก็น่าจะมีคู่มือ สายคล้องมือ/คอ แล้วก็ซองผ้าเล็กๆ ค่ะ แต่ถ้าซื้อมือสอง ส่วนใหญ่จะได้แค่ตัวกล้องอย่างเดียวเน้อ
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เล็ง ปล่อยใจ แล้วกด!
ฟังก์ชันหลักของ Rollei Giro 105 คืออะไร? ก็คือการ เล็งแล้วกดถ่าย นี่แหละค่ะ! ชีวิตดี๊ดี เพราะกล้องเขาเป็นระบบอัตโนมัติเกือบหมด ทั้งโฟกัส ทั้งปรับรูรับแสง ปรับสปีดชัตเตอร์ คือเราไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากหามุมที่ชอบ แล้วจิ้มปุ่ม!
การทดสอบใช้งานจริง: ลองพกน้องไปเดินเล่นงานวัดช่วงสงกรานต์ คนเยอะๆ แสงสีจัดๆ ก็ยกขึ้นเล็งๆ กดๆ ถ่ายง่ายมาก! แฟลชก็ทำงานไวดี ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ตอนกลางคืนก็ยังรอดอยู่ ไม่ต้องกลัวหน้ามืดเป็นปื้นๆ ค่ะ
เลนส์ซูม: มีช่วง 38-105mm ถือว่าหลากหลายใช้ได้ ถ้าซูม 38mm ก็ถ่ายวิว ถ่ายกลุ่มคนได้สบายๆ พอซูมไป 105mm ก็พอจะแอบถ่ายเก็บโมเมนต์คนที่อยู่ไกลๆ ได้อยู่ (แต่ก็ไม่คาดหวังความคมกริบระดับเทพนะคะ กล้องคอมแพคเนอะ)
4. ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่ยิ้มกว้าง!
บอกเลยว่า ง่ายโคตรๆ! ถ้าคุณเคยใช้กล้องดิจิทัลคอมแพคมาก่อน กล้องตัวนี้ก็ใช้เหมือนกันเลยค่ะ แค่เปลี่ยนจากการ์ดความจำมาเป็นฟิล์มเท่านั้นเอง
การใส่ฟิล์ม: เปิดฝาหลัง วางม้วนฟิล์ม ดึงปลายฟิล์มไปวางไว้ที่จุดที่กล้องกำหนด ปิดฝา แล้วกล้องจะกรอฟิล์มให้อัตโนมัติ ง่ายกว่าใช้กล้องฟิล์ม SLR เยอะ!
การถ่ายรูป: เปิดกล้อง เล็ง จัดองค์ประกอบ กดชัตเตอร์ จบ! กล้องจะเลื่อนฟิล์มไปช่องต่อไปให้เอง รอแค่กดถ่ายรูปต่อไปได้เลย
ระบบ: เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์หมดค่ะ โฟกัสอัตโนมัติ วัดแสงอัตโนมัติ คือแทบไม่ต้องทำอะไรเองเลย เหมาะกับคนที่ไม่รู้เรื่องการตั้งค่ากล้องเลยจริงๆ
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: เรื่องพลังงานไม่ซับซ้อน แต่มีค่าใช้จ่ายแฝง
Rollei Giro 105 ใช้แบตเตอรี่แบบ CR123A 1 ก้อนค่ะ เป็นแบตเตอรี่แบบที่หาก็ไม่ได้ยากมาก มีขายตามร้านกล้องใหญ่ๆ หรือร้านออนไลน์ ส่วนเรื่องว่าแบตจะหมดไวแค่ไหน อันนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานเลยค่ะ ถ้าใช้แฟลชบ่อยๆ หรือซูมเข้าซูมออกเยอะๆ แบตก็จะหมดไวหน่อย แต่ถ้าใช้แบบปกติ ถ่ายเรื่อยๆ ก้อนหนึ่งก็อยู่ได้นานพอสมควร ถ่ายฟิล์มได้หลายม้วนเลยล่ะ
ความคุ้มค่าในระยะยาว: ตัวกล้องราคาไม่แพงก็จริงค่ะ แต่! ค่าใช้จ่ายหลักๆ ของการเล่นกล้องฟิล์มคือ ค่าฟิล์ม และ ค่าล้างฟิล์ม + สแกนรูป ค่ะ ซึ่งราคาก็แล้วแต่ชนิดฟิล์มและความละเอียดในการสแกน ยิ่งถ่ายเยอะ ยิ่งต้องจ่ายเยอะ ดังนั้น ถ้ามองในมุมค่าใช้จ่ายโดยรวมแล้ว อาจจะไม่ได้ถูกเท่ากล้องดิจิทัล แต่ถ้ามองในมุมของ "ประสบการณ์" และ "เสน่ห์ของภาพฟิล์ม" อันนี้คุ้มค่าทางใจแน่นอน!
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งเลิฟทั้งแอบบ่น
ข้อดี๊ดีที่คนไทยน่าจะชอบ:
- ใช้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ไม่ต้องมีความรู้เรื่องกล้องมาก่อนก็ถ่ายได้รูปสวยๆ
- ตัวเล็ก พกพาสะดวก จะใส่กระเป๋าไหนก็ได้ ไม่เกะกะ
- ราคามือสองน่ารัก เป็นกล้องเริ่มต้นที่ดีงาม
- ได้รูปฟิล์มสไตล์วินเทจ เท่ๆ คูลๆ ไม่เหมือนใคร
- เลนส์ซูมได้ ถ่ายได้หลากหลายสถานการณ์
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:
- เป็นกล้องมือสอง ต้องลุ้นสภาพ อาจเจอตำหนิเล็กๆ น้อยๆ ได้
- ค่าฟิล์มและค่าล้างยังไงก็มี ยิ่งถ่ายเยอะยิ่งเปลืองตังค์
- รูปที่ได้คาดเดาได้ยาก บางทีก็มีเซอร์ไพรส์ บางทีก็ผิดหวัง (เสน่ห์ของฟิล์มไงล่ะ!)
- แบตเตอรี่ CR123A ไม่ใช่แบตหาง่ายแบบ AA/AAA ทั่วไป
- ไม่มีการรับประกันแบบกล้องใหม่ ถ้าเสียอาจจะต้องหาร้านซ่อมกล้องฟิล์ม ซึ่งก็หายากและอาจจะแพง
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอย?
เหมาะกับ:
- มือใหม่หัดเล่นกล้องฟิล์มแบบสุดๆ ไม่เคยใช้กล้องฟิล์มมาก่อนเลย
- คนที่อยากได้กล้องฟิล์มง่ายๆ ไว้พกไปเที่ยว ถ่ายรูปเล่น ไม่เน้นปรับแต่งอะไร
- สายคอนเทนต์ ที่อยากได้รูปฟิล์มสวยๆ ไปลงโซเชียล
- คนที่งบประมาณจำกัด แต่อยากลองสัมผัสเสน่ห์ของกล้องฟิล์ม
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?
Rollei Giro 105 เป็นกล้องมือสองค่ะ ไม่มีช่วงโปรโมชั่นแบบสินค้าใหม่ แนะนำว่าถ้าเจอสภาพดี ราคาถูกใจ ก็สอยเลยค่ะ! แต่ก่อนซื้อ ตรวจเช็คสภาพให้ดีๆ นะคะ ทั้งสภาพภายนอก ช่องใส่ฟิล์ม เลนส์ ช่องมองภาพ ลองใส่แบตแล้วลองกดชัตเตอร์ดูว่ากล้องทำงานมั้ย ถ้าเจอร้านที่ให้ลองใส่ฟิล์มแล้วเทสต์ได้ยิ่งดีค่ะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: ในตลาดมีคู่แข่งเพียบ!
กล้องฟิล์มคอมแพค Point-and-Shoot ยุคปลาย 90s มีเยอะมากๆ ค่ะ แบรนด์ดังๆ ที่เป็นคู่แข่ง Rollei Giro 105 ก็เช่น Canon Sure Shot, Olympus MJU (ตัวนี้แพงหูฉี่!), Konica Big Mini, Fuji Silvi อะไรพวกนี้ ซึ่งแต่ละตัวก็มีคาแรกเตอร์ของรูปที่ได้ต่างกันไปบ้าง
Rollei Giro 105 vs กล้องคอมแพคตัวอื่น: ถ้าเทียบในแง่ความง่ายในการใช้งาน และราคาที่ยังพอหาได้ไม่แรงเท่า Olympus MJU Rollei Giro 105 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ เลนส์ซูมก็ใช้งานได้หลากหลายกว่าบางรุ่นที่เป็นเลนส์ฟิกซ์ด้วย
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: พึ่งพาดวงและร้านค้า!
เนื่องจากเป็นกล้องเก่ามือสอง ไม่มีการรับประกันจากผู้ผลิตแล้วนะคะ บริการหลังการขายจึงขึ้นอยู่กับร้านที่คุณซื้อมา ถ้าซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ในออนไลน์ เช่น ใน Shopee, Lazada ที่เป็นร้านกล้องเก่าโดยเฉพาะ อาจจะมีประกันใจให้ 7 วัน หรือให้ลองกล้องก่อนได้ แต่ถ้าซื้อจากคนทั่วไป อันนี้ก็ต้องพึ่งพาดวงและดูสภาพให้ดีที่สุดค่ะ
ช่องทางการซื้อ: หลักๆ คือตลาดกล้องมือสองค่ะ
- กลุ่มซื้อขายกล้องฟิล์มใน Facebook: มีเยอะมาก ต้องคอยติดตาม มีคนปล่อยขายเรื่อยๆ
- ร้านกล้องฟิล์มมือสองออนไลน์: ใน Shopee, Lazada ค้นหาชื่อรุ่นได้เลย มีหลายร้านให้เลือก
- ร้านกล้องเก่าตามตลาดนัด / JJ Green (ถ้ายังมี): อาจจะต้องใช้เวลาเดินหาหน่อย แต่บางทีก็เจอของดีราคาถูก
แนะนำให้ดูรีวิวร้าน เช็คเครดิตผู้ขายก่อนตัดสินใจโอนเงินนะคะ!
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยไหม?
จากที่ลองเล่นดูแล้ว สรุปเลยว่า Rollei Giro 105 เป็นกล้องฟิล์มคอมแพคที่ เหมาะมากๆ สำหรับมือใหม่ ที่อยากเริ่มต้นถ่ายรูปฟิล์มค่ะ ใช้งานง่าย ถ่ายสนุก พกพาสะดวก และราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการตั้งค่ากล้อง ชอบความอัตโนมัติ เล็งแล้วกดอย่างเดียว แล้วอยากได้รูปฟิล์มสวยๆ สไตล์ Point-and-Shoot กล้องตัวนี้ แนะนำให้ซื้อ!
แต่! ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบปรับตั้งค่ากล้องเอง อยากควบคุมทุกอย่าง ชอบโบเก้ละลายหลังแบบจัดเต็ม หรือคาดหวังความคมกริบระดับเลนส์แพงๆ ตัวนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์นะคะ ต้องมองหารุ่นอื่นที่เป็นกล้อง SLR หรือกล้องฟิล์มคอมแพคตัวท็อปๆ ไปเลยค่ะ
สำหรับผู้เริ่มต้นที่มีงบประมาณจำกัดและอยากลองเข้าวงการฟิล์มแบบไม่เจ็บตัวมาก Rollei Giro 105 คือประตูสู่โลกฟิล์มที่ดีงามมากๆ ค่ะ! ลองดูแล้วจะหลงรักเสน่ห์ของมัน!
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?