Mercedes-Benz E 500 ราคาล่าสุด มือสอง รุ่นไหนน่าซื้อที่สุด?


สวัสดีครับพี่ๆ น้องๆ ชาวเน็ตที่กำลังมองหารถยนต์ในฝันที่มาพร้อมความแรงแซงทางโค้งแบบไม่ต้องเกรงใจใคร! วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง Mercedes-Benz E 500 ในตลาดรถยนต์มือสองของเมืองไทยกัน ว่าราคามันพุ่งไปถึงไหนแล้ว แล้วรุ่นไหนที่น่าสอยมาขับหล่อๆ ที่สุดในปีนี้! ใครที่ใจเต้นกับเสียงเครื่อง V8 อันทรงพลัง เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลยคร้าบ!
1. Mercedes-Benz E 500 คือรถอะไรกันนะ?
ถ้าพูดถึง Mercedes-Benz เนี่ย ใครๆ ก็รู้จักว่าเป็นแบรนด์รถหรูจากเยอรมนี ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปราณีต คุณภาพ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ส่วนเจ้า Mercedes-Benz E 500 เนี่ย มันก็คือหนึ่งในสมาชิกตระกูล E-Class ซึ่งเป็นรถซีดานขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ ที่เน้นความสะดวกสบาย หรูหรา เหมาะกับผู้บริหาร หรือคนที่ต้องการรถที่ดูภูมิฐาน แต่คำว่า "500" ที่ตามท้ายมานี่สิครับพี่น้อง มันไม่ได้มาเล่นๆ นะ! โดยทั่วไปแล้ว ตัวเลขนี้มักจะบอกถึงขนาดเครื่องยนต์ หรือระดับสมรรถนะที่เหนือกว่ารุ่นปกติ
สำหรับ E 500 ที่เราจะพูดถึงในตลาดมือสองเนี่ย หลักๆ แล้วเรามักจะเจอในรุ่น W211 (ปีประมาณ 2002-2009) และ W212 (ปีประมาณ 2009-2016) ซึ่งในสองโฉมนี้ ตัวเลข "500" มักจะพ่วงมากับเครื่องยนต์เบนซิน V8 อันทรงพลังนั่นเองครับ! เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบรถที่ขับทางไกลสบายๆ มีพละกำลังเหลือเฟือเวลาเร่งแซง ไม่ต้องลุ้น แถมยังได้ฟีลลิ่งความเป็นรถยุโรปแท้ๆ ที่ขับแล้วมั่นใจ ใครที่อยากได้รถหรูที่ไม่ได้มีดีแค่สวย แต่แรงถึงใจด้วย เจ้า E 500 นี่แหละครับตอบโจทย์
2. ราคาล่าสุดในตลาดมือสองเมืองไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! สำหรับราคาของ Mercedes-Benz E 500 มือสองในไทย เนี่ย บอกเลยว่ามีความหลากหลายมากๆ ครับ ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย สภาพรถ เลขไมล์ และที่สำคัญคือประวัติการดูแลรักษาครับ
จากที่ไปสำรวจตามแหล่งซื้อขายรถยนต์มือสองออนไลน์ชื่อดัง หรือเต็นท์รถมือสองใหญ่ๆ ในบ้านเราเนี่ย ราคาของ E 500 โฉม W211 อาจจะเจอตั้งแต่หลัก หกแสนปลายๆ ไปจนถึงล้านต้นๆ เลยครับ ส่วนโฉมที่ใหม่ขึ้นมาหน่อยอย่าง W212 ที่อาจจะมาในรหัส E 500 หรือ E 550 ในบางประเทศ ราคาในตลาดมือสองไทยก็จะขยับสูงขึ้นไปอีก อาจจะมีตั้งแต่ ล้านต้นๆ ไปจนถึงเกือบสองล้าน ก็มีให้เห็นครับ
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า E 500 ไม่ใช่รุ่นที่หาง่ายเหมือน E 200 หรือ E 250 ในตลาดมือสองบ้านเรานะครับ เพราะตอนเป็นรถใหม่ป้ายแดง ราคามันสูงลิ่ว ใครที่ซื้อมาขับส่วนใหญ่ก็คือคนที่รักและพร้อมจ่ายเพื่อสมรรถนะระดับนี้จริงๆ ดังนั้นจำนวนรถในตลาดมือสองจึงมีไม่เยอะเท่าไหร่ครับ
3. เทียบราคากับรถหรูเครื่องแรงตัวอื่นในตลาดล่ะ?
ถ้าให้ลองเทียบกับรถหรูซีดานเครื่องยนต์ใหญ่ๆ หรือรุ่นสมรรถนะสูงจากค่ายอื่นในช่วงปีใกล้เคียงกันในตลาดมือสองเนี่ย อย่าง BMW Series 5 (เช่น 530i, 540i) หรือ Audi A6 (เช่น 3.0 TFSI) เนี่ย ราคาของ E 500 มือสองก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มใกล้เคียงกันครับ แต่สิ่งที่ E 500 ได้เปรียบแบบชัดเจนก็คือ เครื่องยนต์ V8 ที่ให้ฟีลลิ่งความแรงแบบ "ผู้ใหญ่" ไม่ต้องรีบร้อน แต่พร้อมพุ่งทะยานได้ทุกเมื่อ
คู่แข่งบางรุ่นอาจจะเน้นความสปอร์ต ปราดเปรียวกว่า หรือบางรุ่นอาจจะประหยัดน้ำมันกว่า (แน่นอนอยู่แล้ว!) แต่ถ้าคุณมองหาความหรูหราคลาสสิกตามแบบฉบับ Mercedes-Benz พร้อมพละกำลัง V8 ที่เป็นเอกลักษณ์ ในงบประมาณรถมือสองที่จับต้องได้ (แต่ก็ยังสูงอยู่ดีนะ!) E 500 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ครับ แต่อย่าลืมว่ารถเครื่องใหญ่และอายุพอสมควรแบบนี้ เรื่อง ค่าบำรุงรักษา ก็ต้องเอามาคิดด้วยนะครับ อันนี้สำคัญมาก!
4. ซื้อมาแล้วจะได้อะไรมาบ้างนะ?
อันนี้เป็นอีกจุดที่ต้องเช็คให้ดีมากๆ เลยเวลาซื้อ Mercedes-Benz E 500 มือสอง ครับ เพราะสิ่งที่ได้มาอาจจะไม่ครบถ้วนเหมือนรถป้ายแดง:
- ตัวรถ: อันนี้แน่นอนว่าต้องได้อยู่แล้ว แต่ต้องเช็คสภาพให้ดีๆ เลยครับ ทั้งภายนอก ภายใน ร่องรอยต่างๆ
- กุญแจ: ควรได้กุญแจมาครบอย่างน้อย 2 ดอกนะครับ
- คู่มือและเอกสาร: ถ้าได้คู่มือประจำรถ ประวัติการเข้ารับบริการ (Service Book) มาด้วยจะดีมากๆ ครับ เพราะจะช่วยให้เราทราบประวัติรถได้
- ยางอะไหล่และเครื่องมือพื้นฐาน: เช็คดูว่ามีครบไหม
- การรับประกัน: อันนี้แหละคือเรื่องใหญ่! โดยส่วนใหญ่แล้ว รถเบนซ์มือสองที่หมดประกันศูนย์ไปนานแล้วจะไม่มีการรับประกันใดๆ ครับ ถ้าซื้อจากเต็นท์รถใหญ่ๆ บางทีอาจจะมี ประกันเครื่องยนต์และเกียร์ ให้เล็กน้อย สัก 3-6 เดือน อันนี้ต้องสอบถามและดูเงื่อนไขดีๆ ครับ ถ้าซื้อกับเจ้าของโดยตรงก็มักจะไม่มีประกันเลย ต้องรับสภาพไปครับ
- ของแถม/โปรโมชั่น: สำหรับรถมือสอง ไม่ค่อยมีของแถมแบบหวือหวาเหมือนรถใหม่ครับ โปรโมชั่นอาจจะมีบ้างจากเต็นท์รถ เช่น ฟรีค่าจัดไฟแนนซ์ ฟรีค่าโอน หรือแถมฟิล์มกรองแสง อันนี้ก็แล้วแต่ดีลเลย
ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อรถข้ามจังหวัดก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ครับ แต่ส่วนใหญ่คนที่ซื้อรถระดับนี้มักจะไปดูรถด้วยตัวเองอยู่แล้ว
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ หรือมีโปรโมชั่นอะไรไหม?
สำหรับตลาดรถยนต์มือสอง โดยเฉพาะรถหรูสมรรถนะสูงอย่าง E 500 เนี่ย ไม่ได้มีโปรโมชั่นแบบจัดหนักจัดเต็มตามเทศกาล 12.12 หรือสงกรานต์ เหมือนสินค้าทั่วไปครับ ราคาของรถมือสองจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความต้องการในตลาด สภาพรถ ปีที่ผลิต และความเร่งรีบของผู้ขายมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่อาจจะมีโอกาสได้เจอลุ้นราคาดีๆ บ้างก็คือช่วงที่เต็นท์รถจัดโปรโมชั่นใหญ่ประจำปี หรือช่วงปลายปีที่ผู้ขายบางคนอยากปิดดีลก่อนปีใหม่ครับ การติดตามเว็บไซต์ซื้อขายรถยนต์มือสอง หรือเพจของเต็นท์รถที่เราสนใจบ่อยๆ ก็เป็นวิธีที่ดีในการอัปเดตว่ามีรถเข้าใหม่หรือมีดีลพิเศษอะไรออกมาบ้าง
คำแนะนำคือ ถ้าเจอรถสภาพดี ประวัติชัดเจน ในราคาที่เราพอใจ อย่าลังเลนานครับ เพราะรถรุ่นพิเศษแบบนี้ไม่ได้มีมาให้เลือกเยอะๆ ตลอดเวลา!
6. คนไทยที่เคยใช้ E 500 (มือสอง) เค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองไปส่องตามเว็บบอร์ด หรือกลุ่มคนรักรถเบนซ์ในไทยเนี่ย ฟีดแบ็กเกี่ยวกับ Mercedes-Benz E 500 มือสอง ก็จะมีทั้งมุมที่ประทับใจและมุมที่ต้องทำใจเลยครับ
มุมที่คนชอบมากๆ:
- ความแรงสะใจ: อันนี้เป็นจุดขายหลักเลยครับ เครื่อง V8 ขับสนุก เหยียบเป็นมา เร่งแซงสบายๆ
- ช่วงล่างนุ่ม นั่งสบาย: สไตล์ E-Class ครับ ขับทางไกลคือดีงาม นุ่มนวลตามแบบฉบับรถผู้บริหาร
- ความหรูหรา: ภายในดูดีมีระดับ ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกครบครัน (ในยุคนั้นๆ)
- ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย: ขับแล้วให้ความรู้สึกหนักแน่น มั่นใจบนท้องถนน
มุมที่ต้องเตรียมใจ (อันนี้สำคัญกว่า!):
- ค่าซ่อมบำรุง: อันนี้มาเป็นอันดับแรกเลยครับ! รถยุโรปเครื่องใหญ่ แถมอายุเยอะแล้ว อะไหล่บางตัวแพงเอาเรื่อง และต้องหาอู่ที่ชำนาญจริงๆ,, ปัญหาที่พบบ่อยๆ ก็เช่น ปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า, ระบบช่วงล่างถุงลม (ถ้ามี), ปั๊มน้ำ, หรือพวกซีลต่างๆ ที่อาจเสื่อมตามอายุ,,, เรียกว่า "ซื้อมันมาขับน่ะง่าย... แต่ตอนซ่อมน่ะสิ!" ต้องมีงบสำรองไว้ก้อนหนึ่งเลยครับ,
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน: เครื่อง V8 ไม่ได้มีไว้ให้รักความประหยัดครับ ซดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
- ปัญหากวนใจเล็กๆ น้อยๆ: รถเก่าอาจจะมีพวกปัญหาระบบไฟฟ้าจุกจิกบ้าง หรือชิ้นส่วนภายในเริ่มเสื่อมสภาพ,
สรุปคือ คนที่เคยใช้ E 500 มือสองส่วนใหญ่จะโอเคกับสมรรถนะและความสบาย แต่ต้องยอมรับเรื่องค่าดูแลรักษาที่สูงกว่ารถทั่วไปมากๆ ครับ
7. แล้วจะไปตามหาซื้อเจ้า E 500 ได้จากที่ไหนบ้างนะ?
เนื่องจากเป็นรถที่ไม่ได้มีจำนวนเยอะในตลาดมือสอง ช่องทางหลักๆ ที่เราจะเจอ Mercedes-Benz E 500 มือสอง ก็จะมีตามนี้ครับ:
- เว็บไซต์ซื้อขายรถยนต์มือสอง: อันนี้เป็นแหล่งใหญ่เลยครับ ลองเข้าไปดูตามเว็บไซต์ชื่อดังในไทยที่รวบรวมรถยนต์มือสองไว้เยอะๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบเยอะครับ,,,
- เต็นท์รถยนต์มือสอง: โดยเฉพาะเต็นท์ใหญ่ๆ หรือเต็นท์ที่เน้นรถยุโรปหรู อาจจะมี E 500 หรือรุ่นใกล้เคียงหลุดมาบ้าง ข้อดีคือเราสามารถไปดูรถจริง สัมผัสได้ สอบถามข้อมูลจากคนขายได้โดยตรง และบางทีอาจมีบริการหลังการขายเล็กน้อย หรือบริการจัดไฟแนนซ์ครับ
- กลุ่มซื้อขายรถยนต์มือสองใน Facebook: บางทีอาจจะมีเจ้าของรถโดยตรงนำมาลงขายครับ ข้อดีคืออาจจะได้ราคาดีกว่าเต็นท์ แต่ก็ต้องระวังและตรวจสอบให้รอบคอบมากๆ ครับ
- ศูนย์ Mercedes-Benz Certified Used Car: อันนี้จะเป็นรถเบนซ์มือสองที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากศูนย์ฯ โดยตรงครับ สภาพมักจะดี ได้มาตรฐาน แต่รุ่น E 500 ที่อายุเยอะๆ อาจจะไม่มีในรายการนี้ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นใหม่ๆ กว่านี้
ไม่ว่าจะซื้อจากช่องทางไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องไปดูรถจริง! และถ้าเป็นไปได้ ควรพาผู้เชี่ยวชาญ หรือช่างที่เราไว้ใจไปช่วยดูด้วยนะครับ
8. สรุปแล้ว Mercedes-Benz E 500 มือสอง ยังน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครที่สุด?
คำถามสุดท้ายที่หลายคนคาใจ! สำหรับ Mercedes-Benz E 500 มือสอง ในปีนี้ ยังน่าซื้ออยู่ไหม? คำตอบคือ น่าซื้อ... ถ้าคุณเข้าใจและพร้อมสำหรับมัน!
เจ้า E 500 มือสองเนี่ย เหมาะมากๆ สำหรับคนที่:
- หลงใหลในสมรรถนะของเครื่องยนต์ V8: ชอบฟีลลิ่งการขับขี่ที่แรง ทรงพลัง
- ต้องการรถหรูที่ดูภูมิฐานในราคาที่จับต้องได้ (เมื่อเทียบกับรถใหม่): ได้รถเบนซ์ E-Class ที่หรูหราในงบประมาณที่ประหยัดไปเยอะเมื่อเทียบกับป้ายแดง
- เข้าใจและเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา: อันนี้เน้นย้ำมากๆ ครับ ต้องมีงบก้อนหนึ่งไว้สำหรับซ่อมบำรุงจุกจิกที่อาจจะตามมา,
- มีอู่ประจำที่ไว้ใจได้ หรือมีความรู้เรื่องรถเบนซ์พอสมควร: การดูแลรถเก่าแบบนี้ต้องอาศัยความเข้าใจและแหล่งซ่อมที่ดีครับ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่:
- มีงบจำกัดมากๆ และคาดหวังค่าดูแลรักษาที่ต่ำ: E 500 มือสองไม่ใช่คำตอบครับ
- เน้นความประหยัดน้ำมัน: หาตัวอื่นดีกว่าครับ
- ไม่สะดวกเรื่องการซ่อมบำรุง หรือไม่มีอู่ที่ไว้ใจได้: อาจจะต้องคิดหนักหน่อย
แล้วรุ่นไหนน่าซื้อที่สุด? ถ้าพูดถึง E 500 หลักๆ คือ W211 กับ W212 ครับ ถ้าชอบความคลาสสิกหน่อย ราคาเป็นมิตรลงมา W211 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ต้องเช็คสภาพดีๆ ครับ, ส่วน W212 ก็จะได้ความทันสมัยขึ้นมาอีกระดับ ฟังก์ชันอาจจะครบครันกว่า,
จริงๆ แล้ว การเลือกรุ่น E 500 มือสองเนี่ย สภาพรถและประวัติการดูแลรักษาสำคัญกว่าปีหรือโฉม เสียอีกครับ เลือกรถที่เจ้าของเดิมดูแลมาดีๆ เข้าศูนย์สม่ำเสมอ มีประวัติซ่อมบำรุงชัดเจน แม้จะแพงกว่าหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าในระยะยาวกว่าแน่นอนครับ! พาช่างไปดูเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ นะครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังฝันถึงการได้ครอบครอง Mercedes-Benz E 500 นะครับ ขอให้ทุกคนได้รถที่ถูกใจ สภาพดี ขับขี่ปลอดภัย และพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์นะครับ! ลุย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีโนเวทบ้านเก่า ราคาถูก งบจำกัด ปี 2025 ทำเองได้ง่ายๆ เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่
กางเกงยีนส์ Denim Co ราคาเท่าไหร่? ยีนส์ H&M คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย
ลำโพงบลูทูธ Ultimate Ears Wonderboom ราคาล่าสุดปี 2025 เสียงดี กันน้ำไหม?
ปืนยาว .22 CZ 457 MTR ราคาล่าสุดปี 2025 ปืนแม่นยำสำหรับยิงเป้า
ราคายางรถยนต์ Yokohama ปี 2025 ยางสปอร์ต นุ่มเงียบ รุ่นไหนน่าใช้?
Router D-Link DSL-2730U ราคาเท่าไหร่? เราเตอร์ ADSL คุณภาพดี ราคาเบาๆ