iRobot หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ลดราคา! รุ่นไหนน่าซื้อ? อัปเดตโปรโมชั่นล่าสุด

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ฤกษ์งามยามดี เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องผู้ช่วยคนสำคัญในบ้านยุคดิจิทัลอย่าง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot กัน ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยทำความสะอาดพื้นแบบที่ไม่ต้องเปลืองแรงหลังเลิกงาน หรืออยากมีบ้านที่สะอาดเอี่ยมอยู่ตลอดเวลาโดยที่เราไม่ต้องลงมือทำเองให้เมื่อยตุ้มล่ะก็ มามุงตรงนี้เลยจ้า! เพราะช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่นลดราคาอยู่เพียบ! รุ่นไหนน่าสอย สเปกเป็นยังไง ช้อปที่ไหนคุ้มสุด มาค่ะ เดี๋ยวจัดให้แบบละเอียด ย่อยง่าย สไตล์เป็นกันเอง!
1. iRobot คือใคร? แล้วหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมันทำอะไรได้บ้าง?
เอาล่ะ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ iRobot กันหน่อย แบรนด์นี้เค้าเป็นตัวพ่อ ตัวแม่ในวงการหุ่นยนต์ทำความสะอาดเลยนะ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอเมริกาโน่นแน่ะ! เค้าเป็นเหมือนผู้บุกเบิกวงการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในบ้านเลยก็ว่าได้ คิดค้นและพัฒนามานานกว่า 30 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องความเก่ง ความฉลาดในการทำความสะอาดนี่ไว้ใจได้เลย ไม่ได้มาเล่นๆ นะจ๊ะ
แล้วเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba เนี่ย มันทำอะไรได้บ้าง ง่ายๆ เลยคือมันเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดพื้นบ้านแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องจับ ไม่ต้องเข็น แค่กดปุ่มหรือสั่งงานผ่านแอปฯ หรือจะตั้งเวลาให้มันออกมาทำงานเองก็ได้ มันก็จะตะลุยไปดูดฝุ่น ดูดเส้นผม ขนสัตว์ (อันนี้เหมาะมากสำหรับบ้านที่มีน้องหมาน้องแมวววว) เศษผงต่างๆ ตามพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง หรือพรมขนสั้น รุ่นใหม่ๆ บางรุ่นฉลาดมาก มีระบบสร้างแผนที่บ้าน จดจำห้องต่างๆ ได้ บางรุ่นเป็นแบบ 2-in-1 คือดูดฝุ่นพร้อมถูพื้นไปในตัวด้วยก็มี สะดวกสุดๆ ไปเลย!
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนี่ก็ชัดเจนเลยจ้า คือคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดบ้านเอง หรือคนที่ไม่ชอบงานบ้านเอาซะเลย (สารภาพมาซะดีๆ!) รวมถึงบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุที่อาจจะไม่สะดวกก้มๆ เงยๆ ดูดฝุ่นเอง เจ้าหุ่นยนต์นี่แหละคือผู้ช่วยชั้นดีเลยล่ะ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไง? มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนตั้งตารอ นั่นก็คือเรื่อง "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ iRobot Roomba ในตลาดไทยเนี่ย ราคาเค้าก็มีหลายระดับเลยนะ ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชันความสามารถ รุ่นเริ่มต้นที่เน้นดูดฝุ่นอย่างเดียวก็จะมีราคาไม่สูงมาก ส่วนรุ่นที่ฉลาดขึ้น มีระบบนำทางที่ดีขึ้น ดูดฝุ่นแรงขึ้น หรือมีฟังก์ชันถูพื้นด้วย ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
ถ้าลองไปส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada หรือ Shopee หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy หรือตามห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ HomePro เนี่ย จะเห็นเลยว่ามีหลายรุ่นให้เลือก ราคาโปรโมชั่นก็มีมาเรื่อยๆ
- รุ่นเริ่มต้น: อย่างพวก Roomba 600 Series อาจจะเจอราคาช่วง หมื่นต้นๆ - หมื่นกลางๆ บาท (฿) บางทีมีโปรลดราคาลงไปอีกก็มีนะ เหมาะสำหรับคนที่อยากลองใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นครั้งแรก ฟังก์ชันอาจจะไม่ซับซ้อนมาก แต่งานดูดฝุ่นพื้นฐานนี่ทำได้ดีเลย
- รุ่นระดับกลาง: เช่น Roomba i Series หรือ Roomba Combo i Series (ดูดและถู) พวกนี้จะฉลาดขึ้น มีระบบนำทางแบบสร้างแผนที่บ้านได้ สั่งให้ไปทำความสะอาดเฉพาะห้องได้ ราคาจะขยับมาหน่อย อยู่ในช่วง สองหมื่นต้นๆ - สามหมื่นกว่าบาท (฿)
- รุ่นระดับสูง: เช่น Roomba j Series, Roomba s Series หรือรุ่น Combo ที่มีแท่นเก็บฝังอัตโนมัติ (Clean Base) คือดูดฝุ่นเสร็จกลับมาที่แท่น แล้วตัวแท่นก็จะดูดฝุ่นจากหุ่นยนต์ไปเก็บในถุงอีกที เราแทบไม่ต้องไปยุ่งอะไรเลยเป็นเดือนๆ พวกนี้คือตัวท็อป ฟังก์ชันอลังการ เหมาะกับบ้านที่ใหญ่ขึ้น หรือคนที่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับฝุ่นเลย ราคาจะสูงขึ้นไปอีก อยู่ในช่วง สามหมื่นปลายๆ ไปจนถึงห้าหมื่นกว่าบาท (฿) เลยก็มี
ราคาที่เห็นตามแพลตฟอร์มออนไลน์กับร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ก็จะใกล้เคียงกันนะ แต่บางช่วงร้านค้าอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องคอยเช็คดีๆ จ้า
3. เทียบราคากับแบรนด์อื่นเป็นไงบ้าง?
ในตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตอนนี้คู่แข่งเยอะมากกกกก ไม่ได้มีแค่ iRobot แบรนด์เดียวแล้วนะ มีแบรนด์อื่นๆ จากจีนที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในไทยมากๆ อย่าง Xiaomi หรือ Ecovacs หรือ Dreame พวกนี้ก็มีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นฟังก์ชันหลากหลาย และที่สำคัญคือ ราคาค่อนข้างเป็นมิตร กว่า iRobot อย่างเห็นได้ชัดเลย
ถ้าเทียบสเปกคร่าวๆ ในฟังก์ชันที่ใกล้เคียงกัน บางทีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์จีนอาจจะมีฟังก์ชันที่คล้ายหรือมากกว่าในราคาที่ถูกกว่า iRobot ครึ่งต่อครึ่งก็มีนะ ทำให้หลายคนลังเลว่าจะเลือกแบรนด์ไหนดี
แต่สิ่งที่ iRobot ชูโรงและเป็นจุดแข็งคือเรื่องของ เทคโนโลยีความฉลาด ในการนำทาง การหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และความคงทน การรับประกันที่อาจจะมั่นใจได้มากกว่า (ในมุมของแบรนด์จากฝั่งอเมริกาที่มีประวัติยาวนาน) คือถ้า iRobot เค้าจะเน้นความพรีเมียม ความอัจฉริยะในการทำงาน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่สั่งสมมานาน ในขณะที่แบรนด์อื่นอาจจะเน้นฟังก์ชันที่หลากหลายและราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า
ดังนั้น การเปรียบเทียบราคาต้องดูควบคู่ไปกับสเปกและสิ่งที่แบรนด์นำเสนอด้วยจ้า ไม่ใช่แค่ดูที่ราคาถูกอย่างเดียวแล้วจะบอกว่าคุ้มกว่าเสมอไปนะ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาด้วย? มีรับประกันไหม?
เวลาซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot สิ่งที่มักจะมาในกล่องหลักๆ เลยก็คือ ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น, แท่นชาร์จ, สายไฟ, แปรงปัดข้าง, แปรงหลัก (บางรุ่นเป็นแบบยางคู่), และฟิลเตอร์กรองฝุ่น บางรุ่นที่เป็น Combo ก็จะมีถังเก็บน้ำและผ้าถูมาให้ด้วย
เรื่องสำคัญที่คนไทยค่อนข้างให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน จ้า! iRobot ที่จำหน่ายในไทยโดยตัวแทนอย่างเป็นทางการมักจะมีการรับประกันตัวเครื่องให้ ปกติจะอยู่ที่ 1 ปีนะ (อันนี้ต้องเช็คกับร้านค้าอีกทีเพื่อความชัวร์) การมีรับประกันศูนย์นี่อุ่นใจกว่าเยอะเลย เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ถ้ามีปัญหาจะได้ส่งซ่อมได้ ไม่ต้องปวดหัว
ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ร้านค้ามักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ให้เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือส่งฟรีสำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอยู่แล้วนะ อันนี้ก็เป็นข้อดีของการช้อปออนไลน์ที่ไม่ต้องแบกกลับบ้านเองจ้า
ของแถมหรือโปรโมชั่นเสริมก็แล้วแต่ช่วงเลย บางทีอาจจะมีแถมแปรงปัดข้างหรือฟิลเตอร์สำรองมาให้ หรือมีคูปองส่วนลดสำหรับการซื้ออุปกรณ์เสริมในอนาคต ก็ต้องตาดีได้ ตาร้ายเสีย เอ๊ย! ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นดีๆ นะจ๊ะ
5. ช่วงไหนน่าซื้อที่สุด? มีโปรโมชั่นประจำไหม?
ถ้าอยากได้ iRobot Roomba ในราคาที่คุ้มค่าแบบสุดๆ ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น ไว้เลยจ้า! เหมือนสินค้าไอทีหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เลยนะ ช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ นี่แหละคือโอกาสทอง
เทศกาลช้อปปิ้งยอดฮิตของไทยที่มักจะมีโปรโมชั่นดีๆ ก็เช่น:
- Double Digit Sale: พวก 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 นี่คือช่วงพีคเลย! Lazada กับ Shopee เค้าจัดแคมเปญใหญ่ ลดกันกระหน่ำ บางทีมีโค้ดส่วนลดพิเศษ หรือ Crazy Deal ที่ลดเยอะมากๆ
- เทศกาลปีใหม่/สงกรานต์: ช่วงนี้คนมักจะซื้อของเข้าบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ต้อนรับปีใหม่ไทย ร้านค้าก็มักจะมีโปรโมชั่นออกมาด้วย
- โปรโมชั่นจากร้านค้าอย่างเป็นทางการ (Flagship Store): บน Lazada และ Shopee แบรนด์ iRobot เค้าก็มีร้านค้าอย่างเป็นทางการนะ พวกนี้มักจะร่วมโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มอยู่แล้ว แถมบางทีอาจจะมีโปรโมชั่นเฉพาะของร้านตัวเองด้วย ต้องกดติดตามไว้เลยจ้า
คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ ให้ อดใจรอช่วงโปรโมชั่น จะคุ้มกว่าเยอะเลยนะ ลองเข้าไปเช็คราคาและโปรโมชั่นตามร้านค้าออนไลน์และร้านออฟไลน์ในช่วงเทศกาลต่างๆ เปรียบเทียบราคาและของแถมให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อจ้า
6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?
จากที่ลองไปแอบส่องรีวิวของคนไทยที่ใช้ iRobot Roomba เนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะมีความเห็นหลากหลายนะ แต่รวมๆ แล้วก็มีทั้งข้อดีข้อเสียที่ผู้ใช้พูดถึงกันบ่อยๆ:
- ข้อดีที่คนชอบ:
- ทำความสะอาดเก่ง ดูดฝุ่นดี: หลายคนชมว่าดูดฝุ่นได้ละเอียด เก็บเส้นผม ขนสัตว์ได้ดีเยี่ยม
- ฉลาด นำทางดี: รุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบ Mapping มักจะได้รับคำชมว่าวิ่งเป็นระเบียบ ไม่มั่วซั่ว รู้จักห้องต่างๆ หลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดี
- ใช้งานง่ายผ่านแอปฯ: สั่งงานสะดวก ตั้งเวลาได้ เช็คสถานะได้
- ทนทาน: หลายคนบอกว่าใช้งานได้นาน คุ้มค่ากับการลงทุน (แต่ก็มีบางเคสที่เจอปัญหาเหมือนกันนะ อันนี้แล้วแต่ดวงและการดูแลด้วย)
- แท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติสะดวกมาก: รุ่นที่มี Clean Base คือสวรรค์ของคนขี้เกียจเทฝุ่น ชอบมากๆ
- ข้อเสียที่อาจจะเจอ:
- ราคาสูง: อันนี้เป็นข้อที่หลายคนพูดถึงว่าราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาด
- ติดปัญหาบ้างบางที: บางทีอาจจะไปติดสายไฟ ติดใต้โซฟา หรือเข้าที่แคบๆ แล้วออกไม่ได้บ้าง (แม้ว่ารุ่นใหม่ๆ จะฉลาดขึ้นก็ตาม)
- เสียงดัง: เสียงมอเตอร์ดูดฝุ่นอาจจะดังรบกวนบ้าง
- การบริการหลังการขาย: มีบางความเห็นที่พูดถึงเรื่องบริการหลังการขายหรือการเคลมที่อาจจะใช้เวลานานหรือยุ่งยากบ้าง (แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มีปัญหาอะไรนะ)
สรุปคือ ส่วนใหญ่คนไทยที่ซื้อ iRobot ไปค่อนข้างพอใจกับประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและความฉลาดของตัวเครื่อง แต่อาจจะต้องทำใจเรื่องราคาที่สูงกว่าชาวบ้านเค้าหน่อยจ้า
7. จะไปซื้อที่ไหนดีนะ?
ช่องทางการซื้อ iRobot Roomba ในไทยหลักๆ ก็มีตามนี้เลยจ้า:
- ร้านค้าอย่างเป็นทางการ (Official Store) บน Shopee/Lazada: อันนี้สะดวกสุด มีสินค้าครบครัน มักจะมีโปรโมชั่นร่วมกับแพลตฟอร์ม มีระบบการชำระเงินที่หลากหลาย และมีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้อ่านก่อนตัดสินใจ
- ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่: เช่น Power Buy, HomePro, หรือแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้าง Central ข้อดีคือเราสามารถไปดูตัวจริง สัมผัสเครื่อง ลองเล่น ลองสอบถามพนักงานได้โดยตรง บางทีร้านพวกนี้ก็มีโปรโมชั่นผ่อน 0% หรือของแถมหน้าร้านที่น่าสนใจนะ
- เว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายในไทย: บางบริษัทที่เป็นตัวแทนนำเข้า iRobot อย่างเป็นทางการในไทยก็มีเว็บไซต์ของตัวเองให้เข้าไปดูรายละเอียดสินค้าและสั่งซื้อได้
แนะนำว่าก่อนซื้อให้ลองเปรียบเทียบราคาทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ดูนะ บางทีราคาโปรโมชั่นอาจจะแตกต่างกันไป หรือมีของแถมที่ไม่เหมือนกันจ้า
8. สรุปแล้ว iRobot Roomba น่าซื้อไหม? ใครควรซื้อรุ่นไหนดี?
มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า iRobot Roomba ยังน่าซื้ออยู่ไหม? ถ้ามีงบประมาณถึงระดับนึงและต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่เน้น ความฉลาด ประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ดีเยี่ยม และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ที่มีประวัติยาวนาน ก็ต้องบอกว่า น่าซื้อมากๆ เลยล่ะ!
มันเหมาะมากๆ สำหรับ:
- คนที่ต้องการความสะดวกสบายขั้นสุด: ไม่ต้องเสียเวลาและแรงในการดูดฝุ่นเอง
- บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง: เพราะ Roomba ขึ้นชื่อเรื่องการเก็บขนสัตว์ได้ดี
- คนที่ชอบเทคโนโลยีและฟังก์ชันอัจฉริยะ: เช่น ระบบสร้างแผนที่บ้าน การควบคุมผ่านแอปฯ การทำงานร่วมกับผู้ช่วยอัจฉริยะ
- คนที่ยอมจ่ายเพื่อความพรีเมียมและความน่าเชื่อถือ: แม้ราคาจะสูงกว่า แต่ก็มั่นใจในคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง
แล้วจะเลือกรุ่นไหนดีล่ะ?
- ถ้า งบจำกัด และเน้นแค่การดูดฝุ่นพื้นฐาน ทำความสะอาดได้ทั่วถึง ไม่เน้นฟังก์ชันหวือหวามาก รุ่น Roomba 600 Series ก็เพียงพอแล้วจ้า
- ถ้าอยากได้ความฉลาดมากขึ้น มีระบบสร้างแผนที่บ้าน สั่งทำความสะอาดเฉพาะห้องได้ หรืออยากได้แบบที่ดูดและถูได้ด้วยในตัว เลือกรุ่น Roomba i Series หรือ Roomba Combo i Series ขึ้นไปเลย คุ้มค่าฟังก์ชันที่ได้มา
- ถ้า งบไม่ใช่ปัญหา และต้องการความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ต้องยุ่งกับฝุ่นเลย ต้องการรุ่นที่ดูดฝุ่นแรงที่สุด ฉลาดที่สุด มีแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ หรือแท่นที่ล้างผ้าถูให้ด้วย จัดรุ่น Roomba j Series, s Series หรือรุ่น Combo ตัวท็อปไปเลยจ้า ชีวิตจะสบายขึ้นอีกเยอะ!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot คู่ใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้ผู้ช่วยทำความสะอาดที่ถูกใจ บ้านสะอาดเอี่ยมอ่อง ไม่ต้องเหนื่อยกันแล้ว! ไปช้อปกันให้สนุกนะค้าาา!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba Combo j7+ ฉลาดล้ำ ตอบโจทย์ ...
- รีวิว iRobot Roomba Combo™ j7+ หุ่นยนต์ทำความสะอาดฉลาดล้ำ ...
- iRobot Thailand | ไอโรบอท | ✨ 2 เครื่อง สะอาดคูณสอง คุ้มเกินต้าน ...
- iRobot Roomba combo i5 - หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสุดล้ำ! ที่ไม่ใช่แค่ดูดฝุ่น ...
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba i7 ราคดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! #zzt #revi...
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา Mercedes-Benz GLC 200 มือสอง: SUV หรู น่าขับ น่าครอบครอง
ราคา iPhone 11 ติดโปร AIS อัปเดตล่าสุด ผ่อนได้ไหม?
แหล่งรวม เช่ารถขับเอง กรุงเทพ ราคาถูก: เที่ยวสะดวก ประหยัดงบ
คอร์สเรียน IELTS ราคาเท่าไหร่? สถาบันไหนดีน่าสนใจ?
แปรงล้างหน้า Foreo ราคาล่าสุด รุ่นไหนดีที่สุด?
นาฬิกา Patek Philippe Twenty 4 ราคาล่าสุด รุ่นยอดฮิต
