10 อันดับ Micellar Water ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ทำความสะอาดหมดจด อ่อนโยน

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายบิวตี้และมนุษย์ติดเมคอัพทุกคน! 👋 ในยุคที่ชีวิตวนลูปอยู่กับงาน เรียน หรือกิจกรรมแน่นเอี๊ยด แถมบางทีก็ต้องเจอมลภาวะ ฝุ่น PM 2.5 แบบจัดเต็ม การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากกกก ชนิดที่ว่าพลาดไม่ได้เลยนะครับ!

และไอเท็มกู้ชีพที่มาแรงแซงทุกโค้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังฮิตต่อเนื่องไปถึงปี 2025 ก็คือ Micellar Water นี่แหละครับ! น้ำใสๆ ที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลย เพราะน้องมีพลังดึงดูดเมคอัพ สิ่งสกปรก และความมันส่วนเกินออกจากผิวหน้าเราได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ต้องถูแรงๆ ให้ผิวช้ำ แถมยังไม่ต้องล้างน้ำซ้ำได้อีกด้วย (บางสูตรนะ) สะดวกสุดๆ ไปเลย!

แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมี Micellar Water ออกมาเยอะมากกกก หลายแบรนด์ หลายสูตร จนเลือกไม่ถูกเลยใช่ไหมครับ? บางทีเห็นโปรโมชั่นดีๆ ก็อยากจะสอยมาลอง แต่ก็แอบกลัวว่าจะแพ้ จะอุดตัน หรือจะเช็ดไม่สะอาดจริงรึเปล่า 🤔

ไม่ต้องกังวลใจไปครับ! ในฐานะที่ผมเป็นคนที่อินเรื่องสกินแคร์ (และชอบลองของใหม่ๆ อยู่เสมอ) วันนี้ผมจะมาเป็นตัวช่วย พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของ Micellar Water ในไทย พร้อมแนะนำ 10 อันดับ Micellar Water น่าใช้ในปี 2025 ที่ได้รับความนิยมและมีรีวิวดีๆ จากผู้ใช้จริง บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ หน้าใสไร้สิวแน่นอนครับ!

ตลาด Micellar Water ในไทยคึกคักแค่ไหนนะ?

ต้องบอกเลยว่าตลาดคลีนซิ่งโดยเฉพาะ Micellar Water ในไทยนี่คือ ฮอตมากแม่! คนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะหลังยุคโควิด-19 ที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพและความงามของตัวเองมากขึ้น. แม้เศรษฐกิจจะไม่สู้ดี แต่ผู้บริโภคก็ยังวางแผนการใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากขึ้น และมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ.

แบรนด์ที่ครองตลาดก็มีทั้งแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศเจ้าใหญ่ๆ ที่ทำตลาดมานาน เช่น Garnier, Bioderma, NIVEA, L'Oréal, Eucerin, La Roche-Posay รวมถึงแบรนด์จากเอเชียอย่าง Bifesta (ญี่ปุ่น) และ Senka (ญี่ปุ่น) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในไทย. นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไทยคุณภาพดีที่กำลังมาแรงและเข้าใจความต้องการผิวคนไทยได้ดีกว่าแบรนด์ต่างประเทศ เช่น MizuMi และ Plantnery ที่เน้นส่วนผสมอ่อนโยน ตอบโจทย์คนผิวแพ้ง่ายและมีปัญหาสิว.

พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยยุคนี้ฉลาดเลือกสุดๆ ครับ! ไม่เชื่อโฆษณาง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นกลุ่มที่เรียกว่า 'Skintellectual' คือให้ความสำคัญกับการหาข้อมูลเชิงลึก ทั้งเรื่องส่วนผสม ความเข้มข้น กระบวนการทดสอบ และอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ. แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นดุเดือดตลอดปี รวมถึงร้านเครื่องสำอางและวัตสัน Boots, Tops, Big C และ 7-Eleven ที่หาซื้อง่าย สะดวกสบายครับ.

เลือก Micellar Water ยังไงให้ได้เนื้อคู่?

การเลือก Micellar Water ให้เหมาะกับผิวของเรา ไม่ใช่แค่หยิบขวดที่แพ็คเกจน่ารัก หรือขวดที่ดาราเป็นพรีเซนเตอร์นะครับ แต่ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เพื่อให้ได้คลีนซิ่งที่ทำความสะอาดได้หมดจดแต่อ่อนโยนกับผิวที่สุด ลองดูลิสต์นี้ไว้เป็นแนวทางได้เลย:

ได้เวลาเปิดโผ! 10 อันดับ Micellar Water น่าสอย ปี 2025!

เอาล่ะครับ! มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย ผมคัดมาให้แล้ว 10 อันดับ Micellar Water ที่ได้รับความนิยม มีรีวิวดี และน่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่ามีครบทุกงบประมาณ ทุกสภาพผิว ลองพิจารณาตามความต้องการของตัวเองได้เลยครับ!

1. Garnier Micellar Cleansing Water

แบรนด์จากฝรั่งเศส ที่โด่งดังสุดๆ ในไทย หาซื้อง่ายมากๆ เหมือนเดินเข้า 7-Eleven ก็เจอ!

• สินค้ารุ่นเด่น: สูตรสีชมพู (สำหรับผิวธรรมดา-แพ้ง่าย), สูตรสีฟ้า (สำหรับผิวมัน-เป็นสิวง่าย), สูตรสีเหลือง (สำหรับเช็ดเครื่องสำอางกันน้ำ).
• จุดเด่น: ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามาก ปริมาณเยอะ ใช้ได้นาน. มีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิว. สูตรอ่อนโยนไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน. เช็ดทำความสะอาดได้ดีในชีวิตประจำวัน. ขวดบางรุ่นทำจากพลาสติกรีไซเคิล.
• ข้อเสีย: สูตรสีชมพูอาจจะเช็ดเมคอัพกันน้ำได้ไม่เกลี้ยงเท่าที่ควร ต้องใช้เวลาหรือใช้หลายแผ่นหน่อย.
• เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา คนที่เพิ่งเริ่มใช้คลีนซิ่ง หรือคนที่มองหาคลีนซิ่งราคาสบายกระเป๋า ใช้ในวันแต่งหน้าเบาๆ หรือทากันแดด.
• ช่องทางซื้อ: 7-Eleven, Tops, Big C, Watsons, Boots, Lazada, Shopee ทั่วไปหมดครับ!
• ช่วงราคา: หลักร้อยต้นๆ (ประมาณ 1xx - 2xx บาท).
• รีวิว: "ใช้การ์นิเย่ฝาชมพูมาตลอด ไม่แพ้เลย เช็ดหน้าสะอาดดีค่ะ" - นักศึกษา ม.กรุงเทพ. "ขวดใหญ่สะใจ ราคาดีงาม ใช้ได้นานคุ้ม!" - พนักงานออฟฟิศ.

2. Bioderma Sensibio H2O

แบรนด์เวชสำอางจากฝรั่งเศส ถือเป็นต้นตำรับ Micellar Water ที่หลายคนรู้จักและไว้วางใจ.

• สินค้ารุ่นเด่น: Sensibio H2O (ฝาสีชมพู สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย).
• จุดเด่น: อ่อนโยนมากๆ! เหมาะสุดๆ สำหรับผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย. ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน. เช็ดรอบดวงตาได้ไม่แสบ. ทำความสะอาดได้ดีโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง.
• ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป. อาจจะต้องใช้หลายแผ่นหน่อยถ้าแต่งหน้าแน่นมาก.
• เหมาะกับ: คนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคืองง่ายมากๆ หรือคนที่ทำหัตถการเกี่ยวกับผิวหน้า.
• ช่องทางซื้อ: Watsons, Boots, Eveandboy, Konvy, Tops, Central Online, ร้านขายยา และช่องทางออนไลน์.
• ช่วงราคา: หลักร้อยปลายๆ ถึงพันต้นๆ (ประมาณ 7xx - 9xx บาท สำหรับขนาดใหญ่).
• รีวิว: "ยอมใจไบโอเดอร์มา ฝาสีชมพูคือที่สุดของความอ่อนโยน ใช้แล้วสบายผิวมาก" - ผู้ใช้จริงใน Pantip. "ถึงจะราคาแรงหน่อย แต่คุ้มกับผิวแพ้ง่ายของเราค่ะ" - บล็อกเกอร์ความงาม.

3. MizuMi Smooth Cleansing Water

แบรนด์ไทย คุณภาพดีที่มาแรงมากๆ เน้นส่วนผสมอ่อนโยน ปลอดภัย และแก้ปัญหาผิวคนไทยได้ตรงจุด.

• สินค้ารุ่นเด่น: Smooth Cleansing Water.
• จุดเด่น: เป็นสูตร Smooth Water ลดแรงเสียดสีผิวขณะเช็ด ช่วยลดโอกาสเกิดริ้วรอย. ใช้ Double Micellar ทำความสะอาดได้ดีแม้เครื่องสำอางกันน้ำและกันแดด. 5-FREE ปราศจากสารระคายเคืองสำคัญ (น้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์). อ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและผิวเป็นสิว. ให้ความชุ่มชื้น ไม่แห้งตึงหลังใช้.
• ข้อเสีย: บางคนอาจจะไม่ชินกับเนื้อแบบ Smooth Water ในครั้งแรก.
• เหมาะกับ: คนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย เป็นสิว หรือคนที่กังวลเรื่องริ้วรอยจากการเช็ดหน้า และต้องการคลีนซิ่งที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้ดี.
• ช่องทางซื้อ: Watsons, Eveandboy, Konvy, Kingpower Online, Tops, Big C, Lazada, Shopee.
• ช่วงราคา: หลักร้อยกลางๆ (ประมาณ 4xx - 5xx บาท สำหรับขนาดใหญ่).
• รีวิว: "เลิฟมิซึมิมากก เนื้อลื่นเช็ดสบายผิว ไม่บาดผิวเลยค่ะ" - ผู้ใช้ใน Lemon8. "เช็ดกันแดดกับรองพื้นได้เกลี้ยงจริงๆ แถมไม่แพ้ด้วย" - พนักงานคลินิกเสริมความงาม.

4. NIVEA MicellAIR Oxygen Boost Micellar Water

แบรนด์จากเยอรมนี ที่คุ้นเคยกันมานาน มีคลีนซิ่ง Micellar Water หลายสูตรที่ราคาเข้าถึงง่ายและคุณภาพดี.

• สินค้ารุ่นเด่น: สูตรสีชมพู (Pearl White), สูตรสีฟ้า (Acne Care), สูตรสีเหลือง (Expert - Oil Infused).
• จุดเด่น: หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง. มีหลายสูตรตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน. สูตร Oxygen Boost ช่วยเติมออกซิเจนให้ผิว. สูตร Expert (สีเหลือง) เป็น Micellar Oil ที่เช็ดเครื่องสำอางกันน้ำได้ดีเยี่ยม. หลายสูตรไม่มีแอลกอฮอล์.
• ข้อเสีย: บางสูตรอาจมีน้ำหอม บางคนผิวแพ้ง่ายมากๆ อาจต้องทดสอบก่อน. สูตร Expert (สีเหลือง) บางคนอาจรู้สึกแสบตาเล็กน้อย.
• เหมาะกับ: คนที่มองหาคลีนซิ่ง Micellar Water ราคาดี หาซื้อง่าย มีหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการ หรือคนที่แต่งหน้าแน่นและอยากได้สูตรเช็ดเครื่องสำอางกันน้ำที่ประสิทธิภาพดีในราคาไม่แพง.
• ช่องทางซื้อ: 7-Eleven, Tops, Big C, Watsons, Boots, Lazada, Shopee ทั่วไปหมดครับ!.
• ช่วงราคา: หลักร้อยต้นๆ ถึงกลางๆ (ประมาณ 1xx - 2xx บาท).
• รีวิว: "นีเวียสีเหลืองเริ่ดมาก! เช็ดมาสคาร่ากันน้ำออกหมดในปาดเดียว" - ยูทูปเบอร์รีวิวเครื่องสำอาง. "ใช้สูตรสีฟ้าแล้วรู้สึกสิวผดน้อยลงค่ะ" - ผู้ใช้จริง.

5. Eucerin UltraSENSITIVE [HYALURON] Micellar Water

แบรนด์เวชสำอางจากเยอรมนี ที่เน้นส่วนผสมที่ปลอดภัย ได้รับการแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง.

• สินค้ารุ่นเด่น: UltraSENSITIVE [HYALURON] Micellar Water.
• จุดเด่น: อ่อนโยนมากๆ เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่ายสุดๆ. มี Hyaluron ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังเช็ด. ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์. ทำความสะอาดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอัพได้ดี.
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป.
• เหมาะกับ: คนที่ผิวแห้ง บอบบาง แพ้ง่ายมากๆ หรือคนที่ต้องการคลีนซิ่งที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไปในตัว.
• ช่องทางซื้อ: Watsons, Boots, Eveandboy, Konvy, ร้านขายยาชั้นนำ และช่องทางออนไลน์.
• ช่วงราคา: หลักร้อยกลางๆ ถึงปลายๆ (ประมาณ 4xx - 6xx บาท).
• รีวิว: "ผิวแห้งแพ้ง่ายมากๆ ใช้ยูเซอรินตัวนี้แล้วรอด! หน้าไม่เอี๊ยดเลยค่ะ" - ผู้ใช้ใน Pantip. "อ่อนโยนจริงสมชื่อ เช็ดแล้วหน้านุ่มๆ ดี" - คุณหมอผิวหนัง (อ้างอิงจากคำแนะนำในบทความ).

6. Bifesta Micellar Cleansing Water

แบรนด์จากญี่ปุ่น ยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่ม Micellar Cleansing Water ที่ญี่ปุ่น และได้รับความนิยมสูงในไทยมานาน.

• สินค้ารุ่นเด่น: มีหลายสูตรตามสภาพผิวและปัญหาที่กังวล เช่น สูตร Sebum (สีเขียว สำหรับผิวมัน), สูตร Brightup (สีฟ้า สำหรับผิวหมองคล้ำ), สูตร Sensitive (สีชมพู สำหรับผิวแพ้ง่าย), สูตร Acne Care (สำหรับผิวเป็นสิว).
• จุดเด่น: มีหลายสูตรให้เลือกครบทุกสภาพผิว. ทำความสะอาดได้ดี แม้เครื่องสำอางกันน้ำในบางสูตร. อ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ น้ำมัน (ในหลายสูตร). ราคาไม่แรงมาก และมีโปรโมชั่นบ่อยๆ.
• ข้อเสีย: ประสิทธิภาพการเช็ดอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสูตร.
• เหมาะกับ: คนที่มองหาคลีนซิ่ง Micellar Water จากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม มีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิว และหาซื้อง่ายในราคาที่สมเหตุสมผล.
• ช่องทางซื้อ: Watsons, Boots, Tops, Big C, Eveandboy, Konvy, Lazada, Shopee ทั่วไปหมดครับ!.
• ช่วงราคา: หลักร้อยต้นๆ ถึงกลางๆ (ประมาณ 2xx - 4xx บาท).
• รีวิว: "ใช้ Bifesta สูตร Sebum มานานมาก คุมมันดี เช็ดสะอาด ไม่แพ้" - นักศึกษา. "ชอบตรงมีหลายสูตรนี่แหละ เลือกตามปัญหาผิวได้เลย" - พนักงานร้าน Watsons.

7. La Roche-Posay Effaclar Micellar Water Ultra

แบรนด์เวชสำอางจากฝรั่งเศส ที่โดดเด่นเรื่องผลิตภัณฑ์สำหรับผิวเป็นสิว ผิวมัน และผิวแพ้ง่าย.

• สินค้ารุ่นเด่น: Effaclar Micellar Water Ultra (สำหรับผิวมัน-เป็นสิวง่าย).
• จุดเด่น: เหมาะมากๆ สำหรับคนผิวมัน เป็นสิวง่าย ช่วยทำความสะอาดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน. มีน้ำแร่ La Roche-Posay ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง. อ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน.
• ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง.
• เหมาะกับ: คนที่มีผิวมัน ผิวผสม หรือผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย และต้องการคลีนซิ่งที่ช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกแต่อ่อนโยน.
• ช่องทางซื้อ: Watsons, Boots, Eveandboy, Konvy, ร้านขายยาชั้นนำ และช่องทางออนไลน์.
• ช่วงราคา: หลักร้อยปลายๆ ถึงพันต้นๆ (ประมาณ 7xx - 9xx บาท).
• รีวิว: "เป็นสิวอุดตันง่าย ใช้ลาโรชโพเซย์ตัวนี้แล้วรู้สึกสิวขึ้นน้อยลง หน้าสะอาดขึ้น" - ผู้ใช้ใน Jeban. "ถึงจะแพงแต่คุ้มค่ากับคนเป็นสิวค่ะ" - ผู้ใช้จริง.

8. Plantnery Tea Tree First Cleansing Water

แบรนด์ไทย อีกแบรนด์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติและตอบโจทย์ปัญหาผิวคนไทยได้ดี โดยเฉพาะเรื่องสิว.

• สินค้ารุ่นเด่น: Tea Tree First Cleansing Water.
• จุดเด่น: มีสารสกัดทีทรีเข้มข้น ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว. ควบคุมความมันส่วนเกินได้ดี และช่วยกระชับรูขุมขน. ทำความสะอาดเครื่องสำอางและความมันได้หมดจดโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง. อ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์ พาราเบน หรือสารระคายเคือง. ราคาเป็นมิตรมากๆ.
• ข้อเสีย: กลิ่นทีทรีอาจจะไม่ถูกใจบางคน.
• เหมาะกับ: คนที่มีปัญหาสิว ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่ายที่มองหาคลีนซิ่งราคาประหยัดแต่ประสิทธิภาพดีในการช่วยเรื่องสิว.
• ช่องทางซื้อ: Watsons, Eveandboy, Konvy, Lazada, Shopee, CJ More.
• ช่วงราคา: หลักร้อยต้นๆ (ประมาณ 1xx - 2xx บาท).
• รีวิว: "ใช้ Plantnery ทีทรี แล้วสิวผดยุบลงค่ะ เช็ดสะอาดหน้าไม่แห้ง" - ผู้ใช้ใน Lemon8. "ราคาถูกและดี ช่วยเรื่องสิวได้จริง" - บล็อกเกอร์.

9. Senka A.L.L. Clear Water Micellar White

แบรนด์จากญี่ปุ่น ในเครือ Shiseido ที่โด่งดังเรื่องโฟมล้างหน้า แต่คลีนซิ่ง Micellar Water ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน.

• สินค้ารุ่นเด่น: A.L.L. Clear Water Micellar White.
• จุดเด่น: ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และความมันส่วนเกินได้อย่างหมดจด. มีส่วนผสมช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งตึงหลังเช็ด. สูตร White ช่วยเรื่องความกระจ่างใส.
• ข้อเสีย: บางสูตรอาจมีส่วนผสมของน้ำหอมอ่อนๆ.
• เหมาะกับ: คนที่มองหาคลีนซิ่ง Micellar Water จากญี่ปุ่นที่ทำความสะอาดได้ดี และช่วยให้ผิวไม่แห้งตึงหลังใช้.
• ช่องทางซื้อ: Watsons, Boots, Tops, Big C, Eveandboy, Konvy, Lazada, Shopee.
• ช่วงราคา: หลักร้อยต้นๆ (ประมาณ 1xx - 2xx บาท).
• รีวิว: "เซนกะตัวนี้เช็ดสะอาดดีค่ะ หน้านุ่มๆ ไม่แห้งเอี๊ยด" - ผู้ใช้ใน Jeban. "ชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่นดี" - นักเรียน.

10. Sasi Acne Sol Micellar Cleansing Water

แบรนด์ไทย ในเครือศรีจันทร์ ที่ทำผลิตภัณฑ์คุณภาพดีในราคาเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์วัยรุ่นและคนไทย.

• สินค้ารุ่นเด่น: Acne Sol Micellar Cleansing Water.
• จุดเด่น: ราคาถูกและดีมาก!. ออกแบบมาสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ. ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกและความมันที่อาจเป็นสาเหตุของสิว. หาซื้อง่ายมากๆ โดยเฉพาะใน 7-Eleven.
• ข้อเสีย: อาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกสภาพผิวเท่าแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มีหลายสูตรให้เลือก.
• เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่มีงบจำกัดและมีปัญหาสิวเล็กน้อย ถึงปานกลาง ที่ต้องการคลีนซิ่งราคาถูกแต่ช่วยเรื่องสิวได้.
• ช่องทางซื้อ: 7-Eleven, Watsons, Eveandboy, Tops, Big C, Lazada, Shopee.
• ช่วงราคา: หลักสิบปลายๆ ถึงหลักร้อยต้นๆ (ประมาณ 5x - 1xx บาท).
• รีวิว: "ถูกและดีมีอยู่จริง! สาคิ ช่วยเรื่องสิวได้ดีเกินคาดเมื่อเทียบกับราคา" - ผู้ใช้ใน Twitter. "ขวดเล็กพกพาสะดวก ซื้อจาก 7-11 ได้เลย" - นักเรียนมัธยม.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: ระหว่าง Micellar Water กับ Cleansing Oil/Balm อันไหนดีกว่ากันคะ?
A: แล้วแต่การใช้งานเลยครับ! Micellar Water จะเบาบาง เหมาะกับวันแต่งหน้าเบาๆ ทากันแดด หรือใช้เป็นขั้นตอนแรกก่อนล้างโฟม. ส่วน Cleansing Oil หรือ Balm จะเหมาะกับวันแต่งหน้าแน่นๆ จัดเต็ม เพราะเนื้อออยล์จะช่วยละลายเมคอัพกันน้ำได้ดีกว่า โดยไม่ต้องใช้สำลีช่วยลดการเสียดสี.

Q: ใช้ Micellar Water แล้วต้องล้างโฟมตามไหมคะ?
A: แนะนำให้ล้างโฟมตามครับ! หรือที่เรียกว่า Double Cleansing การใช้ Micellar Water เป็นแค่ขั้นตอนแรกเพื่อเช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ชั้นบนออกก่อน แล้วตามด้วยโฟมล้างหน้าเพื่อทำความสะอาดผิวให้หมดจดจริงๆ จะช่วยลดโอกาสการอุดตันและปัญหาสิวได้ดีกว่า.

Q: ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวอุดตัน ควรเลือก Micellar Water สูตรไหนดี?
A: มองหาสูตรที่ระบุว่า "สำหรับผิวแพ้ง่าย" "Non-comedogenic" (ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน) และ "ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน". แบรนด์เวชสำอางอย่าง Bioderma, Eucerin, La Roche-Posay หรือแบรนด์ไทยที่เน้นอ่อนโยนอย่าง MizuMi, Plantnery ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ.

Q: ซื้อ Micellar Water ใน Lazada/Shopee ของปลอมเยอะไหม?
A: ต้องระวังครับ! แม้ส่วนใหญ่จะเป็นของแท้ แต่ก็มีโอกาสเจอของปลอมได้ โดยเฉพาะร้านที่ไม่ใช่ Official Store หรือร้านที่ราคาถูกผิดปกติ. ทางที่ดีควรซื้อจากร้านที่เป็นทางการ ตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ หรือร้านค้าในห้างสรรพสินค้า/ร้าน drug store ใหญ่ๆ จะปลอดภัยกว่าครับ หรือถ้าซื้อออนไลน์ ให้เลือกร้านที่มีรีวิวดีๆ และเป็น LazMall หรือ Shopee Mall ไปเลยครับ.

Q: Micellar Water ช่วยลดสิวได้จริงเหรอคะ?
A: Micellar Water ไม่ได้รักษาสิวโดยตรงครับ แต่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้! เพราะการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด โดยเฉพาะการเช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันรูขุมขนออกไปก่อน เป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันการเกิดสิว. ถ้าเลือกสูตรที่มีส่วนผสมช่วยลดแบคทีเรีย หรือควบคุมความมัน ก็ยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาสิวครับ.

สรุปและคำแนะนำ: เลือก Micellar Water ให้ใช่ ในสไตล์เรา!

เห็นไหมครับว่า Micellar Water มีให้เลือกเยอะจริงๆ แต่ละแบรนด์ แต่ละสูตรก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากรู้จักสภาพผิวและความต้องการของตัวเองก่อนครับ:

• ถ้า ผิวมัน เป็นสิวง่าย และเน้น ราคาประหยัด ลองดู Garnier สูตรสีฟ้า, NIVEA สูตร Acne Care, Plantnery หรือ Sasi ครับ.
• ถ้า ผิวแพ้ง่าย บอบบางมากๆ และต้องการความอ่อนโยนขั้นสุด แนะนำ Bioderma, Eucerin หรือ MizuMi ครับ.
• ถ้าเน้น ทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำ ได้ดีในราคาเป็นมิตร ลอง NIVEA สูตร Expert (สีเหลือง) หรือ MizuMi ครับ.
• ถ้ามองหาคลีนซิ่ง Micellar Water จากญี่ปุ่น ที่ฮิตและมีหลายสูตร ตอบโจทย์หลายสภาพผิว ลอง Bifesta หรือ Senka ครับ.
• ถ้าเน้น เวชสำอาง ที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย แนะนำ Eucerin หรือ La Roche-Posay ครับ.

สิ่งสำคัญที่สุดคือการ ทดสอบอาการแพ้ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่เสมอ โดยลองทาที่ท้องแขนหรือหลังใบหูเล็กน้อย ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาการแพ้ คัน แดง ก็ถือว่าใช้กับหน้าได้ครับ และอย่าลืมว่าการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นแค่ขั้นตอนแรกของการดูแลผิว การบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่เหมาะกับเรา และการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันก็สำคัญมากๆ นะครับ โดยเฉพาะแดดเมืองไทยที่ร้อนแรง!

มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อย!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ Micellar Water ตัวไหนอยู่บ้าง หรือเคยลองตัวไหนแล้วชอบ/ไม่ชอบ มาคอมเมนต์บอกต่อกันหน่อยสิครับ! แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะ หรือมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Micellar Water ถามมาได้เลยครับ 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นเด็ดๆ ที่หาซื้อง่ายๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมไปรวบรวมมาให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวคลีนซิ่งวอเตอร์: ทำความสะอาดเครื่องสำอางอย่างอ่อนโยน
• คลีนซิ่งน้ำนมสำหรับคนผิวแห้งและขี้เกียจเช็ดเครื่องสำอาง
• รีวิวคลีนซิ่งไมเซลล่าตัวช่วยลดสิวที่คุณต้องมี!
• รีวิวคลีนซิ่งออยล์ Anua สะอาดหมดจดและบำรุงผิว |
• แนะนำป้ายยาคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน