รีวิว Curesys Trouble Clear Serum: เซรั่มรักษาสิว ลดรอยสิว ได้ผลจริงไหม?

ฮัลโหลลลลทุกคนนนน! ใครกำลังประสบปัญหา "สิวบุก" หรือ "รอยสิวเต็มหน้า" เหมือนเพิ่งไปรบที่ไหนมาบ้างยกมือขึ้นนน! บอกเลยว่าเข้าใจหัวอกคนเป็นสิวสุดๆ มองกระจกทีไรก็ท้อใจ อยากได้หน้าใสๆ ไร้สิว ไร้รอยเหมือนคนอื่นเขาบ้างอ่ะเนอะ

วันนี้เลยจะมาขอรีวิวไอเทมที่เคลมว่าช่วยเรื่องสิวๆ ได้ดี๊ดี นั่นก็คือ Curesys Trouble Clear Serum ที่เห็นรีวิวในโซเชียลเยอะมากกกก จนอดใจไม่ไหว ต้องขอสอยมาลองพิสูจน์เองสักตั้ง! ว่าจะช่วยกู้หน้าพังๆ ของเราให้กลับมาปังได้จริงไหม ลดสิว ลดรอยได้เห็นผลรึเปล่า ตามมาดูกันแบบไม่มีกั๊กเลยจ้า

1. ภาพรวมของ Curesys Trouble Clear Serum: น้องคือใคร มาจากไหน?

มาทำความรู้จักน้องเซรั่มขวดนี้กันก่อน เขาเป็นของแบรนด์ Curesys เป็นเวชสำอางจากประเทศเกาหลี ที่เขาบอกว่าพัฒนาร่วมกับห้องแล็บที่อังกฤษด้วยนะ ฟังดูน่าเชื่อถือป่ะล่ะ?

แบรนด์: Curesys

ชื่อสินค้า: Trouble Clear Serum

ช่วงราคา: เห็นมีหลายราคาเลยนะ ส่วนใหญ่จะเจอประมาณ 490 - 990 บาท แล้วแต่โปรโมชั่นและแหล่งที่ซื้อ

ตำแหน่งในตลาด: เป็นเซรั่มที่เน้นเรื่องการดูแลปัญหาสิวโดยเฉพาะ เหมาะกับคนที่มีปัญหาสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ และมีรอยสิว รวมถึงคนที่มีรูขุมขนกว้าง

จุดเด่นที่เคลมไว้:

• ช่วยลดสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ
• ลดรอยแดง รอยดำจากสิว
• ปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง
• ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำ
• เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว
• ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง (เหมาะกับผิวแพ้ง่าย)

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ขวดน่ารักน่าใช้

แพ็กเกจมาในขวดสีขาวมินิมอลดูคลีนๆ ขนาดกำลังดี ถือถนัดมือ

วัสดุ: ขวดเป็นแก้ว หัวปั๊มใช้งานง่าย มีฝาครอบใสๆ มาให้ด้วย

ขนาด: ส่วนใหญ่ที่ขายในไทยจะเป็นขนาด 30 ml

เนื้อสัมผัส: เนื้อเซรั่มเป็นแบบเจลใสๆ ออกสีฟ้าอ่อนๆ นิดหน่อย เนื้อบางเบามากๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย

กลิ่น: มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แนวสมุนไพรๆ ให้ความรู้สึกคลีนๆ สดชื่นดี

รวมๆ แล้วคือดีไซน์น่ารัก วางบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วดูดี หัวปั๊มก็กะปริมาณใช้ง่าย

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ลองใช้แล้วเป็นไงบ้าง?

อ่ะ มาถึงช่วงสำคัญสุด คือลองใช้จริง! บอกเลยว่าช่วงที่ลองนี่สิวบุกพอดี ทั้งสิวอักเสบเม็ดเป้ง สิวผดเล็กๆ แล้วก็มีรอยแดงๆ จากสิวเก่า คือหน้าคือไม่ไหวแล้วจ้า

ใช้เซรั่มตัวนี้เช้า-เย็น หลังเช็ดโทนเนอร์ ก็กดมาประมาณ 2-3 ปั๊ม ทาทั่วหน้าเลย

ความรู้สึกตอนทา: เนื้อเซรั่มบางเบามากกกก ทาแล้วซึมหายไปกับผิวเลย สบายผิวสุดๆ ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้เลย คนผิวมันน่าจะเลิฟสิ่งนี้

ผลลัพธ์หลังจากใช้ไปเรื่อยๆ:

• สิวอักเสบ: รู้สึกว่ามันค่อยๆ ยุบลงนะ ไม่ได้แบบยุบข้ามคืนเป๊ะๆ แต่ก็เห็นได้ว่าอาการอักเสบลดลง
• สิวผด/สิวอุดตัน: อันนี้เห็นผลค่อนข้างไวเลย สิวผดเล็กๆ ที่ชอบขึ้นช่วงหน้าผากกับคางคือค่อยๆ ลดลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• รอยแดง: รอยแดงๆ หลังสิวยุบดูจางลงไวขึ้นนะ คือปกติรอยแดงจะอยู่นานมาก แต่อันนี้เหมือนช่วยให้มันเฟดไวขึ้นนิดหน่อย ส่วนรอยดำยังไม่เห็นผลชัดเจนเท่าไหร่ อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้

เขาเคลมว่าเห็นผลใน 14 วัน ซึ่งจากการใช้ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวในช่วงนั้นจริง

4. ใช้งานง่ายไหม? ผิวแพ้ง่ายใช้ได้รึเปล่า?

เรื่องความง่ายในการใช้คือให้เต็มสิบ! แค่กดปั๊มแล้วทา ไม่ยุ่งยากเลย เนื้อเซรั่มซึมไว แต่งหน้าต่อก็ไม่เป็นคราบ ไม่รบกวนสกินแคร์ตัวอื่นที่ใช้ตาม

ส่วนเรื่องผิวแพ้ง่าย เขาเคลมว่าผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งส่วนตัวเป็นคนผิวค่อนข้างแพ้ง่าย แต่ใช้ตัวนี้แล้วไม่รู้สึกแสบ ไม่คัน ไม่มีอาการแพ้ใดๆ เลยนะ คิดว่าคนผิวแพ้ง่ายน่าจะลองใช้ได้สบายๆ

กลิ่นหอมอ่อนๆ ก็ไม่ได้ฉุนจนเวียนหัว สบายจมูกดี

5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ลงทุนกับน้องดีไหม?

ราคาเซรั่มขวด 30 ml อยู่ในช่วง 490 - 990 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับเซรั่มรักษาสิวตัวอื่นๆ ในตลาดก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่ได้แพงหูฉี่ แต่ก็ไม่ใช่ถูกจ๋า

ขวด 30 ml ใช้เช้า-เย็น ครั้งละ 2-3 ปั๊ม คิดว่าน่าจะใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือน แล้วแต่ปริมาณที่ใช้นะ

ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ คือช่วยให้สิวลดลง รอยแดงจางไวขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้น ถือว่า "คุ้มค่า" เลยนะ เพราะถ้าปล่อยให้สิวเห่อหนักๆ อาจจะต้องเสียเงินไปหาหมอ หรือซื้อยาแต้มสิวที่แพงกว่านี้ก็ได้

แถมการที่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำในระยะยาว ก็เหมือนเป็นการลงทุนเพื่อผิวที่ดีในอนาคตด้วย

6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีอะไรต้องรู้บ้าง?

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:

• ช่วยลดสิวได้จริง! โดยเฉพาะสิวผด สิวอุดตัน เห็นผลไว
• เนื้อบางเบา ซึมไวมาก ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ
• อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย ใช้แล้วไม่แสบ ไม่คัน ไม่ระคายเคือง
• ช่วยลดรอยแดงได้ดี ทำให้รอยสิวจางลงไวขึ้น
• หาซื้อง่าย มีขายตามร้านวัตสัน, Konvy, Lazada, Shopee

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

• ราคากลางๆ ค่อนไปทางสูงนิดหน่อย ถ้าเทียบกับเซรั่มใน Drugstore ทั่วไป
• เรื่องรอยดำอาจจะเห็นผลช้า หรือต้องใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น
• ปริมาณ 30 ml อาจจะหมดไวถ้าใช้เยอะ
• ผลลัพธ์เรื่องสิวอักเสบอาจจะไม่ได้ปุบปับ เท่าพวกยาแต้มสิวเฉพาะจุด

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรตำ?

เซรั่มตัวนี้เหมาะกับ:

• คนที่กำลังมองหาเซรั่มตัวแรกที่ช่วยเรื่องสิวและรอยสิว
• คนที่มีปัญหาสิวไม่หนักมาก เช่น สิวผด สิวอุดตัน หรือสิวอักเสบที่ไม่ได้เห่อเต็มหน้า
• คนที่ผิวแพ้ง่าย แต่อยากใช้เซรั่มรักษาสิวที่ไม่ทำให้ระคายเคือง
• คนที่อยากได้เซรั่มที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำ
• นักเรียน นักศึกษา หรือวัยทำงานที่อยากมีผิวใสในราคาที่จับต้องได้ (ถ้าซื้อตอนโปรฯ)

ควรซื้อเลยไหม?

ถ้ามีปัญหาสิวตามที่บอกมา แล้วกำลังหาเซรั่มที่อ่อนโยนแต่เห็นผล ควรลองเลย!

แต่ถ้าอยากได้ราคาดีๆ แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นตามแอปส้ม แอปฟ้า หรือร้านวัตสัน มักจะมีลดราคา หรือมีของแถมคุ้มๆ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้)

ถ้าเทียบกับเซรั่มรักษาสิวตัวดังอื่นๆ ในตลาดไทย อย่าง Clear Nose หรือ MizuMi ตัว Curesys จะเด่นเรื่องความอ่อนโยนมากๆ และช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงได้ดี

ในขณะที่บางแบรนด์อาจจะเน้นเรื่องการผลัดเซลล์ผิวที่เข้มข้นกว่า (ซึ่งอาจจะทำให้ระคายเคืองได้มากกว่า) หรือบางแบรนด์อาจจะเน้นเรื่องการปลอบประโลมอย่างเดียวแต่ไม่เน้นการลดสิว

Curesys เหมือนอยู่ตรงกลาง คือทั้งช่วยลดสิว ลดรอย และปลอบประโลมผิวในขวดเดียว และเหมาะกับผิวแพ้ง่ายด้วย

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ช้อปง่าย มีโปรเพียบ!

ไม่ต้องกลัวเรื่องการรับประกันสินค้าสำหรับสกินแคร์เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีแบบเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ถ้าสินค้ามีปัญหาจากการผลิต หรือแพ้ สามารถลองติดต่อร้านค้าที่ซื้อ หรือแบรนด์โดยตรงเพื่อสอบถามเรื่องการเปลี่ยน/คืนสินค้าได้

ช่องทางการซื้อ: หาซื้อง่ายมากกกก มีตามร้าน Drugstore ชั้นนำอย่าง Watsons, Eveandboy, Beautrium และในช่องทางออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada, Shopee, Konvy

โปรโมชั่น: บอกเลยว่าแบรนด์นี้เขาขยันจัดโปรมาก! ทั้งในแอปส้ม แอปฟ้า หรือตามร้านออฟไลน์ ชอบมีลดราคาบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ หรือช่วง Payday บางร้านมีโค้ดส่วนลดเพิ่ม มีเงินคืน มีผ่อนชำระ 0% ด้วยนะ เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม!

การจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ ปกติก็ส่งไวอยู่แล้วค่ะ ในกรุงเทพฯ วันเดียวถึงก็มี ต่างจังหวัดก็ประมาณ 1-3 วัน แล้วแต่ร้านและบริษัทขนส่ง ค่าส่งส่วนใหญ่มักจะมีโปรฯ ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้ว...น่าซื้อไหม?

จากที่ลองใช้เองและดูข้อมูลมาทั้งหมด ขอสรุปตรงนี้เลยว่า Curesys Trouble Clear Serum เป็นเซรั่มรักษาสิวและลดรอยสิวที่น่าสนใจและน่าลองใช้มาก!

แนะนำให้ซื้อ! โดยเฉพาะถ้าคุณ:

• มีปัญหาสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลาง
• มีรอยแดงจากสิวที่อยากให้จางไวๆ
• ผิวแพ้ง่าย แต่ยังอยากใช้เซรั่มที่ช่วยเรื่องสิว
• มองหาเซรั่มเนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ
• อยากลงทุนกับสกินแคร์ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• สำหรับผู้เริ่มต้น: ถ้าไม่เคยใช้เซรั่มรักษาสิวมาก่อน ตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เพราะอ่อนโยน ใช้ไม่ยาก
• สำหรับคนงบน้อย: แนะนำให้รอซื้อช่วงโปรโมชั่น จะได้ราคาดีงามสุดๆ
• สำหรับคนที่มีสิวอักเสบหนักๆ: ตัวนี้ช่วยได้ แต่ถ้าสิวเห่อมาก หรือเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ อาจจะต้องใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ หรือปรึกษาคุณหมอผิวหนังร่วมด้วยนะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของเพื่อนๆ นะคะ ใครเคยใช้น้อง Curesys Trouble Clear Serum แล้วเป็นยังไงบ้าง มาเม้าท์มอย แชร์ประสบการณ์กันได้เลยน้าาา!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เซรั่มลดปัญหาสิวจาก Curesys ทำให้สิวยากขึ้น
• CURESYS เซรั่มลดสิวจากเกาหลี การันตีจากรีวิวผู้ใช้จริง | รีวิวเพียบ ...
• Curesys Trouble Clear Serum 490.- | สิวบุกต้องลอง!! ไม่ว่าจะสิว ...
• เจลแต้มสิว Curesys ช่วยลดอักเสบและรอย สิว
• เคลียร์สิววววด้วยเคียวร์ซิส~ 🌿✨ ตัวนี้ยุบไวเริ่ดๆ สารสกัดแน่น เนื้อเป...