รีวิวลำโพง Bose SoundLink Color II เสียงดี พกพาง่าย

โอยยย! แดดเมืองไทยมันร้อนแทบไหม้ ออกไปข้างนอกก็เสี่ยงเจอรถติด ไหนจะฝุ่น PM2.5 อีก! นั่งชิลล์ๆ อยู่บ้านเปิดเพลงฟังเพลินๆ นี่แหละสวรรค์! แต่จะฟังจากมือถือเสียงก็แห้งแล้งเหมือนทะเลทรายซาฮารา จะแบกลำโพงบ้านตัวใหญ่ไปตั้งในครัว ตอนอาบน้ำ หรือออกไปนั่งตากลมหน้าบ้านก็ไม่สะดวกเอาซะเลย

วันนี้เลยอยากจะมาป้ายยา เอ้ย! มารีวิวลำโพงจิ๋วแต่แจ๋ว พกพาง่าย เสียงดีเกินตัว ที่บอกเลยว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยสุดๆ นั่นก็คือ Bose SoundLink Color II นั่นเองค่าาา! ตัวนี้มันดีจริงไหม? ซื้อมาแล้วจะคุ้มมั้ย? มาดูกันแบบไม่กั๊ก!

1. ภาพรวม: รู้จักเจ้าจิ๋วแต่แจ๋ว Bose SoundLink Color II

แบรนด์: Bose (แค่ชื่อก็รู้ว่าเรื่องเสียงเขาไม่ธรรมดา!)

รุ่น: SoundLink Color II

เปิดตัว: ตั้งแต่ปี 2016 นู่นนน แต่ความเก๋ายังอยู่!

ช่วงราคา: ประมาณ 4,000 – 6,000 บาท (ราคาอาจมีขึ้นมีลงแล้วแต่โปรโมชั่นนะจ๊ะ)

ตำแหน่งในตลาด: ลำโพงบลูทูธพกพาระดับกลาง เน้นคุณภาพเสียงที่ดี พกพาง่าย และความทนทาน เหมาะกับคนที่อยากได้ลำโพงคู่ใจไปได้ทุกที่

จุดเด่นคร่าวๆ ที่ต้องรู้:

• เสียงดี มีเบสแน่นๆ: ถึงจะตัวเล็ก แต่เสียงไม่เล็กนะจ๊ะ!
• กันน้ำได้ IPX4: สาดน้ำสงกรานต์ไม่กลัว เปียกฝนก็ไม่หวั่น!
• พกพาง่าย: ขนาดกำลังดี น้ำหนักเบา หยิบใส่กระเป๋าไปได้เลย
• แบตอึด: ฟังเพลงต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง
• มีไมโครโฟนในตัว: รับสายโทรศัพท์ได้ด้วย

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สีสันสดใส พกพาง่ายเหมือนลูกอม

เห็นครั้งแรกคือ "น่ารักจัง!" ดีไซน์โค้งมน ขนาดกระทัดรัดเหมือนก้อนหินเคลือบยาง สีสันสดใสมาก มีให้เลือกหลายสีเลย ทั้งดำ ขาว น้ำเงิน แดง ฟ้าอมเขียว (เรียกยากจริงๆ สีนี้!) วัสดุเป็นซิลิโคนนุ่มๆ จับถนัดมือ ไม่ลื่น แถมยังช่วยกันกระแทกได้นิดหน่อยด้วย

ขนาด: 13.4 x 12.7 x 5.6 ซม. (กะทัดรัดกำลังดี)

น้ำหนัก: 0.54 กก. (เบาพอๆ กับข้าวกะเพราไข่ดาว 1 จาน!)

สีที่มีให้เลือก: Black, White, Blue, Red, Teal (สีฟ้าน้ำทะเล)

ความสะดวกในการพกพา: บอกเลยว่าสุด! ใส่กระเป๋าเป้ กระเป๋าสะพาย หรือจะห้อยไว้ข้างกระเป๋าก็ได้ (มีห่วงเล็กๆ ให้คล้องด้วยนะ) เหมาะมากสำหรับพกไปเที่ยว ไปปิกนิกริมทะเล หรือจะพกไปเปิดเพลงฟังในห้องน้ำตอนอาบน้ำฟินๆ ก็ย่อมได้ (เพราะกันน้ำไง!)

เหมาะกับวางไว้ที่ไหนในบ้าน: วางตรงไหนก็ได้หมดแหละ! โต๊ะทำงาน หัวเตียง ในครัว ในห้องน้ำ มุมโปรดริมหน้าต่าง ได้หมดถ้าสดชื่น เพราะดีไซน์สวย ไม่เกะกะ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง:

• ตัวลำโพง Bose SoundLink Color II
• สายชาร์จ USB (แบบ Micro USB นะ ไม่ใช่ Type-C แอบเสียดายนิดๆ)
• คู่มือการใช้งาน (ภาษาไทยก็มีนะ ไม่ต้องกลัว!)

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เสียงดี เบสมาเต็ม!

เรื่องเสียงนี่คือจุดเด่นของ Bose เลย! ถึงตัวจะเล็ก แต่เสียงที่ออกมานี่เกินคาดมาก โดยเฉพาะเสียงเบส! มาเป็นลูกๆ ฟังเพลงสนุกๆ นี่โยกหัวตามได้เลย เสียงกลางก็ชัดเจน เสียงแหลมก็ใส ไม่บาดหู มิติเสียงดีกว่าลำโพงบลูทูธตัวเล็กๆ ทั่วไปเยอะมาก ลองเปิดเพลงหลายๆ แนว ทั้งป๊อป ร็อก EDM ลูกทุ่ง หมอลำ คือฟังได้หมด เข้าถึงอารมณ์เพลงได้ดี

การเชื่อมต่อ: เชื่อมต่อง่ายมาก แค่เปิดบลูทูธในมือถือ แล้วกดปุ่มบลูทูธที่ลำโพง แป๊บเดียวก็เจอ! มีเสียงบอกสถานะเป็นภาษาอังกฤษด้วย หรือจะเชื่อมต่อผ่านแอป Bose Connect ก็ได้

ทดสอบในสถานการณ์จริง:

• ฟังเพลงชิลล์ๆ ที่บ้าน: เปิดคลอๆ ตอนทำงานบ้าน ทำอาหาร หรือนั่งอ่านหนังสือ เสียงเต็มห้องดีมาก
• พกไปเที่ยวทะเล: วางไว้บนหาดทราย เปิดเพลงฟังตอนพระอาทิตย์ตก คือฟินสุดๆ (แอบเปียกน้ำทะเลนิดหน่อยก็เช็ดออก สบายใจ!)
• เปิดเพลงแดนซ์ในปาร์ตี้เล็กๆ: เสียงดังพอตัว เอาอยู่กับแก๊งเพื่อน 4-5 คนนะ
• ฟัง Podcast/ดูหนัง: เสียงพูดชัดเจนดี เบสแน่นๆ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูหนังได้ด้วย

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใช้ง่ายเวอร์!

บอกเลยว่าตัวนี้ใช้ง่ายมาก! ไม่ต้องเป็นเซียน gadget ก็ใช้ได้ ปุ่มควบคุมมีแค่ไม่กี่ปุ่มบนตัวลำโพง กดง่าย เห็นชัดเจน

ปุ่มควบคุม:

• ปุ่ม Power (เปิด/ปิด)
• ปุ่ม Volume (เพิ่ม/ลดเสียง)
• ปุ่ม Multi-function (เล่น/หยุดเพลง, ข้ามเพลง, ย้อนกลับ, รับสาย/วางสาย)
• ปุ่ม Bluetooth (เชื่อมต่อบลูทูธ)

มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และสถานะการเชื่อมต่อให้ดูด้วย

แอป Bose Connect: มีแอปให้โหลดมาใช้ด้วยนะ เชื่อมต่อลำโพงได้หลายตัวพร้อมกัน (โหมด Party) หรือจะตั้งค่า เปิด/ปิดเสียงแจ้งเตือน อัปเดตเฟิร์มแวร์ก็ได้ แอปใช้งานง่าย หน้าตาสวยงาม

เสียงดังมั้ย: ดังพอตัวเลยค่ะ เปิดสุดนี่ฟังได้ยินทั้งบ้าน (ถ้าบ้านไม่ใหญ่มากนะ)

ร้อนเร็วมั้ย: ใช้ต่อเนื่องนานๆ ก็มีอุ่นๆ บ้าง แต่ไม่ถึงกับร้อนจี๋จนน่ากลัว

รองรับภาษาไทยมั้ย: ตัวลำโพงเป็นเสียงแจ้งเตือนภาษาอังกฤษ แต่แอป Bose Connect รองรับภาษาไทยนะจ๊ะ!

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: อึดพอตัว ชาร์จง่าย

แบตเตอรี่ของ Bose SoundLink Color II เคลมว่าใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง จากที่ลองใช้จริงก็ประมาณนั้นค่ะ ถ้าเปิดเสียงดังปานกลางก็อยู่ได้เกือบๆ วัน ถ้าเปิดเสียงเบาๆ ก็ยาวไปๆ

ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง: สูงสุด 8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับระดับเสียงและเนื้อหาที่เปิด)

ความเร็วในการชาร์จ: ชาร์จจาก 0% ถึงเต็ม ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (ใช้สาย Micro USB ที่แถมมา)

ความคุ้มค่า: ด้วยคุณภาพเสียงที่ได้ วัสดุที่ดูดี ทนทาน และกันน้ำได้ ถือว่าคุ้มค่ากับราคาในช่วง 4-6 พันบาทนะ ถ้าเทียบกับลำโพงบลูทูธแบรนด์อื่นๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน คุณภาพเสียงของ Bose ยังคงเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจ

6. สรุปข้อดีข้อเสีย: มาดูกันว่ามีอะไรน่าโดน ไม่น่าโดนบ้าง

ข้อดี:

• เสียงดีมาก! โดยเฉพาะเสียงเบสแน่นๆ ฟังสนุก
• พกพาง่ายสุดๆ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา หยิบไปได้ทุกที่
• กันน้ำได้ IPX4 ไม่ต้องกลัวเปียก สาดน้ำได้สบายใจ (แต่อย่าเอาไปจุ่มน้ำทั้งตัวนะ!)
• วัสดุดี ทนทาน ดูแข็งแรง ไม่ก๊องแก๊ง
• ดีไซน์สวย สีสันสดใส เลือกสีได้ตามสไตล์
• แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร

ข้อเสีย:

• ยังใช้พอร์ต Micro USB ไม่ใช่ USB-C ที่เป็นมาตรฐานใหม่แล้ว
• เสียงอาจจะไม่ใสเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับลำโพงที่เน้นเสียงกลาง-แหลมมากๆ
• ราคาสูงกว่าลำโพงบลูทูธตัวเล็กๆ ทั่วไป
• ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Stereo Pairing กับลำโพงรุ่นอื่นของ Bose (บางรุ่นทำได้)

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีมั้ย?

เหมาะกับ:

• คนที่ชอบฟังเพลงสนุกๆ เน้นเบสแน่นๆ
• คนที่มองหาลำโพงบลูทูธสำหรับพกพาไปข้างนอกบ่อยๆ เช่น เที่ยวทะเล ปิกนิก ตั้งแคมป์
• คนที่อยากได้ลำโพงคุณภาพดี ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
• คนที่อยากได้ลำโพงคู่ใจไปเปิดฟังในห้องน้ำตอนร้องคาราโอเกะ!
• คนที่มองหาของขวัญให้เพื่อน ให้แฟน หรือให้ตัวเองช่วงเทศกาลต่างๆ

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: ฟังเพลงในบ้าน นอกบ้าน ริมสระน้ำ ฟัง Podcast ดูหนัง

ควรซื้อเลยไหม? ถ้ากำลังมองหาลำโพงบลูทูธคุณภาพดี พกพาง่าย เสียงดี เน้นเบส และอยู่ในงบประมาณนี้ ซื้อเลยก็คุ้มนะ! ยิ่งถ้าเจอช่วงโปรโมชั่นลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลด ยิ่งน่าสอยสุดๆ ไปเลย!

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: ตัวอื่นเป็นไงบ้าง?

ในตลาดลำโพงบลูทูธราคาใกล้เคียงกันก็มีหลายแบรนด์เลยนะ ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Bose SoundLink Color II ก็น่าจะเป็นพวก JBL Flip series หรือ Sony XB series ซึ่งแต่ละตัวก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป

• JBL Flip: มักจะเน้นดีไซน์วัยรุ่น สีสันจัดจ้าน กันน้ำได้ดีกว่า (บางรุ่นกันน้ำลึกได้เลย) เสียงก็ดี แต่คาแรคเตอร์เสียงอาจจะต่างกับ Bose
• Sony XB (Extra Bass): ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเน้นเบสหนักๆ บางรุ่นมีไฟกระพริบตามจังหวะเพลง เหมาะกับสายปาร์ตี้

ถ้าชอบเสียงสไตล์ Bose ที่มีความเป็นธรรมชาติของเครื่องดนตรีมากกว่า แต่ก็ยังมีเบสที่ฟังสนุก SoundLink Color II ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ค่ะ

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี? มีประกันไหม?

Bose เป็นแบรนด์อินเตอร์ที่มีชื่อเสียง เรื่องบริการหลังการขายค่อนข้างไว้ใจได้ค่ะ สินค้าที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยมักจะมีการรับประกัน อย่างน้อย 1 ปี ถ้ามีปัญหาก็สามารถนำไปเคลมที่ศูนย์บริการได้

ช่องทางการซื้อยอดนิยม:

• ออนไลน์: Shopee, Lazada, JD Central (ช่วงนี้ JD Central อาจจะกำลังปรับโครงสร้าง ลองเช็คข่าวสารก่อนนะ), ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Bose หรือตัวแทนจำหน่ายบนแพลตฟอร์มเหล่านี้
• ออฟไลน์: ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า ร้านขายเครื่องเสียงชั้นนำ

โปรโมชั่น: แนะนำให้ลองเช็คราคาตามช่องทางออนไลน์ช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น 11.11, 12.12, Pay Day, หรือช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มต่างๆ มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา, โค้ดส่วนลด, ส่วนลดจากบัตรเครดิต, หรือมีของแถมด้วยนะ! บางร้านมีผ่อนชำระ 0% ด้วย

ระยะเวลาการจัดส่งและค่าจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ ระยะเวลาการจัดส่งก็แล้วแต่ผู้ขายและพื้นที่ ส่วนใหญ่ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลก็ไวหน่อย 1-2 วันก็ได้ของแล้ว ส่วนค่าจัดส่งก็แล้วแต่โปรโมชั่น บางร้านอาจจะมีส่งฟรีให้ด้วย!

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

สรุปเลยว่า Bose SoundLink Color II เป็นลำโพงบลูทูธที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ชอบฟังเพลงที่เน้นเบสแน่นๆ ฟังสนุก
• ต้องการลำโพงที่พกพาง่าย ไปได้ทุกที่
• มองหาลำโพงที่กันน้ำได้ในระดับนึง
• ชอบแบรนด์ Bose ที่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพเสียง

รุ่นนี้ เหมาะสำหรับคุณ!

ถ้าเทียบกับราคาและคุณภาพเสียงที่ได้ รวมถึงความสะดวกในการพกพาและความทนทาน ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ แนะนำให้ลองไปฟังเสียงจริงตามร้านค้าก่อนตัดสินใจซื้อนะ จะได้รู้ว่าชอบคาแรคเตอร์เสียงของ Bose รึเปล่า

แต่ถ้าคุณเน้นเสียงกลางแหลมมากๆ อยากได้เบสแบบนุ่มๆ ไม่กระแทกมาก หรืออยากได้ลำโพงที่เชื่อมต่อหลายๆ ตัวแบบ Stereo ได้ อาจจะต้องพิจารณารุ่นอื่น หรือแบรนด์อื่นดูนะจ๊ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ใครใช้รุ่นนี้อยู่ หรือมีคำถามเพิ่มเติม มาเมนต์บอกกันได้เลยนะจ๊ะ! ✨🎧

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• พรีวิว : Bose Soundlink Color II ภาค 2 ของลำโพงผู้เน้นสีสัน
• พรีวิว : Bose Soundlink Color II ภาค 2 ของลำโพงผู้เน้นสีสัน | หน้า ...
• รีวิว : ลำโพงพกพา บลูทูธ Bose SoundLink Color BLUETOOTH ...
• รีวิว Bose SoundLink Flex 2nd Gen เสียงดี ทนทาน พกพาสะดวก ...
• รีวิว Bose SoundLink Flex 2nd Gen เสียงดี ทนทาน พกพาสะดวก ...