รีวิว สกินแคร์น่าใช้แห่งปี 2018: ตัวไหนเด็ด ตัวไหนดัง?


ย้อนเวลาหาเรื่องผิว! ใครยังจำปี 2018 ได้บ้างงง? ปีนั้นสกินแคร์ตัวไหนฮิต ตัวไหนเดินไปไหนก็เจอแต่คนพูดถึง วันนี้เราจะมาปัดฝุ่นกรุสกินแคร์แห่งปี 2018 ที่เคยโด่งดังเป็นพลุแตก มารีวิวให้ฟังอีกทีว่าทำไมพวกนางถึงได้ใจคนไทยไปครอง! เตรียมตัวย้อนยุคกลับไปดูว่าตัวไหนเคยเป็นลูกรักของคุณหรือเปล่า แล้วปีนั้นมีไอเทมอะไรที่พลาดไปบ้างนะ?
1. ภาพรวมสินค้า: สกินแคร์ตัวท็อปแห่งปี 2018 ที่ต้องรู้จัก!
ปี 2018 เป็นปีที่ตลาดสกินแคร์บ้านเราคึกคักสุดๆ นอกจากแบรนด์เคาน์เตอร์ที่ยังยืนหนึ่งแล้ว เวชสำอางจากฝั่งยุโรปและสกินแคร์สายเกาหลี เกาใจก็มาแรงแซงโค้งไม่หยุด! เทรนด์หลักๆ ในปีนั้นคือเน้นส่วนผสมที่เห็นผลจริงจัง แก้ปัญหาผิวได้ตรงจุด ทั้งเรื่องสิว รอยดำ รอยแดง ผิวแพ้ง่าย และเริ่มมีกระแสส่วนผสมเฉพาะอย่าง Niacinamide, BHA เข้ามามากขึ้น และแน่นอนว่า "ผิวใส Glass Skin" แบบสาวเกาหลียังคงเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวไทยหลายๆ คน
วันนี้เราขอหยิบยกตัวเด็ดที่เคยเป็นกระแสแรงมากในปีนั้นมาเม้าท์ให้ฟัง:
- Garnier Micellar Cleansing Water (สูตรสีชมพู/ฟ้า) - คลีนซิ่งวอเตอร์ตัวฮิต ราคาน่ารัก ใครๆ ก็ใช้
- The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% - เซรั่มกู้ผิวเรื่องสิวและรอย ถูกและดีที่มาแรงสุดๆ
- LA ROCHE-POSAY EFFACLAR DUO (+) - ตัวแม่เวชสำอางรักษาสิวที่ยืนหนึ่งมาตลอด
- SK-II Facial Treatment Essence - น้ำตบในตำนาน ของมันต้องมี!
- Curel Intensive Moisture Care Moisture Cream - ครีมกู้ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ขาดน้ำ
ตำแหน่งในตลาด: มีตั้งแต่ระดับ Mass หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ/ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงเวชสำอางในร้านขายยา และเคาน์เตอร์แบรนด์ในห้าง
จุดเด่นหลักๆ ที่ทำให้ดังในปีนั้น:
- เน้นส่วนผสมที่แก้ไขปัญหาผิวได้ตรงจุด: ไม่ว่าจะเป็นสิว รอยสิว ผิวแพ้ง่าย
- ราคาเข้าถึงง่ายไปจนถึงระดับลงทุน: มีตัวเลือกหลากหลายให้เลือกตามงบประมาณ
- รีวิวแน่น โซเชียลแตก: ยิ่งตัวไหนรีวิวเยอะในพันทิป เฟซบุ๊ก ยิ่งดังเป็นพลุแตก
- ตอบโจทย์สภาพอากาศเมืองไทย: หลายตัวเนื้อบางเบา เหมาะกับอากาศร้อนชื้น
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบง่าย ใช้สะดวก หรือหรูหราน่าตั้งโชว์?
เรื่องแพ็กเกจจิ้ง สกินแคร์ปี 2018 ก็มีหลากหลายสไตล์ ตัวที่เน้นเข้าถึงง่ายแบบ Garnier ก็จะมาในขวดพลาสติกใสๆ เห็นปริมาณชัดเจน หัวปั๊มก็มี หัวเทก็มีแล้วแต่สูตร ใช้งานง่ายสุดๆ
ส่วน The Ordinary นี่มาแบบมินิมอล ขวดแก้วสีชา สไตล์ยาๆ หน่อย ดูคลีนๆ แต่ตอนนั้นคือฮิตมาก วางบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วดูเก๋ ดูเป็นคนรู้เรื่องสกินแคร์
LA ROCHE-POSAY EFFACLAR DUO (+) ก็มาในหลอดบีบพลาสติก สะอาด ใช้ง่าย พกพาสะดวกตามสไตล์เวชสำอาง
ข้ามมาฝั่งเคาน์เตอร์แบรนด์ SK-II ก็ยังคงความหรูหราในขวดแก้วดูแพง มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ วางบนโต๊ะแล้วรู้สึกเหมือนผิวจะดีขึ้นทันที!
Curel มาในกระปุกและหลอดสไตล์เวชสำอางญี่ปุ่น ดูเรียบง่าย มั่นคง ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย
โดยรวมแล้ว สกินแคร์ปี 2018 มีแพ็กเกจที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันการใช้งาน ความสวยงาม และบ่งบอกถึง Positioning ของแบรนด์นั้นๆ เลย
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ตัวไหนปัง ตัวไหนปั๊วะ!
มาถึงเรื่องสำคัญ! ใช้แล้วเป็นยังไง เห็นผลจริงไหม?
Garnier Micellar Water: เป็นคลีนซิ่งที่ฮิตมาก เพราะเช็ดเมคอัพได้สะอาดกริ๊บ ไม่แสบตา ไม่ทิ้งความมันบนผิว แถมราคายังเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์สุดๆ ตอนนั้นคือต้องมีติดบ้าน!
The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%: ตัวนี้คือ Game Changer สำหรับคนเป็นสิวเลย! เนื้อเซรั่มน้ำๆ ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ช่วยลดสิวผด สิวอุดตัน รอยแดง รอยดำจากสิวก็จางลง ใช้แล้วรูขุมขนกระชับขึ้นด้วย ความเข้มข้น Niacinamide 10% ถือว่าสูงมากในราคาเท่านี้ เป็นกระแส "สกินแคร์จากฝั่งตะวันตกที่เน้นส่วนผสม" ให้คนไทยฮิตตามกัน
LA ROCHE-POSAY EFFACLAR DUO (+): ถ้าพูดถึงยาสิว เอ้ย! ครีมรักษาสิวในตำนาน ตัวนี้คือยืนหนึ่งจริงๆ ช่วยลดการอักเสบของสิว สิวอุดตันก็ค่อยๆ หลุด เนื้อดี บางเบา ไม่ทำให้ผิวแห้งลอกเหมือนยาสิวบางตัว รู้สึกได้ว่าผิวแข็งแรงขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
SK-II Facial Treatment Essence: น้ำตบป้าเจี๊ยบในตำนาน! เรื่องความใส ผิวอิ่มฟู ดูสุขภาพดี ต้องยกให้ตัวนี้เลย ใช้แล้วรู้สึกผิวละเอียดขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวดูเรียบเนียน แต่งหน้าติดง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับหลายๆ คนในปีนั้น
Curel Intensive Moisture Care Moisture Cream: มอยส์เจอไรเซอร์ตัวเทพสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งขาดน้ำ เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่เหนอะหนะ ทาแล้วสบายผิว ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น อาการแพ้ แสบ คัน ผิวแดง ลดลงอย่างชัดเจน เป็นเหมือนเกราะป้องกันผิวในวันที่ผิวอ่อนแอ
4. ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่ก็สบาย!
ส่วนใหญ่สกินแคร์ตัวดังในปี 2018 เน้นใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
คลีนซิ่งวอเตอร์ก็แค่เทใส่สำลีแล้วเช็ด
เซรั่ม/เอสเซนส์ ก็หยดๆ ตบๆ หรือทาให้ทั่วหน้า
มอยส์เจอไรเซอร์ก็บีบออกมาทาได้เลย
บางตัวอย่าง The Ordinary อาจจะต้องศึกษาเรื่องการใช้คู่กับส่วนผสมอื่นๆ นิดหน่อย แต่โดยรวมคือเป็นสเต็ปที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว
ที่สำคัญคือสกินแคร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีกลิ่นฉุนรุนแรง หรือบางตัวก็ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมเลย ทำให้สบายผิวมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับคนแพ้ง่าย
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ใช้แล้วคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม?
เรื่องความคุ้มค่า สกินแคร์ปี 2018 มีหลากหลายระดับ
ตัวราคาน่ารักอย่าง Garnier Micellar Water นี่คือคุ้มสุดๆ ขวดใหญ่ ใช้ได้นานมาก เทียบกับราคาแล้วชนะเลิศ!
The Ordinary Niacinamide ก็อยู่ในหมวดถูกและดี คุณภาพเกินราคาไปมาก เห็นผลชัดเจนในปัญหาเรื่องสิวและรอย เป็นไอเทมที่ทุกคนเข้าถึงได้
LA ROCHE-POSAY EFFACLAR DUO (+) อาจจะมีราคาสูงกว่า Garnier แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ในการรักษาสิวที่ชัดเจน ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่มีปัญหานี้
SK-II Facial Treatment Essence ราคาสูงสุดในลิสต์นี้ แต่ผลลัพธ์เรื่องผิวใส เรียบเนียน ก็ทำให้หลายคนยอมลงทุนซื้อซ้ำ เพราะรู้สึกว่าผิวดีขึ้นในระยะยาว
Curel Intensive Moisture Care Moisture Cream ราคาอาจจะอยู่กลางๆ ไม่ถูกไม่แพง แต่ถ้าเทียบกับการช่วยให้ผิวแพ้ง่ายแข็งแรงขึ้น ลดปัญหาการแพ้ต่างๆ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่มีปัญหาผิวบอบบาง
โดยรวมแล้ว สกินแคร์ตัวดังปี 2018 หลายตัวพิสูจน์แล้วว่า "คุ้มค่า" ไม่ว่าจะเป็นด้านราคา ผลลัพธ์ หรือการแก้ปัญหาผิวที่ตรงจุด
6. ข้อดี-ข้อเสีย: สรุปให้ชัดๆ!
ข้อดี:
- แก้ไขปัญหาผิวได้ตรงจุด: เน้นเรื่องสิว รอยสิว ผิวแพ้ง่าย ผิวหมองคล้ำ
- มีตัวเลือกหลากหลายราคา: ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันปลายๆ
- หาซื้อง่าย: มีขายทั่วไปทั้งในห้าง ร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ต และช่องทางออนไลน์
- กระแสรีวิวดี: หลายตัวโด่งดังจากรีวิวของผู้ใช้จริงในโซเชียล
- ตอบโจทย์เทรนด์ผิวใส สุขภาพดี: เน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรงจากภายใน
ข้อเสีย:
- บางตัวอาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว: เช่น The Ordinary Niacinamide บางคนอาจแพ้ได้ หรือ SK-II ราคาสูงเกินงบสำหรับหลายคน
- ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล: แม้จะดัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีกับทุกคนเสมอไป
- สกินแคร์ปี 2018 ตอนนี้อาจจะมีรุ่นใหม่ที่ดีกว่า: เทคโนโลยีสกินแคร์พัฒนาไปเรื่อยๆ รุ่นปีเก่าอาจจะไม่ได้ว้าวเท่ารุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน
- บางตัวอาจต้องใช้เวลาเห็นผล: โดยเฉพาะพวกเซรั่มหรือครีมบำรุงที่เน้นแก้ปัญหาระยะยาว
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอย ตัวไหนเหมาะกับคุณ?
สกินแคร์ตัวท็อปปี 2018 เหล่านี้เหมาะกับคนหลากหลายกลุ่ม:
- วัยรุ่น/นักศึกษา: Garnier Micellar Water และ The Ordinary Niacinamide เป็นตัวเลือกที่ดี ราคาเข้าถึงง่าย ช่วยเรื่องสิวและทำความสะอาดผิวได้ดี
- คนมีปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย: LA ROCHE-POSAY EFFACLAR DUO (+) และ Curel Intensive Moisture Care เป็นตัวช่วยชั้นดีที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความอ่อนโยนและประสิทธิภาพ
- คนที่ต้องการลงทุนเพื่อผิวที่ดีในระยะยาว: SK-II Facial Treatment Essence เหมาะสำหรับคนที่พร้อมลงทุนเพื่อผิวใสสุขภาพดี
- คนที่เน้นส่วนผสมและผลลัพธ์: The Ordinary ตอบโจทย์มากๆ
คำแนะนำในการซื้อ: แม้จะเป็นสกินแคร์ปี 2018 แต่หลายตัวก็ยังคงมีขายและเป็นไอเทมคลาสสิกที่ยังน่าใช้อยู่ ลองพิจารณาจากปัญหาผิวและงบประมาณของคุณ ถ้าอยากลองไอเทมในตำนานที่เคยฮิตมากๆ ก็จัดเลย! แต่ถ้าเน้นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด อาจจะต้องมองหารุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันควบคู่ไปด้วย
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ในยุค 2018): ใครคือคู่แข่ง?
ในปี 2018 ก็มีสกินแคร์อื่นๆ ที่อยู่ในตลาดและเป็นที่นิยมเช่นกัน เช่น คลีนซิ่งวอเตอร์จากแบรนด์อื่นๆ (Bioderma, Bifesta), เซรั่ม Niacinamide จากแบรนด์ไทยหรือแบรนด์อื่นๆ ที่เริ่มเข้ามาทำตลาด, ผลิตภัณฑ์รักษาสิวจากแบรนด์เวชสำอางอื่นๆ (Eucerin, Acnes), น้ำตบจากแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่นอื่นๆ, หรือมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่ายจากแบรนด์อื่นๆ
การแข่งขันในตลาดสกินแคร์ไทยในปี 2018 ถือว่าดุเดือด มีตัวเลือกเยอะมาก แต่ตัวที่เราหยิบยกมาถือเป็นตัวที่ "mass popular" หรือเป็นที่พูดถึงในวงกว้างมากๆ ในยุคนั้น
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ (ในยุค 2018 และปัจจุบัน): ซื้อที่ไหน?
ในปี 2018 ช่องทางการซื้อสกินแคร์ในไทยก็มีหลากหลาย ทั้งร้านค้าออฟไลน์อย่างห้างสรรพสินค้า ร้านขายยา Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium และแน่นอนว่าช่องทางออนไลน์ก็มาแรงสุดๆ ทั้ง Lazada, Shopee, JD Central รวมถึงเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ
บริการหลังการขายก็ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ ส่วนใหญ่จะมีรับประกันความพึงพอใจ หรือสามารถเปลี่ยน/คืนสินค้าได้ตามเงื่อนไขของร้านค้าและแบรนด์นั้นๆ
ปัจจุบัน (ปี 2025) สกินแคร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ยังคงมีขายอยู่ และช่องทางออนไลน์ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันทำให้มีโปรโมชั่น ส่วนลด แคมเปญต่างๆ ออกมาตลอดทั้งปี ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราได้ช้อปในราคาที่คุ้มค่า
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2025?
มองย้อนกลับไป สกินแคร์น่าใช้แห่งปี 2018 หลายตัวยังคงเป็นไอเทมที่ "ดี" และยังคงมีที่ยืนในตลาดจนถึงปัจจุบัน พิสูจน์ได้ว่าคุณภาพของพวกเขายังเวิร์คอยู่!
- ถ้าคุณเป็นมือใหม่ อยากเริ่มดูแลผิว หรือมีงบจำกัด **Garnier Micellar Water** และ **The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%** ยังเป็นตัวเริ่มต้นที่น่าสนใจมากๆ
- ถ้ามีปัญหาสิว หรือผิวแพ้ง่าย **LA ROCHE-POSAY EFFACLAR DUO (+) ** และ **Curel Intensive Moisture Care Moisture Cream** ยังคงเป็นตัวช่วยที่พึ่งพาได้
- ถ้าพร้อมลงทุนเพื่อผิวที่ดีระยะยาว และชื่นชอบไอเทมคลาสสิก **SK-II Facial Treatment Essence** ก็ยังคู่ควรแก่การลอง
สรุปแล้ว แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่สกินแคร์เหล่านี้คือตำนานบทหนึ่งของวงการบิวตี้ไทยในปี 2018 ที่ยังคงน่าจดจำ และหลายตัวก็ยังคงใช้ได้ดีอยู่จนถึงทุกวันนี้ค่ะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- (เช็คเรตติ้ง)มหากาพย์ 8 เซรั่มฟื้นฟูผิวเคาน์เตอร์แบรนด์ ลงทุนทั้งที ...
- 2023 Skincare Favorites รวมสกินแคร์กู้หน้าทุกชิ้นที่ใช้แล้วชอบ ...
- รวมสกินแคร์ออกใหม่ที่น้อยคนรู้จัก แต่น่าประทับใจเกินคาดปีนี้! สิว ริ้ว ...
- แนะนำสกินแคร์ที่ดีที่สุดในปีนี้
- สกินแคร์ที่เด็ดสุดและเข็ดสุดของแบรนด์ดัง | พลิกหลังกล่อง
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?