รีวิว Vespa LX 125 i-Get: สกู๊ตเตอร์เวสป้ารุ่นเล็ก ขี่ในเมืองเป็นไง?

สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้เรามีเรื่องเมาท์ เอ้ย! รีวิวของเจ๋งๆ มาฝากกันอีกแล้วค่ะ โดยเฉพาะชาวสองล้อที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์คู่ใจเอาไว้ขี่ตะลุยมหานคร (ที่รถโคตรจะติด!) หลายคนเห็นน้องเวสป้าไฟกลมกลิ้งผ่านไปผ่านมาแล้วใจละลาย อยากรู้เหลือเกินว่าเจ้า Vespa LX 125 i-Get รุ่นเล็กสุดเนี่ยะ ขี่ในเมืองมันเป็นยังไง? คล่องตัวจริงไหม? ซอกแซกได้ถึงใจหรือเปล่า? หรือว่าแค่สวยไว้โชว์? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจแบบหมดเปลือก พร้อมเล่าประสบการณ์ใช้งานจริงให้ฟังกันไปเลยจ้า เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาดูกัน!

1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จักน้องเล็กแห่งบ้าน Vespa

มาทำความรู้จักกับน้องเล็กสุดในตระกูล Vespa ที่ฮอตฮิตติดลมบนในบ้านเรากันก่อนค่ะ

แบรนด์: Vespa (มาจากอิตาลีโน่นเลยจ้า)

รุ่น: LX 125 i-Get

ปีที่วางขาย: รุ่น i-Get เปิดตัวมาหลายปีแล้ว มีการอัปเดตเรื่อยๆ ล่าสุดก็มีพวก White Edition อะไรแบบนี้ออกมาให้เลือก

ช่วงราคาขาย: อยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นกว่าบาท ถึงแสนต้นๆ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและโปรโมชั่น

การวางตำแหน่งสินค้า: จัดเป็นรุ่นเริ่มต้น (Entry-level) ของ Vespa เหมาะกับคนที่อยากได้เวสป้าแท้ๆ ดีไซน์คลาสสิก ไฟกลมเป็นเอกลักษณ์ เน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก

สรุปจุดเด่นหลักๆ:

• ดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา: ทรงไฟกลม คลาสสิกเว่อร์ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังดูดี
• เครื่องยนต์ i-Get 125 ซีซี: ขี่ง่าย นุ่มนวล การสั่นสะเทือนน้อยลง
• คล่องตัวสูง: เหมาะมากกับการขี่ลัดเลาะในเมือง
• มีช่องชาร์จ USB: อยู่ในเก๊ะหน้า สะดวกสบายยุคดิจิทัล
• ที่เก็บของใต้เบาะพอประมาณ: ใส่หมวกกันน็อคครึ่งใบได้

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวยเตะตา สะกดทุกสายตา

เรื่องดีไซน์นี่ต้องยอมเวสป้าเขาจริงๆ ค่ะ เห็นมาแต่ไกลก็รู้เลยว่านี่คือเวสป้า! เจ้า LX 125 i-Get ยังคงเอกลักษณ์ความคลาสสิกแบบ "ไฟกลม" ที่หลายคนหลงรัก ตัวถังเป็นเหล็กแข็งแรงทนทาน เส้นสายโค้งมน ขนาดกะทัดรัดกำลังดี เหมาะกับสรีระคนเอเชีย (ส่วนใหญ่นะคะ) ไม่สูงมาก ผู้หญิงก็ขี่สบาย

วัสดุที่ใช้: ตัวถังหลักเป็นเหล็ก โครเมียมตามจุดต่างๆ ดูพรีเมียมสมราคา

ขนาดและน้ำหนัก: ตัวไม่ใหญ่มาก น้ำหนักประมาณ 114 กก. ไม่ได้เบาจิ๋ว แต่ก็ไม่หนักจนเกินไปสำหรับสกู๊ตเตอร์ 125 ซีซี

สีที่มีให้เลือก: มีหลายสีสันให้เลือกเลยค่ะ ทั้งสีคลาสสิกอย่าง ขาว แดง ดำ หรือสีสันสดใสอย่าง เหลือง ฟ้า

ความสะดวกในการพกพา: อันนี้คงไม่ได้พกพาใส่กระเป๋าค่ะ แต่ถ้าพูดถึงความคล่องตัวเวลาจอด หรือเข็นในที่แคบๆ ก็ทำได้ดีค่ะ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ส่วนใหญ่ก็จะมีคู่มือ กุญแจสำรอง เครื่องมือประจำรถเล็กน้อย

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ขี่ในเมือง...เอาอยู่ไหม?

มาถึงไฮไลท์ว่าน้อง LX 125 i-Get ขี่ในเมืองเป็นยังไง! ต้องบอกว่า เครื่องยนต์ i-Get 125 ซีซี เนี่ยะ เขาปรับมาให้ขี่ง่าย สมูท อัตราเร่งไม่ได้จี๊ดจ๊าดปรู๊ดปร๊าดเหมือนพวกรุ่นใหญ่ แต่ก็พอตัวค่ะ ออกตัวไฟแดงได้ไม่อายใคร ขี่ตามรถยนต์ในเมืองสบายๆ

การควบคุมรถทำได้คล่องแคล่ว เลี้ยวง่าย มุดง่ายในสภาพจราจรที่ติดขัดสไตล์กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ๆ ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มาก และช่วงล่างด้านหน้าแบบแขนเดี่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของเวสป้า ทำให้รู้สึกแตกต่างจากสกู๊ตเตอร์ทั่วไปเวลาเข้าโค้ง หรือเจอทางไม่เรียบ

ระบบเบรก ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก หลังเป็นดรัมเบรก เพียงพอต่อการใช้งานในเมือง แต่ถ้าเจอเหตุการณ์ฉุกเฉิน อาจจะต้องใช้ทั้งเบรกหน้าและหลังร่วมกัน และอาจจะต้องเผื่อระยะเล็กน้อย เพราะรุ่นนี้ยังไม่มี ABS เหมือนรุ่นพี่

ตัวอย่างสถานการณ์จริง: เคยเจอมอเตอร์ไซค์ตัดหน้ากระทันหันในซอยแคบๆ ก็เบรกเอาอยู่ค่ะ แต่ก็ต้องมีสติและใช้เบรกทั้งหน้าหลังช่วยกัน

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใครๆ ก็ขี่ได้

เรื่องความง่ายในการใช้งาน ต้องบอกว่า Vespa LX 125 i-Get เป็นมิตรกับผู้ใช้ใหม่มากค่ะ ไม่ต้องเรียนรู้อะไรซับซ้อน ระบบเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติ CVT บิดอย่างเดียวไปได้เลย

หน้าปัดเป็นแบบอนาล็อกผสมดิจิทัล ดูง่ายสบายตา ไม่ต้องปรับตัวเยอะ ข้อมูลครบถ้วน ทั้งความเร็ว ระดับน้ำมัน ทริปต่างๆ

เสียงเครื่องยนต์เงียบลงกว่ารุ่นเก่าๆ ด้วยเครื่อง i-Get การสั่นสะเทือนก็น้อยลงด้วยค่ะ เวลาขี่นานๆ ก็ไม่เมื่อยหรือรู้สึกชาเท่าไหร่

ท่านั่งสบาย เบาะนั่งกว้างพอประมาณ วางเท้าได้มั่นคง ความสูงเบาะ 785 มม. คนตัวไม่สูงมากก็วางเท้าถึงพื้นได้ไม่ลำบาก

รองรับภาษาไทยไหม? หน้าจอไม่ได้มีเมนูอะไรให้ปรับเยอะค่ะ หลักๆ คือตัวเลขและสัญลักษณ์มาตรฐานทั่วไป

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: สวยแต่กินน้ำมันไหม?

ถังน้ำมันจุ 7 ลิตร เพียงพอต่อการใช้งานในเมืองหลายวันอยู่ค่ะ ส่วนเรื่องความประหยัดน้ำมัน ตัวเลขเคลมอาจจะดี๊ดี แต่เอาเข้าจริง จากประสบการณ์และฟีดแบ็กผู้ใช้งานทั่วไป ถ้าขี่ในเมืองที่รถติดๆ อัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 35-45 กม./ลิตร ก็ถือว่ากลางๆ ไม่ได้ประหยัดเท่ารถญี่ปุ่นบางรุ่น แต่ก็ไม่ได้ซดฮวบฮาบจนน่าตกใจ ถ้าเทียบกับความพรีเมียมที่ได้

ความเร็วในการชาร์จ / เติมพลังงาน: เติมน้ำมันก็เหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไปค่ะ ไม่ได้มีระบบชาร์จ

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: เวสป้าขึ้นชื่อเรื่องค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถตลาดทั่วไปเล็กน้อยค่ะ อะไหล่บางชิ้นอาจจะแพงกว่า แต่ก็ไม่ได้แพงเว่อร์จนรับไม่ได้ การดูแลตามระยะก็สำคัญค่ะ เพื่อให้รถอยู่กับเราไปนานๆ ศูนย์บริการมีทั่วประเทศพอสมควร

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้ามองที่ฟังก์ชันเพียวๆ ในราคาใกล้เคียงกัน อาจจะมีตัวเลือกอื่นที่ฟังก์ชันเยอะกว่า หรือประหยัดน้ำมันกว่า แต่ถ้ามองในมุมของ "ความสวย คลาสสิก และแบรนด์" ที่เวสป้ามอบให้ อันนี้ถือว่าคุ้มค่าค่ะ เพราะได้ฟีลลิ่งที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร

6. ข้อดี-ข้อเสีย: รักพี่เสียดายน้อง?

มาสรุปแบบตรงไปตรงมา ไม่มีอวยเว่อร์กันค่ะ

ข้อดี:

• ดีไซน์กินขาด: สวย คลาสสิก ดูดีมีสไตล์ ไม่ซ้ำใครจริงๆ
• คล่องตัว ขี่ง่าย: เหมาะมากสำหรับใช้งานในเมือง การจราจรหนาแน่น
• เครื่อง i-Get สมูท: ลดการสั่นสะเทือน ขี่สบายขึ้น
• มีช่องชาร์จ USB: ชีวิตคนยุคใหม่ขาดไม่ได้จริงๆ
• ช่วงล่างเวสป้า: ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร (บางคนอาจจะชอบ)

ข้อเสีย:

• ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับสกู๊ตเตอร์ 125 ซีซี แบรนด์ญี่ปุ่น
• ระบบเบรก: ยังไม่มี ABS และเบรกหลังเป็นดรัมเบรก ต้องเผื่อระยะเบรกนิดหน่อย
• ที่เก็บของใต้เบาะ: ไม่ได้ใหญ่มาก ใส่หมวกเต็มใบได้แค่บางทรง
• อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน: ไม่ได้ประหยัดเท่ารถตลาด
• ค่าบำรุงรักษา: อาจจะสูงกว่ารถตลาดทั่วไปเล็กน้อย

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อดีไหมนะ?

จากที่ลองใช้มาและดูจากฟีดแบ็กต่างๆ

เหมาะกับ:

• นักศึกษา / First Jobber: ที่อยากได้รถเท่ๆ มีสไตล์ ขี่ไปเรียน/ทำงานในเมือง
• คนที่เน้นดีไซน์: ชอบความคลาสสิก ไม่เหมือนใคร
• คนที่ใช้รถในเมืองเป็นหลัก: เน้นขี่ใกล้ๆ ไม่ได้ออกทริปไกลๆ บ่อย
• คนที่เพิ่งเริ่มขี่มอเตอร์ไซค์: ด้วยความที่เป็นออโต้ ขี่ง่าย

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

• ขี่ไปทำงาน / เรียน
• ขี่ไปคาเฟ่ / ร้านอาหาร
• ขี่ไปทำธุระใกล้ๆ บ้าน

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่น? ราคาน้องเวสป้าไม่ค่อยมีลดแบบฮวบฮาบค่ะ แต่จะมีโปรโมชั่นพวกของแถม พ่วงประกัน หรือผ่อน 0% มากกว่า ถ้าชอบและพร้อมงบประมาณ ก็จัดได้เลยค่ะ แต่ถ้ารอได้ ลองดูช่วงปลายปี หรืองานมอเตอร์โชว์ อาจจะมีโปรดีๆ พ่วงมา

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: คู่แข่งมีใครบ้าง?

ในตลาดสกู๊ตเตอร์ 125 ซีซี ที่ดีไซน์เป็นแนว Retro หรือใช้งานในเมืองได้ดี ก็มีหลายรุ่นที่น่าสนใจค่ะ

• Vespa S 125 i-Get: เป็นฝาแฝดกับ LX เลยค่ะ ต่างกันที่ไฟหน้าเป็นทรงเหลี่ยม ฟังก์ชันและเครื่องยนต์เหมือนกันเป๊ะ ชอบแบบไฟกลม LX หรือไฟเหลี่ยม S ก็เลือกได้ตามสไตล์
• Honda Giorno+ / Yamaha Grand Filano: สองตัวนี้จะเป็นแนว Retro แต่คนละสไตล์กับเวสป้า ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์กว่ามาก อัตราประหยัดน้ำมันทำได้ดีกว่า แต่เรื่องฟีลลิ่งขับขี่และความพรีเมียมก็จะแตกต่างกันไปค่ะ

ถ้าเทียบกับรุ่นพี่ในแบรนด์เดียวกันอย่าง Primavera หรือ Sprint ที่เครื่องยนต์ 150 ซีซี แน่นอนว่าตัวนั้นกำลังดีกว่า มี ABS ด้วยในบางรุ่น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีกค่ะ ถ้าเน้นขี่ในเมืองเป็นหลัก LX 125 ก็เพียงพอแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องขยับไป 150 ก็ได้

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อง่าย หายห่วง?

Vespa มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศพอสมควรค่ะ การรับประกันส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3 ปี หรือ 30,000 กม. สำหรับเครื่องยนต์ และ 1 ปีครึ่ง หรือ 15,000 กม. สำหรับระบบไฟ ก็ถือว่ามาตรฐานค่ะ

ช่องทางการซื้อ: ซื้อได้ทั้งที่โชว์รูม Vespa โดยตรง หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ รวมถึงช่องทางออนไลน์ของดีลเลอร์บางแห่งค่ะ

โปรโมชั่น: แนะนำให้เช็กโปรโมชั่นกับทางดีลเลอร์โดยตรงค่ะ มักจะมีโปรโมชั่นของแถม หรือเงื่อนไขการผ่อนที่น่าสนใจ

ตัวเลือกผ่อนชำระ: ส่วนใหญ่มีค่ะ ทั้งผ่อนผ่านบัตรเครดิต หรือผ่อนกับไฟแนนซ์

ระยะเวลาการจัดส่ง: ถ้าซื้อที่โชว์รูมก็รับรถได้เลย แต่ถ้าจองบางทีอาจจะต้องรอรถค่ะ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วไงดี?

สำหรับ Vespa LX 125 i-Get ถ้าคุณเป็นคนที่:

• หลงใหลในดีไซน์คลาสสิกของเวสป้าไฟกลม
• เน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก
• อยากได้รถสกู๊ตเตอร์ที่มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร
• รับได้กับราคาที่สูงกว่ารถตลาดทั่วไป และค่าบำรุงรักษาตามสไตล์รถยุโรป

รุ่นนี้ถือว่า แนะนำให้ซื้อเลยค่ะ! น้อง LX 125 i-Get ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองได้อย่างลงตัว ขี่ง่าย คล่องตัว และที่สำคัญคือ "เท่" ที่สุดบนท้องถนน!

แต่ถ้าคุณเน้นที่ความคุ้มค่าฟังก์ชันต่อราคา อยากได้รถที่ประหยัดน้ำมันสุดๆ หรือต้องการระบบเบรกที่ดีที่สุดในตลาด อาจจะต้องลองดูรุ่นอื่นในราคาใกล้เคียงกันค่ะ

สรุปแล้ว Vespa LX 125 i-Get เหมือนกับแฟนที่หน้าตาดี นิสัยน่ารัก (ขี่ง่าย) แต่อาจจะต้องดูแลเอาใจใส่ (เรื่องค่าใช้จ่าย) มากกว่านิดหน่อย แต่ความสุขทางใจที่ได้เวลาขี่ออกไปอวดโฉมนี่บอกเลยว่า ประเมินค่าไม่ได้!

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม คอมเมนต์มาถามกันได้เลยจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Vespa LX 125 i-Get 2023 รถที่ขายดีที่สุดของ Vespa แต่ราคา ...
• รีวิว Vespa S125 และ Vespa LX125 เวสป้ารุ่นเล็กสุด สีใหม่ล่าสุด ...
• รีวิว Vespa LX125 & S125 สีใหม่สวยมาก ต่างกันอย่างไร หัดเล่น เวส ...
• Scoot-talk / EP.1 รีวิว Vespa Lx 125 ขวัญใจวัยรุ่นมินิมอล คล่องตัว ...
• รีวิวรถ VESPA LX 125 I-GET WHITE EDITION รถพรีเมี่ยม สำหรับ ...