รีวิวหนัง Samson (2018): ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์จากไบเบิล น่าดูไหม?


เปิดศักราชหนังอิงประวัติศาสตร์ (จากไบเบิลนะ!) กับ Samson ปี 2018 ที่ขนเรื่องราวสุดเข้มข้นของวีรบุรุษพลังช้างมาให้ดูกันบนจอเงิน (และตอนนี้อาจจะย้ายมาอยู่บนจอสตรีมมิ่งแล้ว!) หลายคนอาจจะสงสัยว่าหนังเรื่องนี้มีดีแค่ไหน? จะสนุกเหมือนอ่านในไบเบิล หรือจะหลับก่อนหนังจบ? วันนี้เราจะมาเจาะลึกรีวิวแบบบ้านๆ สไตล์คนชอบดูหนัง ที่ไม่เน้นวิชาการ แต่เน้นความรู้สึกล้วนๆ! มาดูกันว่าพี่แซมซั่นของเราในเวอร์ชันนี้จะรอดไหม?
1. ภาพรวมของหนัง: รู้จัก "แซมซั่น โคตรคนจอมพลัง" กันก่อน
ชื่อเรื่อง: Samson
ปีที่เข้าฉาย: 2018
แนวหนัง: แอ็กชัน, ดราม่า, อิงประวัติศาสตร์/ศาสนา
ที่มา: เรื่องราวของแซมซั่นในพระคัมภีร์ไบเบิล (ผู้วินิจฉัย บทที่ 13-16)
ตำแหน่งทางการตลาด: เป็นหนังทุนสร้างปานกลางที่เน้นตลาดกลุ่มผู้ชมที่สนใจเรื่องราวจากไบเบิลและหนังแอ็กชัน
จุดเด่นคร่าวๆ ที่หนังพยายามนำเสนอ:
- พลังเหนือมนุษย์ของแซมซั่น: ไฮไลต์หลักของเรื่องเลยก็ว่าได้!
- เรื่องราวความรักและการหักหลัง: แซมซั่นกับเดลีลาห์ คู่รักอมตะ (ที่มาพร้อมดราม่าขั้นสุด)
- การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ: ชนชาติอิสราเอลที่ถูกกดขี่โดยชาวฟิลิสเตีย
- แก่นเรื่องเกี่ยวกับศรัทธาและการไถ่บาป: หนังเน้นย้ำประเด็นทางศาสนา
2. ดีไซน์และภาพรวม: สวยงามตามงบ?
พูดถึงโปรดักชัน หนังเรื่องนี้พยายามสร้างบรรยากาศแบบยุคโบราณ ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม ฉากต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดูย้อนยุคดี. แต่ด้วยความที่เป็นหนังทุนสร้างไม่ได้อลังการเท่าฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ บางฉากบางมุมก็อาจจะไม่ได้เนี๊ยบกริบเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ได้แย่จนรับไม่ได้นะ.
ภาพรวม: ดูเป็นหนังพีเรียดที่ตั้งใจทำแหละ
ฉากแอ็กชัน: มีให้เห็นบ้าง เน้นโชว์พลังของแซมซั่น
คอสตูม/ฉาก: พยายามทำให้เหมือนยุคโบราณ
3. ประสบการณ์ในการรับชม: เล่าเรื่องโอเค แต่บางทีก็เรื่อยๆ
หนังเล่าเรื่องราวชีวิตของแซมซั่นตั้งแต่ต้นจนจบตามไบเบิลเลย. ตั้งแต่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ (และข้อห้าม) การเติบโต ความรัก การถูกหักหลัง และการต่อสู้ครั้งสุดท้าย. ตัวหนังพยายามใส่ปมและตัวละครเพิ่มเติมเข้ามา อย่างตัวละคร "Rallah" เจ้าชายชาวฟิลิสเตีย เพื่อสร้างสีสันและความขัดแย้ง.
เนื้อเรื่อง: เดินตามไบเบิลค่อนข้างตรง แต่มีเสริมตัวละคร/ปมใหม่
การดำเนินเรื่อง: บางช่วงก็กระชับฉับไว โดยเฉพาะฉากแอ็กชันโชว์พลัง. แต่บางช่วงที่เป็นดราม่า หรือการปูเรื่อง ก็อาจจะรู้สึกว่าเนือยๆ ไปบ้าง.
4. ใช้งานง่ายไหม? (ดูง่ายไหม?)
สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านเรื่องแซมซั่นในไบเบิลมาก่อน หนังเรื่องนี้ก็เล่าเรื่องได้เข้าใจง่ายอยู่. ลำดับเหตุการณ์ชัดเจน ตัวละครหลักๆ ก็มีไม่เยอะมาก. ไม่ได้มีศัพท์แสงทางศาสนาที่ยากเกินไป.
ความซับซ้อนของเนื้อหา: เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
อารมณ์ที่ได้รับ: มีทั้งฉากแอ็กชันให้ลุ้นตาม ดราม่าความรัก/หักหลัง และประเด็นเรื่องศรัทธา.
5. ความคุ้มค่าในการรับชมระยะยาว: ดูซ้ำได้ไหม?
หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนังที่ดูซ้ำได้บ่อยๆ เท่าหนังฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น. แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเรื่องราวจากไบเบิล หรืออยากดูหนังที่เน้นประเด็นศรัทธา เรื่องนี้ก็อาจจะตอบโจทย์. แก่นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ การกลับใจ และการไถ่บาป เป็นสิ่งที่หนังเน้นย้ำ ซึ่งอาจจะทำให้หนังมีความหมายสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม.
การดูซ้ำ: อาจจะไม่ใช่หนังที่อยากหยิบมาดูบ่อยๆ
ข้อคิด/ข้อความที่ได้จากหนัง: เน้นเรื่องศรัทธา การพึ่งพาพระเจ้า
6. ข้อดี-ข้อเสีย แบบตรงไปตรงมา
ข้อดี:
- เล่าเรื่องแซมซั่นได้ค่อนข้างครบถ้วนตามไบเบิล
- มีฉากแอ็กชันโชว์พลังที่น่าสนใจ
- เน้นย้ำประเด็นทางศาสนา เรื่องศรัทธา การไถ่บาป ได้ดี
- โปรดักชันใช้ได้เมื่อเทียบกับงบ
- นักแสดงหลักอย่าง Taylor James ในบทแซมซั่นก็แสดงได้โอเค
ข้อเสีย:
- การดำเนินเรื่องบางช่วงอาจจะเนือยๆ ไปบ้าง
- นักแสดงสมทบบางคนอาจจะยังดูไม่แข็งแรงเท่าที่ควร
- บทพูดบางครั้งอาจจะรู้สึกว่าเชยๆ ไปนิด
- ฉากอลังการอาจจะไม่เท่าหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์
- อาจจะไม่ถูกใจคนที่ไม่สนใจเรื่องราวจากไบเบิลเลย
7. เหมาะกับใคร & ควรดูดีไหม?
เหมาะกับ:
- คนที่สนใจเรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิล
- คนที่ชอบดูหนังแนวแอ็กชัน ดราม่า อิงประวัติศาสตร์
- คนที่กำลังมองหาหนังที่เน้นประเด็นทางศาสนาและศรัทธา
ไม่เหมาะกับ:
- คนที่คาดหวังหนังฟอร์มยักษ์แบบ Gladiator หรือ Exodus
- คนที่ซีเรียสเรื่องความถูกต้องทางประวัติศาสตร์เป๊ะๆ (เพราะเป็นเรื่องจากคัมภีร์)
- คนที่ชอบหนังที่เน้นความสมจริงมากๆ
ควรดูดีไหม?: ถ้าคุณอยู่ในกลุ่ม "เหมาะกับ" ก็ถือเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ แต่ถ้าคุณอยู่ในกลุ่ม "ไม่เหมาะกับ" อาจจะต้องพิจารณาอีกที หรือรอดูตอนมีให้ดูฟรีตามแพลตฟอร์มต่างๆ จะดีกว่า.
8. เทียบกับหนังคล้ายๆ กัน
ถ้าเทียบกับหนังอิงไบเบิลฟอร์มยักษ์อย่าง "Noah" หรือ "Exodus: Gods and Kings" เรื่อง Samson (2018) จะมีความเป็นหนัง "Faith-based" หรือหนังที่สร้างโดยเน้นกลุ่มผู้ชมศาสนาคริสต์มากกว่า. โปรดักชันอาจจะไม่ใหญ่เท่า แต่ก็พยายามเล่าเรื่องตามต้นฉบับให้มากที่สุด.
ถ้าเทียบกับหนังแซมซั่นเวอร์ชันเก่าๆ อย่าง "Samson and Delilah" ปี 1949 หนังเวอร์ชัน 2018 ก็มีความทันสมัยและฉากแอ็กชันที่สมจริงกว่า.
9. หาดูได้ที่ไหน? (ช่องทางการรับชม)
หนังเรื่อง Samson (2018) อาจจะไม่ได้เข้าฉายโรงในไทยอย่างเป็นทางการมากนัก แต่ปัจจุบันสามารถหาดูได้จากหลายช่องทางออนไลน์.
- แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง: อาจมีให้บริการในบางแพลตฟอร์ม เช่น Pure Flix (ผู้สร้าง), หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ แล้วแต่ช่วง. ลองเช็คดูว่าตอนนี้มีเจ้าไหนนำเข้ามาบ้าง.
- ซื้อ/เช่าแบบดิจิทัล: สามารถซื้อหรือเช่าดูได้จากร้านค้าออนไลน์ต่างๆ.
- รูปแบบแผ่น (DVD/Blu-ray): มีวางจำหน่ายในบางร้านค้าออนไลน์สำหรับคนที่ชอบสะสม.
ลองเช็คดีๆ อาจมีช่วงลดราคา หรือมีให้ดูฟรีสำหรับสมาชิกบางแพลตฟอร์มก็ได้นะ!
10. สรุปส่งท้ายและคำแนะนำ
สรุปแล้ว "Samson (2018) แซมซั่น โคตรคนจอมพลัง" เป็นหนังที่ เหมาะสำหรับ คนที่สนใจเรื่องราวจากไบเบิลจริงๆ หรือคนที่อยากดูหนังแอ็กชันดราม่าที่ไม่ต้องคิดเยอะมาก และเปิดใจรับกับโปรดักชันที่อาจจะไม่เทียบเท่าหนังบล็อกบัสเตอร์.
ถ้าคุณเป็นคอหนังฟอร์มยักษ์ เน้นความสมจริง หรือไม่สนใจเรื่องราวจากไบเบิลเลย อาจจะ ไม่แนะนำให้ดู หรืออาจจะลองหาตัวอย่างดูก่อนตัดสินใจ.
สำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากทำความรู้จักกับเรื่องราวของแซมซั่นเวอร์ชันนี้ ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ! ลองหาดูกันได้เลย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?