คอร์สเรียน Fast English ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่? คุ้มค่าไหมกับการลงทุน?

สวัสดีค่าาา ชาวแก๊งอยากเก่งภาษาอังกฤษทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า Fast English กัน! แหม แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าต้องเร็วปรี๊ดแน่นอนใช่ไหมล่ะ ใครที่กำลังรู้สึกว่าภาษาอังกฤษยังไม่เข้าที่เข้าทาง พูดก็ติดๆ ขัดๆ ฟังก็ไม่ค่อยออก อ่านก็งงๆ เขียนยิ่งแล้วใหญ่! มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะพาไปดูว่าคอร์สนี้มันคืออะไร ราคาน่ารักน่าคบหาไหม แล้วลงทุนไปจะคุ้มค่าตัวหรือเปล่า? เตรียมสมุดปากกาจด เอ้ย! เตรียมใจให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ยยย!

1. คอร์ส Fast English เนี่ย มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกันก่อนว่าเจ้า Fast English เนี่ย เขาเป็นใครมาจากไหน Search มาดูแล้ว เขาคือสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่มีมานานพอสมควรเลยนะ มีทั้งคอร์สเรียนแบบมานั่งเรียนที่สถาบันจริงๆ (Onsite) และแบบเรียนออนไลน์ สะดวกแบบไหนก็เลือกได้เลย จุดเด่นของเขาเน้นไปที่การปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษให้แน่นปึ้ก โดยเฉพาะเรื่อง Grammar เนี่ย เขาบอกเลยว่าเด็ดมาก มีกฎ 25 ข้อที่กลั่นมาแล้วอย่างดี เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่รู้สึกว่าตัวเองยังอ่อนแกรมม่า หรืออยากจะปูพื้นฐานให้แข็งแรงก่อนจะไปลุยทักษะอื่นๆ

คอร์สเขาก็มีหลากหลายนะ ไม่ใช่แค่แกรมม่าอย่างเดียว ยังมีคอร์สอื่นๆ อีกเพียบ เช่น Multi-English Skills, Structure, Vocabulary, Conversation, Speaking, Writing, Reading, Listening หรือแม้แต่คอร์สเตรียมสอบ TOEFL ด้วย เรียกว่าครอบคลุมเกือบทุกสกิลที่จำเป็นเลยทีเดียว

กลุ่มผู้ใช้ที่น่าจะเหมาะกับ Fast English ก็น่าจะเป็นคนที่ต้องการ ปรับพื้นฐานให้แน่น โดยเฉพาะแกรมม่า, คนที่ เตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษต่างๆ เช่น TOEFL, CU-TEP, TU-GET, หรือคนที่อยากจะ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการทำงานหรือเรียนต่อต่างประเทศ คือถ้าใครที่รู้ตัวว่าพื้นไม่แน่น แล้วอยากได้สถาบันที่เน้นหลักการ เน้นความเข้าใจแบบมีระบบ Fast English ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนตาลุกวาววาว นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! จากที่ไปแอบส่องๆ ดู ราคาคอร์สเรียนของ Fast English เนี่ย ก็มีความหลากหลายอยู่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคอร์สอะไร และเรียนแบบไหนนะ

ถ้าดูจากข้อมูลที่หาเจอ บางคอร์สก็ราคาประมาณ 10,000 บาท (฿) ต่อคอร์ส ระยะเวลาเรียนประมาณ 5 เดือน แต่ก็มีคอร์สออนไลน์อื่นๆ ที่ราคาเบาลงมาหน่อย เริ่มต้นที่ประมาณ 3,000 - 5,000 บาท (฿) ต่อคอร์สก็มีนะ ส่วนคอร์สแบบเหมาแพ็คเกจหลายๆ คอร์สพร้อมกัน ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก อย่างที่เห็นในกระทู้พันทิป มีคนส่งต่อคอร์สเหมา 4 คอร์สในราคาประมาณ 29,900 บาท (฿) อันนี้ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนอยากเรียนครบวงจรในราคาที่อาจจะย่อมเยาลงมาถ้าซื้อมือสองนะ

ทีนี้ถ้าถามว่าเจอที่ไหนบ้าง? นอกจากเว็บไซต์ของ Fast English เอง แล้ว ก็มีคนประกาศขายคอร์สที่ตัวเองซื้อมาแต่ยังไม่ได้เรียน หรือเรียนไม่จบ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อย่าง Pantip หรือ Dek-D เยอะเลยจ้า ส่วนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee อาจจะไม่ได้เจอคอร์สเรียนตรงๆ จากสถาบันซะทีเดียว แต่ก็อาจจะมีเป็นพวกหนังสือ หรือสื่อการสอนอื่นๆ ของ Fast English มาขายแทน

สรุปคือ ราคาเริ่มต้นของ Fast English เนี่ย ก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงเกือบสามหมื่นบาทเลย ขึ้นอยู่กับว่าลงคอร์สไหนและกี่คอร์สนะจ๊ะ

3. แล้วเทียบกับคอร์สอื่นในตลาดล่ะ ราคาเป็นยังไง?

ถ้าให้เทียบกับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษอื่นๆ ในตลาดไทยเนี่ย ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยต่อชั่วโมง ไปจนถึงหลักหมื่นหลักแสนบาทเลยนะ อย่างคอร์สเรียนออนไลน์ตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ บางที่ก็เริ่มต้นแค่ 200-300 บาทต่อชั่วโมงก็มี หรือคอร์สออนไลน์แบบแพ็คเกจยาวๆ เป็นปีๆ ราคาอาจจะอยู่ที่หลายหมื่นบาทเลยก็ได้

เมื่อเทียบกับคอร์สของ Fast English ที่ราคาคอร์สหลักๆ อยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท หรือแพ็คเกจเหมาอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท เนี่ย ก็ถือว่าอยู่ในช่วง ราคาระดับกลางๆ ถึงค่อนไปทางสูง ของตลาดคอร์สภาษาอังกฤษในไทยนะ ไม่ได้ถูกจ๋าแบบคอร์สออนไลน์รายชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้แพงหูฉี่เท่าคอร์สเรียนที่ต่างประเทศแน่นอน

ความคุ้มค่าเนี่ย มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเรามองหาอะไร ถ้าเน้นเรียนกับเจ้าของภาษาแบบตัวต่อตัว เน้นฝึกพูดจ๋าๆ อาจจะมีตัวเลือกอื่นที่ราคาต่อชั่วโมงถูกกว่า แต่ถ้าเราเน้น ปูพื้นฐานแกรมม่าให้แน่นแบบมีระบบ, เน้นการสอนที่มีหลักการชัดเจนจากอาจารย์ที่เชี่ยวชาญ (เขาบอกว่าอาจารย์จบปริญญาเอกด้านภาษามานะ), แล้วก็มีเป้าหมายเพื่อ เตรียมสอบ หรือใช้ในเชิงวิชาการ/ธุรกิจ คอร์สของ Fast English ก็น่าจะตอบโจทย์มากกว่า และเมื่อมองจากจุดนี้ ราคาที่จ่ายไปก็อาจจะถือว่า คุ้มค่า กับเนื้อหาและความเชี่ยวชาญที่ได้รับนะ

คือมันเหมือนเลือกร้านอาหารน่ะแหละ จะกินข้าวแกงริมทางก็ได้ อร่อย ราคาถูก แต่ถ้าอยากกินสเต็กพรีเมียมในร้านหรูๆ ราคาก็ต้องสูงขึ้นเป็นธรรมดา แล้วเราก็ต้องดูว่ามื้อนั้นเราอยากกินอะไรมากกว่ากัน!

4. ซื้อคอร์สแล้ว ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้าง?

เวลาเราลงทุนกับคอร์สเรียนเนี่ย นอกจากเนื้อหาความรู้ที่เราจะได้รับแล้ว สิ่งที่แถมมาด้วยก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ สำหรับ Fast English สิ่งที่เราน่าจะได้รับหลักๆ ก็คือ:

• เอกสารประกอบการเรียน/หนังสือเรียน: อันนี้สำคัญมาก เพราะเป็นคัมภีร์ที่เราจะใช้ศึกษาและทบทวน ลองสอบถามดูว่ารวมอยู่ในค่าคอร์สแล้วหรือยัง หรือต้องซื้อเพิ่ม
• การเข้าเรียน: แน่นอนว่าต้องได้เข้าเรียน! ทั้งแบบ Onsite หรือ Online ตามที่เราลงทะเบียนไว้ บางคอร์สอาจจะมีระบบให้เรียนซ้ำได้ หรือดูเทปย้อนหลังได้ อันนี้ก็เป็นข้อดีมากๆ ถ้าวันไหนไม่ว่าง หรืออยากทบทวน
• ระยะเวลาคอร์ส: แต่ละคอร์สก็มีระยะเวลาเรียนแตกต่างกันไปนะ ต้องเช็คให้ดีว่าคอร์สที่เราสนใจใช้เวลาเรียนนานแค่ไหน เช่น 5 เดือน, 2-4 เดือน หรืออื่นๆ
• การรับประกันผล (?) หรือการสอบวัดระดับ: บางสถาบันอาจจะมีระบบการสอบวัดระดับ หรือมีการรับประกันผลถ้าเป็นคอร์สเตรียมสอบ ลองสอบถามรายละเอียดพวกนี้ดูก็ดีนะ คนไทยเราชอบอะไรที่มีการรับประกัน!
• โปรโมชั่น/ของแถม: อันนี้แล้วแต่ช่วงเลยจ้า บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือแถมคอร์สอื่นให้ฟรีถ้าลงแพ็คเกจใหญ่ๆ

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าเป็นคอร์สเรียนออนไลน์ที่ไม่มีการจัดส่งเอกสารเป็นเล่มๆ ก็น่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้นะ แต่ถ้ามีหนังสือหรือเอกสารให้ส่งถึงบ้าน ก็ต้องเช็คดูว่าค่าคอร์สรวมค่าส่งแล้วหรือยัง

5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าโดนบ้างนะ?

เรื่องโปรโมชั่นเนี่ย บอกเลยว่าเป็นจังหวะทองของนักช้อป เอ้ย! นักเรียนอย่างเราๆ เลยนะ! ถึงแม้ Fast English จะไม่ใช่สินค้าที่ลดราคาบ่อยเหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเสื้อผ้าในห้าง แต่ก็อาจจะมีโปรโมชั่นออกมาบ้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญๆ นะ

• ช่วงเทศกาลต่างๆ: เหมือนร้านค้าอื่นๆ สถาบันสอนภาษาก็อาจจะมีโปรโมชั่นต้อนรับเทศกาลใหญ่ๆ ของไทยบ้าง เช่น ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือ ช่วงปลายปี ที่มีวันหยุดยาวๆ ลองติดตามข่าวสารจากสถาบันดูนะ
• โปรโมชั่นเฉพาะคอร์ส/ช่วงเวลา: บางทีเขาก็อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษสำหรับบางคอร์ส หรือในช่วงเวลาที่ต้องการกระตุ้นยอดขาย
• โปรโมชั่นแบบเหมาแพ็คเกจ: อันนี้เจอบ่อย คือถ้าเราลงเรียนหลายๆ คอร์สพร้อมกัน หรือเป็นแพ็คเกจที่เขารวมมาให้แล้ว ราคาต่อคอร์สก็จะถูกลงกว่าการลงแยกเป็นคอร์สๆ ไป อันนี้เหมาะมากสำหรับคนที่วางแผนจะเรียนยาวๆ
• การซื้อคอร์สต่อจากผู้อื่น: อย่างที่บอกไปในข้อ 2 การซื้อคอร์สต่อจากคนที่เขาสมัครไว้แล้วแต่ไม่ได้เรียน หรือเรียนไม่จบเนี่ย เป็นอีกช่องทางที่อาจจะได้คอร์สในราคาที่ถูกลงไปอีกเยอะเลยนะ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ขายด้วยนะจ๊ะ

สรุปคือ ถ้าอยากได้ราคาดีๆ ก็ต้องหมั่นติดตามข่าวสารจากสถาบัน หรือลองส่องๆ ดูตามกลุ่มซื้อขายคอร์สเรียนต่างๆ ในออนไลน์นะ โอกาสเจอดีลดีๆ ก็มีอยู่จ้า!

6. คนไทยเรียนแล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

ไหนๆ ก็จะลงทุนเรียนแล้ว ก็ต้องลองไปส่องๆ ดูหน่อยว่าคนไทยที่เคยเรียน Fast English เนี่ย เขารู้สึกยังไงกันบ้าง จากที่ลองอ่านรีวิว (ทั้งเก่าและใหม่) ก็พอจะสรุปจุดที่คนเรียนชอบและไม่ชอบได้ประมาณนี้จ้า

จุดที่คนเรียนชอบ:

• พื้นฐานแกรมม่าแน่นปึ้ก: หลายคนบอกว่าเรียนแกรมม่าที่นี่แล้วเข้าใจมากขึ้น พื้นฐานแน่นขึ้นจริงๆ เทคนิคการสอนเรื่องแกรมม่าดูเหมือนจะเป็นจุดแข็งของที่นี่เลยนะ
• เหมาะกับการเตรียมสอบ: หลายคนที่เรียนเพื่อไปสอบ TOEFL, TOEIC, หรือ IELTS บอกว่าคอร์สของ Fast English ช่วยให้ทำข้อสอบได้ดีขึ้น เหมือนเนื้อหาที่เรียนครอบคลุมสิ่งที่ออกสอบ
• อาจารย์มีพลัง ให้แรงบันดาลใจ: บางรีวิวบอกว่าอาจารย์มีวิธีการสอนที่ทำให้มีแรงจูงใจในการเรียน
• เรียนรู้หลักการได้ง่าย: วิธีการสอนเหมือนจะเน้นให้เข้าใจหลักการมากกว่าท่องจำ ซึ่งทำให้จำได้นานและนำไปประยุกต์ใช้ได้

จุดที่อาจจะต้องพิจารณา:

• การสอนเน้นแกรมม่ามาก: สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกว่าเน้นแกรมม่ามากไปหน่อย ถ้าอยากได้คอร์สที่เน้นการสื่อสารแบบธรรมชาติ อาจจะต้องลองดูคอร์ส Conversation โดยเฉพาะของเขา หรือดูสถาบันอื่นประกอบ
• บางรีวิวบอกว่าอาจารย์พูดนอกเรื่องเยอะ: มีบางรีวิวที่บอกว่าอาจารย์ผู้สอนบางท่านอาจจะพูดนอกเรื่องเยอะไปบ้าง ซึ่งอาจจะทำให้เสียสมาธิหรือกินเวลาเรียน
• เน้นท่องจำในบางส่วน: ถึงแม้จะบอกว่าเน้นความเข้าใจ แต่บางรีวิวก็บอกว่าบางส่วนก็ยังต้องอาศัยการท่องจำ
• รูปแบบการเรียน (เทปบันทึก): บางคอร์สโดยเฉพาะการเรียนวันหยุดอาจจะเป็นการเรียนจากเทปบันทึก ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบเรียนสดๆ โต้ตอบกับอาจารย์ได้ทันที

โดยรวมแล้ว ถ้าดูจากรีวิว Fast English ดูเหมือนจะตอบโจทย์คนที่ต้องการ ปูพื้นฐานให้แข็งแรงมากๆ โดยเฉพาะแกรมม่า และ เตรียมตัวสอบ ได้ดีเลยจ้า แต่ถ้าคาดหวังการฝึกพูดแบบเน้นๆ จ๋าๆ อาจจะต้องดูรายละเอียดคอร์ส Speaking/Conversation ของเขา หรือมองหาตัวเลือกอื่นที่เน้นทักษะนี้โดยเฉพาะนะ

7. จะซื้อคอร์ส Fast English ได้จากช่องทางไหนบ้าง?

สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าอยากจะลองเรียนกับ Fast English เนี่ย ตอนนี้มีช่องทางให้เลือกซื้อได้หลายแบบเลยนะ:

• เว็บไซต์ทางการของสถาบัน: อันนี้คือช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดนะ เข้าไปดูรายละเอียดคอร์ส ราคา และสมัครเรียนได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของ Fast English เลย
• สถาบัน Fast English (Onsite): ถ้าสะดวกเดินทาง ก็สามารถไปสมัครเรียนที่สถาบันของเขาได้เลยนะ มีสาขาอยู่บ้าง เช่น ลาดพร้าว, สีลม, สยามสแควร์ การไปที่สถาบันก็จะได้สอบถามรายละเอียด พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง
• แพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ (สำหรับคอร์สส่งต่อ/มือสอง): อย่างที่เกริ่นไป การซื้อคอร์สต่อจากผู้อื่นบนเว็บบอร์ดหรือกลุ่มซื้อขายต่างๆ เช่น Pantip, Dek-D ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ ข้อดีคืออาจจะได้ราคาที่ถูกลงเยอะมาก แต่ข้อควรระวังคือต้องตรวจสอบผู้ขายให้ดี เช็คความน่าเชื่อถือ และถ้าเป็นไปได้ ควรนัดเจอเพื่อดำเนินการเรื่องเอกสารที่สถาบัน Fast English โดยตรง เพื่อความปลอดภัยและให้แน่ใจว่าสามารถโอนสิทธิ์การเรียนได้จริงๆ นะจ๊ะ

ส่วนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada, Shopee อาจจะไม่ใช่ช่องทางหลักในการซื้อคอร์สเรียนโดยตรง แต่ก็ลองเข้าไปค้นหาดูเผื่อเจอพวกหนังสือหรือสื่อการสอนอื่นๆ ของ Fast English นะจ๊ะ

8. สรุปแล้วคอร์ส Fast English น่าลงทุนไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ววว! ถามว่าคอร์สเรียน Fast English ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ แล้วคุ้มค่าไหมกับการลงทุน? จากข้อมูลที่เราไปสืบมา ราคาเริ่มต้นก็มีตั้งแต่หลักพันสำหรับคอร์สออนไลน์เฉพาะทาง ไปจนถึงหลักหมื่นสำหรับคอร์สหลักหรือแพ็คเกจเหมานะ

ส่วนเรื่องความคุ้มค่า เนี่ย บอกเลยว่า คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนกลุ่มนี้:

• คนที่รู้สึกว่าตัวเอง พื้นฐานภาษาอังกฤษยังไม่แน่น โดยเฉพาะแกรมม่า และอยากปูพื้นฐานให้แข็งแรงแบบมีระบบ
• คนที่ กำลังเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษ ที่เน้น Grammar หรือ Structure ค่อนข้างมาก เช่น TOEFL
• คนที่ชอบ การสอนที่มีหลักการชัดเจน มีกฎเกณฑ์ให้ทำความเข้าใจ
• คนที่อยากได้ คอร์สที่ช่วยในการเรียบเรียงความคิด เพื่อการพูดและการเขียนที่ถูกต้อง

ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มนี้ และพร้อมที่จะลงทุนกับคอร์สที่มีราคาระดับกลางๆ ถึงค่อนไปทางสูง เพื่อแลกกับเนื้อหาที่เน้นหลักการและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน Grammar และ Structure แล้วล่ะก็ Fast English น่าจะเป็นตัวเลือกที่ น่าลงทุน และตอบโจทย์มากๆ เลยนะ

แต่ถ้าเป้าหมายหลักของคุณคือการฝึกพูดให้คล่องแบบธรรมชาติ เน้นการสนทนาในชีวิตประจำวัน หรือต้องการคอร์สที่ราคาเบามากๆ อาจจะต้องลองดูคอร์ส Speaking/Conversation ของ Fast English โดยเฉพาะ หรือเปรียบเทียบกับสถาบันอื่นที่เน้นด้านนี้เป็นพิเศษนะ

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าอยากเก่งแกรมม่าและเตรียมสอบแบบแน่นๆ ปึ้กๆ ในราคาที่สมเหตุสมผลกับเนื้อหาเฉพาะทาง Fast English คือเพื่อนแท้เลยจ้า แต่ถ้าอยากเม้าท์มอยกับฝรั่งได้ไฟแล่บในงบจำกัด อาจจะต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยนะ!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้คอร์สเรียนที่ถูกใจและเก่งภาษาอังกฤษกันถ้วนหน้านะคะ! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ค่าใช้จ่ายเรียนภาษาอังกฤษที่เอยูเอ
• C1 EP.2 ราคาคอร์สเรียน เท่าไหร่?? @AUALC #สถาบันสอนภาษาเอ ...
• Ep.7 Review บรรยากาศในการเรียน เน้นพูด ฟัง #learnenglish ...
• รีวิว คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่คุ้มค่าและได้ผลจริง
• รีวิวคอร์ส A: ข้อดีและข้อเสียการเรียน