รีวิวและราคา Klipsch Heritage Groove ลำโพงบลูทูธพกพา เสียงดี


สวัสดีค่าาา สาย Gadget สายเพลง และสายช้อปทั้งหลายยย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยลำโพงบลูทูธสุดเก๋ที่เห็นแล้วใจละลายอย่าง Klipsch Heritage Groove กัน ใครที่กำลังมองหาลำโพงพกพาดีไซน์วินเทจ เสียงดีพรีเมียมเกินตัว พกไปไหนก็มีแต่คนทัก มาทางนี้เลยจ้า เราจะรีวิวให้ฟังแบบหมดเปลือก แถมส่องราคาและช่องทางซื้อให้ครบ พร้อมทริคช้อปยังไงให้คุ้มค่า! เตรียมหูฟัง เอ้ย! เตรียมตังค์ให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลยยย!
1. ลำโพงอะไรเนี่ย ทำไมเก๋าจัง?
มาเริ่มกันที่ว่าเจ้า Klipsch Heritage Groove มันคืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ เลยมันคือ ลำโพงบลูทูธแบบพกพา ตัวจิ๋วแต่แจ๋วจากแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Klipsch (คลิปช์) ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องเสียงเก่าแก่มากๆ จากอเมริกา ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1946 โน่นแน่ะ! เค้าขึ้นชื่อเรื่องลำโพงที่ให้เสียงทรงพลัง รายละเอียดดี มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี Horn-loaded ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์
สำหรับเจ้า Heritage Groove เนี่ย แม้จะเป็นลำโพงพกพาตัวเล็ก แต่เค้าจัดเต็มเรื่องคุณภาพเสียงตามสไตล์ Klipsch เลยจ้า แถมดีไซน์นี่กินขาดสุดๆ เพราะเค้าอยู่ในซีรีส์ Heritage Wireless ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลำโพงรุ่นคลาสสิกสมัยก่อน วัสดุนี่พรีเมียมมาก ใช้ ไม้จริง (Real Wood Veneer) กับปุ่มควบคุมโลหะที่ให้สัมผัสดี๊ดี เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบดีไซน์แบบ Mid-Century Modern หรือแนวย้อนยุคหน่อยๆ ไม่ใช่แค่ฟังเพลงดีนะ แต่วางไว้เฉยๆ ก็เหมือนเป็นของแต่งบ้านเก๋ๆ เลยทีเดียว
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับเจ้านี่ก็คือ คนที่รักเสียงเพลง อยากได้ลำโพงพกพาที่คุณภาพเสียงดีกว่าลำโพงทั่วๆ ไป พกพาสะดวก (ถึงแม้จะไม่ได้เล็กจิ๋วเท่าบางรุ่น แต่ก็ไม่ได้หนักเว่อร์) และที่สำคัญคือชอบดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร มีความคลาสสิก พรีเมียม จะเอาไปฟังในห้องนั่งเล่น ในครัว โต๊ะทำงาน หรือพกไปเที่ยวนอกบ้านแบบชิลๆ ก็ยังได้อยู่
2. ราคาในตลาดไทยเท่าไหร่กันนะ?
มาถึงเรื่องที่ทำให้หลายคนตาลุกวาว นั่นก็คือเรื่องราคา! สำหรับ Klipsch Heritage Groove ในตลาดไทยเนี่ย ราคามาตรฐานช่วงเปิดตัวจะสูงกว่านี้หน่อย แต่ตอนนี้ราคาเค้าลงมาน่ารักขึ้นเยอะเลยจ้า จากที่ส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มออนไลน์และร้านค้าต่างๆ ราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ ฿4,990 - ฿5,990 โดยประมาณนะ
ลองเช็คดูใน Lazada กับ Shopee นี่แหละ แหล่งรวมของดีราคาโดน จะมีร้านค้า Official หรือร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายนำเข้ามาขาย บางทีก็มีร้านค้าอื่นๆ ด้วย ราคาจะใกล้เคียงกัน แต่ก็อาจมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นต่างกันไปนะ ส่วนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy หรือร้านที่เน้นเครื่องเสียงโดยเฉพาะก็น่าจะมีวางขายเหมือนกัน (แต่ JIB หรือ Banana IT อาจจะไม่เน้นลำโพงสไตล์นี้เท่าไหร่) ราคาตามร้านเหล่านี้ก็มักจะอิงตามราคาตั้ง แต่ก็อาจจะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% หรือส่วนลดพิเศษในช่วงต่างๆ นะ
ถ้าเทียบกับราคาเปิดตัวในต่างประเทศ (บางทีเจอประมาณ 170 USD หรือ ~6,xxx บาท) ราคาในไทยถือว่าเข้าถึงง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนมากเท่าเมื่อก่อนแล้วจ้า.
3. แอบส่องคู่แข่ง ราคาต่างกันเยอะไหม?
ถ้าให้เทียบกับลำโพงบลูทูธพกพาแบรนด์อื่นๆ ในตลาดที่มีราคาใกล้เคียงกัน หรือมีฟังก์ชันคล้ายๆ กันเนี่ย Klipsch Heritage Groove จะอยู่ในกลุ่มที่เน้นเรื่อง คุณภาพเสียงและดีไซน์พรีเมียม เป็นพิเศษนะ คู่แข่งตัวฉกาจที่คนมักเอามาเทียบก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์ที่มีดีไซน์โดดเด่นเหมือนกันอย่าง Marshall ในรุ่นเล็กๆ อย่าง Emberton หรือ Willen ซึ่ง Marshall Emberton III ราคาจะสูงกว่าหน่อย อยู่ที่ประมาณ ฿7,xxx ส่วน Marshall Willen II จะราคาถูกกว่า อยู่ที่ประมาณ ฿4,xxx
ถ้าเทียบกับแบรนด์ยอดนิยมอื่นๆ อย่าง JBL Flip หรือ Charge หรือ Sony บางรุ่น เนี่ย Klipsch Heritage Groove อาจจะมีราคาสูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบที่ขนาดใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ได้มาคือวัสดุที่เป็นไม้จริง ความประณีตของงานประกอบ และเอกลักษณ์เรื่องเสียงของ Klipsch ที่หลายคนชื่นชอบ ในขณะที่ JBL หรือ Sony อาจจะเน้นเรื่องความทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น ซึ่ง Heritage Groove ไม่ได้มีฟังก์ชันพวกนี้
ดังนั้น Klipsch Heritage Groove ก็คือตัวเลือกที่เน้นความ คุ้มค่าในเรื่องคุณภาพเสียงและดีไซน์ สำหรับคนที่ยอมจ่ายเพิ่มอีกนิดเพื่อความพรีเมียมและเสียงที่ดีมีสไตล์จ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
เวลาสอยเจ้า Klipsch Heritage Groove มา สิ่งที่มักจะเจอในกล่อง (แบบมาตรฐาน) ก็จะมี:
- ตัวลำโพง Klipsch Heritage Groove: แน่นอนว่าต้องมีตัวนี้แหละ!
- สายชาร์จ Micro USB to USB: ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
- อแดปเตอร์ปลั๊กไฟ AC: บางทีก็มีหัวอแดปเตอร์มาให้หลายแบบ เพื่อให้ใช้ได้กับปลั๊กหลายประเทศ
- คู่มือการใช้งาน: เอาไว้อ่านฟังก์ชันต่างๆ
ส่วนเรื่องบริการอื่นๆ ที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน รุ่นนี้ส่วนใหญ่ที่ขายในไทยจะเป็น ประกันศูนย์ไทย 1 ปี นะ อันนี้หายห่วงได้เลย ถ้ามีปัญหาอะไรก็เข้าศูนย์บริการในไทยได้เลยจ้า
เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์กับร้านค้าใหญ่ๆ หรือ Official Store ส่วนใหญ่ก็มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ให้ด้วยนะ แต่ก็ต้องเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านอีกที ส่วนของแถมหรือโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆ อันนี้แล้วแต่ช่วงแล้วแต่ร้านเลยจ้า บางทีอาจจะมีคูปองส่วนลด หรือของแถมเล็กๆ น้อยๆ ติดมาด้วย ก็ต้องตาดีได้ ตาร้ายเสีย เอ้ย! ไม่ใช่ ต้องหมั่นส่องโปรโมชั่นเอาเนอะ!
5. ช่วงไหนน่าสอยที่สุด โปรโมชั่นมีไหม?
ถ้าใจเย็นพอและอยากได้ราคาดีๆ ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือโอกาสทอง! แม้จะไม่ใช่สินค้าใหม่แกะกล่อง แต่ Klipsch Heritage Groove ก็ยังเป็นรุ่นยอดนิยมที่มักจะร่วมรายการลดราคาอยู่บ่อยๆ จ้า
ช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ ของไทยนี่พลาดไม่ได้เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นช่วง 11.11 หรือ 12.12 ที่แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็ม รวมถึงช่วงเทศกาลสำคัญอื่นๆ อย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็มีสิทธิ์เจอโปรโมชั่นลดราคาได้เหมือนกัน ร้านค้าระดับแฟลกชิพบน Lazada/Shopee ก็มักจะมีส่วนลด หรือออกโค้ดส่วนลดพิเศษมาให้ใช้เป็นระยะๆ นะ
ดังนั้น ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ แนะนำให้ รอช่วงโปรโมชั่น เลยจ้า มีโอกาสได้ราคาดีกว่าซื้อแบบปกติเยอะเลยทีเดียว หรืออย่างน้อยก็ได้ใช้โค้ดส่วนลดค่าส่งหรือส่วนลดจากแพลตฟอร์มก็ยังดีเนอะ!
6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นไงบ้าง?
จากที่ลองไปแอบอ่านรีวิวของคนไทยตามที่ต่างๆ เนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ Klipsch Heritage Groove ส่วนใหญ่ถือว่าดีมากๆ เลยนะ จุดที่คนไทยชอบเป็นพิเศษก็คือ:
- คุณภาพเสียงดีเกินตัว: หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลำโพงตัวเล็กแค่นี้ แต่เสียงดีมากๆ เสียงร้องชัด เบสมีอิมแพคต์ ฟังสนุก เสียงใส รายละเอียดดี ตามสไตล์ Klipsch เลย
- ดีไซน์สวย คลาสสิก พรีเมียม: อันนี้เป็นจุดเด่นที่หลายคนหลงรักจริงๆ วัสดุไม้จริง งานประกอบเนี๊ยบ วางตรงไหนก็ดูดี เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นลำโพงมีระดับ!
- ใช้งานง่าย: ปุ่มควบคุมไม่ซับซ้อน เชื่อมต่อง่าย
- ขนาดกำลังดี พกพาสะดวก: แม้จะไม่ได้เล็กจิ๋วที่สุด แต่ก็เป็นขนาดที่พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก
- ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบคุณภาพเสียง ดีไซน์ และราคา (ในช่วงโปรโมชั่น) ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่บอกไปคือ ไม่ได้กันน้ำ กันฝุ่น ดังนั้นอาจจะไม่เหมาะกับการลุยๆ หรือพกไปริมทะเล หรือสระน้ำแบบเต็มที่เท่าไหร่ และบางคนอาจจะรู้สึกว่าเสียงเบสมีเยอะหน่อย (แต่บางคนก็ชอบนะ แล้วแต่แนวเพลงที่ฟัง) และไม่มีระบบบอกสถานะแบตเตอรี่ที่ชัดเจนบนตัวลำโพงหรือมือถือ ต้องคอยสังเกตเอาเอง
สรุปคือ โดยรวมแล้วคนไทยที่ได้ลองใช้ Klipsch Heritage Groove ค่อนข้างประทับใจกับ เสียงที่ดีมีสไตล์ และ ดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่ายจ้า
7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนบ้างนะ?
สำหรับคนที่โดนป้ายยาไปแล้ว อยากสอยเจ้า Klipsch Heritage Groove มาครอบครองเนี่ย ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำก็มีตามนี้เลยจ้า:
- แพลตฟอร์ม E-commerce ยอดนิยม: อย่าง Lazada และ Shopee นี่แหละสะดวกสุดๆ เพราะมีร้านค้าให้เลือกเยอะ ทั้ง Official Store ของแบรนด์ หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาง่าย มีโปรโมชั่นส่วนลดเยอะ ระบบการชำระเงินปลอดภัย และมีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้ดู แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกันที่ชัดเจนนะจ๊ะ ดูที่ร้านค้าทางการ (Official Store) หรือร้านที่มีคะแนนรีวิวสูงๆ หน่อยจะมั่นใจได้มากกว่า
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: ลองเช็ครายชื่อตัวแทนจำหน่าย Klipsch ในประเทศไทยดู ร้านเหล่านี้มักจะมีหน้าร้านให้เราได้ไปลองฟังเสียง ลองจับตัวลำโพงก่อนตัดสินใจซื้อได้ แถมมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีประกันศูนย์แน่นอน ราคาก็อาจจะเท่ากับราคาตั้ง หรือมีโปรโมชั่นเฉพาะของร้านก็ได้นะ
- ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่: อย่าง Power Buy ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าไปดู เพราะเค้ามีโซนเครื่องเสียง มีลำโพงหลากหลายแบรนด์ให้เลือก อาจจะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% หรือส่วนลดบัตรเครดิตในช่วงต่างๆ ด้วย
ช่องทางพวกนี้ถือเป็นช่องทางทางการและน่าเชื่อถือสำหรับการซื้อ Klipsch Heritage Groove ในไทยนะจ๊ะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครนะ?
มาถึงบทสรุปส่งท้ายกันแล้ว ถามว่าเจ้า Klipsch Heritage Groove ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? บอกเลยว่า ยังน่าซื้อมากๆ จ้า! โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังมองหาลำโพงบลูทูธพกพาที่:
- เน้น คุณภาพเสียง ที่ดีเกินตัว เบสแน่นฟังสนุก เสียงร้องชัด รายละเอียดดี
- ชอบ ดีไซน์ ที่สวยงาม คลาสสิก วินเทจ พรีเมียม วัสดุดี
- อยากได้ลำโพงที่ พกพาง่าย แต่ให้เสียงที่เต็มอิ่ม
- มีงบประมาณในช่วงประมาณ 5-6 พันบาท
ถ้าเข้าข่ายตามนี้ เจ้า Heritage Groove ตอบโจทย์แน่นอน! มันเป็นลำโพงที่ให้ ความคุ้มค่า สูงมากๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงและดีไซน์ที่ได้ในราคาระดับนี้ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากได้ลำโพงพกพาที่ดูดี มีสไตล์ คุณภาพเสียงไว้ใจได้ จะใช้เองก็ได้ ซื้อเป็นของขวัญก็ดีงาม
ส่วนใครที่ควรจะมองหารุ่นอื่น อาจจะเป็นคนที่เน้นเรื่องความทนทาน กันน้ำ กันฝุ่นมากๆ เพราะรุ่นนี้ไม่ได้มีฟังก์ชันส่วนนี้ หรือคนที่ชอบเสียงเบสที่น้อยกว่านี้หน่อย หรือต้องการฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การเชื่อมต่อ Multi-room, Voice Assistant อะไรพวกนั้น ก็อาจจะต้องดูรุ่นที่ใหม่กว่าหรือแบรนด์อื่นที่เน้นฟังก์ชันเหล่านั้นไปเลย
แต่ถ้าเน้นเสียงดีไซน์สวย จบที่ Klipsch Heritage Groove นี่แหละ ไม่ผิดหวังแน่นอนจ้าาา! ขอให้ทุกคนที่เล็งๆ อยู่ได้น้องลำโพงสุดเก๋าตัวนี้ไปสร้างความสุขทางเสียงกันนะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว Klipsch Heritage Groove - ลำโพงบลูทูธวินเทจ ไม้แท้! ราคา ...
- รีวิว : ลำโพงไม้แท้ ไร้สาย ระดับ Hi-End Klipsch Heritage Groove
- รีวิว Klipsch Heritage Groove l ลำโพงบลูทูธตัวจบในราคา 5990 บาท
- ⭐️Review ลำโพงบลูทูธตัวจบ Klipsch Heritage Groove 🔈ลำโพง ...
- รีวิว Klipsch Groove XXL - ลำโพงพกพา เสียงดี ฟังสนุก แต่...
แนะนำสำหรับคุณ
แหล่งรวม เช่ารถขับเอง กรุงเทพ ราคาถูก: เที่ยวสะดวก ประหยัดงบ
ราคา iPad Gen 8 Wi-Fi + Cellular 128GB มือสอง คุ้มไหมปี 2024?
Vivo V23 5G ราคาเท่าไหร่?: สเปกกล้องหน้าเทพ ถ่ายเซลฟี่สวย
ราคา Mercedes-AMG GT ในไทย: สปอร์ตคูเป้สุดแรงจากแดนเยอรมัน
ราคาเหล้าบางยี่ขัน: อัปเดตล่าสุด หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคาเตาอบ Rational Combi Steamer: อุปกรณ์ครัวมืออาชีพ ประหยัดเวลา ทำอาหารได้หลากหลาย