logo

รีวิว Dr. Forhair: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ลดผมร่วง ดีจริงไหม?

user avatar
เกศรินทร์ รัตนเสถียร·07/04/2025 14:22
点赞
รีวิว Dr. Forhair: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ลดผมร่วง ดีจริงไหม?

โอ๊ยยย ผมร่วงเป็นไม้กวาดทุกวัน! หวีทีนึงใจจะขาด! ใครมีปัญหาเดียวกันบ้างคะ? ช่วงนี้เห็นรีวิว Dr. Forhair ตัวดังเกาหลีเต็มฟีดไปหมด เค้าบอกว่าช่วยลดผมร่วงได้จริง แถมบำรุงหนังศีรษะด้วย เอ๊ะ...แต่ของแบบนี้มันต้องลองเองค่ะซิส! วันนี้อิฉันเลยขอรับบทเป็นหนูลองยา ควักเงินในบัญชีไปสอยมาลองใช้ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ว่าเจ้าตัวนี้มันจะ ดีจริงไหม? คุ้มกับที่เสียตังค์ไปรึเปล่า? มาค่ะ! ตามมาดูรีวิวแบบบ้านๆ สไตล์คนผมบางที่อยากผมหนาเหมือนไปต่อผมมาเลย!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: Dr. Forhair นี่มันคืออะไรกันนะ?

รู้จักน้อง Dr. Forhair กันคร่าวๆ ก่อนเนอะ เค้ามาจากประเทศเกาหลี ดินแดนโสมที่เรื่องความสวยความงามคือที่หนึ่ง! เค้ามีไลน์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะเยอะมาก แต่ตัวที่เราจะรีวิววันนี้คือ แชมพูและทรีตเมนต์ลดผมร่วง ตัวดังที่หลายคนพูดถึงค่ะ

แบรนด์: Dr. Forhair (ด็อกเตอร์ ฟอร์แฮร์)
ไลน์ผลิตภัณฑ์: Folligen (มีหลายตัวย่อยๆ)
ช่วงราคา: กลางๆ ค่อนไปทางสูง (ประมาณ 500 - 1,000 บาท ต่อชิ้น แล้วแต่โปรโมชั่น)
ตำแหน่งในตลาด: เวชสำอางดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ เน้นแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางโดยเฉพาะ

จุดเด่นที่เค้าเคลมมา:

  • ลดผมร่วง เห็นผลจริง
  • เสริมสร้างรากผมให้แข็งแรง
  • ทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างล้ำลึก
  • มีส่วนผสมที่จดสิทธิบัตร จากเกาหลี (ฟังดูน่าเชื่อถือเนอะ)
  • อ่อนโยน ใช้ได้ทุกวัน

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบหรูดูแพงสไตล์เกาหลี

แพ็กเกจเค้ามาในโทนสีขาวคลีนๆ ดูมินิมอลตามสไตล์เกาหลีเป๊ะ! ขวดเป็นพลาสติกแข็งแรง ทนทาน ไม่ก๊องแก๊ง ตัวแชมพูเป็นขวดปั๊ม ใช้งานง่าย ส่วนทรีตเมนต์เป็นหลอดบีบ

การออกแบบ: เรียบง่าย สะอาดตา ดูเป็นเวชสำอางจริงๆ
วัสดุ: ขวดพลาสติกคุณภาพดี
ขนาด: มีหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ไซส์เล็กไว้พกพาไปต่างจังหวัดยันไซส์ใหญ่บึ้มตั้งในห้องน้ำได้เลย
สี: แพ็กเกจส่วนใหญ่เป็นสีขาว
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: มักจะมาแค่ตัวผลิตภัณฑ์เลยค่ะ อาจมีซีลพลาสติกหุ้มไว้


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: สระแล้วรู้สึกไง? ผมร่วงน้อยลงจริงดิ?

เอาล่ะ! มาถึงช่วงเวลาสำคัญ! อิฉันลองใช้ต่อเนื่องมาประมาณ 1 เดือน แล้วค่ะ สระผมวันเว้นวัน ใช้คู่กันทั้งแชมพูและทรีตเมนต์

แชมพู: เนื้อแชมพูเป็นเจลใสๆ ฟองไม่เยอะมาก (สไตล์แชมพูอ่อนโยน) กลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่นดีค่ะ ไม่ฉุน ล้างออกง่าย รู้สึกว่าทำความสะอาดหนังศีรษะได้ดี หลังสระจะรู้สึกเย็นๆ สบายหนังศีรษะ ฟีลเหมือนได้ดีท็อกซ์หนังศีรษะไปในตัว

ทรีตเมนต์: เนื้อทรีตเมนต์ไม่ข้นมาก เหมือนครีมนวดผมทั่วไปเลยค่ะ ใช้หลังสระแชมพู ชโลมเน้นที่หนังศีรษะและปลายผม นวดเบาๆ ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วล้างออก ตัวนี้ก็กลิ่นคล้ายๆ แชมพู แต่จะหอมหวานกว่านิดนึง ช่วยให้ผมนุ่มขึ้น ไม่พันกันหลังสระ

ผลลัพธ์เรื่องผมร่วง: อันนี้ต้องบอกตามตรงว่า เห็นผลจริงๆ ค่ะ! จากเมื่อก่อนสระผมทีนึง ผมร่วงติดมือมาเป็นกระจุก ตอนนี้เหลือน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด หวีผมก็ร่วงน้อยลงไปเยอะมากๆ

ความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ: รู้สึกว่าหนังศีรษะมันช้าลง ปกติสระวันเว้นวัน วันที่สองหนังศีรษะจะเริ่มมันๆ คันๆ ละ แต่อันนี้ยังรู้สึกสะอาดสบายอยู่เลยค่ะ ส่วนเรื่องผมขึ้นใหม่ อันนี้ยังไม่เห็นชัดมาก อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่านี้


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: เหมือนสระผมทั่วไป ง่ายเวอร์!

ใช้ง่ายเหมือนสระผมปกติเลยค่ะ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย

ความง่ายในการใช้: ง่ายมาก! เหมือนใช้แชมพูครีมนวดทั่วไป
สิ่งที่ต้องเรียนรู้: ไม่มีเลยจ้า แค่บีบแล้วสระ! (แต่ถ้าจะให้ดี ควรสระสองรอบเพื่อให้สะอาดจริงๆ)
ความรู้สึกขณะใช้: สระแล้วเย็นๆ สบายหนังศีรษะดี ไม่แสบ ไม่คัน
กลิ่น: หอมอ่อนๆ สดชื่น ไม่ฉุน (คนแพ้น้ำหอมน่าจะใช้ได้)


5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ราคาแรงแต่ใช้แล้วชอบ!

ยอมรับว่าราคาต่อขวดแอบแรงอยู่นะคะ ถ้าเทียบกับแชมพูตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ถือว่าคุ้ม!

ระยะเวลาการใช้งาน: ขวดขนาดกลาง (ประมาณ 500ml) ใช้คนเดียวสระวันเว้นวันน่าจะอยู่ได้ประมาณ 1.5 - 2 เดือน
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ก็ต้องมีงบประมาณสำหรับซื้อซ้ำเรื่อยๆ ถ้าอยากให้ผมร่วงน้อยลงแบบนี้ไปตลอด
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าปัญหาผมร่วงกวนใจมากๆ ลองลงทุนกับตัวนี้ดูก็ไม่เสียหายค่ะ ดีกว่าไปเสียเงินซื้อแชมพูแก้ผมร่วงถูกๆ หลายๆ ยี่ห้อแล้วไม่เห็นผล


6. สรุปข้อดีข้อเสีย: มีทั้งที่ชอบและที่ยังลังเล

ข้อดี:

  • ลดผมร่วงได้จริง! อันนี้คอนเฟิร์มจากที่ใช้เอง
  • ทำความสะอาดหนังศีรษะได้ดี รู้สึกสะอาด สบาย
  • กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน
  • แพ็กเกจดูดี ใช้งานง่าย
  • รู้สึกว่าหนังศีรษะมันช้าลง

ข้อเสีย:

  • ราคาสูง กว่าแชมพูทั่วไป
  • ทรีตเมนต์อาจจะไม่ได้ช่วยให้ผมนุ่มลื่นเท่าครีมนวดทั่วไป (เน้นที่หนังศีรษะมากกว่า)
  • ผลเรื่องผมขึ้นใหม่ยังไม่ชัดเจน (ต้องใช้เวลานานกว่านี้)
  • ต้องซื้อต่อเนื่องถึงจะเห็นผลและคงสภาพ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ผมร่วงหนักๆ ลองดู!

เหมาะกับ:

  • คนที่ผมร่วง ผมบาง มีปัญหาหนังศีรษะมัน หรือคัน
  • คนที่อยากลองเวชสำอางดูแลผมจากเกาหลี
  • คนที่ยอมลงทุนกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

สถานการณ์แนะนำ:

  • ใช้เป็นแชมพูและทรีตเมนต์หลักในการดูแลเส้นผมประจำวัน

ควรซื้อเลยไหม?: ถ้ามีปัญหาผมร่วงหนักๆ แล้วอยากลองอะไรที่เห็นผลจริงจัง น่าลงทุนค่ะ แต่ถ้าผมร่วงน้อยๆ หรือแค่อยากบำรุงเฉยๆ อาจจะมีตัวอื่นที่ราคาเป็นมิตรกว่านี้

รอช่วงโปรโมชั่นดีกว่าไหม?: ดีกว่าแน่นอนค่ะ! Dr. Forhair ชอบมีโปรโมชั่นลดราคาตามแอปส้ม แอปน้ำเงิน หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ บ่อยๆ ซื้อช่วงโปรโมชั่นคือคุ้มสุดๆ!


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: ในตลาดมีอะไรอีก?

ในตลาดผลิตภัณฑ์ลดผมร่วงก็มีเยอะแยะมากมายเลยค่ะ ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์ต่างประเทศ บางตัวเน้นสมุนไพรไทยอย่างมะกรูด อัญชัน บางตัวก็เน้นส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์เหมือน Dr. Forhair

ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นที่เคลมเรื่องลดผมร่วงเหมือนกัน Dr. Forhair จะอยู่ในกลุ่มที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อย แต่ส่วนผสมเค้าก็จะดูพรีเมียมและเน้นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าค่ะ


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อง่าย ขายคล่อง โปรเพียบ!

Dr. Forhair หาซื้อได้ง่ายมากๆ ค่ะ ตามช่องทางออนไลน์หลักๆ เลย

ช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee, JD Central (ช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดเยอะมากกกก), ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ หรือร้านวัตสัน, บู๊ทส์บางสาขาก็มีค่ะ

โปรโมชั่น: มีจัดโปรโมชั่นบ่อยมาก ทั้งลดราคา, ซื้อ 1 แถม 1, แจกโค้ดลดเพิ่ม, มีของแถมเล็กๆ น้อยๆ
การผ่อนชำระ: ช่องทางออนไลน์หลักๆ มีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ได้ค่ะ
การรับประกัน: ส่วนใหญ่จะไม่มีการรับประกันตัวผลิตภัณฑ์โดยตรง แต่ถ้าสินค้ามีปัญหาจากการผลิต สามารถติดต่อร้านค้าที่ซื้อเพื่อเปลี่ยนหรือคืนได้ค่ะ
การจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ จัดส่งค่อนข้างไวค่ะ แล้วแต่ร้าน แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2-3 วันก็ได้รับแล้ว แถมมักจะมีโปรส่งฟรีด้วยนะ!


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วไง? ซื้อดีไหม?

หลังจากลองใช้มาสักพักใหญ่ๆ ขอสรุปตามตรงแบบไม่มีอวยนะคะว่า Dr. Forhair เป็นผลิตภัณฑ์ลดผมร่วงที่น่าลองค่ะ!

ถ้าคุณมีปัญหาผมร่วงมากพอสมควร กังวลใจกับเรื่องนี้จริงๆ และมีงบประมาณที่พอจะลงทุนกับผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลได้ชัดเจน แนะนำให้ซื้อเลยค่ะ! โดยเฉพาะช่วงที่มีโปรโมชั่นยิ่งคุ้ม!

แต่ถ้าผมร่วงน้อยๆ ไม่ได้ซีเรียสมาก หรือมีงบจำกัด อาจจะลองดูตัวอื่นที่ราคาเบาลงมาก่อนก็ได้ค่ะ

สำหรับคนที่อยากลอง แนะนำให้เริ่มจาก แชมพู ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเป็นตัวหลักในการทำความสะอาดและบำรุงหนังศีรษะโดยตรง ถ้าใช้แล้วรู้สึกดี ค่อยจัดทรีตเมนต์มาใช้คู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็ง Dr. Forhair อยู่นะคะ ใครเคยใช้แล้วเป็นยังไง มาเมนต์บอกกันหน่อยน้าาาา!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

โอ้โหหห... ปัญหาผมร่วง ผมบาง นี่มันเรื่องใหญ่ระดับชาติของใครหลายคนเลยใช่ไหมคะ? โดยเฉพาะช่วงที่ชีวิตมันเครียดๆ เหนื่อยๆ หรือบางทีก็ไม่รู้สาเหตุ อยู่ดีๆ ผมก็พร้อมใจกันลาออกไปซะงั้น! เดินไปไหนมาไหนเห็นผมร่วงตามพื้นห้องน้ำ ตามหวี แล้วใจก็วูบเลย
รีวิว Mega We Care Regenez วิตามินบำรุงผม ลดผมร่วง ผมหนาขึ้นจริงไหม?
สวัสดีจ้าพี่น้องชาวผมบาง ผมร่วง หัวล้านไม่รู้ตัวทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องราวของเซรั่มกู้ชีพผมอย่าง Rava Hair Serum ที่เค้าว่ากันว่าช่วยลดผมร่วง กระตุ้นผมใหม่ให้กลับมาดกดำอีกครั้ง! ใครที่กำลังกลุ้มใจกับปัญหาผมๆ บอกเลยว่าต้องอ่านให
ราคา Rava Hair Serum เซรั่มปลูกผม ลดผมร่วง ซื้อของแท้ที่ไหน?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?