รีวิวรองเท้าวิ่ง Mizuno Wave Rider Waveknit 3 นุ่มเด้ง ซัพพอร์ตดีไหม?


สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้กลับมาพร้อมกับการรีวิวรองเท้าวิ่งคู่ใจที่หลายคนรอคอย กับเจ้า Mizuno Wave Rider Waveknit 3 ที่เค้าล่ำลือกันว่านุ่มเด้ง ซัพพอร์ตดี๊ดี! แต่จริงหรือเปล่า? ใส่วิ่งแล้วจะเป็นยังไง? เหมาะกับเรามั้ย? วันนี้จะมารีวิวแบบเจาะลึกตามสไตล์ภาษาบ้านๆ เข้าถึงง่าย มีทั้งข้อดี ข้อที่อาจจะทำให้คิดหนัก พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ไปเลยค่ะ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปดูกันเล้ยยย!
1. ภาพรวมสินค้า: รู้จักเจ้า Mizuno Wave Rider Waveknit 3 กันก่อน
แบรนด์: Mizuno
รุ่น: Wave Rider Waveknit 3
ปีที่วางขาย: เปิดตัวประมาณปลายปี 2019 ถึงต้นปี 2020
ช่วงราคา: อยู่ในช่วงราคาปานกลางถึงสูงสำหรับรองเท้าวิ่ง โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 4,xxx - 5,xxx บาท แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นและร้านค้า
ตำแหน่งในตลาด: ถือเป็นตัวยืนพื้น (Daily Trainer) ของ Mizuno ในกลุ่มรองเท้าวิ่งสาย Neutral ที่เน้นความสมดุลระหว่างการรองรับแรงกระแทกและการตอบสนอง เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าซ้อมวิ่งได้ทุกวัน ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงนักวิ่งที่มีประสบการณ์
จุดเด่นคร่าวๆ ที่เคลมมา:
- นุ่ม เด้ง ตอบสนองดี: ด้วยเทคโนโลยี Mizuno Wave และโฟม U4ic, U4icX
- อัปเปอร์แบบ Waveknit: ให้ความกระชับ สบาย เหมือนใส่ถุงเท้า
- ซัพพอร์ตดี: ช่วยให้วิ่งได้อย่างมั่นคง
- ทนทาน: พื้น Outsole X10 ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวยเรียบ ใส่สบายตา
เปิดกล่องมาสัมผัสแรกคือดีไซน์ที่ดูสวยเรียบ มินิมอล ไม่หวือหวามาก แต่ดูดี ใส่ได้ทั้งวิ่งและใส่เที่ยว ตัวอัปเปอร์แบบ Waveknit คือจุดเด่นที่เห็นชัดเจน เป็นผ้าถักที่ดูแน่นหนาแต่ก็ยืดหยุ่น สัมผัสคือนุ่มและกระชับเท้าดี
วัสดุที่ใช้: หลักๆ คือผ้าถัก Waveknit ที่อัปเปอร์ และโฟม U4ic กับ U4icX ที่ Midsole พร้อมแผ่น Wave Plate (บางรุ่น Wave Rider จะเป็น Foam Wave) พื้น Outsole เป็นยาง X10
ขนาดและน้ำหนัก: น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของรองเท้า Daily Trainer ไม่ได้เบาหวิว แต่ก็ไม่ถึงกับหนักจนวิ่งไม่ไหว น้ำหนักผู้ชายอยู่ที่ประมาณ 285 - 312 กรัม (แล้วแต่ไซส์) ส่วนผู้หญิงประมาณ 272 กรัม ขนาดค่อนข้าง True to Size (ใส่ตรงไซส์ปกติได้) บางคนอาจรู้สึกว่าหน้าเท้ากว้างขึ้นกว่า Wave Rider รุ่นปกติเล็กน้อยด้วยความเป็น Waveknit
สีที่มีให้เลือก: มีหลายสีให้เลือกตามสไตล์เลย ทั้งสีพื้นๆ อย่างดำ เทา ขาว หรือสีสันสดใส
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ก็มีแค่ตัวรองเท้า กับคู่มือเล็กน้อย ไม่มีอุปกรณ์พิเศษอื่นจ้า
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: นุ่ม เด้ง ซัพพอร์ตครบจบที่พื้น!
มาถึงหัวใจหลักของการรีวิวรองเท้าวิ่ง นั่นก็คือฟีลลิ่งตอนวิ่งจริง! คู่ Wave Rider Waveknit 3 นี้ให้ความรู้สึกที่ผสมผสานกันระหว่างความนุ่มและการตอบสนอง ตอนลงเท้าจะรู้สึกถึงความนุ่มจากโฟม U4icX ที่ส้น และ U4ic ตลอดทั้งพื้น ไม่ได้นุ่มยวบเหมือนเหยียบมาชเมลโล่ แต่เป็นความนุ่มแบบมีแรงดีดกลับ
เทคโนโลยี Mizuno Wave Plate (หรือ Foam Wave ในบางเวอร์ชันของ Rider) ช่วยกระจายแรงกระแทกและให้ความมั่นคง ทำให้รู้สึกว่ารองเท้าซัพพอร์ตเท้าได้ดี ไม่โคลงเคลง โดยเฉพาะสำหรับคนเท้าแบนเล็กน้อยหรือต้องการความมั่นคง
ฟีลการวิ่งจะออกแนวนุ่มนวล แต่ก็ยังคงความเด้งและส่งแรงไปข้างหน้าได้ดี เหมาะกับการวิ่งในชีวิตประจำวัน วิ่งยาว หรือวิ่งเพซสบายๆ ถึงปานกลาง
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใส่สบาย กระชับเท้า
เรื่องความสบายต้องยกให้ Upper แบบ Waveknit ที่ให้ความรู้สึกเหมือนใส่ถุงเท้าจริงๆ ผ้ามีความยืดหยุ่น ทำให้โอบรับรูปเท้าได้ดี ไม่บีบรัด แต่ก็ยังให้ความกระชับมั่นคง ไม่รู้สึกว่าเท้าขยับไปมาในรองเท้า
การระบายอากาศทำได้ค่อนข้างดีในระดับนึงสำหรับผ้า Knit แต่ถ้าวิ่งอากาศร้อนมากๆ หรือวิ่งระยะไกลมากๆ อาจจะรู้สึกร้อนกว่าอัปเปอร์แบบ Mesh ปกติบ้างเล็กน้อย
ลิ้นรองเท้าและขอบข้อเท้ามีความหนานุ่ม ทำให้ไม่บาดหรือเสียดสี โดยรวมคือใส่แล้วรู้สึกสบายเท้า พร้อมวิ่งได้เลย ไม่ต้อง Break-in นาน
5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ทนทาน วิ่งได้ยาวๆ
รองเท้าวิ่ง Daily Trainer ส่วนใหญ่มักจะเน้นความทนทาน เพื่อให้วิ่งได้หลายร้อยกิโลเมตร และเจ้า Wave Rider Waveknit 3 ก็ทำได้ดีในจุดนี้ พื้น Outsole ที่เป็นยาง X10 ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนต่อการสึกหรอ ทำให้รองเท้าคู่นี้ใช้งานได้ยาวๆ
โฟม Midsole แม้จะนุ่มแต่ก็มีความทนทาน สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีไปเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าลงทุนกับรองเท้าคู่นี้แล้วคุ้มค่า ได้จำนวนกิโลเมตรเยอะเมื่อเทียบกับราคา
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งปังและแป้กนิดๆ
ข้อดีที่คนไทยน่าจะชอบ:
- นุ่ม เด้งกำลังดี: ไม่ได้นุ่มยวบยาบ แต่ให้ฟีลเด้งๆ สนุกเท้า วิ่งเพลิน
- ซัพพอร์ตมั่นคง: เหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นคงในการวิ่ง ช่วยให้วิ่งได้อย่างสบายใจ
- อัปเปอร์ Waveknit สวยและใส่สบาย: ดูดี ใส่ได้หลายโอกาส แถมกระชับเท้าดี๊ดี
- ทนทานใช้ได้ยาวๆ: พื้น X10 ทำให้รองเท้าคู่นี้วิ่งได้คุ้มค่ากิโลเมตร
- เป็น Daily Trainer ที่ไว้ใจได้: เหมาะกับเป็นรองเท้าซ้อมวิ่งประจำวันคู่เก่ง
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:
- น้ำหนักอาจจะไม่เบาที่สุด: ถ้าเทียบกับรองเท้าสายซิ่ง อาจจะรู้สึกว่ามีน้ำหนักอยู่บ้าง
- การระบายอากาศ: อัปเปอร์ Waveknit อาจจะร้อนกว่า Mesh ปกติเล็กน้อยในอากาศร้อนจัด
- ลิ้นรองเท้าเป็นแบบ Free Tongue: บางคนอาจจะกังวลว่าลิ้นจะเลื่อน แต่ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาตอนวิ่งจริง
- ราคา: อาจจะสูงกว่ารองเท้าวิ่งรุ่นเริ่มต้น แต่ก็แลกมาด้วยเทคโนโลยีและความทนทาน
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ควรซื้อเลยไหม?
Mizuno Wave Rider Waveknit 3 เหมาะกับ:
- นักวิ่ง Neutral: คือคนที่มีรูปเท้าปกติ การลงเท้าปกติ
- คนที่หารองเท้า Daily Trainer: ใส่วิ่งซ้อมได้ทุกวัน
- คนที่ชอบฟีลนุ่ม เด้ง แต่ยังคงความมั่นคง: ไม่ได้อยากได้นุ่มยวบจม แต่ต้องการแรงส่ง
- นักวิ่งตั้งแต่เริ่มต้นถึงมีประสบการณ์: ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งวิ่งสั้น วิ่งกลาง วิ่งยาว (แต่ถ้าวิ่งเร็วมากๆ อาจจะต้องหารุ่นอื่น)
- คนที่ชอบรองเท้าที่ทนทาน: อยากได้รองเท้าที่วิ่งได้หลายร้อยกิโลเมตร
คำแนะนำในการซื้อ:
ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าตรงกับความต้องการของคุณ และงบประมาณถึง **แนะนำให้ซื้อเลย!** แต่ถ้ายังไม่รีบ **รอช่วงโปรโมชั่นเด็ดๆ** อย่าง 11.11, 12.12, Payday หรือช่วงเทศกาลต่างๆ ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada, Shopee หรือร้านค้าทางการของ Mizuno ในไทย เพราะมักจะมีส่วนลดดีๆ ออกมาเสมอ
8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดีนะ?
สำหรับ Mizuno ในประเทศไทย สามารถหาซื้อได้หลายช่องทางเลยค่ะ ทั้งร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วไป และช่องทางออนไลน์ยอดฮิต
- ร้านค้าออนไลน์: Lazada, Shopee, JD Central มักจะมีร้านค้าทางการของ Mizuno หรือร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ (สังเกตสัญลักษณ์ Mall หรือ LazMall/Shopee Mall) ข้อดีคือมีโปรโมชั่น ส่วนลด โค้ดส่งฟรี หรือโค้ดเงินคืนบ่อยมาก
- ร้านค้าทางการของ Mizuno Thailand: มีทั้งออนไลน์และหน้าร้าน ลองเช็คสาขาใกล้บ้านดูค่ะ
- ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ: เช่น Supersports ก็มักจะมี Mizuno วางขาย
การรับประกันสินค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นไปตามนโยบายของร้านค้าและแบรนด์ ควรสอบถามก่อนซื้อ ปกติรองเท้าวิ่งจะไม่มีประกันแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ถ้าสินค้ามีตำหนิจากการผลิต สามารถติดต่อขอเปลี่ยนหรือคืนได้ตามเงื่อนไขของร้านค้าออนไลน์ (ส่วนใหญ่มีนโยบายคืนสินค้าภายใน 7-15 วัน)
เรื่องการจัดส่ง ส่วนใหญ่ถ้าสั่งออนไลน์ในไทยมักจะใช้เวลา 1-3 วันทำการ ขึ้นอยู่กับพื้นที่และร้านค้า
9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: คู่นี้ใช่สำหรับคุณไหม?
โดยรวมแล้ว Mizuno Wave Rider Waveknit 3 เป็นรองเท้าวิ่ง Daily Trainer ที่ทำออกมาได้ดีมาก มีความสมดุลที่ดีระหว่างความนุ่ม การตอบสนอง และความมั่นคง Upper แบบ Waveknit ก็เพิ่มความสบายและกระชับเท้าได้ดี แถมยังทนทาน ใช้งานได้ยาวๆ
ถ้าคุณ:
- เป็นนักวิ่ง Neutral ที่กำลังมองหารองเท้าซ้อมวิ่งคู่เดียวจบ วิ่งได้หลากหลายระยะ
- ชอบฟีลรองเท้าที่นุ่ม เด้ง แต่ยังคงความมั่นคง ไม่ยวบยาบ
- ให้ความสำคัญกับความทนทาน ใช้งานได้คุ้มค่า
- มองหารองเท้าที่ใส่สบาย กระชับเท้าด้วยอัปเปอร์ผ้า Knit
Mizuno Wave Rider Waveknit 3 คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ และ **แนะนำให้ลองซื้อมาใช้ดูเลยค่ะ** คุณอาจจะตกหลุมรักเหมือนนักวิ่งหลายๆ คนก็ได้!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?