logo

รีวิว Aconatic AN-43DF800SM: Smart TV Aconatic ขนาด 43 นิ้ว รุ่นนี้ดีไหม?

user avatar
ภูมิ พงศ์ธนาธิป·07/04/2025 17:38
点赞
รีวิว Aconatic AN-43DF800SM: Smart TV Aconatic ขนาด 43 นิ้ว รุ่นนี้ดีไหม?

โอ๊ยยย...ชีวิตติ่งซีรีส์ช่วงนี้ก็ลำบากหน่อยนะ! ไหนจะซีรีส์เกาหลีออกใหม่ ซีรีส์จีนตามมาติดๆ หนังฝรั่งก็เข้าไม่หยุด แล้วไหนจะบอลยูโรที่กำลังมาอีก! จะดูผ่านจอมือถือก็ปวดตา จอคอมก็เล็กไป๊! หลายคนเลยเริ่มมองหาทีวีใหม่คู่ใจสักเครื่องใช่ไหมล่ะ? แล้วถ้ามีงบกลางๆ แต่อยากได้จอใหญ่สะใจ ฟังก์ชันครบๆ จะมีตัวไหนน่าโดนมั้ยนะ?

วันนี้เราเลยหยิบเอา Smart TV จากแบรนด์ไทยที่คุ้นหูคุ้นตาอย่าง Aconatic รุ่น AN-43DF800SM ขนาด 43 นิ้ว มารีวิวให้ดูกันแบบหมดเปลือก!

รุ่นนี้เขาออกมาได้สักพักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังเห็นขายกันอยู่ แล้วราคาช่วงนี้ก็น่ารักน่าลุ้น จะดีจริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า? เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยแบบเราๆ แค่ไหน? ตามมาดูกันเลยจ้า!


1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จัก Aconatic AN-43DF800SM กันสักหน่อย

ถ้าถามว่า Aconatic AN-43DF800SM คือใคร มาจากไหน? เขาก็คือ...

  • แบรนด์: Aconatic (แบรนด์ไทยนะจ๊ะ!)
  • รุ่น: AN-43DF800SM
  • ปีที่วางขาย: ประมาณปี 2018 (เอ้อ...ก็หลายปีอยู่นะเนี่ย)
  • ช่วงราคา: เห็นมีตั้งแต่หลักพันปลายๆ (สำหรับสินค้าสภาพดีมือสอง/Refurbished) ไปจนถึงราวๆ 6,xxx - 7,xxx บาทสำหรับของใหม่

ตำแหน่งสินค้า: รุ่นนี้จัดว่าเป็น Smart TV ระดับเริ่มต้นถึงกลางๆ ในขนาดที่กำลังดี 43 นิ้ว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ทีวีจอใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ยังอยู่ในงบที่เป็นมิตรกับกระเป๋า

จุดเด่นหลักที่เคลมไว้ (จากข้อมูลที่หาได้):

  • เป็น Smart TV ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
  • ความละเอียดจอ Full HD (1920 x 1080)
  • มี Digital Tuner ในตัว ไม่ต้องซื้อกล่องเพิ่ม
  • มี Wi-Fi ในตัว เชื่อมเน็ตสะดวก
  • รองรับการเล่นไฟล์มัลติมีเดียผ่าน USB

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบๆ ดำๆ วางตรงไหนดี?

ดีไซน์ของรุ่นนี้มาในโทนสีดำ ดูเรียบๆ ไม่หวือหวามาก ขอบจออาจจะไม่ได้บางเฉียบเหมือนรุ่นใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้หนาจนน่าเกลียด

วัสดุที่ใช้หลักๆ น่าจะเป็นพลาสติกสีดำด้านตามสไตล์ทีวีราคากลางๆ น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 7-8 กก. (คาดการณ์จากรุ่นใกล้เคียง) ถือว่าไม่เบาไม่หนักจนเกินไป ยกคนเดียวอาจจะเหนื่อยหน่อยแต่สองคนสบายๆ

มาพร้อมขาตั้งทีวีแบบมาตรฐาน วางบนโต๊ะทีวีได้ หรือจะซื้อขาแขวนผนังมาติดก็ได้ (ต้องดูขนาด VESA Mount ที่รองรับ ซึ่งรุ่น 43 นิ้วมักจะเป็น 400x200 มม.)

ในกล่องปกติจะมีทีวี, ขาตั้ง, รีโมท, คู่มือ มาให้ครบพร้อมใช้งาน


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ตได้จริงดิ?

หัวใจหลักของทีวีก็คือการแสดงภาพ รุ่นนี้ให้ความละเอียดมาที่ Full HD (1920 x 1080) เพียงพอสำหรับการดูทีวีดิจิทัล ดูหนัง หรือดู YouTube ทั่วไป หน้าจอเป็นแบบ LED IPS ให้มุมมองภาพกว้างถึง 178 องศา นั่งดูเยื้องๆ ก็ยังเห็นชัดอยู่

ในส่วนของความเป็น Smart TV รุ่นนี้รันบนระบบปฏิบัติการ Android OS ซึ่งก็หมายความว่าเราสามารถลงแอปพลิเคชันต่างๆ เพิ่มเติมได้ (แต่ต้องเช็คความเข้ากันได้ของเวอร์ชัน Android ด้วยนะ เพราะรุ่นนี้ออกมานานแล้ว) แอปหลักๆ อย่าง YouTube, Netflix (อาจจะต้องเช็คเวอร์ชันที่รองรับ) ก็น่าจะพอไหว

มี Digital Tuner ในตัว เสียบสายอากาศบ้านดูช่องทีวีดิจิทัลได้เลย ไม่ต้องต่อกล่องเพิ่ม สะดวกดี

ช่องต่อต่างๆ ก็ให้มาพอสมควร ทั้ง HDMI (2 ช่อง), USB (2 ช่อง), ช่อง AV, Component, VGA (ต่อคอมฯ เก่าได้)

เรื่องเสียง ลำโพงติดเครื่องให้กำลังขับมาที่ 8W x 2 ก็พอฟังได้สำหรับห้องนั่งเล่นทั่วไป แต่ถ้าอยากได้เสียงกระหึ่มๆ ดูหนังมันส์ๆ อาจจะต้องพึ่ง Soundbar หรือชุดเครื่องเสียงแยก


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ลื่นไหลแค่ไหน?

ทีวีที่เป็น Smart TV ความลื่นไหลของระบบเป็นสิ่งสำคัญมาก รุ่นนี้ใช้ CPU A7*2 1GHZ และ GPU Mali400MP2 ซึ่งดูจากสเปคแล้ว ไม่ได้แรงหวือหวาอะไรมาก

จากรีวิวเก่าๆ มีผู้ใช้งานบางส่วนบอกว่าระบบอาจจะมีความหน่วงหรือดีเลย์บ้าง โดยเฉพาะตอนเปิดแอป หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่สำหรับคนที่ไม่รีบร้อน หรือใช้แค่ดูแอปพื้นฐานอย่าง YouTube ก็น่าจะพอรับได้อยู่

เมนูการใช้งานน่าจะเข้าใจง่าย มีภาษาไทยให้เลือกใช้แน่นอน รีโมทคอนโทรลก็เป็นแบบมาตรฐาน ไม่ได้มีฟังก์ชันพิเศษอะไรมาก การพิมพ์ค้นหาอาจจะต้องใช้การกดบนรีโมททีละตัว ซึ่งอาจจะไม่สะดวกเท่ารีโมทแบบมี Voice Search ในรุ่นใหม่ๆ

การเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็ทำได้ แต่บางรีวิวบอกว่าสัญญาณอาจจะไม่เสถียรเท่าที่ควร ถ้าเป็นไปได้ การต่อผ่านสาย LAN ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อความเสถียร


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ซื้อแล้วจ่ายจุกจิกอีกมั้ย?

ทีวีขนาด 43 นิ้ว ใช้พลังงานประมาณ 75W ซึ่งถือว่าไม่มากไม่น้อย ค่าไฟต่อเดือนก็ขึ้นอยู่กับชั่วโมงการใช้งานของคุณ

ในระยะยาว ถ้าตัวเครื่องมีปัญหา อะไหล่บางอย่าง เช่น หลอด Blacklight หรือเมนบอร์ด ก็ยังมีขายอยู่บ้างตามร้านอะไหล่ออนไลน์ แต่การซ่อมอาจจะมีค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องลองประเมินว่าคุ้มกับค่าเครื่องใหม่หรือไม่

ความคุ้มค่าของรุ่นนี้อยู่ที่ "ราคา" เป็นหลัก! เมื่อเทียบกับ Smart TV แบรนด์ตลาดในขนาดจอ 43 นิ้ว รุ่นนี้มักจะมีราคาที่ย่อมเยากว่าอย่างเห็นได้ชัด ถ้าคุณมีงบจำกัดและอยากได้ทีวีจอใหญ่พร้อมฟังก์ชันพื้นฐาน นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจ


6. ข้อดี-ข้อเสีย: มาชั่งน้ำหนักกันหน่อย

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:

  • ราคาดีต่อใจ: จุดแข็งสุดๆ คือราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ
  • จอใหญ่สะใจในงบจำกัด: ได้จอ 43 นิ้ว ในราคาที่ปกติจะได้จอเล็กกว่านี้
  • เป็น Smart TV ดูแอปพื้นฐานได้: ดู YouTube, Netflix ได้ (ถ้าแอปยังรองรับเวอร์ชัน Android เก่า)
  • มี Digital Tuner ในตัว: ไม่ต้องต่อกล่องดิจิทัลทีวีเพิ่ม เสียบสายอากาศดูได้เลย
  • แบรนด์ไทย: บางคนอาจจะสบายใจกับแบรนด์ที่รู้จักและมีศูนย์บริการในไทย (แม้รีวิวบริการหลังการขายอาจจะไม่ดีนัก)

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:

  • ระบบปฏิบัติการค่อนข้างเก่า: Android OS เวอร์ชันเก่า อาจจะทำให้ลงแอปใหม่ๆ หรือบางแอปที่อัปเดตแล้วไม่ได้
  • ความลื่นไหลของระบบ: สเปคเครื่องไม่ได้แรงมาก อาจมีอาการหน่วงหรือดีเลย์ให้เห็น
  • คุณภาพของภาพ/เสียง: อาจจะไม่คมชัด สีสันไม่สดใสเท่าทีวีแบรนด์ตลาดรุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นที่ราคาสูงกว่า
  • สัญญาณ Wi-Fi: บางรีวิวบอกว่าอาจจะไม่ค่อยเสถียร
  • รีโมทไม่มีฟังก์ชันพิเศษ: ไม่รองรับ Voice Search หรือ Magic Remote เหมือนทีวีรุ่นใหม่ๆ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีไหม?

Aconatic AN-43DF800SM เหมาะกับ:

  • คนงบน้อย/จำกัด: อยากได้ทีวีจอใหญ่ไว้ดูหนัง ดูละคร ดูทีวีดิจิทัลแบบสบายตา ในราคาไม่แรง
  • นักศึกษา/คนอยู่หอ: หาทีวีตั้งในห้องที่ไม่ใหญ่มาก ดูได้ครบๆ ในราคาเป็นมิตร
  • ทีวีเครื่องที่สอง/สาม: เอาไว้ดูในห้องนอน ห้องครัว หรือห้องรับแขกเล็กๆ
  • คนที่เน้นดูทีวีดิจิทัลเป็นหลัก: เพราะมี Digital Tuner ในตัวจบๆ
  • คนที่ใช้แอปพื้นฐาน: ดู YouTube, Netflix เป็นหลัก

คำแนะนำในการซื้อ:

ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มข้างต้น และรับได้กับข้อจำกัดเรื่องระบบปฏิบัติการที่ไม่ได้ใหม่ล่าสุด และความลื่นไหลที่ไม่เท่ารุ่นแพงๆ รุ่นนี้ก็น่าซื้อ! โดยเฉพาะถ้าเจอในช่วงโปรโมชั่นราคาดีๆ แต่ถ้าคุณเป็นสายเทคโนโลยีจ๋า ชอบความลื่นไหล อยากได้แอปใหม่ๆ เพียบ หรือเน้นคุณภาพของภาพและเสียงแบบจัดเต็ม อาจจะต้องเพิ่มงบไปมองหารุ่นที่ใหม่กว่า หรือแบรนด์อื่นที่ราคาสูงขึ้นอีกนิด


8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนสบายใจสุด?

Aconatic เป็นแบรนด์ไทย มีศูนย์บริการในประเทศ การรับประกันสินค้า ส่วนใหญ่จะรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และรับประกันจอภาพนานขึ้น เช่น 3 ปี (อาจจะต้องลงทะเบียนเพิ่ม และมีเงื่อนไข เช่น ปีที่ 2-3 อาจจะไม่รวมค่าแรงและค่าอะไหล่บางส่วน)

ช่องทางการซื้อหา: รุ่นนี้ยังคงมีขายอยู่ทั่วไป ทั้งในร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee รวมถึงร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าบางแห่ง

การซื้อออนไลน์มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา แคมเปญส่งฟรี หรือผ่อน 0% ซึ่งช่วยประหยัดไปได้เยอะ ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ หรือช่วง Double Digit Day (เลขเบิ้ล เช่น 9.9, 10.10) ก็มักจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษออกมาอีก ลองเล็งช่วงนี้ไว้ให้ดี!

ระยะเวลาจัดส่งถ้าซื้อออนไลน์ ปกติก็รวดเร็วทันใจ ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล บางทีวันเดียวก็ได้แล้ว ต่างจังหวัดก็ประมาณ 2-3 วัน


9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

สรุปง่ายๆ เลยสำหรับ Aconatic AN-43DF800SM ขนาด 43 นิ้วรุ่นนี้...

ถ้าคุณกำลังมองหา Smart TV จอใหญ่ 43 นิ้ว ใน "งบที่จำกัดมากๆ" และเน้นการใช้งานพื้นฐานอย่างดูทีวีดิจิทัล ดู YouTube หรือแอป streaming ทั่วไป (ที่ยังรองรับ Android เวอร์ชันนี้) โดยที่ไม่ติดเรื่องความลื่นไหลของระบบที่ไม่เท่ารุ่นแพงๆ หรือระบบปฏิบัติการที่ไม่ได้ใหม่ล่าสุด Aconatic AN-43DF800SM เป็นตัวเลือกที่ "คุ้มค่า" ในแง่ของราคาต่อขนาดจอและฟังก์ชันพื้นฐานที่คุณจะได้รับ!

เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ที่อยากลองใช้ Smart TV จอใหญ่ หรือหาทีวีรองไว้ดูในห้องอื่นๆ

แต่ถ้า:

  • คุณเป็นสายเทคโนโลยี ชอบลองแอปใหม่ๆ ตลอดเวลา
  • ต้องการความลื่นไหลของการใช้งานแบบสุดๆ ไม่มีกระตุก
  • เน้นคุณภาพของภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยมระดับพรีเมียม
  • อยากได้ฟังก์ชันเสริมใหม่ๆ เช่น Voice Search, Chromecast Built-in (รุ่นนี้อาจจะไม่มี หรือมีในเวอร์ชันเก่า)

อาจจะต้องพิจารณารุ่นที่ใหม่กว่านี้ หรือขยับงบไปมองแบรนด์อื่นหรือรุ่นที่ราคาสูงขึ้นอีกนิด เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อทีวีเครื่องใหม่ในช่วงเทศกาล หรือช่วงเวลาที่คุณกำลังมองหาความบันเทิงเข้าบ้านนะคะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?