logo

รีวิวหูฟังตัดเสียงรบกวน Huawei: รุ่นไหนดี? เทียบกับแบรนด์อื่น คุ้มค่าน่าซื้อไหม?

user avatar
ญาดา วัฒนธร·07/08/2025 15:29
点赞
รีวิวหูฟังตัดเสียงรบกวน Huawei: รุ่นไหนดี? เทียบกับแบรนด์อื่น คุ้มค่าน่าซื้อไหม?

สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้มาป้ายยา เอ้ย! มารีวิวของที่น่าจะถูกใจสายคนเมืองสุดๆ นั่นก็คือ หูฟังตัดเสียงรบกวน นั่นเอง! และแบรนด์ที่เราจะมาเจาะลึกกันวันนี้ก็คือ Huawei ค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นชื่อ Huawei กับมือถือใช่มั้ยคะ แต่บอกเลยว่าหูฟังเค้าก็ทำถึงเหมือนกันนะ โดยเฉพาะรุ่นที่เน้นตัดเสียงรบกวนเนี่ย วันนี้เราจะมาดูกันชัดๆ ว่าหูฟัง Huawei รุ่นไหนดี? ตัดเสียงได้เงียบจริงมั้ย? แล้วถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในตลาดเนี่ย ตัวไหนน่าสอยกว่ากัน? คุ้มค่าน่าโดนหรือเปล่า? มาค่ะ! ไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน!


1. ภาพรวมสินค้า: รู้จักหูฟังตัดเสียงรบกวน Huawei กันก่อน

ถ้าพูดถึงหูฟังตัดเสียงรบกวนตัวท็อปๆ ของ Huawei ที่ได้รับความนิยมเนี่ย ต้องยกให้ตระกูล FreeBuds Pro เลยค่ะ มีออกมาหลายรุ่นแล้ว แต่ตัวที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือ Huawei FreeBuds Pro 2 และ Huawei FreeBuds Pro 3 ค่ะ

แบรนด์: Huawei
รุ่นที่น่าสนใจ: FreeBuds Pro 2, FreeBuds Pro 3 (และอาจมีรุ่นอื่นๆ ที่มี ANC ด้วย เช่น FreeBuds 4i, FreeLace Pro 2 แต่ FreeBuds Pro จะเป็นตัวท็อปด้านนี้)

ปีที่วางขาย: FreeBuds Pro 2 (ปี 2022), FreeBuds Pro 3 (ปลายปี 2023)
ช่วงราคา: FreeBuds Pro 2 อยู่ประมาณ 6,xxx บาท, FreeBuds Pro 3 อยู่ประมาณ 6,xxx - 7,xxx บาท (ราคาอาจมีปรับเปลี่ยนตามโปรโมชั่น)

ตำแหน่งในตลาด: รุ่นเรือธง ตัวท็อป เน้นคุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนขั้นสุด เหมาะกับคนที่ต้องการประสบการณ์ฟังเพลงที่ดีเยี่ยม และต้องการความเงียบสงบในทุกสถานการณ์

จุดเด่นคร่าวๆ (เน้น FreeBuds Pro Series):

  • ตัดเสียงรบกวนเทพ! ด้วยระบบ Active Noise Cancellation (ANC) อัจฉริยะ เวอร์ชั่นใหม่ๆ จะยิ่งเก่งขึ้น
  • คุณภาพเสียงระดับโปร หลายรุ่นร่วมพัฒนากับ Devialet แบรนด์เครื่องเสียงดังระดับโลก ให้เสียงคมชัด เบสแน่น รายละเอียดมาครบ
  • รองรับ Hi-Res Audio ฟังเพลงคุณภาพสูงได้สบายๆ
  • คุยโทรศัพท์ชัดแจ๋ว มีหลายไมค์ พร้อมระบบตัดเสียงลม เสียงรบกวนระหว่างคุย
  • เชื่อมต่อพร้อมกันได้หลายอุปกรณ์ สลับใช้ง่าย ไม่ต้องต่อใหม่ให้วุ่นวาย

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: จิ๋วแต่แจ๋ว พกพาสะดวก

ดีไซน์ของ FreeBuds Pro จะมาพร้อม "ก้าน" เหมือนที่หลายคนคุ้นเคยค่ะ แต่ขนาดก้านจะสั้นลงกว่ารุ่นแรกๆ ดูมินิมอลขึ้น เคสชาร์จก็ออกแบบมาให้จับถนัดมือ ขนาดกำลังดี พกใส่กระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อได้สบายๆ รุ่นใหม่ๆ อย่าง FreeBuds Pro 3 ยังปรับปรุงบานพับเคสให้ทนทานและเรียบร้อยขึ้นด้วย

วัสดุที่ใช้: ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกคุณภาพดี ดูพรีเมียม ไม่ก๊องแก๊ง
ขนาดและน้ำหนัก: ตัวหูฟังเบามากๆ แค่ประมาณ 5-6 กรัมต่อข้างเอง ใส่แล้วแทบไม่รู้สึกว่าใส่ เคสก็เล็กและเบา
สีที่มีให้เลือก: มีหลายสีให้เลือกตามสไตล์เลยค่ะ อย่าง FreeBuds Pro 2 มีสี Silver Blue, Silver Frost, Ceramic White ส่วน FreeBuds Pro 3 ก็มีสี Green, Silver Frost, Ceramic White ถูกใจสายแฟชั่นแน่นอน

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ เลยก็มีตัวหูฟังพร้อมเคส, จุกหูฟังซิลิโคนหลายขนาด (บางรุ่นมีถึง 4 ขนาด รวมถึงไซส์ XS ด้วยนะ!), สายชาร์จ USB-C, คู่มือ และใบรับประกัน


3. ประสบการณ์ใช้งานฟังก์ชันหลัก: ตัดเสียงรบกวนได้เรื่องจริงมั้ย?

มาถึงไฮไลท์! ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน (ANC) ของ Huawei FreeBuds Pro นี่คือจุดแข็งเลยค่ะ ใช้ระบบ ANC อัจฉริยะที่สามารถปรับระดับการตัดเสียงได้ตามสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ เช่น ถ้าอยู่ในที่เงียบๆ ก็ตัดน้อยหน่อย ถ้าไปอยู่บนรถไฟฟ้า เสียงดังๆ เค้าก็จะเร่งพลังตัดเสียงให้สูงสุดทันที

ลองใช้จริงตอนนั่ง BTS ช่วงเวลาเร่งด่วน บอกเลยว่า โลกเงียบขึ้นเยอะมาก! เสียงคุยของคนรอบข้าง เสียงประกาศสถานี เสียงล้อบดรางรถไฟ คือเบาลงไปแบบคนละเรื่องเลยค่ะ เหลือแค่เสียงเพลงที่เราฟัง หรือถ้าอยู่ในออฟฟิศ เสียงแอร์ เสียงพิมพ์คีย์บอร์ด ก็จัดการได้อยู่หมัด คือมันไม่ได้เงียบสนิท 100% นะคะ ยังมีเสียงบางๆ เล็ดลอดมาบ้าง แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ เมื่อเทียบกับหูฟัง True Wireless ด้วยกัน

รุ่น FreeBuds Pro 3 เค้าเคลมว่าระบบ ANC ฉลาดขึ้นอีก ตัดเสียงได้ดีขึ้น และช่วงความถี่ที่ตัดได้ก็กว้างขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีโหมด Awareness Mode (หรือ Transparency Mode) ที่เปิดรับเสียงภายนอกเข้ามาได้ด้วยค่ะ สะดวกมากๆ เวลาเดินริมถนน หรือฟังประกาศต่างๆ โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกเลย

เรื่องคุณภาพเสียง ด้วยความที่รุ่น Pro ได้ Devialet มาช่วยจูนเสียง บอกเลยว่าเสียงดีเกินคาดค่ะ เบสมีแรงปะทะที่ดี ฟังสนุก เสียงกลาง เสียงร้องชัดเจน รายละเอียดต่างๆ มาครบ จะฟังเพลงแนวไหนก็เข้าถึงอารมณ์ได้ง่าย แถมยังปรับ EQ ในแอป AI Life ได้อีกด้วยนะ


4. ประสบการณ์ใช้งาน & ความง่ายในการใช้: มือใหม่ใช้ได้มั้ย?

การใช้งานโดยรวมถือว่า ง่ายและสะดวกมากค่ะ แค่เปิดเคสใกล้ๆ มือถือ Huawei ก็เชื่อมต่อได้ทันที (ถ้ามือถือรองรับฟังก์ชันนี้) หรือถ้าใช้มือถือแบรนด์อื่นก็เชื่อมต่อ Bluetooth ได้ปกติค่ะ

การควบคุมทำได้ผ่านการ "บีบ" และ "ปัด" ที่ก้านหูฟัง เช่น บีบหนึ่งครั้งเพื่อเล่น/หยุดเพลง รับ/วางสาย, บีบสองครั้งเพื่อข้ามเพลง, ปัดขึ้น/ลงเพื่อเพิ่ม/ลดเสียง ตอนแรกอาจจะต้องฝึกให้ชินนิดหน่อย แต่พอคุ้นแล้วสะดวกกว่าการแตะเยอะเลยค่ะ

แอป Huawei AI Life คือตัวช่วยสำคัญเลยค่ะ ใช้ตั้งค่าต่างๆ ของหูฟังได้ เช่น เปิด/ปิด/ปรับระดับ ANC, ปรับ EQ เสียง, ทดสอบความฟิตของจุกหูฟัง, อัปเดตเฟิร์มแวร์ ตัวแอปใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน และแน่นอนว่ารองรับภาษาไทยค่ะ

ความสบายในการสวมใส่ รุ่น Pro ที่มีจุกยางซิลิโคนช่วยให้ใส่ได้กระชับพอดีหูมากขึ้นกว่ารุ่นที่เป็น Open-fit มีจุกให้เลือกหลายขนาดทำให้หาไซส์ที่เหมาะกับหูเราได้ง่าย ใส่เดิน ใส่ขยับตัวแรงๆ ก็ไม่หลุดง่ายๆ บางรุ่นมีมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อระดับ IP54 ด้วย ใส่ออกกำลังกายเบาๆ ได้


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ใช้ได้นานแค่ไหน?

แบตเตอรี่ถือว่า อึดใช้ได้เลยค่ะ ถ้าเปิด ANC อาจจะใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ถ้าปิด ANC ก็ยืดเวลาได้นานขึ้นอีก เป็น 6-7 ชั่วโมงเลย รวมกับเคสชาร์จแล้ว ฟังได้ยาวๆ เป็นวันสบายๆ ค่ะ บางรุ่นรวมเคสได้ถึง 20-30 ชั่วโมงเลยนะ

การชาร์จก็รวดเร็วทันใจ ทั้งชาร์จแบบเสียบสาย USB-C และรองรับการชาร์จไร้สายด้วย สะดวกมากๆ ถ้ามือถือเรามีฟังก์ชัน Reverse Wireless Charging ก็เอามาชาร์จหูฟังได้เลย

เรื่องความคุ้มค่าในระยะยาว เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นที่ไม่แรงเท่าคู่แข่งระดับท็อปจากแบรนด์อื่นๆ แต่ได้คุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน หรือบางฟังก์ชันอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ ถือว่า คุ้มค่าน่าลงทุนมากๆ ค่ะ


6. ข้อดี-ข้อเสีย (วิเคราะห์แบบกลางๆ ไม่อวยเกิน): มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง?

ข้อดี:

  • ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ทำงานได้ดีมาก ตัดเสียงรอบข้างได้เงียบสงบสุดๆ
  • คุณภาพเสียงเยี่ยม โดยเฉพาะรุ่น Pro ที่ร่วมกับ Devialet เสียงดี รายละเอียดครบ
  • ใส่สบาย กระชับหู มีจุกหลายขนาด ช่วยให้เลือกได้พอดี
  • คุยโทรศัพท์ชัดเจน มีระบบตัดเสียงรบกวนระหว่างคุยดีเยี่ยม
  • ราคาเข้าถึงง่ายกว่าคู่แข่งแบรนด์ดังระดับเดียวกัน

ข้อเสีย:

  • การควบคุมด้วยการบีบอาจต้องใช้เวลาปรับตัว
  • แอป AI Life บน iOS อาจมีข้อจำกัดบางอย่างเมื่อเทียบกับ Android
  • บางฟังก์ชันอาจทำงานได้เต็มที่เมื่อใช้กับอุปกรณ์ Huawei ด้วยกันเอง
  • เคสชาร์จบางรุ่นอาจไม่กันน้ำ (แต่ตัวหูฟังกันน้ำ/เหงื่อได้)

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรซื้อดี?

หูฟังตัดเสียงรบกวน Huawei FreeBuds Pro Series เหมาะมากๆ สำหรับ:

  • คนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ไม่ว่าจะรถไฟฟ้า รถเมล์ เครื่องบิน ช่วยให้การเดินทางสงบขึ้นเยอะ
  • คนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น ออฟฟิศที่มีคนเยอะๆ ร้านกาแฟ หรือ Work From Home แล้วที่บ้านเสียงดัง
  • คนที่ต้องการหูฟังคุณภาพเสียงดีๆ สำหรับฟังเพลงแบบจริงจัง รองรับ Hi-Res
  • คนที่มองหาหูฟัง True Wireless ที่มี ANC ดีๆ ในงบที่ไม่บานปลายเท่าแบรนด์ตัวท็อปอื่นๆ

คำแนะนำในการซื้อ: ถ้าคุณเข้าข่ายตามด้านบน แล้วกำลังมองหาหูฟังที่มี ANC ดีๆ ในราคาที่สมเหตุสมผล Huawei FreeBuds Pro ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ ควรซื้อเลย! ลองดูช่วงโปรโมชั่นตามแอปช้อปปิ้งต่างๆ หรือร้านค้าออนไลน์ทางการ อาจจะได้ราคาพิเศษพร้อมของแถมด้วยนะคะ


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้): ตัวไหนน่าสนกว่ากัน?

เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดหูฟัง ANC ระดับเดียวกันอย่าง Sony หรือ Bose ที่อาจจะมีราคาสูงกว่า Huawei FreeBuds Pro จะให้คุณภาพการตัดเสียงและคุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกันมากๆ ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าค่ะ

ถ้าเทียบกับหูฟัง Huawei รุ่นอื่นๆ ที่มี ANC เหมือนกัน:

  • FreeBuds 4i: ราคาเป็นมิตรลงมาหน่อย ANC อาจจะไม่เทพเท่ารุ่น Pro แต่ก็พอใช้งานได้ คุณภาพเสียงดีตามราคา เหมาะกับคนงบน้อย
  • FreeBuds 4: เป็นแบบ Open-fit ไม่มีจุกยาง ANC จะตัดได้ไม่ดีเท่าแบบ In-ear (ที่มีจุกยางช่วยซีลเสียง) เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังแบบมีจุก
  • FreeLace Pro 2: เป็นแบบคล้องคอ ANC ดี แบตอึด เหมาะกับคนออกกำลังกาย หรือคนที่ไม่ชอบหูฟังแบบ True Wireless แยกข้าง

สรุปคือ ถ้าเน้น ANC แบบสุดจริงจัง คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ต้องมาที่ FreeBuds Pro Series ค่ะ


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

สินค้า Huawei ส่วนใหญ่ในไทยมีการรับประกัน 1 ปีค่ะ สามารถติดต่อศูนย์บริการ Huawei ในประเทศไทยได้ หากมีปัญหา การรับประกันและการคืนสินค้าก็เป็นไปตามนโยบายของร้านค้าที่เราซื้อค่ะ

ช่องทางการซื้อ:

  • ร้านค้าออนไลน์หลักๆ: Lazada, Shopee, JD Central เป็นแหล่งใหญ่ที่มีสินค้า Huawei ให้เลือกเยอะ และมักจะมีโปรโมชั่น ลดราคา โค้ดส่วนลด หรือผ่อน 0% ด้วย ลองเช็คหลายๆ ร้านเทียบราคาก่อนตัดสินใจนะคะ
  • ร้านค้าทางการของ Huawei (Huawei Store): มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะของตัวเองด้วย
  • ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย: Banana IT, JIB, Power Buy หรือร้านค้าไอทีชั้นนำต่างๆ ก็มีจำหน่าย สามารถไปลองดู ลองจับ ลองฟังเสียงจริงก่อนซื้อได้

ระยะเวลาจัดส่ง ถ้าสั่งออนไลน์ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็เร็วค่ะ วันเดียวถึงก็มี หรือต่างจังหวัดก็ไม่กี่วัน ขึ้นอยู่กับร้านและบริษัทขนส่งค่ะ ค่าจัดส่งบางทีก็ฟรี ลองดูเงื่อนไขดีๆ นะคะ


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

หลังจากลองใช้ ลองเทียบมาแล้ว ถ้าถามว่าหูฟังตัดเสียงรบกวน Huawei คุ้มค่าน่าซื้อไหม? ฟันธงเลยว่า คุ้มมาก!

โดยเฉพาะ Huawei FreeBuds Pro Series เป็นหูฟัง True Wireless ที่ให้ประสบการณ์การตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก ดีพอจะสู้กับแบรนด์ตัวท็อปในตลาดได้สบายๆ ในราคาที่จ่ายน้อยกว่า คุณภาพเสียงก็ยอดเยี่ยม ฟังสนุก ใส่สบาย ใช้งานง่าย

เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการหูฟังตัวจบ มี ANC ดีๆ เสียงดีๆ สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเดินทาง ทำงาน หรือฟังเพลงแบบจริงจัง

ถ้าคุณกำลังเล็งหูฟัง ANC อยู่ แล้วมีงบประมาณที่พอจะขยับมาเล่นรุ่นกลางๆ ถึงสูงได้หน่อย แนะนำให้ลองพิจารณา Huawei FreeBuds Pro เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง!

ใครที่เคยใช้หูฟัง Huawei รุ่นไหนอยู่ หรือมีคำถามอะไรเพิ่มเติม มาแชร์กันได้ในคอมเมนต์เลยนะคะ! 😊

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีครับทุกคน! ชาวออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา หรือจะสายชิลที่ชอบหนีความวุ่นวายไปนั่งทำงาน นั่งฟังเพลงที่คาเฟ่ หรือต้องเดินทางบ่อยๆ แล้วเจอปัญหา "เสียงดัง" กวนใจบ้างไหมครับ? ไหนจะเสียงรถบนถนน เสียงคนคุยกันในออฟฟิศ เสียงเด็กๆ ที่บ้าน หรือเสียง
10 หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ตัดเสียงรบกวนดี คุยชัด
พูดถึงหูฟังตัดเสียงรบกวนยุคบุกเบิก ชื่อของ Bose QC20 ต้องลอยมาเป็นอันดับต้นๆ! นี่มันระดับตำนานชัดๆ ที่เคยสร้างความฮือฮาแบบเงียบๆ (เพราะมันตัดเสียงไง!) เมื่อนานมาแล้ว แต่พอมาถึงปี 2024 ที่หูฟังไร้สาย ANC เต็มบ้านเต็มเมือง เจ้า QC20 ที่ยังคงม
Bose QC20 รีวิว: หูฟังตัดเสียงรบกวนในตำนาน ยังน่าใช้ไหมในปี 2024?
สวัสดีพี่น้องชาวไทยหัวใจรักความสงบแต่ชีวิตไม่สงบ! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยเรื่องไอเทมที่โคตรจำเป็นสำหรับคนยุคนี้ที่ต้องเผชิญมลภาวะทางเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถไฟฟ้า เสียงเม้าท์มอยของเพื่อนร่วมงาน หรือเสียงนกเสียงกาที่ดังกว่าเสียงนาฬิกาปลุก นั่น
แนะนำหูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) ราคาถูก คุณภาพดี รุ่นไหนดี

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ้โห! วันนี้จะพาไปวาร์ปย้อนยุคกันที่ สวนคุณปู่ Life Museum แหม แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้แว่วๆ โดยเฉพาะสายเที่ยว สายคาเฟ่ที่ชอบวิวปังๆ แต่สงสัยกันไหมว่าที่นี่มันมีอะไรดีนอกจากวิวสวยๆ? เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา หรือเป็
รีวิว สวนคุณปู่ สถานที่ท่องเที่ยว/ร้านอาหาร บรรยากาศย้อนยุค
โอ้โห! วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ที่แค่ชื่อก็กินขาด แถมยังเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราด้วยนะ กับเรื่อง "Clickbait" ที่เคลมว่าเป็นแนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบสุดๆ คำถามคาใจคือ...มันจริงเด๊ะ? แล้วมันจะทำให้เราอดหลับอดนอนดูยันเช้าเหมือนท
รีวิว Clickbait: ซีรีส์/ภาพยนตร์แนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบไหม?
หนีเมืองกรุงไปพักใจริมน้ำ! วันนี้เราจะพาไปส่อง "บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?" ที่พักที่ได้ยินชื่อแล้วต่อมอยากพักผ่อนริมน้ำก็พุ่งกระฉูด! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ...พักบ้านเรือ มันจะโค
รีวิว บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?

บทความที่แนะนำ