logo

รีวิว Sony WH-1000XM3 หูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดแห่งปี?

user avatar
วีรภัทร มูลทรัพย์·07/08/2025T06:26Z
点赞
รีวิว Sony WH-1000XM3 หูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดแห่งปี?

สวัสดีค่าทุกคนนน วันนี้เราจะมารีวิวไอเทมเด็ดที่บอกเลยว่าชีวิตดีขึ้น 300% โดยเฉพาะคนเมืองที่ต้องฝ่าฟันสารพัดเสียงรบกวนในแต่ละวัน! นั่นก็คือ หูฟัง Sony WH-1000XM3 ที่หลายคนยกให้เป็นตัวท็อปเรื่องตัดเสียงรบกวนแห่งยุค (แม้ว่าตอนนี้จะมีรุ่นใหม่กว่าแล้วก็ตาม!) แต่ความเก๋าก็ยังอยู่ ใครที่กำลังเล็งๆ หูฟังเทพๆ สักอันไว้ฟังเพลงชิลๆ บน BTS ตอนเช้า หรือจะใช้ทำงานแบบมีสมาธิ ไม่โดนเสียงรอบข้างกวนใจ ต้องอ่านให้จบนะจ๊ะ รับรองว่ามีทั้งเรื่องจริง เรื่องจี้เส้น และเรื่องน่าเสียตังค์รออยู่เพียบ!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักเจ้าหูฟังเทพตัวนี้กันหน่อย

แบรนด์: Sony

รุ่น: WH-1000XM3

ปีที่วางขาย: เปิดตัวช่วงปลายปี 2018 (แต่ความสามารถยังเก๋าอยู่มาก!)

ช่วงราคา: ตอนเปิดตัวประมาณหมื่นกลางๆ ปัจจุบันราคาเป็นมิตรขึ้นเยอะ บางทีเจอโปรดีๆ มีเลข 4 หลักให้เห็น

ตำแหน่งในตลาด: รุ่นท็อปตัวเทพ (ในยุคนั้น) เหมาะกับคนที่จริงจังเรื่องคุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนขั้นสุด

จุดเด่นหลักที่ต้องรู้:

  • ตัดเสียงรบกวนคือที่สุด! ได้ยินแต่เสียงเพลง ไม่ได้ยินเสียงป้าข้างๆ คุยโทรศัพท์
  • คุณภาพเสียง Hi-Res Audio ฟังเพลงได้ฟิน รายละเอียดมาเต็ม
  • แบตเตอรี่อึดม้ากกก ฟังได้ยาวๆ 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จครั้งเดียว
  • ควบคุมด้วยระบบสัมผัส แตะๆ ปาดๆ เปลี่ยนเพลง รับสาย ง่ายเว่อร์
  • มี Quick Attention Mode เอามือปิดหูฟังปุ๊บ เสียงรอบข้างเข้ามาปั๊บ คุยกับคนได้เลยไม่ต้องถอด

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบหรู ดูแพง (แต่แอบเป็นรอยง่ายนะ)

ดีไซน์โดยรวมคือเรียบหรู มินิมอลตามสไตล์ Sony มีให้เลือก 2 สีคลาสสิก คือ ดำ กับ เงิน

วัสดุหลักเป็นพลาสติกเคลือบผิวแบบด้านๆ แตะแล้วรู้สึกดีนะ แต่มันแอบเป็นรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อย ใครมือเยิ้มต้องเช็ดบ่อยๆ นะจ๊ะ ส่วนเอียร์คัพนุ่มมาก บุด้วยโฟมยูริเทน ใส่สบาย ไม่บีบหูเลย

ขนาดและน้ำหนัก: ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป น้ำหนัก 254 กรัม ถือว่าเบาใส่ได้นาน

การพกพา: พับเก็บได้นะ มีเคสแข็งแถมมาให้ในกล่อง พกไปไหนมาไหนสะดวกหายห่วง

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: มีตัวหูฟัง, กระเป๋าเคสแข็ง, สายชาร์จ USB-C (เย้! Type-C แล้ว!), สาย Audio 3.5 มม. ไว้ต่อแบบมีสาย, และตัวแปลงสำหรับใช้บนเครื่องบิน (อันนี้ดีงามมากสำหรับสายเดินทาง)


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: โลกเงียบได้ด้วยปลายนิ้ว

ไฮไลท์ของรุ่นนี้คือการตัดเสียงรบกวน หรือ Noise Cancelling นี่แหละ! บอกเลยว่าทำได้โคตรดี มีชิปประมวลผล HD Noise Cancelling Processor QN1 โดยเฉพาะ

ลองเอาไปใช้บน BTS ตอนคนแน่นๆ เสียงประกาศ เสียงคุยโทรศัพท์ เสียงล้อบดรางรถไฟ คือหายไปเกือบหมด! เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัวเลย ฟินมาก! ใช้ทำงานในคาเฟ่ หรือออฟฟิศเสียงดังๆ ก็เอาอยู่ เสียงแอร์ เสียงคีย์บอร์ดรัวๆ คือเงียบกริบ

ส่วนคุณภาพเสียงก็หายห่วง ได้ยินรายละเอียดเครื่องดนตรีชัดเจน เบสแน่นตามสไตล์ Sony ฟังเพลงสนุก ไม่ว่าจะแนวไหน

ฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

  • Adaptive Sound Control: ปรับการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติตามกิจกรรมที่เรากำลังทำ เช่น เดิน วิ่ง นั่ง
  • Quick Attention Mode: แค่เอามือแตะที่ครอบหูข้างขวา เสียงรอบข้างจะดังขึ้นมาทันที เหมาะมากเวลาแอร์มาถามว่าจะรับน้ำอะไรดีคะ หรือเพื่อนมาเรียกคุยงานด่วนๆ
  • Atmospheric Pressure Optimizing: ปรับการตัดเสียงรบกวนให้เหมาะกับความกดอากาศสูงๆ บนเครื่องบิน อันนี้เลิศจริง!

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใครๆ ก็ใช้ได้

เรื่องความง่ายในการใช้งาน ยกให้เลยว่าใช้ง่ายมากๆ ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ

ควบคุมหลักๆ ใช้การแตะและปาดบนครอบหูข้างขวา ปาดขึ้น-ลง เพิ่ม-ลดเสียง, ปาดซ้าย-ขวา เปลี่ยนเพลง, แตะสองครั้ง เล่น/หยุดเพลง ตอนแรกอาจจะไม่ชิน แต่ใช้ไปสักพักคือคล่องปรื๋อ!

มีแอปพลิเคชัน Sony Headphones Connect ให้โหลดมาปรับตั้งค่าต่างๆ ได้อีกเพียบ ปรับ EQ เสียงตามใจชอบ, ปรับระดับ Ambient Sound, หรือจะให้แอปฯ วิเคราะห์รูปหูเพื่อปรับเสียงให้เข้ากับเราก็ได้

ความสบายในการสวมใส่คือดีงามมากก เอียร์คัพนุ่ม ไม่บีบหัว ใส่ได้นานๆ เป็นชั่วโมงๆ ตอนนั่งรถไฟกลับบ้านช่วงสงกรานต์คือใส่ยาวๆ ไปเลย สบายหูสุดๆ

รองรับภาษาไทยไหม? แอปฯ รองรับภาษาไทยจ้า ใช้งานง่ายหายห่วง


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: อึด ถึก ทน!

แบตเตอรี่คือจุดเด่นมากๆ ของรุ่นนี้ ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 30 ชั่วโมงเมื่อเปิด Noise Cancelling ถ้าปิด ANC จะได้นานขึ้นไปอีก เดินทางข้ามจังหวัด ข้ามภาค หรือนั่งทำงานยาวๆ คือสบายมาก ไม่ต้องกลัวแบตหมด

เรื่องชาร์จก็ไว! ชาร์จแค่ 10 นาที ฟังได้อีก 5 ชั่วโมง ลืมชาร์จตอนกลางคืน ตื่นมาเสียบแป๊บเดียว ออกจากบ้านฟังได้ทั้งวัน

ความคุ้มค่าระยะยาว? รุ่นนี้ทนทานใช้ได้เลย การบำรุงรักษาก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร หมั่นทำความสะอาดเอียร์คัพบ้างแค่นั้นเอง

เทียบกับราคา ณ ตอนนี้ที่ลงมาเยอะมาก ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ ทั้งเรื่องตัดเสียงรบกวน คุณภาพเสียง และแบตเตอรี่


6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งรักทั้งติ!

ข้อดีที่คนไทยน่าจะเลิฟ:

  • ตัดเสียงรบกวนเทพจริง! ชีวิตสงบสุขขึ้นเยอะ โดยเฉพาะบนรถไฟฟ้าหรือในที่คนเยอะๆ
  • แบตเตอรี่โคตรอึด ชาร์จครั้งเดียวใช้ลืม
  • คุณภาพเสียงดี ฟังเพลิน เบสแน่น รายละเอียดชัด
  • ใส่สบายมากก ใส่นานๆ ไม่ปวดหู
  • มีฟังก์ชัน Quick Attention คุยกับคนได้ทันที ไม่ต้องถอด
  • รองรับ USB-C ชาร์จสะดวก ใช้สายร่วมกับมือถือ Android ส่วนใหญ่ได้

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

  • ดีไซน์แอบเป็นรอยง่าย ต้องดูแลหน่อย
  • ไม่มี Multipoint Bluetooth ต่อพร้อมกัน 2 เครื่องไม่ได้ ต้องคอยสลับเอา (รุ่นใหม่กว่าอย่าง XM4 ทำได้แล้ว)
  • การควบคุมแบบสัมผัส บางทีก็แอบไม่แม่น หรือเผลอไปโดนได้
  • รุ่นใหม่กว่าออกมาแล้ว อาจจะรู้สึกว่าตกรุ่นนิดหน่อย (แต่ประสิทธิภาพยังเก๋าอยู่นะ!)
  • ไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น ใส่ลุยฝน หรือออกกำลังกายหนักๆ ไม่แนะนำ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรรีบจัด?

เจ้า Sony WH-1000XM3 ตัวนี้ เหมาะกับ:

  • คนเดินทางบ่อย: ขึ้นรถไฟฟ้า, รถทัวร์, เครื่องบิน (ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนบนเครื่องบินคือดีมาก)
  • คนที่ต้องการสมาธิ: ทำงานในที่เสียงดัง, อ่านหนังสือในคาเฟ่
  • คนรักเสียงเพลง: ชอบฟังเพลงคุณภาพดี อยากได้ยินรายละเอียดชัดๆ
  • นักเรียน นักศึกษา ฟรีแลนซ์: ที่ต้องใช้เวลาเดินทาง หรือต้องการสมาธิในการทำงาน/อ่านหนังสือ

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: ฟังเพลงระหว่างเดินทาง, ทำงาน, อ่านหนังสือ, ดูหนัง, พักผ่อน

ควรซื้อเลยไหม? ถ้าราคา ณ ตอนนี้ดีงาม (ต่ำกว่าหมื่น หรือหมื่นต้นๆ) และรับได้ว่าไม่ใช่รุ่นล่าสุด ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ที่จะซื้อ เพราะประสิทธิภาพเรื่องการตัดเสียงรบกวนและคุณภาพเสียงยังอยู่ในระดับท็อป

หรือจะรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 10.10, 11.11, 12.12 ก็อาจจะได้ราคาที่ดียิ่งกว่าเดิมไปอีก!


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้)

ถ้าเทียบกับคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Bose QuietComfort 35 II (QC35 II)

  • การตัดเสียงรบกวน: Sony WH-1000XM3 ทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะเสียงย่านสูงๆ อย่างเสียงพูด แต่ QC35 II จะตัดเสียงย่านต่ำๆ อย่างเสียงเครื่องยนต์ได้ดีกว่านิดหน่อย
  • คุณภาพเสียง: อันนี้แล้วแต่คนชอบ แต่หลายคนบอกว่า Sony ให้เสียงที่สนุกกว่า เบสแน่นกว่า ส่วน Bose จะออกแนวบาลานซ์ นุ่มๆ ฟังสบาย
  • แบตเตอรี่: Sony ชนะขาด ล่อไป 30 ชั่วโมง ในขณะที่ Bose ได้ประมาณ 20 ชั่วโมง
  • ฟีเจอร์เสริม: Sony มีลูกเล่นเยอะกว่า ทั้ง Adaptive Sound Control, Quick Attention Mode, ปรับ EQ ในแอปฯ ได้ละเอียดกว่า
  • ความสบาย: Bose QC35 II เบากว่านิดหน่อย และหลายคนบอกว่าใส่สบายกว่า Sony เล็กน้อย แต่ Sony XM3 ก็สบายมากๆ อยู่แล้วนะ
  • การควบคุม: Bose ใช้ปุ่มกดจริง ส่วน Sony ใช้ระบบสัมผัส อันนี้ก็แล้วแต่ความถนัด

ถ้าเทียบกับรุ่นที่ใหม่กว่าอย่าง Sony WH-1000XM4 หรือ XM5

  • รุ่นใหม่กว่าจะมีการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้นอีกนิดหน่อย มีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น Multipoint Bluetooth (ต่อพร้อมกัน 2 เครื่อง), Speak-to-Chat (หยุดเพลงอัตโนมัติเมื่อเราพูด)
  • แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ถ้าไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจริงๆ และอยากประหยัดงบ WH-1000XM3 ยังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ อยู่

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนมั่นใจสุด?

Sony WH-1000XM3 ที่ขายในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นประกันศูนย์ Sony Thailand 1 ปี ถ้ามีปัญหาก็เข้าศูนย์บริการ Sony ได้เลย

ช่องทางการซื้อนี่เพียบ! ทั้งร้านค้าออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada, Shopee หรือร้านค้าอย่างเป็นทางการของ Sony, ร้าน Power Buy, Studio7 หรือร้าน Gadget ต่างๆ ก็มีขาย

แนะนำให้ซื้อช่วงโปรโมชั่นตามแอปฯ ช้อปปิ้งต่างๆ หรือช่วงเทศกาล เพราะมักจะมีส่วนลด โค้ดลดเพิ่ม หรือผ่อน 0% ได้ด้วย บางทีได้ราคาดีจนงง!

ระยะเวลาจัดส่งแล้วแต่ร้านค้าและช่องทาง แต่ถ้าสั่งจากร้านค้าทางการในไทยส่วนใหญ่มักจะไว 1-3 วันทำการก็ได้รับของแล้ว


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ซื้อไม่ซื้อ? ฟันธง!

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังเทพๆ ที่เน้นการตัดเสียงรบกวนแบบจัดเต็ม คุณภาพเสียงดีงาม แบตอึด และใส่สบาย โดยที่งบประมาณจำกัดลงมาหน่อย ไม่อยากจ่ายเท่าตัวท็อปรุ่นล่าสุด... Sony WH-1000XM3 คือคำตอบที่ดีงามมาก!

เหมาะมากๆ สำหรับ:

  • มนุษย์ออฟฟิศ/นักเรียนนักศึกษา ที่ต้องเดินทาง หรือต้องการสมาธิในการทำงาน/เรียน
  • สายเดินทางบ่อย ขึ้นเครื่องบิน รถไฟ รถทัวร์ นี่คือเพื่อนคู่ใจชั้นดี

ถ้าเจอราคาดีๆ ช่วงโปรโมชั่น บอกเลยว่ากดใส่ตะกร้าแบบไม่ต้องคิดนาน! คุ้มค่าตัวทุกบาททุกสตางค์แน่นอนจ้า

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่:

  • ต้องการฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด เช่น Multipoint Bluetooth, Speak-to-Chat
  • เน้นดีไซน์พรีเมียมสุดๆ ไม่สนเรื่องรอยนิ้วมือเล็กๆ น้อยๆ
  • มีงบประมาณสูงมากๆ และอยากได้สิ่งที่ใหม่ที่สุดในตลาด

อาจจะลองดูรุ่น WH-1000XM4 หรือ XM5 แทนก็ได้

แต่สำหรับเรานะ... WH-1000XM3 ณ ราคานี้ ยังคงเป็นตัวเลือกที่โคตรน่าสอย และยังเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีมากๆ แห่งยุคอยู่ดีจ้า!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

หูฟัง AKG N700NC M2 หูฟังตัดเสียงรบกวนคุณภาพพรีเมียม เสียงดีแค่ไหน? คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่? ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังคู่ใจที่มอบทั้งคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอและการตัดเสียงรบกวนอันยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทาง ท่องเที่ยว หรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่วุ่
รีวิวหูฟัง AKG N700NC M2 หูฟังตัดเสียงรบกวนคุณภาพพรีเมียม เสียงดีแค่ไหน
สวัสดีพี่น้องชาวไทยหัวใจรักความสงบแต่ชีวิตไม่สงบ! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยเรื่องไอเทมที่โคตรจำเป็นสำหรับคนยุคนี้ที่ต้องเผชิญมลภาวะทางเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถไฟฟ้า เสียงเม้าท์มอยของเพื่อนร่วมงาน หรือเสียงนกเสียงกาที่ดังกว่าเสียงนาฬิกาปลุก นั่น
แนะนำหูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) ราคาถูก คุณภาพดี รุ่นไหนดี
สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้มาป้ายยา เอ้ย! มารีวิวของที่น่าจะถูกใจสายคนเมืองสุดๆ นั่นก็คือ หูฟังตัดเสียงรบกวน นั่นเอง! และแบรนด์ที่เราจะมาเจาะลึกกันวันนี้ก็คือ Huawei ค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นชื่อ Huawei กับมือถือใช่มั้ยคะ แต่บอกเลยว่าหูฟังเค้าก็ทำถึงเ
รีวิวหูฟังตัดเสียงรบกวน Huawei: รุ่นไหนดี? เทียบกับแบรนด์อื่น คุ้มค่าน่าซื้อไหม?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กำลังมองหาที่พักในเชียงใหม่ที่เดินทางสะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมืองเก่า และราคาดีอยู่ใช่ไหม? โรงแรมรอยัล พรรณราย เชียงใหม่ อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา! ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถ
รีวิวโรงแรม รอยัล พรรณราย เชียงใหม่ ที่พักใจกลางเมืองเก่า เดินทางสะดวก
กำลังมองหาทีวีใหม่ที่ให้ภาพสวยคมชัด เสียงกระหึ่มเหมือนโรงหนัง แต่ราคาไม่แรงเกินไปอยู่ใช่ไหม? วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึก LG 55SK8000PTA ทีวี 4K Super UHD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Cell Display อันเป็นเอกลักษณ์ของ LG ที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อ
รีวิวทีวี LG 55SK8000PTA Nano Cell Display 4K ภาพสวยเสียงดี คุ้มค่ามั้ย
เบื่อไหมกับใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า? นอนดึกตาบวมจนเพื่อนทัก? ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยกอบกู้ใต้ตาให้กลับมาสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง บทความนี้มีคำตอบ! วันนี้เราจะพามารีวิวเจาะลึก Origins Ginzing Eye Cream อายครีมตัวดังที่ใครๆ ก็พูดถึง ว่าจะช่วยลด
รีวิว Origins Ginzing Eye Cream อายครีมลดบวมและความหมองคล้ำรอบดวงตา

บทความที่แนะนำ