logo

ราคา เครื่อง Stepper ออกกำลังกาย 2025 ลดน้ำหนักได้จริงไหม รุ่นไหนดี ซื้อที่ไหน?

user avatar
ธีรเดช รัตนไชย·07/08/2025 17:18
点赞
ราคา เครื่อง Stepper ออกกำลังกาย 2025 ลดน้ำหนักได้จริงไหม รุ่นไหนดี ซื้อที่ไหน?

โย่วๆ ทุกคนนนน! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยหอยสังข์เรื่องเครื่องออกกำลังกายไซส์กะทัดรัดที่กำลังฮิต นั่นก็คือ เครื่อง Stepper นั่นเอง! หลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ้าเครื่องนี้มันช่วยลดน้ำหนักได้จริงเหรอ? แล้วปี 2025 เนี่ย ราคาจะเป็นยังไง? ซื้อรุ่นไหนดี? ไปหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง? ไม่ต้องงง ไม่ต้องคิดเยอะ ตามเรามาเลยจ้า เราจะไขทุกข้อข้องใจแบบหมดเปลือก สไตล์บ้านๆ เข้าใจง่าย แถมมีมุกให้ขำกรุบกริบแน่นอน! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาสต็อป... เอ้ย! สเต็ปไปพร้อมกัน!

1. เจ้าเครื่อง Stepper นี่มันคืออะไรกันนะ?

มาทำความรู้จักกับเจ้าเครื่อง Stepper กันก่อนเลยจ้า! พูดง่ายๆ มันก็คืออุปกรณ์ออกกำลังกายที่จำลองการปีนบันได หรือก้าวขึ้นที่สูงนั่นแหละ! นึกภาพเวลาเราเดินขึ้นบันไดเหนื่อยๆ นั่นแหละคือฟีลเลย แต่เจ้าเครื่องนี้เค้าออกแบบมาให้เราออกกำลังกายได้สะดวกสบายในบ้าน ไม่ต้องไปหาบันไดที่ไหนไกล ฟังก์ชันหลักๆ คือช่วยบริหารช่วงล่างจ้า โดยเฉพาะกล้ามเนื้อต้นขา สะโพก และน่อง การที่เราต้องออกแรงยกตัวก้าวขึ้นลงเนี่ย มันช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีมากๆ เลยนะ ซึ่งก็ ช่วยในการลดน้ำหนักได้จริง นั่นแหละ! ยิ่งสเต็ปเร็ว สเต็ปนาน ก็ยิ่งเบิร์นเยอะจ้า

แล้วใครล่ะที่เหมาะกับเจ้าเครื่องนี้? บอกเลยว่าเหมาะกับ ทุกเพศทุกวัย เลยจ้า ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพราะเป็นการออกกำลังกายแบบ Low-impact หรือแรงกระแทกต่ำ ทำให้ไม่เป็นภาระต่อข้อต่อหัวเข่าหรือข้อเท้ามากนัก เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ พื้นที่ในบ้านจำกัด เพราะเครื่อง Stepper ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก กะทัดรัด เคลื่อนย้ายง่าย เก็บสะดวก ไม่เปลืองที่เหมือนลู่วิ่งหรือจักรยานออกกำลังกายใหญ่ๆ ใครที่อยากเริ่มออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อน หรืออยากหาเครื่องมาเสริมการออกกำลังกายอื่นๆ เจ้า Stepper นี่ตอบโจทย์เลยจ้า!

ส่วนเรื่องประวัติแบรนด์เครื่อง Stepper เนี่ย มันมีหลายแบรนด์มากๆ ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์จีน หรือแบรนด์ฝั่งยุโรป อเมริกา ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นต่างกันไป บางแบรนด์เน้นดีไซน์เก๋ๆ บางแบรนด์เน้นฟังก์ชันเยอะๆ บางแบรนด์เน้นความทนทาน หรือบางแบรนด์เน้นราคาเป็นมิตร ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของเรานะจ๊ะ


2. ราคาในปี 2025 จะเป็นยังไงนะ?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนจับตา นั่นก็คือ "ราคา" ในปี 2025 นั่นเอง! บอกตรงๆ ว่าราคาสินค้ามันก็มีขึ้นมีลงตามสภาวะเศรษฐกิจและโปรโมชั่นต่างๆ แต่จากแนวโน้มปัจจุบันเนี่ย ราคาเครื่อง Stepper ในตลาดไทยปี 2025 น่าจะยังคงมีช่วงราคาที่ หลากหลาย เหมือนเดิมจ้า ขึ้นอยู่กับรุ่น สเปก แบรนด์ และวัสดุที่ใช้ผลิตนะ

โดยทั่วไปแล้ว ราคาของเครื่อง Stepper จะเริ่มต้นตั้งแต่หลัก พันบาทต้นๆ (฿) ไปจนถึงหลัก หมื่นบาทกลางๆ (฿) เลยจ้า

  • รุ่นมาตรฐาน/รุ่นเริ่มต้น: พวกนี้มักจะเป็น Stepper แบบไฮดรอลิกธรรมดา มีหน้าจอเล็กๆ บอกจำนวนก้าว เวลา และแคลอรี่ที่เผาผลาญ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 5,000 บาท (฿) เหมาะสำหรับคนที่อยากทดลองใช้ หรือเน้นออกกำลังกายเบาๆ ไม่หนักมาก
  • รุ่นกลาง/รุ่นที่มีที่จับ: รุ่นนี้จะมีที่จับช่วยในการทรงตัว ทำให้รู้สึกมั่นคงขึ้น บางรุ่นอาจมีฟังก์ชันเพิ่มมานิดหน่อย ราคาจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 4,000 - 8,000 บาท (฿)
  • รุ่น Pro/รุ่นใหญ่/มีฟังก์ชันพิเศษ: พวกนี้อาจจะเป็น Stepper แบบมอเตอร์ หรือมีฟังก์ชันปรับความหนืดได้เยอะ มีโปรแกรมออกกำลังกายให้เลือกหลากหลาย วัสดุแข็งแรงทนทานกว่าเดิม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 - 15,000 บาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้นในบางแบรนด์ไฮเอนด์

แหล่งช้อปปิ้งหลักๆ ที่เราจะเจอเจ้าเครื่อง Stepper นี่ก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee เลยจ้า เข้าไปแล้วเสิร์ชคำว่า "เครื่อง Stepper" หรือ "Stepper ออกกำลังกาย" ได้เลย จะเจอร้านค้าเพียบ มีให้เลือกละลานตามากๆ นอกจากนี้ ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central หรือ The Mall แผนกเครื่องออกกำลังกาย หรือร้านขายอุปกรณ์กีฬาโดยเฉพาะอย่าง Supersports ก็น่าจะมีให้เลือกดูนะ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าในออนไลน์เล็กน้อยจ้า ส่วนร้านแนวเทคโนโลยีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy อันนี้ไม่มีขายแน่นอนจ้า เค้าเน้นแกดเจ็ตไฮเทคมากกว่านะ

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคานานาชาติ อันนี้อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับราคา Stepper รุ่นเล็กๆ มากนัก เพราะส่วนใหญ่อาจจะผลิตในเอเชียอยู่แล้ว แต่ถ้ารุ่นไหนเป็นแบรนด์นำเข้าจากยุโรป อเมริกาจริงๆ ราคาในไทยก็จะอิงตามค่าเงินบาทนิดหน่อยจ้า


3. เทียบราคากับเพื่อนๆ เครื่องออกกำลังกายล่ะ เป็นไง?

ถ้าให้เทียบราคาของ เครื่อง Stepper กับเครื่องออกกำลังกายประเภทอื่นๆ ที่เน้นคาร์ดิโอเหมือนกันเนี่ย บอกเลยว่าเจ้า Stepper เนี่ย ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ เอามากๆ เลยจ้า! ลองนึกภาพดูนะ

  • ลู่วิ่งไฟฟ้า: อันนี้ราคาเริ่มต้นก็หลายหมื่นแล้วจ้า บางทีเป็นแสนก็มี! แถมเปลืองพื้นที่มากๆ
  • จักรยานออกกำลังกาย: ราคาเริ่มต้นก็มีตั้งแต่ไม่กี่พัน (แบบปั่นอยู่กับที่) ไปจนถึงหลักหมื่นกลางๆ ถึงปลายๆ สำหรับรุ่นฟังก์ชันเยอะๆ
  • เครื่องเดินวงรี (Elliptical): อันนี้ราคาก็พอๆ กับจักรยานออกกำลังกายรุ่นกลางๆ ขึ้นไปจ้า

เห็นมั้ยว่า Stepper ราคาเบาที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้! สมมติว่าเครื่อง Stepper รุ่นมาตรฐานราคาประมาณ 3,000 บาท เนี่ย เครื่องออกกำลังกายอื่นๆ ในราคาเดียวกันอาจจะเป็นได้แค่จักรยานออกกำลังกายแบบธรรมดามากๆ หรือไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! ดังนั้น ถ้าดูที่ ความคุ้มค่าในแง่ราคาเริ่มต้นและขนาดที่กะทัดรัด เจ้า Stepper กินขาดเลยจ้า เหมาะมากๆ สำหรับคนงบน้อย หรือมีพื้นที่จำกัด ที่อยากได้เครื่องออกกำลังกายไว้เบิร์นๆ ในบ้าน


4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง?

เวลาที่เราตัดสินใจซื้อเครื่อง Stepper สักเครื่อง สิ่งที่เราจะได้รับก็มีหลายอย่างเลยจ้า ขึ้นอยู่กับร้านค้าและรุ่นที่เราเลือกนะ แต่หลักๆ ก็จะมี:

  • ตัวเครื่อง Stepper: อันนี้แน่นอน ต้องได้อยู่แล้วจ้า! เช็คสภาพให้ดีก่อนรับของนะ
  • คู่มือการใช้งาน: ส่วนใหญ่มักจะมีคู่มือมาให้เป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นแบรนด์ต่างประเทศ
  • เครื่องมือสำหรับประกอบ: บางรุ่นอาจจะต้องประกอบเอง เค้าก็จะให้เครื่องมือแบบง่ายๆ มาให้ด้วย
  • จอแสดงผล: รุ่นส่วนใหญ่จะมีจอเล็กๆ บอกข้อมูลต่างๆ เช่น เวลา, จำนวนก้าว, แคลอรี่ที่เผาผลาญ
  • ยางยืดบริหารแขน (ในบางรุ่น): Stepper บางรุ่นจะมีสายยางยืดมาให้ด้วย เพื่อให้เราได้บริหารช่วงบนไปพร้อมๆ กับช่วงล่างเลยจ้า คุ้มสองต่อ!

ที่สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยคือเรื่อง บริการหลังการขาย จ้า!

  • ค่าขนส่ง: ซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมี ค่าจัดส่ง นะจ๊ะ ต้องเช็คให้ดีว่าร้านค้ามีโปรโมชั่น ส่งฟรี หรือเปล่า หรือค่าส่งเท่าไหร่ ถ้าซื้อจากห้างสรรพสินค้าหรือร้านใหญ่ๆ บางทีอาจมีบริการส่งถึงบ้านให้ฟรีในระยะทางที่กำหนดก็ต้องสอบถามดูนะ
  • ระยะเวลารับประกัน: อันนี้โคตรสำคัญเลย! โดยทั่วไปแล้ว เครื่อง Stepper มักจะมีการรับประกัน 3 เดือน ถึง 1 ปี แล้วแต่แบรนด์และร้านค้าจ้า ต้องสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนว่ารับประกันครอบคลุมส่วนไหนบ้าง มอเตอร์ ไฮดรอลิก โครงสร้าง หรือทั้งเครื่อง? เก็บใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อไว้ให้ดีนะจ๊ะ ถ้าเครื่องมีปัญหาจะได้ส่งซ่อมได้ หรือบางทีถ้าเสียภายในระยะเวลาสั้นๆ หลังซื้อ อาจจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้เลย ถ้าซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ มักจะมีนโยบายคืนสินค้า/คืนเงินภายใน 7 วันด้วยนะ อันนี้ก็เป็นข้อดีของการซื้อออนไลน์จ้า
  • ของแถม/คูปอง/โปรโมชั่น: บางช่วงบางร้านอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น แผ่นรองพื้นกันลื่น ขวดน้ำ คูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป หรือโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ ก็ต้องตาดีได้ ตาร้ายเสียนะจ๊ะ หมั่นเช็คโปรโมชั่นบ่อยๆ!

5. ช่วงไหนน่าซื้อที่สุด? มีโปรโมชั่นโดนๆ ไหมนะ?

ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าซื้อเครื่อง Stepper ที่สุดในปี 2025 เนี่ย บอกเลยว่าต้องเล็งช่วงที่มี โปรโมชั่น เท่านั้นจ้า! แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มเรื่องโปรโมชั่นอยู่แล้วนะ โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตที่ขาช้อปออนไลน์รอคอย ไม่ว่าจะเป็น 4.4, 5.5, 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11 และที่ปังที่สุดคือ 12.12 ช่วงปลายปี! ช่วงเหล่านี้แหละที่ร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะร้านค้าทางการของแบรนด์ (ถ้ามี) หรือร้านค้าระดับแฟลกชิพบนแพลตฟอร์ม จะพร้อมใจกันขนสินค้ามาลดราคา มีโค้ดส่วนลดให้เก็บเพียบ แถมบางทีมีโปรโมชั่น ส่งฟรี หรือ เงินคืน (Cashback) ให้ด้วยนะจ๊ะ

นอกจากโปรโมชั่นเลขเบิ้ลแล้ว ช่วง เทศกาลสำคัญๆ ของไทย ก็เป็นอีกช่วงที่น่าจับตามองนะ เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์), ช่วงเทศกาลปีใหม่สากล, หรือแม้กระทั่งช่วง Black Friday/Cyber Monday ที่เป็นวัฒนธรรมช้อปปิ้งมาจากฝั่งตะวันตก แต่แพลตฟอร์มออนไลน์ไทยก็ชอบเอามาจัดโปรด้วยเหมือนกัน ช่วงเหล่านี้แหละที่อาจจะมีส่วนลดพิเศษสำหรับสินค้ากลุ่มเครื่องออกกำลังกาย หรือโปรโมชั่นร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ

สรุปแล้ว ถ้าไม่รีบใช้มากๆ แนะนำให้รอซื้อช่วงโปรโมชั่น ดีที่สุดจ้า! ส่วนลด คูปอง ของแถม จัดเต็มกว่าช่วงเวลาปกติแน่นอน เหมือนซื้อของได้ในราคาที่ถูกลง แต่ได้ของคุณภาพเท่าเดิม ใครเป็นสายล่าโปร ต้องอดทนรอหน่อยนะ รับรองว่าคุ้ม!


6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ตามรีวิวของคนไทยที่ใช้เครื่อง Stepper ใน Lazada และ Shopee เนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ค่อนข้างไปในทางที่ดีเลยจ้า จุดที่คนไทยชอบมากๆ และมักจะรีวิวถึงบ่อยๆ ก็คือ:

  • ขนาดเล็กกะทัดรัด: อันนี้เป็นจุดเด่นที่โดนใจคนเมืองสุดๆ เพราะบ้านหรือคอนโดส่วนใหญ่พื้นที่ไม่เยอะ เจ้า Stepper เนี่ยวางตรงไหนก็ได้ เก็บใต้เตียง ใต้โต๊ะ หรือในตู้เสื้อผ้าก็ได้ ไม่เกะกะเลย
  • ใช้งานง่าย: แค่ขึ้นไปเหยียบแล้วสเต็ปขึ้นลงได้เลย ไม่ต้องปรับตั้งค่าอะไรเยอะแยะ ผู้สูงอายุหรือคนที่ไม่ถนัดเทคโนโลยีก็ใช้ได้สบายๆ
  • ช่วยเผาผลาญได้ดีจริง: หลายคนรีวิวว่าเหยียบ Stepper แค่ 15-20 นาทีก็เหงื่อท่วมแล้ว รู้สึกได้ว่าได้ออกกำลังกายจริงๆ และเมื่อใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหารก็ช่วยลดน้ำหนักได้จริงตามที่ตั้งใจ
  • ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบราคากับเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ ที่ให้ผลลัพธ์เรื่องคาร์ดิโอเหมือนกัน Stepper ถือว่ามีราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
  • ทนทานเกินคาด (ในบางรุ่น): บางคนใช้มาเป็นปีๆ ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ ไม่มีปัญหาจุกจิก แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการเลือกซื้อรุ่นที่วัสดุดีๆ ด้วยนะจ๊ะ

ส่วนฟีดแบ็กที่อาจจะต้องพิจารณาคือ บางรุ่นที่ราคาถูกมากๆ อาจจะไม่ได้แข็งแรงทนทานเท่าไหร่ หรือเสียงดังไปบ้างเวลาใช้งาน ก็ต้องดูรีวิวประกอบการตัดสินใจให้ดีๆ นะจ๊ะ แต่โดยรวมแล้ว คนไทยที่ใช้ Stepper ส่วนใหญ่แฮปปี้กับ ความสะดวกสบาย และ ผลลัพธ์เรื่องการเบิร์นแคลอรี่ ที่ได้จ้า


7. อยากได้แล้ว! ไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะ?

ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าอยากสอยเครื่อง Stepper มาไว้ที่บ้านแล้วเนี่ย ช่องทางการซื้อที่แนะนำก็มีหลากหลายเลยจ้า ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความสบายใจของเรานะ

  • แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: อันนี้คือแหล่งรวมที่ใหญ่ที่สุด สะดวกที่สุด และมักจะได้ราคาดีที่สุดแล้วจ้า! เข้าไปที่ Shopee หรือ Lazada แล้วเสิร์ชเลย มีร้านค้าให้เลือกเป็นร้อยเป็นพันร้าน ข้อดีคือ ตัวเลือกเยอะ มากๆ สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมีโอกาสเจอโปรโมชั่นดีๆ บ่อยๆ ข้อเสียคือเราไม่เห็นของจริงก่อนซื้อ ต้องดูจากรูปและรีวิวเท่านั้น และต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีคะแนนรีวิวดีๆ นะจ๊ะ
  • ร้านค้าทางการ (Official Store) บนแพลตฟอร์มออนไลน์: ถ้ามีแบรนด์ Stepper ที่เราสนใจมากๆ ลองเช็คดูว่าเค้ามี Official Store บน Lazada หรือ Shopee ไหม การซื้อจาก Official Store มักจะมั่นใจได้เรื่อง ของแท้ คุณภาพดี และ บริการหลังการขาย ที่ได้มาตรฐานกว่าร้านทั่วไปจ้า แต่ราคาอาจจะไม่ได้ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับร้านย่อยอื่นๆ นะ
  • ห้างสรรพสินค้า/ร้านขายอุปกรณ์กีฬา: เช่น แผนกกีฬาใน Central, The Mall หรือร้าน Supersports ข้อดีคือเราสามารถไป ลองจับ ลองเล่น เครื่อง Stepper จริงๆ ก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย ได้เห็นขนาด ได้ลองเหยียบ ได้เช็คความแข็งแรงด้วยตัวเอง ได้สอบถามข้อมูลจากพนักงานได้โดยตรง ข้อเสียคือตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าในออนไลน์ และ ราคาอาจจะสูงกว่า ในออนไลน์เล็กน้อยจ้า แต่อาจจะมีโปรโมชั่นของห้าง หรือโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตให้ใช้ได้นะ

สรุปแล้ว ถ้าเน้น ความสะดวก ราคาถูก ตัวเลือกเยอะ ก็พุ่งตรงไปที่ Lazada กับ Shopee เลยจ้า แต่ถ้าอยาก เห็นของจริง ได้ลองก่อนซื้อ ก็ไปที่ห้างหรือร้านกีฬาได้เลยจ้า เลือกช่องทางที่ใช่สำหรับตัวเองได้เลย!


8. สรุปแล้วเจ้า Stepper นี่น่าซื้อไหม? เหมาะกับใครนะ?

มาถึงช่วงสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่า เครื่อง Stepper น่าซื้อไหมในปี 2025? บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

  • อยากลดน้ำหนัก หรือ รักษาหุ่น ด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
  • มีพื้นที่ในบ้านจำกัด ไม่สามารถวางเครื่องออกกำลังกายขนาดใหญ่ได้
  • มีงบประมาณจำกัด อยากได้เครื่องออกกำลังกายที่ราคาไม่แรง
  • อยากออกกำลังกายง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ทำได้ทุกเวลาที่ต้องการในบ้าน
  • ไม่อยากออกไปยิม หรือไม่มีเวลาไปออกกำลังกายนอกบ้าน
  • อยากบริหารช่วงล่าง ให้กระชับแข็งแรง

เจ้า Stepper คือตัวเลือกที่ คุ้มค่า และ ตอบโจทย์ สุดๆ ไปเลยจ้า มันอาจจะไม่ได้มีฟังก์ชันอลังการเท่าลู่วิ่งหรือจักรยานออกกำลังกายราคาแพงๆ แต่มัน ช่วยให้เราได้ออกกำลังกายจริงๆ จังๆ ได้เบิร์นแคลอรี่ ได้เหงื่อ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพเลยนะ!

ส่วนจะเลือกรุ่นมาตรฐานหรือรุ่นสูงกว่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับ งบประมาณ และ ความจริงจังในการออกกำลังกาย จ้า ถ้าเพิ่งเริ่มต้น งบน้อย หรือแค่อยากมีไว้เดินเบาๆ รุ่นมาตรฐานก็เพียงพอแล้วจ้า ราคาหลักพันก็ใช้งานได้ดีแล้ว แต่ถ้าอยากได้ความแข็งแรงทนทานกว่าเดิม มีฟังก์ชันเสริม หรืออยากได้แบบที่รองรับน้ำหนักได้เยอะขึ้น ก็อาจจะต้องขยับไปดูรุ่นกลางๆ หรือรุ่น Pro ที่ราคาหมื่นต้นๆ จ้า ซึ่งราคาก็ยังถือว่าถูกกว่าเครื่องออกกำลังกายประเภทอื่นอยู่ดี

สุดท้ายนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจซื้อเครื่อง Stepper ได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ขอให้ได้เครื่องที่ถูกใจ เอาไปสเต็ปๆ เบิร์นๆ จนผอมเพรียว หุ่นดี สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนจ้า! ออกกำลังกายแล้วอย่าลืมควบคุมอาหารด้วยนะ! สู้ๆ! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายพ่อบ้าน แม่บ้าน ยุคใหม่ทุกคน! 👋 ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ ไหนจะงานนอกบ้าน งานในบ้านสารพัด การซักผ้ากองโตๆ นี่มันเหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ!เครื่องซักผ้าดีๆ สักเครื่องนี่แหละคือผู้ช่วยชีวิต! มันไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟ
10 เครื่องซักผ้า LG รุ่นไหนดี ปี 2025 ซักสะอาด ฟังก์ชันครบ
สวัสดีครับพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่และกัปตันเชฟประจำบ้านทุกท่าน! 👨‍🍳👩‍🍳 ยุคนี้ชีวิตมันเร่งรีบ จะทำอาหารแต่ละทีก็อยากได้เตาดีๆ ไฟแรงๆ ทำปุ๊บเสร็จปั๊บ แถมต้องปลอดภัยหายห่วงด้วยจริงไหมครับ?พูดถึงเตาแก๊สที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน ไม่พูดถึง "Lucky F
10 เตาแก๊ส Lucky Flame รุ่นไหนดี ปี 2025 ไฟแรง ปลอดภัย

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังฝันอยากมีร้านกาแฟเล็กๆ เป็นของตัวเอง! ช่วงนี้หลายคนคงมองหาช่องทางสร้างรายได้ หรืออยากลองทำธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนตูมใหญ่ วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง "ซุ้มกาแฟสดมือสอง" กันค่ะ บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งทางเลื
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
สวัสดีจ้า พี่น้องนักดื่ม เอ้ย! นักช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราไม่ได้มารีวิวสกินแคร์ เสื้อผ้า หรือแกดเจ็ตสุดล้ำนะจ๊ะ แต่เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัว ใกล้ใจ (และใกล้ตู้กับข้าว เอ้ย! ตู้เย็น) ของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ สุราหงส์ทอง ขนาด
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
สวัสดีค่าาา! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรถในตำนานที่สายซิ่ง สาย JDM ต้องรู้จัก นั่นก็คือ Nissan Silvia S15 นั่นเอง! หลายคนใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครอง แต่บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะจ๊ะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าเจ้า S15 เนี่ยมันคืออะไร ทำไ
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ