ราคา หูฟัง Grado SR600 เสียงดี คุณภาพเยี่ยม สำหรับคนรักเพลง

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องหูฟังที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน อยากมีไว้ในครอบครองสักครั้ง นั่นก็คือ หูฟัง Grado SR600 (จริงๆ ตอนนี้รุ่นใหม่ล่าสุดคือ SR60x นะ แต่ชื่อรุ่น SR600 มันคลาสสิกติดหูจริงๆ) ที่เค้าว่ากันว่าเสียงดี คุณภาพเยี่ยม ฟังเพลงเพราะจนลืมโลกไปเลย! ใครที่กำลังมองหาหูฟังดีๆ มาปลดปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลงแบบเต็มๆ ไม่ควรพลาดบทความนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกให้ดูว่าเจ้าหูฟังตัวนี้มันมีดียังไง ราคาเท่าไหร่ แล้วจะช้อปยังไงให้คุ้มค่าที่สุดในแบบฉบับคนไทยหัวใจนักช้อป! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. เจ้าหูฟัง Grado SR600/SR60x นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้าหูฟัง Grado SR60x กันก่อน (ขอเรียกชื่อรุ่นปัจจุบันเลยนะ จะได้ไม่งง) มันคือหูฟังแบบครอบหู (On-Ear) ชนิด Open-Back หรือ "หูฟังแบบเปิดหลัง" จากแบรนด์ Grado (กราโด้) ซึ่งเป็นแบรนด์หูฟังเก่าแก่ในตำนานจากเมืองบรูคลิน นิวยอร์ก ประเทศอเมริกา เค้าก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 (นานมากๆ เลยนะ!) และความเจ๋งคือหูฟัง Grado เนี่ยเค้ายังคงประกอบด้วยมือ (Hand Assembled) อยู่เลยจ้า เป็นงานคราฟต์ที่น่าทึ่งมากๆ

แล้วมันใช้ทำอะไรล่ะ? เจ้า SR60x เนี่ยถูกออกแบบมาเพื่อมอบคุณภาพเสียงระดับสูง ให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจน มีเวทีเสียงที่เปิดกว้าง (อันนี้เป็นเอกลักษณ์ของหูฟังแบบ Open-Back เลยนะ) เสียงกลางเด่น เสียงร้องจะหวานฉ่ำเป็นพิเศษ และเบสก็มีสปีดที่รวดเร็ว แม่นยำ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่รักการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ อยากได้ยินรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเพลงที่เคยฟังมาเป็นร้อยรอบแล้ว อาจจะได้ยินอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน! มันเหมือนกับการค้นพบโลกใบใหม่ของเสียงเพลงเลยล่ะ

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับหูฟังตัวนี้ก็คือ คนรักเพลง ที่อยากจะอัปเกรดประสบการณ์การฟังให้ดีขึ้นกว่าหูฟังทั่วไป หรือคนที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกของหูฟังออดิโอไฟล์เป็นครั้งแรก แต่งบยังไม่บานปลายมากนัก และต้องบอกว่ามันเหมาะกับการฟังเพลงในบ้านหรือในที่ที่เงียบสงบเท่านั้นนะ เพราะด้วยความที่เป็นหูฟังแบบเปิดหลังเนี่ย เสียงเพลงจะเล็ดลอดออกมาให้คนรอบข้างได้ยิน และเสียงจากภายนอกก็จะเข้ามาได้ง่ายมากๆ จ้า ไม่เหมาะกับการใส่ไปฟังบนรถไฟฟ้า หรือในออฟฟิศเสียงดังๆ นะเตง!

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนตั้งตารอ นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Grado SR60x ในตลาดไทยตอนนี้ถือว่าเป็นหูฟังระดับเริ่มต้นของแบรนด์ Grado ในกลุ่ม Prestige Series เลยจ้า ราคาจะมีความหลากหลายตามแต่ละร้านที่นำเข้ามาขายนะ แต่จากที่ส่องๆ ดูตามแหล่งต่างๆ แล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,300 - 5,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ

ลองไปดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ในไทยอย่าง Lazada และ Shopee ดูสิ จะมีร้านที่เป็น Grado Thailand Official Store อยู่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นตัวแทนนำเข้าอย่างเป็นทางการ (บริษัท เมโลเดียส จำกัด) อันนี้มั่นใจได้เลยว่าได้ของแท้แน่นอน ราคาในร้าน Official บน Shopee เห็นอยู่ที่ประมาณ 3,325 บาท (฿) เลยนะ ถือว่าราคาดีมากๆ ส่วนร้านอื่นๆ บนแพลตฟอร์มเดียวกันก็อาจจะมีราคาที่แตกต่างกันไปนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นหรือส่วนลดของแต่ละร้านจ้า

ถ้าเป็นร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไปอย่าง JIB หรือ Banana IT เนี่ย อาจจะไม่ได้เห็นหูฟัง Grado วางขายมากนัก เพราะเป็นแบรนด์เฉพาะทางหน่อยๆ แต่ถ้าเป็นร้านขายอุปกรณ์เครื่องเสียงโดยเฉพาะล่ะก็ มีโอกาสเจอสูงกว่านะ ลองเช็คกับร้านเครื่องเสียงใกล้บ้านดู หรือจะเน้นช้อปออนไลน์กับร้านที่เป็นทางการก็จะสะดวกที่สุดจ้า

เรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาขายในไทยเนี่ย ด้วยความที่ Grado Thailand เป็นตัวแทนนำเข้าอย่างเป็นทางการ ราคาในไทยจึงค่อนข้างสมเหตุสมผล ไม่ได้แพงเว่อร์วังกว่าราคาต่างประเทศมากนัก ถือว่าโอเคเลยค่ะ

3. แล้วเทียบกับหูฟังตัวอื่นในงบใกล้ๆ กันล่ะ?

ถ้าให้เทียบเจ้า Grado SR60x กับหูฟัง Open-Back แบรนด์อื่นในงบประมาณ 3,000 - 5,000 บาทเนี่ย ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่มีตัวเลือกพอสมควรเลยนะ อย่างเช่น แบรนด์ Sennheiser, Audio-Technica, หรือ Beyerdynamic ก็มีหูฟัง Open-Back ระดับเริ่มต้นที่ราคาใกล้เคียงกัน

จุดเด่นของ Grado SR60x ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นชัดเจนเลยคือ คาแรคเตอร์เสียง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ เค้าเน้นเสียงกลางที่พุ่ง อิมเมจเสียงร้องชัดเจน และเวทีเสียงที่โปร่ง ฟังสบาย ซึ่งอาจจะไม่ใช่แนวเสียงที่ "แฟลต" หรือเป็นกลางเหมือนหูฟังสำหรับ Monitor แต่เป็นแนวเสียงที่ฟังแล้ว "สนุก" มีชีวิตชีวา เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว โดยเฉพาะเพลงที่มีเสียงร้องนำ กีต้าร์ หรือเพลงแจ๊ส ในขณะที่แบรนด์อื่นอาจจะมีคาแรคเตอร์เสียงที่แตกต่างกันไป เช่น บางแบรนด์อาจจะเน้นเบสที่หนักแน่นกว่า หรือเน้นเสียงแหลมที่พริ้วไหวกว่า

ดังนั้น การเลือกหูฟังในงบนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องราคาอย่างเดียวแล้วนะ แต่เป็นเรื่องของ แนวเสียงที่เราชอบ ด้วย ถ้าชอบแนวเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Grado คือเสียงกลางเด่น เวทีเสียงโปร่งๆ เจ้า SR60x นี่คือคุ้มค่ามากๆ ในราคาของมัน แต่ถ้าชอบแนวเสียงที่แตกต่างออกไป ก็อาจจะต้องลองไปฟังของแบรนด์อื่นเปรียบเทียบดูจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาที่เราสอย Grado SR60x มาเนี่ย ในกล่องก็จะมีของพื้นฐานมาให้ครบพร้อมใช้งานเลยนะหลักๆ ก็คือ:

• ตัวหูฟัง Grado SR60x แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับสายหูฟังแบบ 4 ตัวนำที่เค้าบอกว่าออกแบบมาใหม่ให้ทนทานและนำสัญญาณเสียงได้ดีขึ้น
• ใบรับประกัน (Warranty) อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยที่ให้ความสำคัญกับการรับประกัน เพราะหูฟังมีราคานิดนึง การมีประกันศูนย์ช่วยให้อุ่นใจได้เยอะเลยจ้า โดยปกติแล้วสินค้า Grado ที่นำเข้าอย่างเป็นทางการในไทยจะมีการรับประกัน 1 ปี
• แผ่นพับ Grado story-sheet อันนี้ก็จะได้มาด้วย เป็นเหมือนเรื่องราวของแบรนด์ Grado จ้า
• หัวแปลงจาก 3.5mm เป็น 6.5mm (6.5mm Golden Adapter) สำหรับเอาไว้ต่อกับอุปกรณ์เครื่องเสียงที่เป็นช่องเสียบใหญ่ๆ เช่น แอมป์หูฟัง หรือเครื่องเสียงบ้าน

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าสั่งจากร้านค้าออนไลน์อย่าง Official Store บน Shopee หรือ Lazada ส่วนใหญ่มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ให้ด้วยนะ ก็ต้องลองเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านดูจ้า

เรื่องของแถมพิเศษ คูปอง หรือโปรโมชั่นอื่นๆ อันนี้ขึ้นอยู่กับร้านค้าในช่วงเวลานั้นๆ เลยนะ บางทีช่วงเทศกาลอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ หรือมีส่วนลดพิเศษให้ ก็ต้องหมั่นติดตามข่าวสารจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเอาไว้จ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ Grado SR60x ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดล่ะก็ ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น ใหญ่ๆ ไว้เลยจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทยอย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดโปรโมชั่นกันบ่อยมากๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง Double Digit Sale ยอดฮิต เช่น 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11), 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) รวมถึงโปรโมชั่นช่วง ตรุษจีน, สงกรานต์ (ปีใหม่ไทย), หรือ โปรโมชั่นกลางปี/ปลายปี ต่างๆ ช่วงเหล่านี้แหละที่ร้านค้า รวมถึง Official Store มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคา แจกโค้ดส่วนลด หรือมีดีลพิเศษออกมา

ร้านค้าระดับแฟลกชิพหรือ Official Store บน Lazada/Shopee เนี่ย เค้าก็มีจัดส่วนลดหรือโปรโมชั่นย่อยๆ อยู่เรื่อยๆ นะ ไม่จำเป็นต้องรอแค่ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ถ้าอยากได้ราคาดีที่สุดจริงๆ การรอจังหวะช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ย มีโอกาสได้ส่วนลดที่เยอะกว่าแน่นอนจ้า

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบร้อนใช้งานมากๆ อดใจรอซื้อช่วงโปรโมชั่น จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยนะ เอาส่วนลดที่ได้ไปซื้ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น แอมป์หูฟังเล็กๆ มาลองต่อยอด หรือเอาไปซื้อเพลง Hi-Res มาฟังให้ฟินไปเลยก็ได้จ้า

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูรีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ Grado SR60x ในไทยเนี่ย ส่วนใหญ่ค่อนข้างประทับใจเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ เกี่ยวกับหูฟังตัวนี้ก็คือ:

• คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมในราคานี้: หลายคนบอกว่าเสียงที่ได้จาก SR60x นั้นเกินคาดมากๆ เมื่อเทียบกับราคาที่เป็นระดับเริ่มต้น ให้รายละเอียดที่ดี เวทีเสียงโปร่ง ฟังสบาย เหมาะกับเพลงหลากหลายแนว
• เสียงกลางและเสียงร้องที่โดดเด่น: อันนี้เป็นจุดเด่นของ Grado เลย คนที่ชอบฟังเพลงเน้นเสียงร้อง หรือฟังเพลงอะคูสติก มักจะถูกใจกับเสียงกลางที่ชัดเจน มีอิมเมจที่ดีของหูฟังตัวนี้มากๆ
• สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา: ถึงแม้จะดูเหมือนหูฟังสมัยก่อน แต่ตัวหูฟังจริงๆ ค่อนข้างเบา ประกอบกับฟองน้ำรองหูแบบ Open-Back ทำให้ไม่ร้อนหูเท่าหูฟังแบบปิด และสวมใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้ามากนัก (แม้บางคนอาจจะไม่ชินกับสัมผัสฟองน้ำทรงนี้ในตอนแรกก็ตาม)
• ดีไซน์คลาสสิก มีเอกลักษณ์: หน้าตาของหูฟัง Grado เนี่ยไม่เหมือนใครจริงๆ มันมีความวินเทจ มีความคลาสสิกในแบบของตัวเอง หลายคนชอบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์นี้
• ความคุ้มค่า (Value for Money): สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเข้าสู่โลกของหูฟังคุณภาพสูง เจ้า SR60x ถูกมองว่าเป็นหูฟังที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ในราคาที่จ่ายไป

ส่วนข้อสังเกตที่บางคนอาจจะพูดถึงก็คือเรื่องของวัสดุที่ดูเรียบง่ายไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคา (แต่เค้าไปเน้นคุณภาพเสียงกับงาน Hand Assembled แทนไง!) และแน่นอนว่าเรื่องเสียงที่เล็ดลอดเข้าออกเนี่ยต้องทำใจ เพราะมันคือหูฟัง Open-Back จ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อ Grado SR60x ที่แนะนำในไทยมีหลายช่องทางเลยจ้า เลือกที่สะดวกและมั่นใจได้เลย:

• ช่องทางทางการ (ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ): อันนี้ชัวร์ที่สุดว่าจะได้ของแท้ พร้อมการรับประกัน 1 ปี สามารถหาข้อมูลตัวแทนจำหน่ายในไทยได้จากเว็บไซต์ของ Grado Thailand โดยตรงเลย (บริษัท เมโลเดียส จำกัด) หรือจะซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ Official Store บน Shopee ก็ได้เหมือนกัน ข้อดีคือมั่นใจเรื่องคุณภาพและการรับประกัน ได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ในไทย: Shopee และ Lazada เป็นแหล่งรวมร้านค้าเยอะมากๆ ทั้งร้าน Official และร้านอื่นๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคา โปรโมชั่น และรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมักจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีหรือส่วนลดให้ใช้บ่อยๆ ข้อควรระวังคือเช็คชื่อร้านและเครดิตร้านให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ
• ร้านค้าปลีก/ร้านเครื่องเสียงโดยเฉพาะ: ตามร้านขายอุปกรณ์เครื่องเสียง หรือร้าน Headphone Shop ในกรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ อาจจะมีหูฟัง Grado ให้ลองฟังก่อนตัดสินใจซื้อ ข้อดีคือได้ลองของจริง ได้พูดคุยสอบถามกับพนักงานที่มีความรู้ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์นิดหน่อยนะ ลองเช็คโปรโมชั่นหน้าร้านดูก่อนก็ได้จ้า

ส่วนร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไปอย่าง JIB หรือ Banana IT อาจจะไม่ใช่ช่องทางหลักสำหรับหูฟังแบรนด์นี้จ้า

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! Grado SR60x เนี่ย ถือเป็นหูฟังที่ คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนรักเสียงเพลงที่อยากจะก้าวเข้าสู่โลกของหูฟังคุณภาพสูงในงบประมาณที่ไม่แรงจนเกินไป ด้วยราคาประมาณ 3,300 - 5,000 บาท (฿) คุณจะได้หูฟังที่มีคาแรคเตอร์เสียงเป็นเอกลักษณ์ เวทีเสียงโปร่งกว้าง รายละเอียดดีเยี่ยม และงานประกอบแบบ Hand Assembled จากอเมริกา

ถามว่าคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? ถ้าคุณเป็นคนชอบฟังเพลงที่บ้าน ชอบบรรยากาศเสียงที่เปิดกว้าง เน้นเสียงร้องและรายละเอียดต่างๆ ในเพลง และไม่ได้ซีเรียสเรื่องเสียงเล็ดลอดเข้าออก (เพราะใช้ฟังในที่เงียบๆ อยู่แล้ว) เจ้า SR60x คือตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากๆ

เหมาะกับใครบ้าง? เหมาะกับ นักฟังเพลงมือใหม่ ที่อยากลองหูฟังระดับ Audiophile เป็นครั้งแรก, คนที่ ชอบแนวเสียงของ Grado เป็นพิเศษ, หรือคนที่ เน้นฟังเพลงในบ้านหรือในห้องส่วนตัว

แล้วถ้าอยากได้รุ่นสูงกว่านี้ล่ะ? ถ้าลองฟัง SR60x แล้วชอบมากๆ แต่อยากได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นไปอีก หรืออยากได้วัสดุที่ดีขึ้น ก็สามารถขยับไปดูรุ่นอื่นๆ ใน Prestige Series เช่น SR80x, SR125x, SR225x, SR325x หรือรุ่นที่สูงขึ้นไปอีกอย่าง Reference Series หรือ Statement Series ได้เลยจ้า แต่แน่นอนว่าราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยนะ

แต่สำหรับจุดเริ่มต้นที่ดี การลอง Grado SR60x ถือเป็นก้าวแรกที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสประสบการณ์เสียงแบบ Grado และอาจจะทำให้คุณติดใจจนไปต่อในรุ่นที่สูงขึ้นไปอีกก็ได้นะ! ขอให้ทุกคนสนุกกับการฟังเพลงและได้หูฟังที่ถูกใจจ้า บ๊ายบายยย!