บ้านเช่าค้าขายได้ ราคาถูก ทำเลดี ย่านไหนน่าลงทุน?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องการหา บ้านเช่าที่ค้าขายได้ ราคาเป็นมิตร แถมทำเลดี๊ดี กันค่ะ ใครที่กำลังฝันอยากมีร้านเป็นของตัวเอง แต่ยังไม่อยากลงทุนซื้อตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ราคาแรงๆ การเช่าบ้านเพื่อปรับเป็นร้านเนี่ย เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยนะ! มันยืดหยุ่นกว่า ใช้เงินเริ่มต้นน้อยกว่า เหมาะกับพ่อค้าแม่ขายมือใหม่ หรือคนที่อยากลองทำธุรกิจแบบไม่แบกภาระหนักจนเกินไป วันนี้เราจะมาดูกันว่า บ้านเช่าแบบไหนที่เข้าท่า ทำเลไหนที่น่าโดน และมีอะไรที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจบ้างจ้า เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. บ้านเช่าค้าขายได้นี่มันคืออะไร แล้วเหมาะกับใคร?

พูดง่ายๆ บ้านเช่าที่ค้าขายได้ ก็คือ บ้านที่เจ้าของอนุญาตให้ผู้เช่านำไปใช้ประกอบธุรกิจ หรือเปิดร้านค้าได้ นั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านทำผม หรือแม้กระทั่งทำเป็นสตูดิโอ หรือโฮมออฟฟิศ ข้อดีคือเราได้ใช้ประโยชน์จากตัวบ้านได้เต็มที่ ไม่ใช่แค่อยู่อาศัยอย่างเดียว แถมบางทีทำเลดีๆ ก็ยังพอหาได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าตึกแถวริมถนนใหญ่เยอะเลยนะ เหมาะมากๆ สำหรับ:

• SME รายเล็ก หรือ Startup: ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ งบประมาณจำกัด ไม่อยากลงทุนสูงกับการซื้ออสังหาฯ
• ร้านค้าที่เน้นบรรยากาศ: เช่น คาเฟ่เก๋ๆ ร้านอาหารเล็กๆ ที่ต้องการให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่นเหมือนมาบ้านเพื่อน
• ธุรกิจที่ต้องการพื้นที่หลากหลาย: มีทั้งโซนหน้าร้าน โซนสต็อกสินค้า โซนทำงาน หรือแม้กระทั่งโซนที่พักอาศัยในตัว
• คนที่อยากทดลองตลาดในทำเลนั้นๆ: เช่าระยะสั้นดูก่อน ถ้าเวิร์คค่อยขยับขยาย

2. ราคาค่าเช่าในตลาดไทยประมาณไหนนะ?

เรื่องราคาเนี่ย บอกเลยว่า หลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับทำเล ขนาด สภาพบ้าน และประเภทของบ้านค่ะ ตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลายหมื่น หรือเป็นแสนก็มีนะ! ถ้ามองหาแบบราคาเป็นมิตรจริงๆ ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล อาจจะต้องขยับออกมาจากโซนใจกลางเมือง หรือมองหาในซอยลึกหน่อย แต่ก็ยังพอมีหวังนะ

ลองดูตัวอย่างราคาคร่าวๆ (มากๆ!) จากประกาศเช่าตามเว็บต่างๆ นะ:

• บ้านเช่าในซอย หรือหมู่บ้านที่อนุญาตให้ค้าขายได้ ราคาอาจจะอยู่ช่วง ฿7,000 - ฿20,000 ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเล
• บ้านที่ทำเลดีขึ้นมาหน่อย ใกล้แหล่งชุมชน หรือถนนที่คนพลุกพล่าน ราคาอาจจะขยับไปที่ ฿20,000 - ฿50,000 ต่อเดือน หรือสูงกว่านั้น
• บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ หรืออยู่ในทำเลทองมากๆ ที่เหมาะทำร้านอาหาร คาเฟ่ หรือโฮมออฟฟิศ อาจเห็นราคา ฿50,000 - ฿200,000+ ต่อเดือน เลยก็มี

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee จะไม่เกี่ยวกับเรื่องเช่าบ้านเท่าไหร่เนอะ อันนี้ต้องไปดูเว็บอสังหาฯ โดยเฉพาะ เช่น DDProperty, Thaihometown, Baania, Livinginsider หรือตามกลุ่ม Facebook เกี่ยวกับอสังหาฯ หรือกลุ่มรวมตัวคนทำธุรกิจในพื้นที่ต่างๆ จ้า

3. เทียบราคากับพื้นที่ค้าขายแบบอื่น คุ้มค่าน่าลงทุนไหม?

ถ้าเทียบกับตัวเลือกพื้นที่ค้าขายแบบอื่นๆ เนี่ย การเช่าบ้านมีข้อดีเรื่อง ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ต่ำกว่า การซื้อขาดตึกแถวเยอะเลย ตึกแถวทำเลดีๆ ราคาซื้อขายพุ่งไปไกลมากๆ แล้ว ค่าเช่าก็สูงตามไปด้วย ส่วนพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ก็มีค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง และมักจะมีค่าส่วนกลาง หรือเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติม

การเช่าบ้านเพื่อค้าขายจึงเป็นเหมือนตรงกลางค่ะ เราได้พื้นที่ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว สามารถปรับเปลี่ยนตกแต่งได้ตามสไตล์ (อันนี้ต้องคุยกับเจ้าของด้วยนะ) และอาจจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในชุมชนได้ดีกว่า ในราคาที่ยืดหยุ่นกว่า

ข้อควรพิจารณาก็คือ บ้านเช่าอาจจะ ไม่ติดถนนใหญ่เท่าตึกแถว หรือไม่มีคนเดินผ่านเยอะเท่าในห้าง ดังนั้นธุรกิจที่เหมาะกับบ้านเช่ามักจะเป็นธุรกิจที่ลูกค้าตั้งใจเดินทางมา หรือธุรกิจที่เน้นบริการส่งถึงบ้านมากกว่า

4. เช่าแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีบริการพิเศษอะไรไหม?

ส่วนใหญ่แล้ว เวลาเช่าบ้าน สิ่งที่เราจะได้ก็คือ ตัวโครงสร้างบ้านเปล่าๆ ค่ะ อาจจะมีพวกระบบประปา ไฟฟ้า ที่เชื่อมต่อไว้ให้พร้อม แต่พวกการตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์สำหรับทำธุรกิจ เราต้องลงทุนเองทั้งหมดนะ

สิ่งที่ ไม่รวม มาด้วยแน่ๆ คือ:

• ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน (ถ้ามี): อันนี้ผู้เช่าอาจจะต้องรับผิดชอบเอง หรือตกลงกับเจ้าของ
• ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา: การซ่อมใหญ่ ซ่อมแซมโครงสร้างมักจะเป็นภาระของเจ้าของบ้าน แต่การซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ หรือความเสียหายจากการใช้งานของผู้เช่า มักจะเป็นความรับผิดชอบของเราเอง
• การขออนุญาตต่างๆ: การขออนุญาตดัดแปลงอาคาร หรือขอใบอนุญาตประกอบกิจการ เราต้องดำเนินการเองทั้งหมด
• ระบบรักษาความปลอดภัย: ถ้าอยากได้กล้องวงจรปิด หรือสัญญาณกันขโมย อาจจะต้องติดตั้งเอง

เรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ คือ สัญญาเช่าและระยะเวลา ค่ะ สัญญาเช่าบ้านเพื่อการค้าขายมักจะทำกันระยะยาวกว่าการเช่าเพื่ออยู่อาศัย เช่น 1 ปี 3 ปี หรือ 5 ปี ขึ้นอยู่กับการตกลง ต้องอ่านรายละเอียดในสัญญาให้ดีๆ นะคะ โดยเฉพาะเรื่อง การต่อสัญญาและเงื่อนไขการขึ้นค่าเช่า เพื่อความมั่นคงในระยะยาว

ส่วนใหญ่ค่าเช่าจะยังไม่รวมค่าขนส่ง (แน่นอน!) แต่บางทีถ้าเจอเจ้าของใจดี อาจจะมีคูปองส่วนลด หรือโปรโมชั่นเล็กๆ น้อยๆ ให้ตอนทำสัญญาได้นะ อันนี้ต้องลองเจรจาดูจ้า

5. มีช่วงไหนน่าเช่าเป็นพิเศษไหม? โปรโมชั่นมีหรือเปล่า?

สำหรับบ้านเช่าเพื่อค้าขายเนี่ย โปรโมชั่นแบบจัดหนักเหมือนช่วง 12.12 หรือเทศกาลต่างๆ อาจจะไม่ได้มีชัดเจนเหมือนสินค้าอุปโภคบริโภคนะคะ แต่ก็มี จังหวะดีๆ ที่เราอาจจะได้ดีลพิเศษ:

• ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว: บางทีเจ้าของบ้านที่ปล่อยเช่าไม่ได้นานๆ อาจจะยอมลดราคา หรือให้เงื่อนไขพิเศษเพื่อรีบปล่อยเช่า
• ช่วงปลายปี หรือต้นปี: บางธุรกิจอาจจะมีการย้ายร้าน หรือเลิกกิจการ ทำให้มีบ้านเช่าทำเลดีๆ หลุดออกมาในช่วงนี้
• การเช่าระยะยาว: ถ้าเราตกลงเช่าระยะยาว 3 ปีขึ้นไป บางทีเจ้าของบ้านอาจจะลดค่าเช่ารายเดือนให้ หรือฟรีค่าเช่าช่วงตกแต่งได้ อันนี้ต้องลองคุยกันค่ะ

การหาบ้านเช่าไม่ได้มี Official Store เหมือน Lazada/Shopee เนอะ แต่ลองติดตามพวกเว็บไซต์อสังหาฯ หรือเพจตัวแทนอสังหาฯ ใน Facebook ดูค่ะ บางทีเค้าจะมีประกาศพิเศษ หรือดีลดีๆ ออกมาในช่วงเวลาต่างๆ นะคะ สรุปคือ ถ้ามีเวลา ค่อยๆ หา ค่อยๆ ดู อาจจะเจอทำเลและราคาที่ถูกใจในช่วงเวลาที่เหมาะสมค่ะ

6. คนไทยที่เคยเช่าบ้านค้าขาย เขารู้สึกยังไงกันนะ?

จากที่ลองฟังเสียงหรืออ่านรีวิว (ที่ไม่ใช่รีวิวสินค้า แต่เป็นประสบการณ์คนทำธุรกิจ) คนไทยที่เคยเช่าบ้านเพื่อค้าขาย ส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็น จุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ เลยค่ะ เพราะไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ได้ลองทำธุรกิจในแบบที่ต้องการ

จุดที่คนชอบคือ ความยืดหยุ่น และ การปรับพื้นที่ได้ตามใจ (ในขอบเขตที่ตกลงกับเจ้าของ) บางคนแปลงโฉมบ้านเก่าๆ ให้กลายเป็นร้านคาเฟ่สุดฮิป หรือร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่นได้สบายๆ

แต่ก็มีเรื่องที่ต้องระวังและเจอเป็นประจำคือ ปัญหาเรื่องเพื่อนบ้าน หรือนิติบุคคลหมู่บ้าน ถ้าบ้านเช่าอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร บางทีอาจจะมีกฎระเบียบเรื่องการค้าขายที่ต้องปฏิบัติตาม หรืออาจจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ หรือความวุ่นวายที่เกิดกับเพื่อนบ้านได้

อีกเรื่องคือ ความไม่แน่นอนของสัญญาเช่า ถ้าเจ้าของบ้านไม่ต่อสัญญา หรือต้องการใช้พื้นที่คืน เราก็ต้องย้าย ซึ่งอาจจะกระทบกับฐานลูกค้าประจำได้ ดังนั้นการเลือกทำเลที่ลูกค้าเดินทางมาง่าย หรือมีช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญจ้า

7. แล้วจะไปหาบ้านเช่าค้าขายได้ที่ไหนดีล่ะ?

แหล่งหาบ้านเช่าที่ค้าขายได้ในไทย มีหลายช่องทางเลยค่ะ:

• เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ออนไลน์: อันนี้เป็นแหล่งใหญ่เลยค่ะ เช่น DDProperty, Thaihometown, Baania, Livinginsider, Hipflat หรือเว็บรวมประกาศอื่นๆ สามารถเลือกทำเล ราคา และประเภทของอสังหาฯ ที่ต้องการได้เลยค่ะ บางเว็บมี filter ให้เลือกประเภท "สำหรับธุรกิจ" หรือ "ค้าขายได้" ด้วยนะ
• กลุ่มซื้อขาย/เช่าอสังหาฯ ใน Facebook: มีกลุ่มเฉพาะเยอะมากๆ ลองหากลุ่มที่เกี่ยวกับทำเลที่เราสนใจ หรือกลุ่มรวมพลคนทำธุรกิจ อาจจะเจอประกาศจากเจ้าของโดยตรง หรือจากนายหน้าในพื้นที่ ข้อดีคือบางทีได้ข้อมูลเชิงลึก หรือสอบถามพูดคุยกับผู้ขาย/ผู้ให้เช่าได้โดยตรง
• นายหน้าอสังหาริมทรัพย์: ติดต่อนายหน้าในพื้นที่ที่เราสนใจได้เลยค่ะ เค้าจะมีข้อมูลบ้านเช่า หรือตึกแถวที่เหมาะกับการค้าขายอยู่ในมือ และช่วยเจรจาเรื่องสัญญาได้
• ขับรถตระเวนหาในทำเลเป้าหมาย: วิธีคลาสสิกแต่ได้ผล! ลองขับรถ หรือเดินสำรวจในซอย หรือย่านที่เราเล็งไว้ มองหาป้ายประกาศ "ให้เช่า" แล้วโทรสอบถามโดยตรง บางทีอาจจะเจอของดีที่ยังไม่ได้ลงออนไลน์นะ
• สอบถามคนในพื้นที่: ถ้ามีคนรู้จัก หรือเพื่อนที่อยู่ในย่านนั้นๆ ลองสอบถามดูค่ะ บางทีเค้าอาจจะมีข้อมูล หรือรู้จักเจ้าของบ้านที่กำลังจะปล่อยเช่าก็ได้นะ

ช่องทางเหล่านี้คือแหล่งหลักๆ ในการหาบ้านเช่าเพื่อค้าขายในไทยเลยจ้า

8. สรุปแล้วน่าเช่าไหม? เหมาะกับใคร แล้วเลือกยังไงดี?

สรุปแล้ว การเช่าบ้านเพื่อค้าขายเป็น ทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะสำหรับคนที่:

• งบประมาณจำกัด: ไม่อยากลงทุนซื้อขาด
• อยากทดลองทำธุรกิจ: ไม่แน่ใจว่าจะไปรอดไหม อยากลองดูก่อน
• ต้องการความยืดหยุ่น: อยากเปลี่ยนทำเลได้ง่าย ถ้าธุรกิจเติบโต หรือมีโอกาสที่ดีกว่า
• อยากได้พื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์: สร้างบรรยากาศร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

ถ้าถามว่า น่าเช่าไหม ถ้าหาทำเลที่ใช่ ในราคาที่รับได้ และเงื่อนไขสัญญาโอเค ก็บอกเลยว่าน่าลงทุนค่ะ!

ส่วนจะ เลือกยังไงดี ลองพิจารณาตามนี้:

• ทำเล: สำคัญที่สุด! ดูว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราอยู่ในย่านไหน การเดินทางสะดวกไหม มีที่จอดรถเพียงพอหรือเปล่า
• งบประมาณ: กำหนดงบค่าเช่าสูงสุดที่เราจ่ายได้ และเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าตกแต่ง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต
• ประเภทและสภาพบ้าน: ดูว่าขนาดและโครงสร้างบ้านเหมาะสมกับประเภทธุรกิจของเราไหม สภาพบ้านเป็นยังไง ต้องซ่อมแซมเยอะหรือเปล่า
• เงื่อนไขสัญญาเช่า: อ่านสัญญาให้ละเอียด โดยเฉพาะระยะเวลาการเช่า เงื่อนไขการขึ้นค่าเช่า และข้อจำกัดในการดัดแปลง หรือค้าขายในบ้าน
• การอนุญาตจากเจ้าของ: ต้องแน่ใจว่าเจ้าของบ้านอนุญาตให้ใช้เพื่อการค้าขายจริงๆ และไม่มีปัญหาเรื่องกฎระเบียบต่างๆ

ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าย่านไหนดีที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจของเราด้วยค่ะ บางธุรกิจเหมาะกับย่านชุมชน บางธุรกิจเหมาะกับซอยเงียบๆ ที่คนตั้งใจมา บางธุรกิจเหมาะกับย่านออฟฟิศ ลองศึกษาและสำรวจพื้นที่ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนเจอทำเลทอง บ้านเช่าที่ใช่ และค้าขายร่ำรวยกันทุกคนค่า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ซื้อบ้านปล่อยเช่า คุ้มเสี่ยงไหม ทำเลไหนกำไรดี | มือใหม่เริ่มต้นเรียนรู้อ ...
• เจาะลึก! ซื้อบ้านนาทีนี้ ทำเลไหนดี? โซนไหนอยู่สบาย โอกาสเติบโต ...
• วิธี ซื้อตึกแถว อาคารพาณิชย์ ให้รวย! ทำเลไหนน่าลงทุน? | ดอนเมือง ...
• รีวิวประสบการณ์จริง ลงทุนคอนโดปล่อยเช่า น่าทำไหม?
• เจาะลึกทำเล! รู้ได้ไงว่าอนาคตจังหวัดไหนจะมาแรง ที่ดิน บ้าน ตึกแถว ...