logo

10 อันดับ รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ติดทน งานผิวสวย

user avatar
รวิสรา ศรีสมบัติ·07/13/2025T02:51Z
点赞
10 อันดับ รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ติดทน งานผิวสวย

สวัสดีค่าเพื่อนๆ ชาวผิวสวย ชาวหน้าเป๊ะทุกคน! วันนี้เกตุ (นามสมมติ) จะมาขอเมาท์เรื่องใกล้ตัวสาวๆ อย่างเรา นั่นก็คือ "รองพื้น" ค่ะ! พูดเลยว่ารองพื้นนี่มันเหมือนปราการด่านแรกของการมีผิวสวยสมบูรณ์แบบในแต่ละวันใช่ไหมล่ะคะ? ยิ่งยุคนี้ที่อากาศบ้านเราก็ร้อนชื้น เดี๋ยวเจอแดด เดี๋ยวเจอฝน จะให้หน้าเยิ้ม หน้าหลุดระหว่างวันคงไม่ได้!

แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่... รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ในตลาดตอนนี้มันเยอะมากกกก จนเลือกไม่ถูกเลยค่ะ! เดินเข้าห้างทีไรเป็นต้องยืนงงในดงรองพื้น ไม่รู้จะจิ้มตัวไหนดี ตัวนั้นก็ว่าดี ตัวนี้ก็รีวิวแน่น แล้วอันไหนล่ะที่ "ใช่" สำหรับผิวคนไทยอย่างเราจริงๆ?

ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ! เพราะวันนี้เกตุจะมาเป็นเพื่อนซี้ช่วยเลือก พาไปส่อง 10 อันดับ รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่เขาว่ากันว่าติดทน แถมยังให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ เหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ! รับรองว่าอ่านจบแล้วได้ไอเดียไปช้อปตัวที่ถูกใจแน่นอนค่ะ!

วงการรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ในไทย นี่มันสู้กันเดือดจริงๆ นะคะ!

ยอมรับเลยว่าตลาดรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ในบ้านเราคึกคักสุดๆ ค่ะ! แบรนด์ต่างชาติจากทั้งฝั่งยุโรป (เช่น Dior, Chanel, Estée Lauder, Lancôme) และฝั่งเอเชีย (เช่น Shiseido, Sulwhasoo) ก็ดาหน้ากันเข้ามาเปิดเคาน์เตอร์และออนไลน์สโตร์อย่างเต็มที่ ส่วนแบรนด์ไทยเองก็มีที่คุณภาพดีไม่แพ้กันและเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นค่ะ

เทรนด์ที่เห็นชัดๆ ในช่วงนี้คือคนไทยไม่ได้ต้องการแค่รองพื้นที่ปกปิดแน่นอย่างเดียวแล้วค่ะ แต่เน้น "งานผิว" มากขึ้น คือต้องดูเป็นธรรมชาติ ไม่โบ๊ะ ไม่หนักหน้า แต่ก็ยังติดทน คุมมัน กันน้ำกันเหงื่อได้ดี เพราะอากาศบ้านเรามันไม่เป็นใจจริงๆ ค่ะ 😂 นอกจากนี้ก็เริ่มมีเทรนด์รองพื้นที่มีส่วนผสมบำรุงผิว หรือมีสารกันแดดในตัวที่สูงขึ้นด้วย

ช่องทางช้อปปิ้งยอดฮิตสำหรับรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ก็หนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ เช่น Central, Siam Paragon, Emporium/EmQuartier, IconSiam ที่มีเคาน์เตอร์ให้ไปลองสี ลองเนื้อสัมผัสกันแบบจุใจ หรือถ้าใครสะดวกช้อปออนไลน์ แพลตฟอร์มอย่าง Central Online, Sephora Thailand, Lazada, Shopee, Watsons Online, Eveandboy Online ก็มีให้เลือกเพียบ แถมบางทีจัดโปรโมชั่นดีๆ ลดหนักจัดเต็มอีกต่างหากค่ะ!

อยากได้รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวโปรด ต้องดูอะไรบ้างนะ?

ก่อนจะควักกระเป๋าจ่ายเงิน เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรที่เราควรพิจารณาเวลาเลือกรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ดีๆ สักตัวค่ะ เรียงตามสเต็ปการตัดสินใจได้ประมาณนี้เลย:

  1. คุณภาพและส่วนผสม (Ingredients & Formula): สำคัญสุด! รองพื้นดีๆ ควรมีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวเรา (ผิวมัน/ผิวแห้ง/ผิวผสม/ผิวแพ้ง่าย) บางตัวมีส่วนผสมบำรุงผิว ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น หรือมีสารกันแดดสูงๆ ก็ดีค่ะ ลองเช็คว่ามีส่วนผสมที่อาจทำให้เราแพ้ไหม
  2. ฟินิชและความปกปิด (Finish & Coverage): ชอบงานผิวแบบไหน? แมทท์ คุมมันกริบ? ดิวอี้ ฉ่ำๆ ดูสุขภาพดี? หรือเน้นงานผิวธรรมชาติแบบ Satin? แล้วต้องการปกปิดแค่ไหน? เน้นรอยสิว รอยแดง ใต้ตา หรือแค่ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ?
  3. ความติดทนและการควบคุมความมัน (Longevity & Oil Control): นี่คือหัวใจสำคัญสำหรับอากาศเมืองไทย! รองพื้นต้องติดทนตลอดวัน ไม่เยิ้ม ไม่เป็นคราบ ยิ่งถ้าผิวเป็นมันง่าย ตัวที่ช่วยคุมมันได้ดีคือสวรรค์เลยค่ะ
  4. เฉดสีที่เข้ากับผิว (Shade Match): อันนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด! รองพื้นต้องสีตรงกับผิวจริงของเราที่สุด แนะนำให้ไปลองที่เคาน์เตอร์ หรือถ้าช้อปออนไลน์ให้เทียบกับสีที่เคยใช้ หรือดูรีวิวจากคนที่มีสีผิวใกล้เคียงกับเราค่ะ อย่าลืมลองที่กรามแล้วออกมาดูแสงธรรมชาติด้วยนะ!
  5. ชื่อเสียงแบรนด์และรีวิวผู้ใช้ (Brand Reputation & Reviews): แบรนด์เคาน์เตอร์แบรนด์ส่วนใหญ่มีชื่อเสียงมายาวนาน แต่ก็ควรเช็คดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทยตาม Pantip, Jeban, หรือรีวิวใน Lazada/Shopee ประกอบการตัดสินใจค่ะ คนที่ใช้ในสภาพอากาศเดียวกันจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ
  6. ราคา (Price): รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาสูงกว่า Drugstore อยู่แล้วค่ะ กำหนดงบประมาณคร่าวๆ ไว้ แล้วเลือกรุ่นที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปค่ะ
  7. หาซื้อง่าย (Availability): เช็คว่าแบรนด์หรือรุ่นที่เราสนใจหาซื้อได้ง่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไหม เผื่อหมดจะได้หาซื้อซ้ำได้สะดวก

ได้เวลาเผยโฉม! 10 อันดับ รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ น่าสอย ปี 2025!

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! เกตุรวบรวม 10 รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวฮิต ตัวปัง ที่ยังคงได้รับความนิยมและถูกพูดถึงในวงการบิวตี้ไทยมาให้แล้วค่ะ ลองดูว่ามีตัวไหนตรงใจบ้าง!

1. Estée Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกจากอเมริกา ที่โด่งดังเรื่องสกินแคร์และเมคอัพคุณภาพสูง
  • สินค้ารุ่นเด่น: Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF 10/PA++
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ยืนหนึ่งเรื่องความติดทน! ติดทนนาน 24 ชั่วโมงจริงๆ คุมมันได้ดีมาก กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่เป็นคราบ ให้การปกปิดระดับกลางถึงสูงที่สามารถบิ้วเพิ่มได้ มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก รองรับทุกสีผิว ฟินิชเป็นแบบแมทท์ธรรมชาติ
    • ข้อเสีย: เนื้อรองพื้นแห้งไว ต้องรีบเกลี่ย อาจจะรู้สึกหนักหน้าเล็กน้อยสำหรับบางคนที่มีผิวแห้งมากๆ ไม่มีหัวปั๊มมาให้ (ต้องซื้อแยก)
  • เหมาะกับใคร: คนที่มีผิวมันถึงผิวผสมที่ต้องการรองพื้นติดทนขั้นสุดในทุกสภาพอากาศ ต้องการการปกปิดที่ดี
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Sephora Thailand, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Estée Lauder ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา, Sephora, Watsons (บางสาขา)
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,800 - 2,000 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ตัวนี้ยืนพื้นจริงๆ ค่ะ ไปทะเล เล่นน้ำ หน้ายังเป๊ะ! คุมมันดีมาก เลิฟ!" - ชาว Pantip. "เป็นรองพื้นกันตายที่ต้องมีค่ะ วันไหนต้องเป๊ะทั้งวันหยิบตัวนี้เลย" - บิวตี้บล็อกเกอร์.

2. Dior Forever Foundation (Skin Glow / Matte)

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แฟชั่นและเครื่องสำอางสุดหรูจากฝรั่งเศส
  • สินค้ารุ่นเด่น: Dior Forever Skin Glow Foundation SPF 35/PA++ (ผิวโกลว์), Dior Forever Matte Foundation SPF 15/PA++ (ผิวด้าน)
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ มีให้เลือกทั้งแบบแมทท์และแบบโกลว์ เนื้อเกลี่ยง่าย บางเบา ไม่หนักหน้า ติดทนพอสมควร มีส่วนผสมบำรุงผิวและสารกันแดดสูงกว่า Double Wear ดีไซน์ขวดสวยหรู
    • ข้อเสีย: รุ่น Matte อาจจะไม่ได้คุมมันขั้นสุดเท่า Double Wear รุ่น Glow อาจจะไม่เหมาะกับคนผิวมันมากๆ ราคาค่อนข้างสูง
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นที่ให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ มีให้เลือกตามความชอบ (แมทท์/โกลว์) และต้องการรองพื้นที่มีส่วนผสมบำรุงผิว
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Sephora Thailand, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Dior ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา, Sephora
  • ช่วงราคา: ประมาณ 2,100 - 2,300 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบรุ่น Skin Glow มากค่ะ ผิวดูสุขภาพดีเหมือนนอนวันละ 8 ชั่วโมง" - สาวออฟฟิศ. "รุ่น Matte ก็ดีนะคะ ไม่ได้แมทท์แห้ง ให้ลุคผู้ดีค่ะ" - บิวตี้กูรู.

3. Giorgio Armani Luminous Silk Foundation

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แฟชั่นชั้นสูงจากอิตาลี ที่มีไลน์เครื่องสำอางโดดเด่นเรื่องงานผิว
  • สินค้ารุ่นเด่น: Luminous Silk Foundation
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ให้งานผิวในฝัน! ผิวดูเนียนใสเหมือนผ้าไหมสมชื่อ ให้ฟินิชแบบ Semi-matte ที่ดูธรรมชาติ ไม่แมทท์แห้ง ไม่ดิวอี้เกินไป เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย สบายผิวมาก
    • ข้อเสีย: ปกปิดไม่สูงมาก (ระดับ Light-Medium) อาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยสำหรับจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ ไม่ได้เน้นเรื่องคุมมันขั้นสุด ราคาค่อนข้างสูง
  • เหมาะกับใคร: คนที่เน้นงานผิวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องการปกปิดมากนัก มีผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง หรือผิวมันที่ชอบงานผิวแบบ Semi-matte
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Sephora Thailand, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Giorgio Armani ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (บางสาขา), Sephora
  • ช่วงราคา: ประมาณ 2,400 - 2,600 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "เป็นรองพื้นลูกรักเลยค่ะ! ทาแล้วผิวสวยมากกกก ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โบ๊ะเลย" - อินฟลูเอนเซอร์ด้านบิวตี้. "สำหรับวันที่อยากได้งานผิวใสๆ ไม่หนักหน้า ต้องตัวนี้เท่านั้นค่ะ" - พนักงานต้อนรับ.

4. NARS Sheer Glow Foundation / Natural Radiant Longwear Foundation

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางจากอเมริกา โดดเด่นเรื่องเมคอัพสีสันจัดจ้านและงานผิว
  • สินค้ารุ่นเด่น: Sheer Glow Foundation, Natural Radiant Longwear Foundation
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: Sheer Glow: ให้ฟินิชผิวโกลว์สวย ดูสุขภาพดี ปกปิดระดับ Light-Medium เนื้อเบา เกลี่ยง่าย. Natural Radiant Longwear: ติดทนยาวนาน ให้ฟินิชแบบ Radiant Matte ปกปิดระดับ Medium-Full มีเฉดสีให้เลือกค่อนข้างเยอะ
    • ข้อเสีย: Sheer Glow ไม่มีหัวปั๊ม (ต้องซื้อแยก) และไม่ได้คุมมัน. Natural Radiant Longwear อาจจะรู้สึกหนักหน้ากว่า Sheer Glow เล็กน้อย
  • เหมาะกับใคร: Sheer Glow เหมาะกับคนที่ผิวแห้งถึงผิวผสมที่ชอบงานผิวโกลว์ๆ. Natural Radiant Longwear เหมาะกับคนที่ต้องการความติดทนและการปกปิดที่ดี แต่ยังอยากได้งานผิวที่ดูไม่แมทท์แห้งเกินไป
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Sephora Thailand, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ NARS ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,700 - 1,900 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Sheer Glow มานานแล้วค่ะ ผิวดูฉ่ำๆ สุขภาพดีตลอดวัน" - แอร์โฮสเตส. "Natural Radiant Longwear คือดีจริง ติดทนทั้งวันทำงานเลยค่ะ" - พนักงานธนาคาร.

5. Lancôme Teint Idole Ultra Wear Foundation

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางและสกินแคร์ชั้นนำจากฝรั่งเศส
  • สินค้ารุ่นเด่น: Teint Idole Ultra Wear Foundation SPF 38/PA+++
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ติดทนยาวนาน 24 ชั่วโมง คุมมันได้ดีในระดับน่าพอใจ ให้การปกปิดระดับปานกลางถึงสูง เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ มีสารกันแดดสูงถึง SPF 38 รู้สึกสบายผิว ไม่หนักหน้า มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
    • ข้อเสีย: อาจจะไม่ได้แมทท์เท่า Estée Lauder Double Wear ฟินิชเป็นแบบ Velvet Matte ที่ยังมีความเป็นผิวอยู่
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นติดทน คุมมันได้ดี มีการปกปิดที่กำลังดี และต้องการสารกันแดดในตัว เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมัน
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Lancôme ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา, Watsons (บางสาขา), Eveandboy
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,700 - 1,900 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "เป็นรองพื้นที่ชอบมากค่ะ ติดทนจริง หน้าไม่ดรอปเลยระหว่างวัน" - คุณครู. "เนื้อสบายผิวมากค่ะ ปกปิดดีแต่ไม่รู้สึกเหมือนใส่หน้ากาก" - นักศึกษามหาวิทยาลัย.

6. Chanel Les Beiges Healthy Glow Foundation

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แฟชั่นและเครื่องสำอางหรูจากฝรั่งเศส
  • สินค้ารุ่นเด่น: Les Beiges Healthy Glow Foundation Hydration and Longwear
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ให้งานผิวที่ดูสุขภาพดี เปล่งปลั่งสมชื่อ Healthy Glow เนื้อบางเบา ให้ความชุ่มชื้น เกลี่ยง่าย สบายผิว ให้การปกปิดระดับ Light-Medium เน้นความเป็นธรรมชาติ แพ็คเกจสวยหรู
    • ข้อเสีย: ไม่ได้เน้นเรื่องคุมมันขั้นสุด และไม่ติดทนเท่ารองพื้น Matte รุ่นอื่นๆ การปกปิดไม่สูงมากนัก ราคาค่อนข้างสูง
  • เหมาะกับใคร: คนที่ผิวค่อนข้างแห้งถึงผิวธรรมดาที่ต้องการรองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้นและงานผิวที่ดูสุขภาพดี เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องการการปกปิดสูง
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Chanel Thailand Website
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Chanel ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา
  • ช่วงราคา: ประมาณ 2,300 - 2,500 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "วันไหนอยากได้ผิวสวยใส ดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเยอะๆ ต้องตัวนี้เลยค่ะ ผิวดูฉ่ำกำลังดี" - นางแบบ. "เหมาะกับวันที่อยากพักผิว แต่ยังอยากให้ผิวดูดีค่ะ" - บิวตี้บล็อกเกอร์.

7. Shiseido Synchro Skin Radiant Lifting Foundation / Self-Refreshing Foundation

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางและสกินแคร์เก่าแก่จากญี่ปุ่น
  • สินค้ารุ่นเด่น: Synchro Skin Radiant Lifting Foundation SPF 30/PA++++, Synchro Skin Self-Refreshing Foundation SPF 35/PA++++
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: Synchro Skin Radiant Lifting: ให้งานผิวดูยกกระชับ เปล่งปลั่ง มีส่วนผสมบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น ติดทนพอสมควร. Synchro Skin Self-Refreshing: เทคโนโลยี Self-Refreshing ช่วยให้รองพื้นคงสภาพเหมือนเพิ่งทาใหม่ๆ ติดทน คุมมันได้ดีในระดับหนึ่ง ให้ฟินิชแบบธรรมชาติ ไม่แมทท์ ไม่โกลว์เกินไป มีสารกันแดดสูง
    • ข้อเสีย: รุ่น Radiant Lifting อาจจะไม่เหมาะกับคนผิวมัน. เฉดสีอาจจะไม่ได้หลากหลายเท่าแบรนด์ตะวันตก
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นที่ให้งานผิวสวย เป็นธรรมชาติ เหมาะกับผิวเอเชียโดยเฉพาะ ต้องการรองพื้นที่พัฒนามาเพื่อสภาพผิวและอากาศที่หลากหลาย
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Shiseido ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา, Watsons, Eveandboy
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,800 - 2,000 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบเทคโนโลยีของ Shiseido ค่ะ รู้สึกว่ารองพื้นมันปรับเข้ากับผิวเราจริงๆ" - สาวกแบรนด์ญี่ปุ่น. "รุ่น Self-Refreshing ติดทนดีมากค่ะ หน้าไม่หมองเลย" - พนักงานบริษัท.

8. Sulwhasoo Perfecting Foundation

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์สกินแคร์และเมคอัพสุดหรูจากเกาหลีใต้ โดดเด่นเรื่องส่วนผสมสมุนไพรเกาหลี
  • สินค้ารุ่นเด่น: Perfecting Foundation SPF 17/PA++
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติแบบสาวเกาหลี ปกปิดปานกลาง เนื้อบางเบา สบายผิว มีส่วนผสมสกินแคร์บำรุงผิว ทำให้ผิวดูชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ไม่แห้งกร้าน ติดทนพอสมควร
    • ข้อเสีย: เฉดสีอาจจะค่อนข้างสว่าง เหมาะกับผิวคนเอเชียโทนเหลืองเป็นหลัก อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องคุมมันเท่ารองพื้นจากแบรนด์ฝั่งยุโรป
  • เหมาะกับใคร: คนที่ชอบงานผิวสวยใสแบบสาวเกาหลี ต้องการรองพื้นที่มีส่วนผสมบำรุงผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Sulwhasoo ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (บางสาขา), Eveandboy
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,800 - 2,000 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ทาแล้วผิวดูใสๆ เหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ ชอบมาก!" - สาวที่ชอบแต่งหน้าสไตล์เกาหลี. "เนื้อดีมากค่ะ ไม่หนักหน้าเลย ใช้ได้ทุกวัน" - พนักงานคลินิก.

9. M·A·C Studio Fix Fluid SPF 15

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางมืออาชีพจากอเมริกา โดดเด่นเรื่องเมคอัพสำหรับช่างแต่งหน้าและคนทั่วไป
  • สินค้ารุ่นเด่น: Studio Fix Fluid SPF 15
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ปกปิดดีมากกกก! สามารถบิ้วเพิ่มได้จนถึง Full Coverage คุมมันได้ดี ให้ฟินิชแบบ Matte มีเฉดสีให้เลือกเยอะสุดๆ! หาเฉดที่ตรงกับผิวได้ไม่ยาก ราคาเข้าถึงง่ายกว่าหลายๆ แบรนด์เคาน์เตอร์แบรนด์
    • ข้อเสีย: เนื้อค่อนข้างหนา อาจจะรู้สึกหนักหน้าสำหรับบางคนถ้าทาเยอะเกินไป ต้องเกลี่ยดีๆ ไม่งั้นอาจเป็นคราบได้ ไม่มีหัวปั๊มมาให้ (ต้องซื้อแยก)
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นที่เน้นการปกปิดขั้นสุด ต้องการคุมมัน และมองหารองพื้นที่ราคาเข้าถึงง่ายเมื่อเทียบกับเคาน์เตอร์แบรนด์อื่นๆ
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ M·A·C ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา, Sephora, Eveandboy, Watsons (บางสาขา)
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,500 - 1,700 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "วันไหนมีรอยสิวเยอะๆ ตัวนี้เอาอยู่หมดค่ะ ปกปิดกริบ!" - ช่างแต่งหน้าสมัครเล่น. "ต้องซื้อหัวปั๊มเพิ่ม แต่โดยรวมคือคุ้มค่ากับราคาและความปกปิดมาก" - นักศึกษา.

10. YSL All Hours Foundation

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แฟชั่นและเครื่องสำอางหรูจากฝรั่งเศส
  • สินค้ารุ่นเด่น: All Hours Foundation (The New One) SPF 39 / PA+++
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ติดทนยาวนานตามชื่อ All Hours! คุมมันได้ดี ให้การปกปิดระดับ Medium-Full ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โบ๊ะเกินไป เนื้อบางเบา สบายผิว ให้ฟินิชแบบ Luminous Matte ที่ยังมีความเปล่งปลั่งอยู่ มีสารกันแดดสูง
    • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง เฉดสีอาจจะยังไม่ได้หลากหลายเท่าบางแบรนด์
  • เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นติดทน คุมมันได้ดี มีการปกปิดที่ค่อนข้างสูง แต่ยังอยากได้งานผิวที่ดูไม่แมทท์แห้ง ให้ความรู้สึกสบายผิว
  • แนะนำช่องทางการซื้อ:
    • ออนไลน์: Central Online, Sephora Thailand
    • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ YSL ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา, Sephora
  • ช่วงราคา: ประมาณ 2,400 - 2,600 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "รุ่นใหม่ All Hours ดีงามมากค่ะ ติดทน หน้าไม่เยิ้มเลยทั้งวัน" - พนักงานบริษัท. "ชอบฟินิชของตัวนี้มากค่ะ ไม่แมทท์แห้ง ดูยังมีผิวอยู่" - อินฟลูเอนเซอร์.

ไขข้อข้องใจ! คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์

หลายคนอาจจะมีคำถามคาใจเกี่ยวกับการเลือกรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ เกตุรวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาตอบให้แล้วค่ะ!

Q: ผิวแพ้ง่าย เลือกรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวไหนดี?
A: สำหรับผิวแพ้ง่าย ควรเน้นดูที่ส่วนผสมค่ะ เลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือพาราเบน ตัวที่หลายคนแนะนำสำหรับผิวแพ้ง่ายก็มีเช่น Dior Forever (แต่เช็คส่วนผสมอีกครั้ง), Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing หรือปรึกษา BA ที่เคาน์เตอร์โดยตรงจะดีที่สุดค่ะ อาจจะขอ Tester มาลองใช้ดูก่อนตัดสินใจซื้อก็เป็นวิธีที่ดีมากๆ ค่ะ

Q: ซื้อรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ใน Lazada/Shopee ที่ไม่ใช่ Official Store ไว้ใจได้ไหม?
A: อันนี้ต้องระวังมากๆ ค่ะ! หากไม่ใช่ร้านค้า Official Store ของแบรนด์โดยตรง หรือเป็นร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ เยอะๆ จากผู้ซื้อจริง ก็มีความเสี่ยงที่จะได้ของปลอมได้ค่ะ ซึ่งอาจจะมีส่วนผสมที่อันตรายต่อผิว ทางที่ดีและปลอดภัยที่สุดคือซื้อจาก Official Store หรือร้านค้าที่เป็น Authorized Dealer บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ หรือซื้อที่เคาน์เตอร์ในห้างฯ หรือร้านค้าเครื่องสำอางชั้นนำที่มีใบเสร็จชัดเจนจะมั่นใจได้มากกว่าค่ะ

Q: ระหว่าง Estée Lauder Double Wear กับ Lancôme Teint Idole Ultra Wear อันไหนคุมมันดีกว่ากัน?
A: โดยทั่วไปแล้ว Estée Lauder Double Wear จะขึ้นชื่อเรื่องความคุมมันที่ยอดเยี่ยมกว่า และให้ฟินิชที่แมทท์กว่าค่ะ ในขณะที่ Lancôme Teint Idole Ultra Wear ก็คุมมันได้ดีและติดทนเช่นกัน แต่จะให้ฟินิชแบบ Velvet Matte ที่ยังมีความเป็นผิวอยู่มากกว่าค่ะ ถ้าเน้นคุมมันกริบๆ Double Wear อาจจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าชอบความสบายผิวและฟินิชที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น Teint Idole Ultra Wear ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ค่ะ

Q: จำเป็นต้องใช้ Primer ก่อนลงรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ไหม?
A: ไม่จำเป็นต้องใช้ Primer ทุกครั้งค่ะ แต่การใช้ Primer ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาก็จะช่วยให้รองพื้นติดทนขึ้น ควบคุมความมันได้ดีขึ้น หรือช่วยเบลอรูขุมขนได้ค่ะ ถ้าผิวค่อนข้างมัน หรือต้องการให้รองพื้นติดทนเป็นพิเศษ การใช้ Primer ก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพของรองพื้นได้ค่ะ

Q: รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์แพงกว่ารองพื้น Drugstore คุ้มค่ากว่าจริงไหม?
A: คำถามนี้ขึ้นอยู่กับความคาดหวังและการใช้งานของแต่ละบุคคลค่ะ รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ส่วนใหญ่มักจะมีการวิจัยและพัฒนาสูตรที่ซับซ้อนกว่า มีส่วนผสมที่ดีกว่า หรือมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ได้ฟินิชหรือความติดทนที่ดีกว่า รองพื้น Drugstore ก็มีตัวที่ดีและคุ้มค่าเยอะค่ะ แต่โดยรวมแล้วรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์มักจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าในหลายๆ ด้าน เช่น เนื้อสัมผัสที่ละเอียดกว่า ฟินิชที่สวยกว่า หรือความติดทนที่ดีกว่าค่ะ ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่เนียนกริบ ติดทนยาวนาน และงานผิวที่สวยงามเป็นพิเศษ รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ก็อาจจะคุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ

สรุปและคำแนะนำสุดท้าย เลือก 'รองพื้นคู่ชีวิต' ให้ตรงใจ!

เป็นยังไงกันบ้างคะ? พอจะได้ไอเดียในการเลือกรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์กันแล้วใช่ไหมเอ่ย? การเลือกรองพื้นก็เหมือนการหาคู่ชีวิตนั่นแหละค่ะ! ต้องลอง ต้องสัมผัส และเลือกสิ่งที่ "ใช่" ที่สุดสำหรับผิวของเรา

  • ถ้า งบประมาณจำกัด แต่อยากได้รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์คุณภาพดี ลองดู M·A·C Studio Fix Fluid หรือ Lancôme Teint Idole Ultra Wear ค่ะ คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่ายกว่าแบรนด์หรูมากๆ
  • ถ้า ผิวมันขั้นสุด ต้องการความติดทนแบบสู้กับอากาศเมืองไทยได้จริงๆ ต้องยกให้ Estée Lauder Double Wear เลยค่ะ ตัวท็อปเรื่องความติดทน!
  • ถ้าชอบ งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดีเหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิด มีงบประมาณหน่อย แนะนำ Giorgio Armani Luminous Silk หรือ Dior Forever Skin Glow ค่ะ
  • ถ้าต้องการ การปกปิดสูง แต่ยังอยากได้ความสบายผิวและติดทน ลองดู YSL All Hours Foundation หรือ NARS Natural Radiant Longwear Foundation ค่ะ
  • ถ้าเป็น สาวกแบรนด์เอเชีย ที่ชอบรองพื้นเนื้อบางเบา มีส่วนผสมบำรุงผิว ให้งานผิวสวยแบบเอเชีย ลองดู Shiseido Synchro Skin หรือ Sulwhasoo Perfecting Foundation ค่ะ

ที่สำคัญมากๆ คือ อย่าลืม! สภาพผิวคนเราเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสภาพอากาศ ดังนั้น รองพื้นที่เคยใช้ดีมากๆ เมื่อก่อน วันนี้อาจจะไม่ใช่สำหรับเราแล้วก็ได้ค่ะ ควรหมั่นอัปเดตและลองรองพื้นใหม่ๆ อยู่เสมอ และที่สำคัญกว่ารองพื้น คือ "สกินแคร์" นะคะ! การมีผิวที่แข็งแรง สุขภาพดีจากภายใน จะช่วยให้รองพื้นตัวไหนๆ ก็สวยบนผิวเราค่ะ และที่ขาดไม่ได้ในสภาพอากาศร้อนแรงอย่างประเทศไทยคือ "ครีมกันแดด" ค่ะ! ทากันแดดก่อนลงรองพื้นทุกครั้ง เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดตัวร้ายด้วยนะคะ!

มาแชร์ประสบการณ์รองพื้นตัวโปรดกันหน่อยจ้า! 👇

เพื่อนๆ ใช้รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวไหนอยู่บ้างคะ? ชอบไม่ชอบตรงไหน หรือมีเคล็ดลับการเลือกรองพื้นยังไง มาคอมเมนต์แชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะคะ! เป็นประโยชน์กับ

เพื่อนๆ คนอื่นแน่นอน!

ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกว่า "โดน!" อยากให้เกตุรวบรวมพิกัดหรือลิงก์ร้านค้าออนไลน์ดีๆ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ ของรองพื้นเหล่านี้ให้เป็นพิเศษ พิมพ์คำว่า "จัดลิงก์ด่วนๆ!" มาได้เลยจ้าาา! เกตุจะหามาให้เลย! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สำหรับวันนี้... ขอให้ทุกคนมีผิวสวยเป๊ะปังตลอดวันนะคะ! บ๊ายบายค่า! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สาวๆ วัยใกล้เลข 4 หรือเลข 4 พลัสทุกคน! 😊 เชื่อว่าหลายคนพอถึงวัยนี้แล้วก็เริ่มเจอปัญหาผิวที่กวนใจ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยตื้นๆ ที่เริ่มมาเยือน จุดด่างดำที่ชัดขึ้น หรือผิวที่ดูไม่สดใสเหมือนก่อน ใช่ไหมล่ะคะ?และไอเทมสำคัญที่จะช่วย
10 อันดับ รองพื้น สำหรับวัย 40 ปี 2025 ผิวดูอ่อนเยาว์ ติดทน
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายผิวสวยสู้แดดทุกคน! ☀️ วันนี้ผมมีไอเทมเด็ดที่บอกเลยว่า "ต้องมี!" ในยุคที่แดดประเทศไทยแผดเผาแรงยิ่งกว่าอะไรดี นั่นก็คือ "รองพื้นผสมกันแดด" นั่นเองครับ!เคยไหมครับ? เช้าที่เร่งรีบ ต้องลงสกินแคร์ ต่อด้วยกันแดด แล้วค่อยรองพื้
10 รองพื้นผสมกันแดด ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปกปิดดี ติดทน
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายแต่งหน้าและมนุษย์ที่รักงานผิวทุกคน! 👋 ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ แถมอากาศเมืองไทยก็พร้อมบวกทั้งความร้อน ความชื้น ฝุ่นควัน ไหนจะประชุมทั้งวัน ออกงานกลางคืนอีก จะลงรองพื้นหนาเตอะก็กลัวเยิ้ม กลัวเป็นคราบใช่ไหมครับ?นี่แหละครับถึ
10 BB Cream เคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 งานผิวสวย ไม่หนักหน้า

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายบิวตี้และคนรักปากฉ่ำทุกคน! 👋 ในยุคที่อากาศเมืองไทยเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวฝนตก แถมยังเจอฝุ่นเจอควันอีก ริมฝีปากก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษเหมือนกันนะ! ไม่งั้นจะแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ทาลิปสวยๆ ก็ไม่ติดอีก!และ
10 ลิปออยล์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปากอิ่มฟู สีสวย
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายบิวตี้และมนุษย์ติดช้อปออนไลน์ทุกคน! 👋 ใครเป็นสาวกเคาน์เตอร์เครื่องสำอางที่เดินผ่านทีไรเป็นต้องเหลียวมอง หรือเป็นนางฟ้าผู้ที่ชอบท่องโลกออนไลน์เพื่อสอยไอเทมเด็ดๆ กันบ้างครับ? วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆ มาฝาก โดยเฉพาะกับสาวๆ
10 อันดับ เครื่องสำอาง KATE ปี 2025 คุณภาพดี ราคาดี
สวัสดีค่าาา เพื่อนๆ วัยใส วัยรุ่น วัยสร้างเรื่อง (อิอิ) ทุกคนนน! ✨ วันนี้มาป้ายยา เอ้ย! มาให้ความรู้กันอีกแล้ววว ใครที่กำลังมองหาไอเท็มเด็ดๆ ที่จะช่วยคอมพลีทลุคให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา เหมือนกินมะเขือเทศวันละ 10 ลูก! บอกเลยว่าขาดสิ่
10 บลัชออนสำหรับสาววัย 20 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สีสวยเป็นธรรมชาติ ติดทน

บทความที่แนะนำ