10 อันดับ รองพื้น สำหรับวัย 40 ปี 2025 ผิวดูอ่อนเยาว์ ติดทน


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สาวๆ วัยใกล้เลข 4 หรือเลข 4 พลัสทุกคน! 😊 เชื่อว่าหลายคนพอถึงวัยนี้แล้วก็เริ่มเจอปัญหาผิวที่กวนใจ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยตื้นๆ ที่เริ่มมาเยือน จุดด่างดำที่ชัดขึ้น หรือผิวที่ดูไม่สดใสเหมือนก่อน ใช่ไหมล่ะคะ?
และไอเทมสำคัญที่จะช่วยกู้ชีพผิวให้กลับมาดูเป๊ะ ดูอ่อนเยาว์ แถมยังติดทนพร้อมสู้แดดสู้เหงื่อบ้านเราเนี่ย ก็หนีไม่พ้น "รองพื้น" นั่นเองค่ะ! แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่... โอ้โห! รองพื้นในตลาดตอนนี้มีเป็นร้อยเป็นพันแบบ จะเลือกยังไงดีให้เหมาะกับผิววัยเรา ไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบ และที่สำคัญ ต้องทำให้ผิวดูเด็ก ดูเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติด้วยนี่สิ!
ไม่ต้องกังวลไปค่ะ! วันนี้ดิฉันขอรับหน้าที่กูรู (จำเป็น) พาเพื่อนๆ ไปล้วงลึกถึงรองพื้นตัวเด็ดที่เหมาะกับผิววัย 40+ ในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าคัดมาเน้นๆ แต่ตัวที่ใช้แล้วผิวสวย ผิวดูอ่อนเยาว์ แถมติดทนยาวนาน ไม่ต้องคอยเติมระหว่างวันให้เสียเวลา ตามมาดูกันเลยค่า!
ตลาดรองพื้นสำหรับผิววัย 40+ ในไทย เป็นยังไงบ้างนะ?
ต้องบอกว่าตลาดเครื่องสำอางในไทยนี่คึกคักตลอดปีจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ หรือมีโปรโมชั่นอะไรออกมา สาวไทยก็พร้อมเปย์เสมอ! สำหรับรองพื้นสำหรับผิววัย 40+ นี้ก็มีความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้หญิงยุคใหม่ดูแลตัวเองกันมากขึ้น และอยากดูดีในทุกช่วงวัย
ส่วนใหญ่แล้ว แบรนด์ที่ครองตลาดก็จะเป็นแบรนด์ต่างชาติ ทั้งฝั่งยุโรป อเมริกา และเอเชียอย่างเกาหลี ญี่ปุ่นค่ะ แบรนด์เคาน์เตอร์ดังๆ อย่าง Estee Lauder, Lancome, Bobbi Brown, Dior, NARS ก็เป็นที่นิยมมาตลอด ส่วนแบรนด์จากเกาหลี ญี่ปุ่นก็มาแรงในกลุ่มที่ชอบผิวฉ่ำวาว ดูเป็นธรรมชาติ ขณะที่แบรนด์ไทยเองก็มีพัฒนาสูตรที่ตอบโจทย์ผิวคนไทยและสภาพอากาศบ้านเราได้ดีเช่นกันค่ะ
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยในวัยนี้ มักจะมองหารองพื้นที่เน้นเรื่อง การปกปิดริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เป็นพิเศษ แต่ก็ยังอยากได้ฟินิชที่ดู เป็นธรรมชาติ ไม่หนา ไม่หนักหน้า และไม่ตกร่อง เพราะผิววัยนี้มักจะเริ่มขาดความชุ่มชื้น ทำให้รองพื้นบางตัวอาจเน้นให้เห็นริ้วรอยชัดขึ้นได้ นอกจากนี้ ความติดทนและคุณสมบัติกันแดดก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็มีหลากหลายค่ะ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า แผนกบิวตี้ สโตร์ อย่าง Watsons, Eveandboy, Sephora ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ อย่าง Big C, Tops และที่ขาดไม่ได้เลยคือช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ที่มีสินค้าให้เลือกเยอะมาก แถมมีโปรโมชั่นดึงดูดใจอยู่ตลอด!
เลือกซื้อรองพื้นสำหรับวัย 40+ ยังไงให้ปัง ไม่พัง!
การเลือกรองพื้นให้เหมาะกับผิววัย 40+ นี่เหมือนเลือกคู่ชีวิตเลยนะคะ! ต้องพิถีพิถันนิดนึง เพื่อให้ได้ตัวที่เข้ากับผิวเรามากที่สุด ลองดูปัจจัยเหล่านี้เป็นไกด์ได้เลยค่ะ:
- คุณภาพ (Quality): อันดับแรกเลยคือ ส่วนผสม ค่ะ วัยนี้ต้องการรองพื้นที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและอาจมีส่วนผสมบำรุงผิวที่ช่วยเรื่องริ้วรอย หรือสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ หลีกเลี่ยงตัวที่ทำให้ผิวแห้ง หรือเน้นให้เห็นริ้วรอยชัดขึ้น เนื้อรองพื้นควรมีความยืดหยุ่น ไม่แข็งหรือแห้งเกินไป เพื่อไม่ให้ตกร่องหรือเป็นคราบระหว่างวัน การปกปิดควรอยู่ในระดับที่อำพรางจุดบกพร่องได้ แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้
- ฟังก์ชันพิเศษ (Special Functions): รองพื้นที่ดีสำหรับวัยนี้ควรมีคุณสมบัติเสริม เช่น ช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอย, ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง, มีสารกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นตัวการสำคัญของริ้วรอย และ ควบคุมความมัน/กันเหงื่อได้ดี ในสภาพอากาศเมืองไทย
- ราคา (Price): มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันปลายๆ เลือกที่เหมาะสมกับงบประมาณและความพึงพอใจได้เลยค่ะ บางทีรองพื้นเคาน์เตอร์ก็มีจุดเด่นที่สกินแคร์ในตัว หรือความติดทนที่มากกว่า แต่รองพื้น drugstore คุณภาพดีๆ ก็มีเยอะไม่แพ้กัน
- ชื่อเสียงของแบรนด์และรีวิว (Brand Reputation & Reviews): ลองดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวใกล้เคียงกับเราค่ะ ตามกลุ่มบิวตี้ใน Pantip หรือ Lemon8 จะมีรีวิวที่เป็นประโยชน์มากๆ ดูว่าแบรนด์นั้นๆ มีเสียงตอบรับเรื่องความเข้ากับผิววัยนี้เป็นยังไงบ้าง
- การหาซื้อ (Availability): เลือกรองพื้นที่หาซื้อได้สะดวก ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพราะบางทีเราก็อยากไปลองเนื้อ ลองสีก่อนตัดสินใจซื้อจริงๆ ค่ะ
เพื่อช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ลองให้คะแนนแต่ละปัจจัยสำหรับรองพื้นที่สนใจดูนะคะ เช่น ปกปิดดี (5/5), ให้ความชุ่มชื้น (4/5), ราคา (คุ้มค่า/ไม่คุ้มค่า), รีวิว (ดี/ไม่ดี) เป็นต้นค่ะ
จัดมาให้แล้ว! 10 อันดับรองพื้นน่าโดน สำหรับวัย 40+ ปี 2025!
ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! ดิฉันคัดมาให้แล้ว 10 แบรนด์/รุ่น รองพื้นที่มีคุณสมบัติดีงาม เหมาะกับผิวสาวๆ วัย 40+ ในปี 2025 นี้สุดๆ จะมีตัวไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ!
1. Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เคาน์เตอร์ชื่อดังจากอเมริกา เป็นตำนานเรื่องรองพื้นติดทน
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10 PA+++
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ติดทนขั้นสุดจริงๆ ค่ะ! ปกปิดดีเยี่ยม อำพรางริ้วรอย จุดด่างดำได้เนียน มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก คุมมันได้ดี เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของไทย ข้อเสีย: เนื้ออาจจะค่อนข้างแมตต์และแห้งเร็ว ต้องรีบเกลี่ยนิดนึง บางคนที่มีผิวแห้งมากๆ อาจจะรู้สึกว่าเน้นให้เห็นริ้วรอยได้บ้างถ้าลงไม่ดีค่ะ
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นความติดทน ปกปิดสูง ต้องเผชิญอากาศร้อนหรือทำกิจกรรมเยอะๆ เหมาะกับผิวผสมถึงผิวมัน
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online
- ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Estee Lauder ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,000 - 2,500 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ตัวนี้ยืนพื้นเลยค่ะ! ทาไปทำงานเช้ายันเย็นหน้ายังเป๊ะ ไม่ไหลไม่เยิ้ม ปกปิดรอยสิว รอยฝ้าได้ดีเลย"
2. Lancome Teint Idole Ultra Wear
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส โดดเด่นเรื่องสกินแคร์และเมคอัพ
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Teint Idole Ultra Wear Foundation
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ติดทนยาวนาน ปกปิดดี แต่เนื้อสัมผัสสบายผิว ไม่หนักหน้าเท่า Double Wear ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดี มีส่วนผสมบำรุงผิว และมีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก ข้อเสีย: ราคาสูงกว่า Estee Lauder เล็กน้อย อาจจะไม่ได้แมตต์คุมมันเท่า Estee Lauder ในบางคน
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นติดทน ปกปิดดี แต่ยังอยากได้ความสบายผิว ไม่ดูหนา เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวผสมถึงมัน
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online, Sephora
- ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Lancome ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,500 - 2,900 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เลิฟมากค่ะ! เปลี่ยนจาก Double Wear มาใช้ตัวนี้ รู้สึกสบายผิวกว่า ไม่ตกร่องริ้วรอยเหมือนก่อน แต่ยังติดทนและปกปิดดีอยู่ค่ะ"
3. NARS Natural Radiant Longwear Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เมคอัพสุดฮิตจากอเมริกา โดดเด่นเรื่องเม็ดสีชัดเจนและฟินิชผิวสวย
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Natural Radiant Longwear Foundation
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้ฟินิชผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ เปล่งปลั่งแบบ Radiant ปกปิดดี ติดทนยาวนาน มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือดูแมตต์เกินไป ข้อเสีย: บางคนอาจจะรู้สึกว่าไม่คุมมันเท่าที่ควรถ้าผิวมันมากๆ การปกปิดอาจจะต้องบิ้วท์เพิ่มในบางจุด
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบฟินิชผิวที่ดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี ปกปิดปานกลางถึงสูง และต้องการความติดทน เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online, Sephora
- ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ NARS ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,800 - 2,200 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ผิวสวยมากกกก ใช้แล้วเหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิด! ไม่ตกร่องเลยค่ะ ติดทนกลางๆ แต่ผิวดูสุขภาพดีสุดๆ"
4. Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากอเมริกา เน้นเมคอัพที่ดูเป็นธรรมชาติ และเหมาะกับผิวทุกประเภท
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Skin Long-Wear Weightless Foundation
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เนื้อบางเบา สบายผิวมาก แต่ให้การปกปิดที่สามารถบิ้วท์เพิ่มได้ ให้ฟินิชผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แมตต์หรือฉ่ำเกินไป ติดทนปานกลางถึงสูง เหมาะกับผิวที่มีริ้วรอย เพราะไม่ทำให้ดูหนาหรือตกร่อง ข้อเสีย: การปกปิดอาจจะไม่เท่า Double Wear หรือ Teint Idole ในครั้งแรกที่ลง ราคาสูง
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบรองพื้นเนื้อบางเบา สบายผิว ปกปิดได้ตามต้องการ และต้องการฟินิชที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online, Sephora
- ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Bobbi Brown ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,000 - 2,200 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เบาสบายผิวมาก! ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทา แต่ปกปิดได้กำลังดีค่ะ ชอบฟินิชที่เป็นธรรมชาติมากๆ หน้าไม่แห้งไม่มันระหว่างวัน"
5. Dior Forever Skin Glow / Matte Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส เป็นที่รู้จักเรื่องผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพดีและดีไซน์สวยงาม
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Dior Forever Skin Glow (สำหรับผิวแห้ง/ชอบผิวฉ่ำ) / Dior Forever Skin Matte (สำหรับผิวมัน/ชอบผิวแมตต์)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: มีให้เลือก 2 ฟินิชตามสภาพผิว ปกปิดดี ติดทนยาวนาน เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ให้ผิวที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ รุ่น Skin Glow ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง รุ่น Skin Matte ช่วยคุมมันได้ดี ข้อเสีย: ราคาสูง อาจจะต้องเลือกฟินิชให้เหมาะกับสภาพผิวจริงๆ
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นคุณภาพดี ปกปิด ติดทน และมีตัวเลือกฟินิชที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง มีงบประมาณ
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Sephora, Central Online
- ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Dior ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,500 - 3,000 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Dior Forever Skin Glow แล้วผิวดูสวยมาก ฉ่ำกำลังดี ไม่มันเยิ้ม ปกปิดรอยแดงได้ดีค่ะ"
6. Shiseido Synchro Skin Radiant Lifting Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เก่าแก่และน่าเชื่อถือจากญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่เข้ากับผิว
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Synchro Skin Radiant Lifting Foundation
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ใช้เทคโนโลยี Synchro Skin ที่ช่วยให้รองพื้นกลมกลืนกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ยกกระชับ และเปล่งปลั่ง อำพรางริ้วรอยได้ดี ไม่ตกร่อง ให้ความชุ่มชื้น มีสารกันแดด ข้อเสีย: การปกปิดอาจจะไม่แน่นเท่าแบรนด์ฝั่งตะวันตกบางตัว
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นที่เน้นงานผิวดูสุขภาพดี ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส อ่อนเยาว์ อำพรางริ้วรอยแบบธรรมชาติ เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online
- ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Shiseido ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,800 - 2,300 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "รองพื้นลูกรัก! ทาแล้วผิวสวยมากกกก ดูใสๆ ไม่โบ๊ะเลย ช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้นจริงๆ ค่ะ"
7. L'Oreal Paris Infallible 24H Fresh Wear Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ drugstore ชื่อดังจากฝรั่งเศส คุณภาพดี ราคาน่ารัก
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Infallible 24H Fresh Wear Foundation
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ติดทนยาวนานมากๆ ปกปิดดีถึงปานกลาง เนื้อบางเบา สบายผิว คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี หาซื้อง่าย ราคาเป็นมิตร มีเฉดสีให้เลือกเยอะพอสมควร ข้อเสีย: บางคนอาจจะรู้สึกว่าแมตต์ไปนิดถ้าผิวแห้งมาก อาจจะต้องบำรุงผิวก่อนดีๆ
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหารองพื้นคุณภาพดี ติดทน ปกปิด ในราคาที่จับต้องได้ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวผสมถึงผิวมัน
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Tops, Big C และร้านค้าชั้นนำทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 600 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เกินราคาไปมากค่ะ! ติดทนทั้งวันจริงๆ ปกปิดดีด้วย ใช้ในชีวิตประจำวันสบายๆ เลยค่ะ"
8. Revlon ColorStay Longwear Makeup
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ drugstore เก่าแก่จากอเมริกา เป็นตำนานเรื่องรองพื้นติดทนในราคาย่อมเยา
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: ColorStay Longwear Makeup (สูตรสำหรับผิวธรรมดา-แห้ง และสูตรสำหรับผิวผสม-มัน)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ติดทนสมชื่อ ปกปิดปานกลางถึงสูง มี 2 สูตรให้เลือกตามสภาพผิว ราคาดีงามมากเมื่อเทียบกับคุณภาพ หาซื้อง่าย มีเฉดสีให้เลือกเยอะ ข้อเสีย: เนื้ออาจจะค่อนข้างข้นในบางสูตร อาจจะรู้สึกหนักหน้านิดหน่อยในวันที่อากาศร้อนมากๆ
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นติดทน ปกปิด ในราคาประหยัด เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะมีสูตรแยกให้เลือก
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Tops, Big C และร้านค้าชั้นนำทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 600 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้มาตั้งแต่สาวๆ จนตอนนี้ 40+ ก็ยังใช้อยู่! มันติดทนจริงๆ ราคาดีด้วยค่ะ ไม่ผิดหวังเลย"
9. Srichand Super Coverage Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทย คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์ผิวคนไทย
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Srichand Super Coverage Always Matte Foundation, Srichand Skin Booster Flawless Foundation
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ปกปิดดีมาก อำพรางรอยต่างๆ ได้เนียนกริบ คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีเยี่ยม เหมาะกับอากาศไทย ราคาเป็นมิตรสุดๆ บางรุ่นมีส่วนผสมบำรุงและกันแดด ข้อเสีย: อาจจะต้องเลือกเฉดสีดีๆ เพราะโทนสีอาจจะยังไม่หลากหลายเท่าแบรนด์ต่างชาติบางแบรนด์ รุ่นแมตต์อาจจะแห้งไปสำหรับคนผิวแห้งมากๆ
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นปกปิดสูง คุมมันดีเยี่ยม ในราคาประหยัด เหมาะกับผิวผสมถึงผิวมัน
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, 7-Eleven (บางรุ่น), Tops, Big C และร้านค้าชั้นนำทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ตกใจในความปกปิดของแบรนด์ไทย! รอยสิว รอยแดง หายหมด หน้าเนียนกริบทั้งวัน แถมราคาถูกมาก รักเลยค่ะ"
10. Jung Saem Mool Essential Star-Cealer Foundation / Skin Nuder Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เมคอัพจากเกาหลี ก่อตั้งโดย Makeup Artist ชื่อดัง เน้นงานผิวสวยเป็นธรรมชาติ
- สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Essential Star-Cealer Foundation (มีคอนซีลเลอร์ในตัว), Skin Nuder Foundation
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้ฟินิชผิวที่ดูฉ่ำวาว เปล่งประกายแบบสาวเกาหลี ปกปิดดีแต่ไม่ดูหนา เนื้อเกลี่ยง่าย ทำให้ผิวดูเรียบเนียน รุ่น Star-Cealer มีคอนซีลเลอร์มาในตลับเดียวกัน พกพาสะดวก ข้อเสีย: อาจจะไม่คุมมันเท่าแบรนด์ฝั่งตะวันตก ฟินิชที่ฉ่ำอาจจะไม่เหมาะกับคนผิวมันมากๆ
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบงานผิวดูฉ่ำวาว เปล่งประกาย เน้นความปกปิดแบบธรรมชาติ และต้องการให้ผิวดูสุขภาพดี
- ช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online, Sephora
- ออฟไลน์: Central, Sephora
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "อยากได้ผิวเกาหลีต้องตัวนี้เลยค่ะ! ฉ่ำกำลังดี ไม่มันเยิ้ม เพื่อนทักว่าผิวดีขึ้นมากเลย"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์สาว 40+!
Q: ผิววัย 40+ ควรเลือกรองพื้นแบบแมตต์ หรือแบบฉ่ำดีคะ?
A: จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความชอบเลยค่ะ! ถ้าผิวมันและอยู่ในอากาศร้อน เน้นแบบแมตต์ที่คุมมันได้ดีจะเหมาะกว่า แต่ถ้าผิวแห้งหรืออยากได้ผิวที่ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี แบบฉ่ำหรือซาตินจะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์กว่า แต่ถ้ากลัวฉ่ำไป ลองเลือกแบบกึ่งแมตต์ หรือแบบที่มีส่วนผสมบำรุงให้ความชุ่มชื้นเยอะๆ ก็ได้ค่ะ
Q: รองพื้นสำหรับวัย 40+ จำเป็นต้องมีสารบำรุง หรือ anti-aging ด้วยไหมคะ?
A: มีก็ดีค่ะ! รองพื้นที่ผสมสารบำรุง หรือมีคุณสมบัติ anti-aging จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น และบางทีก็ช่วยเสริมการบำรุงผิวที่เราใช้อยู่แล้วด้วย ทำให้ผิวดูสุขภาพดีในระยะยาวค่ะ
Q: มีเทคนิคลงรองพื้นสำหรับผิววัย 40+ ที่ช่วยให้ดูเนียน ไม่ตกร่องไหมคะ?
A: มีแน่นอนค่ะ!
- เตรียมผิวให้พร้อม: บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเพียงพอ แต่อย่าให้เหนอะหนะเกินไป
- ใช้ไพรเมอร์: เลือกไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอย จะช่วยให้รองพื้นเกลี่ยง่ายและติดทนขึ้นค่ะ
- ใช้ปริมาณน้อยๆ ค่อยๆ บิ้วท์: ไม่ต้องลงรองพื้นหนาตั้งแต่แรกค่ะ เริ่มจากปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มเฉพาะจุดที่ต้องการปกปิดพิเศษ
- ใช้ฟองน้ำหรือแปรงแบบกด/แตะ: แทนที่จะปาดหรือถู ให้ใช้ฟองน้ำหรือแปรงแบบกดๆ แตะๆ เพื่อให้รองพื้นเรียบเนียนไปกับผิว และลดการเสียดสี
- ระวังคอนซีลเลอร์ใต้ตาและร่องแก้ม: บริเวณที่มีริ้วรอยเยอะๆ อย่าลงคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นหนาเกินไป จะยิ่งเน้นให้เห็นริ้วรอยชัดขึ้นค่ะ
Q: ซื้อรองพื้นใน Lazada / Shopee จะเจอของปลอมเยอะไหมคะ?
A: มีโอกาสเจอของปลอมได้ค่ะ! ถ้าให้ชัวร์ แนะนำให้ซื้อจากร้าน Official Store ของแบรนด์นั้นๆ หรือร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ บนแพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านั้นค่ะ หรือถ้าไม่แน่ใจจริงๆ การไปซื้อที่เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านบิวตี้สโตร์ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าค่ะ
Q: นอกจากรองพื้นแล้ว มีไอเทมอื่นที่ช่วยให้ผิววัย 40+ ดูอ่อนเยาว์อีกไหมคะ?
A: แน่นอนค่ะ! สกินแคร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด การบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ จะช่วยให้ผิวแข็งแรง แต่งหน้าง่ายขึ้นมากค่ะ การใช้ไพรเมอร์, คอนซีลเลอร์เฉพาะจุด, และแป้งฝุ่นที่ไม่หนาเตอะ ก็ช่วยเสริมให้ผิวดูเนียนกริบและอ่อนเยาว์ได้ค่ะ
สรุปให้ชัด! เลือกรองพื้นยังไงให้ใช่ในวัย 40+!
เป็นยังไงกันบ้างคะสาวๆ พอจะเห็นภาพรองพื้นคู่ใจสำหรับปี 2025 กันแล้วใช่ไหมคะ? การเลือกรองพื้นสำหรับวัย 40+ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ต้องใส่ใจเป็นพิเศษค่ะ จำไว้ว่ารองพื้นที่ดีคือรองพื้นที่เข้ากับสภาพผิว แก้ปัญหาที่เรากังวลได้ และทำให้เรารู้สึกมั่นใจค่ะ!
- ถ้าเน้น ความติดทนขั้นสุด สู้แดดสู้เหงื่อไทยได้สบายๆ ลองดู Estee Lauder Double Wear หรือ L'Oreal Infallible ค่ะ
- ถ้าอยากได้ ความติดทนพร้อมความสบายผิว ไม่หนักหน้า แนะนำ Lancome Teint Idole Ultra Wear หรือ Bobbi Brown Skin Long-Wear ค่ะ
- ถ้าชอบ งานผิวสวยเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี ไม่แมตต์ ไม่แห้ง ต้อง NARS Natural Radiant Longwear, Dior Forever Skin Glow, Shiseido Synchro Skin หรือ Jung Saem Mool เลยค่ะ
- ถ้า งบประมาณจำกัด แต่อยากได้รองพื้นคุณภาพดี ติดทน ปกปิด แนะนำ L'Oreal Infallible, Revlon ColorStay หรือ Srichand Super Coverage ค่ะ
สิ่งที่ต้องระวังคือ ของปลอม ถ้าซื้อออนไลน์ให้เช็คให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ และที่สำคัญมากๆ ในสภาพอากาศบ้านเราคือ อย่าลืมทาครีมกันแดด ก่อนลงรองพื้นเสมอค่ะ! หรือเลือกรองพื้นที่ผสมสารกันแดดมาให้เลยก็จะยิ่งดีค่ะ
จำไว้ว่าผิวที่สวยที่สุดคือผิวที่ได้รับการบำรุงที่ดีควบคู่ไปกับการเลือกเมคอัพที่เหมาะสมค่ะ!
มาเม้าท์มอยกันหน่อยค่า! แชร์ประสบการณ์รองพื้นสุดปังสำหรับวัย 40+!
เป็นยังไงกันบ้างคะกับลิสต์รองพื้นที่ดิฉันคัดมาให้? เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้ตัวไหนอยู่ หรือมีตัวไหนอยากป้ายยาเพื่อนๆ วัยเดียวกันอีกบ้างคะ? เข้ามาคอมเมนต์ แชร์ประสบการณ์ หรือถามคำถามกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกเรื่องค่า! 👇
หรือถ้าใครอ่านแล้วอยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่มีโปรโมชั่นดีๆ หรือลิงก์เปรียบเทียบราคาสุดคุ้ม พิมพ์มาได้เลยว่า "อยากได้ลิงก์ช้อป!" เดี๋ยวจัดให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ! 😊👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 อันดับ จอคอม 4K ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ภาพคมชัด รายละเอียดสูง
10 ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี ปี 2025 เสียงทรงพลัง ดีไซน์คลาสสิก
10 ขวดนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ทนความร้อนสูง ป้องกันโคลิค
Vivo V23 5G ราคาเท่าไหร่?: สเปกกล้องหน้าเทพ ถ่ายเซลฟี่สวย
10 Mesh WiFi ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สัญญาณครอบคลุมทั้งบ้าน เน็ตแรงไม่สะดุด
รีวิวและราคา รอกตกปลา G-Max Wolf: ดีจริงไหม น่าใช้หรือเปล่า