10 รองพื้นสำหรับผิวผสม ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปรับสมดุลผิว ติดทน

สวัสดีครับทุกคนนน! กลับมาเจอกันอีกแล้วกับบทความเรื่องสวยๆ งามๆ ที่อ่านแล้วจะต้องร้องว้าววว! ในยุคที่อากาศเมืองไทยร้อนอบอ้าว บางวันก็ฝนตกหนัก สภาพผิวของเราก็แปรปรวนยิ่งกว่าสภาพอากาศอีก โดยเฉพาะชาวผิวผสมที่ตอนเช้าจมูกกับหน้าผากอาจจะมันเงาเหมือนทอดปาท่องโก๋ แต่แก้มกลับแห้งผากจนแทบจะเป็นขุย! การจะหารองพื้นที่ใช่ ที่ตอบโจทย์ทั้งการคุมมันในทีโซน และยังคงความชุ่มชื้นให้แก้ม แถมยังต้องติดทน ไม่ไหลเยิ้มระหว่างวันเนี่ย บอกเลยว่ายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร!

ปัญหาคือในตลาดมีรองพื้นออกมาเยอะมากกกก ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก เคาน์เตอร์แบรนด์ ยัน Drugstore ละลานตาไปหมดจนไม่รู้จะเลือกยังไงให้ถูกใจ แถมบางทีซื้อมาแล้วก็ไม่เหมาะกับผิว เสียเงินฟรีไปอีก โอ๊ยยย ปวดหัว!

ไม่ต้องกลุ้มใจไปครับ! เพราะวันนี้ผม (ซึ่งผ่านสมรภูมิการเลือกรองพื้นมาอย่างโชกโชน) จะมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว พาไปส่อง 10 รองพื้นตัวเด็ด ที่เกิดมาเพื่อชาวผิวผสมโดยเฉพาะในปี 2025 นี้! คัดมาแล้วว่าคุมมันดี ติดทนเริ่ด ปรับสมดุลผิวให้ดูสวยเป๊ะ จะมีตัวไหนน่าสอยบ้าง ตามมาดูกันเลยครับ!

ตลาดรองพื้นสำหรับผิวผสมในไทย ฮอตเบอร์ไหน?

บอกเลยว่าตลาดรองพื้นในไทย โดยเฉพาะสูตรที่เน้นคุมมันและติดทนเนี่ย ยังไงก็มาแรงตลอดกาลครับ! ด้วยสภาพอากาศบ้านเราที่เป็นเมืองร้อนชื้น ทำให้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะชาวผิวผสมและผิวมัน มองหารองพื้นที่เอาอยู่ ไม่ไหลเยิ้ม ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ซึ่งเทรนด์ที่มาแรงในปี 2025 นี้ คือรองพื้นเนื้อบางเบา แต่ให้การปกปิดที่ดี และยังคงความเป็นงานผิวธรรมชาติ ไม่หนาเตอะเหมือนใส่มาสก์. นอกจากนี้ กระแส Clean Beauty และส่วนผสมที่อ่อนโยน ไม่ทำให้อุดตันก็มาแรงเช่นกัน.

แบรนด์ที่ครองตลาดก็มีทั้งเคาน์เตอร์แบรนด์ดังๆ จากยุโรป อเมริกา ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน และแบรนด์ Drugstore ที่คุณภาพดีเกินราคา จากทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีกับญี่ปุ่นที่มาแรงเรื่องงานผิว. ส่วนแบรนด์ไทยเองก็พัฒนาคุณภาพขึ้นมาได้ดีมาก มีหลายตัวที่ถูกและดี ตบตีกับแบรนด์นอกได้สบาย.

แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ที่มีโปรโมชั่นลด แลก แจก แถมตลอดปี. ส่วนใครที่อยากไปลองเนื้อ ลองสีกับผิวจริง ก็ไปที่เคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้า หรือร้าน Drugstore ใหญ่ๆ อย่าง Watsons, Eveandboy, Boots ได้เลย.

เลือก "รองพื้นผิวผสม" ยังไงไม่ให้พัง?

สำหรับชาวผิวผสมอย่างเราๆ การเลือกรองพื้นต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษครับ ไม่ใช่ว่าเห็นเขาว่าดีก็วิ่งไปซื้อตามทันที ต้องพิจารณาหลายๆ อย่างประกอบกัน ลองดูลิสต์นี้ไว้เป็นแนวทางครับ:

• คุณสมบัติ "คุมมัน" ในทีโซน: อันนี้สำคัญมากครับ มองหารองพื้นที่ระบุว่าเป็นสูตร Matte, Semi-Matte หรือ Oil-Free จะช่วยลดความมันเงาบริเวณหน้าผาก จมูก และคางได้ดี.
• แต่ต้อง "ไม่ทำให้ผิวแห้ง" ตรงส่วนอื่น: แม้จะคุมมันแต่ก็ต้องไม่ทำให้แก้มหรือบริเวณอื่นๆ ที่แห้งอยู่แล้วยิ่งแห้งกรังจนเป็นขุย เลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเล็กน้อย หรือไม่ทำให้ผิวแมตต์จนเกินไปครับ.
• "ติดทน" ตลอดวัน: รองพื้นที่ติดทนจะช่วยให้ผิวสวยเป๊ะ ไม่ต้องคอยเติมระหว่างวัน มองหารองพื้นที่เคลมว่า Long-Wear, 24H Stay หรือ Waterproof/Sweatproof ยิ่งเจออากาศร้อนๆ หรือมีเหงื่อ ตัวนี้ช่วยได้เยอะ.
• การปกปิด: ต้องการปกปิดมากน้อยแค่ไหน? ถ้ามีรอยสิว รอยแดงเยอะ อาจจะต้องใช้รองพื้น Medium to Full Coverage แต่ถ้ารอยไม่เยอะ เน้นงานผิวธรรมชาติ บางเบาก็พอ.
• เฉดสี: ต้องเลือกสีที่เข้ากับสีผิวและ Undertone ของเรามากที่สุด ลองเทสต์สีที่กรามหรือลำคอในแสงธรรมชาติ จะได้ไม่วอกไม่ลอย.
• เนื้อสัมผัส: ชอบเนื้อน้ำ เนื้อครีม หรือแบบคุชชั่น? เนื้อน้ำมักจะบางเบา เกลี่ยง่าย เนื้อครีมจะปกปิดดีขึ้น ส่วนคุชชั่นจะสะดวกและให้งานผิวฉ่ำๆ (แต่ผิวผสมอาจจะต้องเลือกสูตรคุมมัน).
• ส่วนผสม: ถ้าผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวง่าย มองหาสูตร Non-Comedogenic (ไม่อุดตัน), Dermatologist Tested หรือมีส่วนผสมบำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง.
• ราคาและความคุ้มค่า: มีงบเท่าไหร่? รองพื้นดีๆ ไม่ได้หมายความว่าต้องแพงเสมอไป แบรนด์ Drugstore หลายตัวคุณภาพดีเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ได้เลย.

เปิดโผ! 10 รองพื้นสำหรับผิวผสม ตัวท็อป ปี 2025!

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รองพื้นที่ได้รับความนิยมและมีรีวิวดีๆ สำหรับชาวผิวผสมในปี 2025 นี้ มีทั้งเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวดัง และ Drugstore คุณภาพเริ่ด ลองเลือกที่ใช่ในสไตล์เราดูครับ!

1. Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup

• เกี่ยวกับแบรนด์: เคาน์เตอร์แบรนด์ดังจากอเมริกา เป็นตำนานเรื่องรองพื้นติดทน.
• สินค้ารุ่นเด่น: Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF 10 Foundation.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: โคตรแห่งความติดทน! คุมมันได้ดีเยี่ยม! ปกปิดดีตั้งแต่ปานกลางถึงสูง สร้างเลเยอร์เพิ่มได้โดยไม่ดูหนา สีไม่ดรอประหว่างวัน มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก เหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ.
  • ข้อเสีย: เนื้ออาจจะแมตต์ค่อนข้างมากสำหรับบางคนที่ไม่ชอบความแมตต์จ๋าๆ ต้องรีบเกลี่ยก่อนเซ็ตตัว ราคาค่อนข้างสูง.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่ต้องการรองพื้นติดทนขั้นสุด คุมมันได้ดีเยี่ยม ต้องการการปกปิดปานกลางถึงสูง ใช้ได้ทั้ง Everyday Look และออกงาน.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Central Online, Sephora.
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Estee Lauder ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora.
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,200 - 2,450 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Double Wear มาหลายขวดแล้วค่ะ คุมมันดีมากกก อยู่ทนทั้งวันจริงๆ หน้าไม่เยิ้มเลย" "ปกปิดรอยสิวได้ดีมากๆ แต่ก็ยังดูเป็นผิว ไม่หนาโบ๊ะ".

2. Maybelline Fit Me Matte + Poreless Liquid Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore ยอดนิยมจากอเมริกา คุณภาพดี ราคาเป็นมิตร.
• สินค้ารุ่นเด่น: Fit Me Matte + Poreless Liquid Foundation.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ราคาดีมาก! คุณภาพเกินราคา เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า ให้ลุคแมตต์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดี คุมมันได้ในระดับหนึ่ง มีเฉดสีให้เลือกเยอะเหมาะกับผิวคนไทย.
  • ข้อเสีย: การปกปิดอาจจะไม่สูงมาก ต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยในจุดที่ต้องการปกปิดพิเศษ คุมมันได้ดีแต่ถ้าผิวมันมากๆ อาจจะต้องซับมันระหว่างวัน.
• เหมาะกับใคร: นักเรียน นักศึกษา คนที่มองหารองพื้นราคาเป็นมิตร คุณภาพดี ใช้ได้ทุกวัน ต้องการลุคแมตต์ธรรมชาติ เบลอรูขุมขน.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Watsons Online, Eveandboy Online.
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium และร้านค้าทั่วไป.
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 400 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Maybelline Fit Me คือลูกรัก! ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียน คุมมันโอเคเลย ราคาถูกและดีจริง" "เบลอรูขุมขนได้ดี ทาแล้วผิวเนียน ชอบมากค่ะ".

3. NARS Light Reflecting Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: เคาน์เตอร์แบรนด์จากอเมริกา โดดเด่นเรื่องเมคอัพที่ให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ.
• สินค้ารุ่นเด่น: Light Reflecting Foundation.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ให้งานผิวสวย เล่นแสง ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แมตต์จนเกินไป ปกปิดปานกลาง ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เนื้อบางเบา สบายผิว มีส่วนผสมบำรุงผิว อ่อนโยนกับผิวแพ้ง่าย.
  • ข้อเสีย: อาจจะต้องเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นสำหรับคนทีโซนมันมากๆ การปกปิดอาจจะไม่แน่นเท่า Estee Lauder ราคาค่อนข้างสูง.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่เน้นงานผิวสวย ดูสุขภาพดี ไม่ชอบรองพื้นที่แมตต์หรือปกปิดหนาเกินไป ผิวแพ้ง่ายใช้ได้.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Sephora Online.
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ NARS ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora.
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,000 - 2,200 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รองพื้น NARS Light Reflecting คือที่สุดของงานผิว! ทาแล้วเหมือนผิวดีแต่เกิด" "บางเบาสบายผิวมากค่ะ ไม่หนักหน้าเลย".

4. L'Oréal Paris Infallible 32H Matte Cover Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore ชั้นนำจากฝรั่งเศส มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย คุณภาพดี.
• สินค้ารุ่นเด่น: Infallible 32H Matte Cover Foundation SPF 20.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: คุมมันดี ติดทนยาวนานถึง 32 ชั่วโมง (เคลมไว้แบบนั้นนะ!) ปกปิด Full Coverage เนื้อบางเบา ไม่หนักหน้า ไม่ทำให้อุดตัน กันน้ำ กันเหงื่อ ราคาเป็นมิตร.
  • ข้อเสีย: เนื้ออาจจะแมตต์มากสำหรับบางคน เฉดสีอาจจะยังไม่หลากหลายเท่า Maybelline.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่ต้องการรองพื้นคุมมัน ปกปิดสูง ติดทน ราคาไม่แพง ใช้ได้ทั้งวัน.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Watsons Online, Eveandboy Online.
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium และร้านค้าทั่วไป.
• ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 500 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Infallible คุมมันดีจริงๆ ค่ะ ไปข้างนอกอากาศร้อนๆ หน้าก็ยังเป๊ะอยู่" "ปกปิดดีมาก กลบรอยสิวได้หมดเลย".

5. Revlon Colorstay Makeup

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore คุณภาพแน่นจากอเมริกา เป็นตำนานอีกตัวเรื่องรองพื้นติดทน.
• สินค้ารุ่นเด่น: Colorstay Makeup (สำหรับผิวผสม/ผิวมัน).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ติดทนยาวนาน ปกปิดดีมากถึง Full Coverage คุมมันได้ดีเยี่ยม เป็นรองพื้นงานรับปริญญา งานสำคัญในตำนาน ราคาดีมาก.
  • ข้อเสีย: เนื้อค่อนข้างหนักกว่าตัวอื่นๆ ต้องใช้เทคนิคในการเกลี่ยเล็กน้อย แพ็คเกจจิ้งแบบเทอาจจะควบคุมปริมาณยาก.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่ต้องการรองพื้นปกปิดสูงสุด คุมมันขั้นเทพ ติดทนแบบข้ามวันข้ามคืน เหมาะกับวันสำคัญ ออกงาน หรือวันที่ต้องการความเป๊ะเป็นพิเศษ.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Watsons Online, Eveandboy Online.
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium และร้านค้าทั่วไป.
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 400 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Revlon Colorstay คือรองพื้นงานรับปริญญาในตำนานจริงๆ ค่ะ คุมมัน ติดทน หน้าเป๊ะยันงานเลี้ยงตอนกลางคืน" "ปกปิดดีสุดๆ รอยสิวหายวับไปเลย".

6. Srcihand Super Coverage Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางไทย คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน.
• สินค้ารุ่นเด่น: Super Coverage Foundation SPF50 PA++++.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ราคาถูกมาก! คุณภาพดีเกินราคาคนไทย ปิดสิว ปิดรอยดีมาก ปกปิด Full Coverage คุมมันดีเยี่ยม กันน้ำ กันเหงื่อ มีสารกันแดดสูง.
  • ข้อเสีย: เฉดสียังมีให้เลือกไม่มากเท่าแบรนด์ต่างประเทศ เนื้ออาจจะแมตต์มากจนเกินไปสำหรับบางคน.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่ต้องการรองพื้นปกปิดสูงมาก คุมมันดีเยี่ยม ในราคาที่ถูกสุดๆ เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่งบจำกัด.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Watsons Online, Eveandboy Online.
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium, Konvy และร้านค้าทั่วไป.
• ช่วงราคา: ประมาณ 199 - 350 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ศรีจันทร์หลอดแดงคือที่สุดของรองพื้นถูกและดี! ปกปิดดีมาก คุมมันเริ่ดๆ" "ทาแล้วรอยสิวหายหมดเลยค่ะ คุ้มราคามากๆ".

7. YSL All Hours Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: เคาน์เตอร์แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส โดดเด่นเรื่องความพรีเมียมและคุณภาพ.
• สินค้ารุ่นเด่น: All Hours Renovation Foundation.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ให้ลุคแมตต์แต่ไม่แห้งกรัง ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดี ติดทน คุมมันได้ดี สีไม่ดรอประหว่างวัน เนื้อเกลี่ยง่าย สร้างเลเยอร์ได้โดยไม่ดูหนา แพ็คเกจจิ้งสวยหรู.
  • ข้อเสีย: ราคาสูงมาก เฉดสีอาจจะต้องเลือกดีๆ ให้เข้ากับผิว.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่ต้องการรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์พรีเมียม คุมมันได้ดี ให้งานผิวแมตต์ที่ยังดูสวยเป็นธรรมชาติ เหมาะกับวันออกงานหรือวันที่ต้องการความเป๊ะระดับสูง.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Central Online, Sephora Online.
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ YSL ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora.
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,700 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "YSL All Hours คือรองพื้นงานผิวแมตต์ที่สวยมาก! คุมมันดีจริงๆ ค่ะ" "ทาแล้วผิวดูเรียบเนียน เบลอรูขุมขนได้ดีเลย".

8. Dior Forever Skin Glow / Matte Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: เคาน์เตอร์แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส ไอคอนด้านแฟชั่นและความงาม.
• สินค้ารุ่นเด่น: Forever Skin Glow / Matte Foundation.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีให้เลือกทั้งสูตร Glow และ Matte ตอบโจทย์ตามความชอบ ให้งานผิวสวย แพ็คเกจจิ้งหรูหรา เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ติดทน คุมมันได้ดีในสูตร Matte ปกปิดดี.
  • ข้อเสีย: ราคาสูง.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่ชอบรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ ต้องการงานผิวสวยหรู เลือกได้ทั้งลุคแมตต์หรือลุคโกลว์ ต้องการรองพื้นที่ติดทน.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Central Online, Sephora Online.
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Dior ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora.
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,150 - 2,850 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Dior Forever สูตร Matte คือที่สุดของรองพื้นผิวผสม! คุมมันดีมาก แต่ไม่แห้ง" "ทาแล้วผิวสวยเหมือนใส่ฟิลเตอร์".

9. 4U2 Pro Skin Longwear Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางไทยวัยรุ่น คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย.
• สินค้ารุ่นเด่น: Pro Skin Longwear Foundation SPF50+ PA++++.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ราคาดีงามมาก! ปกปิด Full Coverage ติดทน คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ มีสารกันแดดสูง เนื้อกึ่งแมตต์ เกลี่ยง่าย.
  • ข้อเสีย: เฉดสีมีให้เลือกจำกัดกว่าแบรนด์ใหญ่บางแบรนด์.
• เหมาะกับใคร: วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่มองหารองพื้นปกปิดสูง คุมมันดี ติดทน ในราคาเบาๆ.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Watsons Online, Eveandboy Online.
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium และร้านค้าทั่วไป.
• ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 600 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "4U2 ตัวนี้ดีเกินราคาจริงๆ ค่ะ ปกปิดแน่น คุมมันเริ่ดมาก" "เป็นรองพื้นถูกและดีที่ต้องมีติดบ้านเลยค่ะ".

10. Shu Uemura Unlimited Fluid Foundation

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางจากญี่ปุ่น โดดเด่นเรื่องเบสเมคอัพและเฉดสีที่เข้ากับผิวชาวเอเชีย.
• สินค้ารุ่นเด่น: Unlimited Fluid Foundation.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เนื้อบางเบา สบายผิว แต่ให้การปกปิดปานกลางถึงสูง ติดทน คุมมันได้ดี ให้ฟินิชกึ่งแมตต์ดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือมีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก! โดยเฉพาะโทนเหลืองที่เหมาะกับผิวคนไทย/เอเชีย.
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง.
• เหมาะกับใคร: คนผิวผสมที่ต้องการรองพื้นเนื้อบางเบาแต่ปกปิดดี ติดทน ไม่หนักหน้า และมีปัญหาเรื่องการหาเฉดสีที่เข้ากับผิวตัวเองได้ยาก.
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Central Online, Sephora Online.
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Shu Uemura ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora.
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,300 - 2,800 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Shu Uemura Unlimited คือรองพื้นที่เนื้อดีมาก บางเบาสบายผิวสุดๆ แต่ปกปิดดีเกินคาด!" "ชอบที่มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากค่ะ หาที่เข้ากับผิวตัวเองได้ง่ายจริงๆ".

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: ผิวผสมแบบ T-zone มัน แก้มแห้ง ควรเลือกรองพื้นแบบไหนดีคะ?
A: แนะนำให้เลือกรองพื้นสูตรที่เน้น "ควบคุมความมัน" ในบริเวณทีโซนค่ะ มองหารุ่นที่เป็นเนื้อแมตต์ หรือกึ่งแมตต์ (Semi-Matte) หรือสูตร Oil-Free แต่ถ้ากังวลว่าแก้มจะแห้งเกินไป อาจจะลงสกินแคร์หรือไพรเมอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นบริเวณแก้มเพิ่มก่อนลงรองพื้น หรือเลือกรองพื้นที่มีฟินิชแบบ Semi-Matte ที่ยังมีความเป็นผิวอยู่บ้างค่ะ.

Q: รองพื้นถูกและดีสำหรับผิวผสม มีตัวไหนแนะนำอีกไหมคะ?
A: นอกจาก Maybelline Fit Me และ Srichand Super Coverage แล้ว ยังมีอีกหลายตัวน่าสนใจค่ะ เช่น 4U2 Pro Skin Longwear Foundation หรือแบรนด์ไทยอย่าง Cute Press, Merrezca บางรุ่น ก็ทำรองพื้นสำหรับผิวผสมได้ดีในราคาเป็นมิตร. ลองไปเทสต์เนื้อที่ร้าน Drugstore ดูนะคะ.

Q: ซื้อรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ใน Lazada/Shopee ของแท้ไหม?
A: ถ้าซื้อจากร้านค้าอย่างเป็นทางการ (Official Store) ของแบรนด์นั้นๆ บน Lazada หรือ Shopee ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ครับ. แต่ถ้าเป็นร้านค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Official Store แนะนำให้เช็คเครดิตร้าน อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเยอะๆ หรือเลือกซื้อจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือจะปลอดภัยที่สุดค่ะ.

Q: ลงรองพื้นยังไงให้ติดทน ไม่เป็นคราบระหว่างวันในอากาศร้อนๆ แบบไทย?
A: เคล็ดลับอยู่ที่การเตรียมผิวและการลงผลิตภัณฑ์ครับ.

• เริ่มจากเตรียมผิวให้พร้อมด้วยสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวสมดุล.
• ใช้ไพรเมอร์คุมมันและช่วยเบลอรูขุมขนบริเวณทีโซน.
• ลงรองพื้นบางๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มการปกปิดเฉพาะจุดที่ต้องการ.
• ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ ในการเกลี่ยรองพื้น จะช่วยให้เนื้อรองพื้นเนียนไปกับผิวและดูดซับความมันส่วนเกิน.
• เซ็ตด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงบางๆ ทั่วใบหน้า หรือเน้นเฉพาะทีโซน.
• พกกระดาษซับมันไว้ซับความมันระหว่างวัน แทนการเติมแป้งหนาๆ.
• อาจจะใช้ Setting Spray ฉีดทับหลังแต่งหน้าเสร็จ เพื่อช่วยให้เมคอัพติดทนยิ่งขึ้นค่ะ.

Q: รองพื้นตัวไหนในลิสต์นี้เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่ายคะ?
A: NARS Light Reflecting Foundation เป็นตัวที่เคลมว่าอ่อนโยนกับผิวแพ้ง่าย มีส่วนผสมบำรุงผิวค่ะ ส่วนแบรนด์อื่นๆ อาจจะต้องดูส่วนผสมรายตัว หรือมองหาสูตรที่ระบุว่า Non-Comedogenic (ไม่อุดตัน) หรือผ่านการทดสอบสำหรับผิวแพ้ง่ายเพิ่มเติมครับ.

สรุปและคำแนะนำ: เลือกรองพื้นที่ใช่ ชีวิตดี๊ดี!

เป็นยังไงบ้างครับกับ 10 รองพื้นที่คัดมาให้สำหรับชาวผิวผสมโดยเฉพาะ! การจะเลือกรองพื้นที่เหมาะสมกับผิวของเรานั้น ไม่ได้มีกฎตายตัวครับ ต้องลองผิดลองถูกกันบ้าง แต่หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย

• ถ้าเน้น "คุมมันขั้นเทพ ติดทนแน่นๆ" ไม่หวั่นแม้แดดเมืองไทย ลองดู Estee Lauder Double Wear หรือ Revlon Colorstay ครับ ถ้าอยากได้แบบราคาเบาลงมาหน่อยก็ L'Oréal Infallible หรือ Srichand Super Coverage.
• ถ้าเน้น "งานผิวสวยธรรมชาติ เบลอรูขุมขน" ไม่แมตต์จนเกินไป แนะนำ Maybelline Fit Me หรือขยับงบขึ้นมาหน่อยก็ NARS Light Reflecting Foundation.
• ถ้าต้องการรองพื้นที่ "เฉดสีหลากหลาย" โดยเฉพาะโทนเหลืองที่เข้ากับผิวเอเชียมากๆ ต้องยกให้ Shu Uemura Unlimited Fluid Foundation.
• ถ้าชอบ "แบรนด์ไทย คุณภาพดี ราคาโดนใจ" ศรีจันทร์ และ 4U2 คือตัวเลือกที่ห้ามพลาด.

ข้อควรระวังคือ ในช่วงที่อากาศร้อนมากๆ การใช้รองพื้นหนาเกินไปอาจจะยิ่งทำให้หน้าเยิ้มหรืออุดตันได้ครับ ลองปรับใช้ให้บางเบาลง หรือใช้เทคนิคลงเฉพาะจุดแทน และที่สำคัญสุดๆ อย่าลืมลงครีมกันแดดก่อนลงรองพื้นเสมอนะครับ! แดดประเทศไทยไม่เคยปราณีใครจริงๆ! ☀️

มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อยจ้า!

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว มีรองพื้นตัวไหนในลิสต์ที่เพื่อนๆ เล็งไว้ หรือกำลังใช้อยู่บ้างครับ? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับว่ามันดีจริงอย่างที่เขาว่าไหม หรือมีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกรองพื้นสำหรับผิวผสมอยากจะแชร์กันบ้างไหม? คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะครับ! 👇

หรือถ้าใครอยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ของรองพื้นเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ Shopee พิมพ์คำว่า "ขอพิกัดด่วน!" เดี๋ยวผมจัดลิงก์ให้เป็นพิเศษเลยครับ! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า ขอให้ทุกคนมีผิวสวยเป๊ะปังตลอดวันนะครับ! บ๊ายบายยย! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รวมรองพื้นสุดปัง! ใช้แล้วผิวสวย ติดทนจนต้องซื้อซ้ำ!!
• 10 คุชชั่น & รองพื้นแนะนำครึ่งปี 2024 โดยมาดามเม้าท์! ปังทุกตัว ใช้ ...
• ꕀ รวม Favorite Cushion & Foundation 2024 ใช้จริง มีครบทั้ง ...
• รองพื้น Haus Labs Foundation ที่ดีที่สุดในปี 2024
• มัดรวมที่สุดงาน รองพื้น ของปี 2024 ที่มาดามเม้าท์การันตี | BEAUTY ...